dokyaดเดเ

ปัจฉิมลิขิต

ด้วยความศรัทธาในบุญ ดิฉันและสามีทำธุรกิจอพาร์ตเม้นท์ เลยขยันทำความสะอาดกัน รู้สึกดีใจถ้าทำให้ผู้พักอาศัยอยู่เป็นสุข จินตนา เลิศไพบูลย์ / สงขลา
- เป็นบุญของผู้อยู่อาศัยจริงๆ ที่ได้เจ้าของที่มีน้ำใจ

ตอนนี้พยายามรักษาศีลมิให้บกพร่อง แต่ บางครั้งก็มีเผลอไปบ้างเหมือนกันค่ะ ฝึกทานมังสวิรัติ ไปด้วยบางครั้งเลี่ยงไม่ได้ก็อาศัยเขี่ยๆ เอา เอาชนะใจ (กิเลส)ตัวเองเนี่ยยากเหมือนกันนะคะ แต่ก็จะพยายามค่ะ ณัฐฐีญา / เชียงราย
- พระพุทธองค์ถึงได้ตรัสว่า เอาชนะข้าศึกเป็นพันๆ ในสงความ ก็ไม่เท่ากับเอาชนะใจตนเองแม้เพียงครั้งเดียว ฉะนั้น เมื่อชนะใจตนเองได้แต่ละครั้ง จึงเป็นชัยชนะที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

การใช้จ่ายก็ไม่เหมือนก่อน แม้มีเงินเพียงเล็กน้อยก็ไม่ทุกข์มากเหมือนก่อน รู้จักเสียสละแล้วมีความสุข ๒๔๘๑๓๕ / อุบลราชธานี
- แปลกแต่จริงเนาะ - มีเงินน้อยก็มีความสุข - เสียสละก็มีความสุข

ปีใหม่นี้ ผมจะปฏิบัติธรรมตามแนวของสันติอโศกให้ได้มากกว่าเก่า ถึงแม้จะไม่เต็ม ๑๐๐ % ก็ตาม แต่เท่าที่ได้ปฏิบัติมา ก็ทำให้มีชีวิตดีขึ้นมากกว่าเดิม ถึงแม้รายได้จะลด แต่ก็ไม่เดือดร้อน ประภาส พิเชฐโสภณ / ศรีสะเกษ
- สาธุ ! ยิ่งปฏิบัติได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นกรรมดี ชีวิตดีของตนมากเท่านั้น

ศีลข้อ ๕ เครื่องดื่มที่เป็นของมึนเมา เช่น เหล้า น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง บุหรี่ เว้นได้เด็ดขาด ประดับ อินทร์แป้น / จันทบุรี
- ชีวิตที่ไม่ต้อง มึน ไม่ต้อง เมา สติปัญญาก็โปร่งใส เบา สบาย

ข้อสำคัญต้องเป็นคนขยัน ไม่เกียจคร้าน นอนตื่นเช้า ถ้าตื่นสาย จะเป็นคนเกลียดการทำงาน เอาแต่กินกับนอน ก็คือหนอนในส้วมดีๆ นี่เอง อรุณี ทรงเทียม / ขอนแก่น
- ชักไม่กล้าขี้เกียจ กลัวเป็นหนอนในกอง...เบรื๋อ !

หนูจะประพฤติปฏิบัติธรรมต่อไป และจะแนะนำเพื่อนๆ ให้มาสนใจธรรมะบ้าง ไม่ใช่สนใจเฉพาะช่วงที่มีปัญหา แล้วหันมาพึ่งธรรมะ แต่ต้องฝึกจิตใจตลอดเวลา เพราะจิตใจเรา บางครั้งฝึก เท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น อาจจะลดลง จึงต้องฝึกบ่อยๆ วรินพร พันธนียะ / กทม.
- โดยธรรมชาติของจิตที่มีกิเลส มักจะไหลลงต่ำ จึงต้องฝึกต้องฝืนอยู่บ่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าจะทำดีนั้นได้โดยไม่ต้องฝืน

ข้อปฏิบัติที่ได้จากการอ่าน คือ ใจเย็นขึ้น รู้จักคิดก่อนที่จะพูดจะทำอะไรลงไป และกล้าเสียสละ สงวน เหล่าพล / หนองคาย
- ปลอดภัยไว้ก่อนอย่างนี้ คงไม่เพลี่ยงพล้ำให้กิเลสได้ง่ายๆ

ยังคุมสติตัวเองไม่ได้อย่างที่คิด เพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน สรญา เจริญศรีเกษม / สงขลา
- ติดเบรกให้หัวใจ แววไวกับสติ ถึงจะฉุดดึงใจที่ฟุ้งไว้ได้

อ่านหนังสือของสมาคมฯ มาหลายปี ช่วยเตือนสติให้มีหิริ ละอาย ไม่กล้าทำผิดทุจริตในหน้าที่ทั้งปวง ชีวิตสงบสุขเรียบง่ายสบาย อบายมุขหยาบๆ ตัดขาดมาได้หลายปี ประทีป แป้นแก้ว / ชุมพร
- เมืองไทยยังไม่สิ้นคนดี สาธุ !

เป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก เวลาไปร้านหนังสือจะอดใจไม่ไหว จะต้องซื้อทุกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นความโลภอย่างหนึ่งหรือเปล่า บุญเรือง ต๊ะซิ / ลำพูน
- ถ้าเป็นหนังสือมอมเมา ก็เป็นความโลภ(ตัณหา) แต่ถ้าเป็นหนังสือดี อ่านแล้วมีคุณค่า ช่วยสร้างสรรจิตให้ดี ก็เป็นความอยากดี (วิภวตัณหา) อย่างนี้ควรมีให้มาก

ได้ลองปฏิบัติในสิ่งที่ไม่เคยทำ เช่น การ ละเว้นเนื้อสัตว์ แม้ว่าจะยังทำไม่ได้ทุกวัน แต่ก็ สามารถทำได้ กาญจนา เกียรติกานนท์ / กทม.
- อนุโมทนาด้วย และขอเป็นกำลังใจให้ก้าวต่อไป

เมื่อก่อนเคยโมโหง่าย แต่เดี๋ยวนี้เฉย ใครจะพูดอะไร จะด่าจะว่าอย่างไรก็เฉย ใครจะว่าอะไรก็ยิ้มลูกเดียว นรินทร์ อีกจอม / ราชบุรี
- หนักแน่นดีแท้ แต่ระวังรอยยิ้มหน่อยนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นยิ้มยั่ว

ผมอยู่กับการอ่านหนังสือเป็นเพื่อนเกือบ ทุกวัน รู้สึกว่ามีความสุขทางใจ สงบจิตใจดี ถ้าวันใดไม่ได้อ่าน รู้สึกว่าเหงา เศร้าซึม ขำ ธรรมวัติ / ศรีสะเกษ
- เข้าข่าย ยาเสพติด มั้ยนี่ ถ้าเป็นหนังสือธรรมะที่ดีก็คงต้องยอมเสพให้มันติดดีไปเลย

เมื่อได้อ่านดอกหญ้า พบว่าเนื้อหาสาระเป็นประโยชน์อย่างมาก และได้นำคำสอนพร้อมทั้งหลักปฏิบัติธรรม ที่เขียนแนะนำมา และได้นำมาใช้กับ ตัวเองโดยได้ลดละอบายมุข ๓ ประการคือ ๑. แต่ก่อนดื่มสุรา เบียร์ และน้ำเมาทุกชนิด มาเป็นระยะเวลานานกว่า ๒๐ ปี บัดนี้ได้หยุด และไม่หันไปกลับไป เกี่ยวข้องอีกต่อไปแล้ว ๒. แต่ก่อนเคยสูบบุหรี่มานานถึง ๒๐ ปี บัดนี้เลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ๓. แต่ก่อนเคยเล่นการพนันบ้าง เป็นครั้งคราว บัดนี้ไม่ได้เล่นการพนันอีกต่อไปแล้ว บุญเลิศ อ่อนน้อม / กทม.
- นี่คือคำประกาศอิสรภาพจากอบายมุข ของผู้ชนะ(ใจตน) ที่ยิ่งใหญ่แท้

ผลที่ได้จากการอ่าน ๑. รู้จักทำตนให้ลด ละ กิเลส ๒. ลดอัตตามานะตามอินทรีย์พละ ๓. ได้เข้าใจอธิจิตที่สูงขึ้นตามลำดับ ๔. ไม่เดินหลงทาง (บวชผิดหลักการปฏิบัติ) ของพระศาสนา ๕. ได้รู้ธรรมชั้นสูงของพ่อท่าน พระไกรสร ทีปธมฺโม / พัทลุง
- ขออนุโมทนากับพระคุณเจ้า ที่เจริญในธรรมมากขึ้น

เมื่อข้าพเจ้าหรือภรรยาไปเห็นการกระทำสิ่งไม่ดีของเพื่อนบ้าน แล้วนำเรื่องของเขามาพูดคุย หรือเรียกว่านินทา เพียงระยะเวลาไม่นาน (ไม่ถึง ๒-๓ ชม.) ผมและภรรยา จะทะเลาะกันเอง ดังนั้น เมื่อเวลาผมและภรรยา เริ่มพูดถึงสิ่งไม่ดีของผู้อื่น เราจะตักเตือนกันเองว่า เริ่มจะนินทาคนอื่นแล้วนะ เดี๋ยวจะทะเลาะกันเอง ให้หยุด ! วิชัย จิรไพโรจน์ / ขอนแก่น
- กรรมทันตาเห็นจริงๆ แต่ก็เป็นเหตุดี ให้เกิดการสังวรระวังต่อไป

บางครั้งทำงานแล้วรู้สึกท้อถอย แต่เมื่อได้อ่านดอกหญ้าแล้วมีพลัง กำลังใจเพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ สุณีย์ อิงชาติเจริญพร / พิษณุโลก
- ท้อย่อมไม่แท้ แท้ย่อมไม่ท้อ

(ดอกหญ้า อันดับ ๙๔ มี.ค. - เม.ย. ๒๕๔๕)