เราคิดอะไร.

ผ้าป่าขยะทองแท้ๆ
‘ สิทธิสัจจะ


เดิมทีผ้าป่า คือผ้าบังสุกุล ได‰แกˆผ้าทิ้งคลุกฝุ่นเปื้อนดิน เป็นผ้าขี้ริ้วที่ไม่ใช‰แล้ว หรือผ‰าห่อศพที่เขาเอาไปทิ้งไว้ในป่า เพื่อเป็นเหยื่อ แร้งกา และหมู่หนอน สมณะผู้ไร้สมบัติ ปราศจากเหย้าเรือน นิยมอาศัยเก็บผ้าขี้ริ้ว เหล่านี้แหละ มารีไซเคิล โดยซักย้อม แล้วตัดเย็บปะติดปะต่อ เป็นผ้าผืน นี้เป็นการแสวงหาจีวร ตามมีตามได้ โดยพึ่งตัวเองก่อนเสมอ เช่นเดียวกับบิณฑบาต เลี้ยงท้อง ด้วยปลีแข้ง พุทธสาวก จึงไม่เบียดเบียนใคร พร้อมใช้ชีวิต เพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน อย่างสอดคล้อง ไม่เห็นจะต้องยื้อแย่ง ทึ้งกันเองทำไม อีกทั้งเป็น ประโยชน์สูง ประหยัดสุด ที่ลงตัวพอเหมาะ

ตัวอย่างรีไซเคิลผ้าบังสุกุลเป็นผ้าจีวร แม้จีวรที่ใช้จนเก่าเกินนุ่งห่มแล้ว ท่านจะนำไปใช้ขึง เป็นผ้าดาดเพดานกันร้อน จากหลังคากุฏิ และกันแมงมุม ถักหยากไย่ หรือทำเป็นผ้าปูนอน เก่ากว่านั้น ถอนมาเป็นผ้าเช็ดเท้า หรือเอามาทำ เป็นผ้าขี้ริ้ว สุดท้าย ใช้จนรุ่งริ่ง ก็ไม่ทิ้งขว้าง ยังมีทางทำยุ่ยๆ ขยำดินฉาบฝาเรือนได้อีก พระอานนท์ พุทธอุปัฏฐาก เคยจาระไนไว้ละเอียด ให้เห็นแนวประหยัด ของท่าน ประมาณนี้

เนื่องจากผ้าบังสุกุลเป็นที่นิยมใช้ ผ้าใหม่ที่คฤหัสถ์ถวายตรงๆ ให้ใช้เป็นจีวร พระหลายองค์ปฏิเสธ คนที่อยากให้พระ ได้ใช้ผ้าใหม่ เลยเอาไป ทิ้งไว้ในป่า กลายเป็นผ้าป่า ทั้งที่เป็นของเอี่ยมอ่อง

เป็นธรรมเนียมที่ถูกต้อง การจะให้อะไรกับพระภิกษุ ควรเลือกสิ่งประณีต ดีสุดที่ตนหาได้ ไม่ใช่เอาของเสีย ที่ตัวเอง อยากจะกวาดทิ้ง ไปโละกองเกะกะที่วัด สร้างปัญหาต่อ คงไม่น่าดู แน่เลย

สำหรับผ้าป่าขยะ เป็นคนละเรื่องกับการถวายบริขารใช้สอย อันควรแก่สมณะบริโภค ไม่มีอะไรน่าเกลียด ดังที่อาจนึกรังเกียจ กันไปก่อน โดยยังฟัง ไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด อะไรทำนองนั้น

ตัวอย่างกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และกทม. ร่วมทำพลังบุญ หนุนพลังประชาชน ทอดผ้าป่าขยะมีค่า ณ ท้องสนามหลวง วันที่ ๑-๒ ธันวาคม ๒๕๔๔ นัยว่าเพื่อฉลอง วันสิ่งแวดล้อมไทย ๔ ธันวาคม

เป็นที่รู้สำนึกกันดีไม่น้อยแล้วกระมังว่า ขยะมันเป็นปัญหาหนักข้อขึ้นทุกวัน ตามความก้าวหน้า ของบ้านเมืองนี่แหละ ถึงต้องคิดใหม่ โดยเลิกกินมาก ใช้เปลืองอีลุ่ยฉุยแฉกได้แล้ว ขืนเสียนิสัย ไม่ยอมหยุดผลาญพร่า ขยะย่อมฆ่าคนเมือง โดยไม่ต้องเปลืองเชื้อ แอนแทรกซ์ หรือ ไฮแจ็คเรือบิน ถล่มตึกให้อึกทึกครึกโครม

คนเมืองกรุง จัดเป็นตัวอย่างพวกมักง่ายปัดสวะเก่งชุ่ยๆ เสียเยอะ โทษฐานชอบกินใช้แบบทุนนิยม คือไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง จากการกิน ดื่มเสพ แล้วเหลือกากเดนขยะ คงอวดดี ถือว่าเทศบาลต้องโกยไปเองไกลๆ ส่วนจะไปเน่าเหม็นเป็นพิษหมักหมมที่ไหนต่อ ไม่ขอเกี่ยวข้อง ไม่รู้ไม่ชี้ด้วย

จะว่าไปก็น่าเห็นใจ สำหรับขยะที่แปรรูปใหม่ เหล่าซาเล้งช่วยจัดการอยู่แล้ว ที่ลำบากคือเครื่องใช้ ที่เสียน้อย เสียมากบ้าง แต่ไม่สะดวก ซ่อม เพราะบริการซ่อม มักฉวยโอกาส โขกค่าจ้างแพงเกิน หรือไม่ค่อยซื่อตรง อีกต่างหาก ซื้อใหม่เลย สบายใจกว่าซ่อม ดีไม่ดี ยังถูกกว่า เสียอีก เหตุนี้แหละ ของใช้ที่ควรซ่อมแซมได้ กลับทิ้งขว้าง รกรุงรัง อย่างน่าเสียดาย เอะอะซื้อใหม่หมด เลยประหยัดไม่เป็น คนทำของ ก็ไม่ต้องให้ใช้งานทน เสียนิดเสียหน่อย พวกชอบซื้อใหม่ ชอบใจคนขาย แต่คนซ่อมตกงาน อะไรๆ ก็เปลืองไม่เข้าเรื่อง สุดท้าย ไม่วาย จนถ้วนหน้า เหมือนกำลังเป็นอยู่ ทุกวันนี้แหละ

ย้อนนึกสมัยเก่าก่อน ตอนเป็นเด็กบ้านนอก ใกล้ๆ บ้านมีร้านบัดกรี ทำถังสังกะสีและรางน้ำ ตีเหล็กด้วย ทั้งถังหรือหม้อ กะละมัง ก้นทะลุ เอาไปจ้างปุปะได้ ร้านซ่อมวิทยุโทรทัศน์ ก็มีครบเครื่อง เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยนิยมซ่อมกันเลย ยิ่งร้านทำสังกะสี ตีเหล็ก หายจ้อยนานปีแล้ว

กับรถยนต์ยังรู้จักซ่อมใช้กันอุตลุดสุดฝีมือ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นต้น จึงน่าจะหาทาง ให้เกิดช่างซ่อม มืออาชีพ เต็มบ้าน เต็มเมือง คนจะได้ มีงานทำทั่วถึง อยู่กับบ้านร้านเล็กๆ ขยะมีค่าเหล่านี้ จำนวนมหาศาล ย่อมไม่ควร มองข้ามแน่นอน

ยิ่งนึกถึงคอมพิวเตอร์ และอะไรอีกร้อยแปดพันอย่าง เมื่อเสียชำรุด ตกรุ่น ย่อมท้าทายภูมิปัญญาไทย ในการซ่อมแซม ปรับใช้ แม้เราไม่เก่ง ในการทำของใหม่ แต่ถึงเวลาจำเป็น ที่ควรเก่ง ในการซ่อม สร้างของเก่า ให้ใช้ได้ดี ยืดยาวต่อไปอีก

เพราะฉะนั้น ขยะเครื่องใช้ต่างๆ ล้วนเป็นขยะมีค่า แทนที่จะทอดทิ้ง สู้เอามาทอดผ้าป่าขยะทองแท้ เพื่อแก้ปัญหา เศรษฐกิจ และวิกฤติ มลพิษ ได้อย่างวิเศษ

พ่อท่านโพธิรักษ์ เคยเน้นให้เห็นโอกาสทองของการกู้ชาติ มานานปีดีดักแล้ว เรียกว่า สามอาชีพกู้ชาติ อันได้แก่ กสิกรรมธรรมชาติ ปุ๋ยสะอาด และขยะวิทยา โดยเฉพาะขยะวิทยานี้ สามารถตั้งเป็นคณะขยะวิทยา สอนอาชีพคิดเป็น ทำเก่ง พึ่งตัวเอง พร้อมแก้มลพิษ และกู้ชาติ อีกต่างหาก

ทุกวันนี้ ชอบบ่นกันจัง ไม่รู้จะทำอะไรขายดี ของใหม่หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ มันก็ไม่ง่ายจะขายตลาดไหน จึงอย่าดูถูก ของเก่า ลองเอามาหากิน ด้วยศิลปวิทยา ประหยัดสุด ประโยชน์สูง ในแนวใหม่บ้าง อย่างน้อยๆ หนึ่งชุมชน หนึ่งขยะวิทยา เพื่อแก้ปัญา เศรษฐกิจวิกฤติ ร้อยแปด เชิญมาทอดผ้าป่า ขยะทองแท้ๆ

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๓๗ ธันวาคม ๒๕๔๔)