สมณะโพธิรักษ์ พระเกจิฯนอกกรอบ ผู้ประยุกต์หลักธรรม สร้าง "คนจนมหัศจรรย์" |
|
๕มิถุนายน ๒๕๕๒ จะเป็นวันที่ท่านโพธิรักษ์มีอายุครบ ๗๕ ปีเต็ม หากนับอายุแห่งการบวช เดือนพฤศจิกายน ๕๒ ก็จะครบ ๓๙ พรรษาเต็ม ฉายาที่ได้รับจากคนฟังธรรมก็คือ "ขวานจักตอก" เล่ากันว่ามีคารมที่รุนแรง-ตรงและชัดจนบาดเจ็บ! ญาติธรรมในยุคแรกๆ มีลักษณะที่เด่นชัดคือ ไม่กินเนื้อสัตว์-ไม่แต่งงาน-ลดมื้ออาหาร-ไม่ใช้เครื่องสำอาง-ใส่เสื้อผ้าเรียบง่ายและมอซอ-ตัดผมสั้น-ใส่ผ้าถุง (กรณีเป็นหญิง) และสำหรับผู้เคร่งครัดอีกระดับหนึ่งก็จะโกนหัว ไม่ใส่รองเท้า กินข้าววันละมื้อ! เพราะเหตุนี้ ชาวพุทธที่ห่างไกล จึงมักจะตัดสินว่า"คนบ้า" หรือ "เสียสติไปแล้ว" ! ในหมู่นักปฏิบัติสำนักอื่นๆ ก็จะมีความเห็นว่า "เคร่งเกินไป" "สุดโต่งเกินไป" ๓๐ กว่าปีแห่งการเผยแพร่ธรรมะแนวท่านโพธิรักษ์ สมาชิก หรือ ญาติธรรมทั้งหลาย กลับแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจของตัวเองและครอบครัวได้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยแนวคิด "อุดรูรั่ว" มากกว่าการ "หารายได้" ท่านผู้รู้ให้แนวคิดในวิธีการนี้ว่า "เศรษฐธรรม!" (เศรษฐกิจ+ธรรมะ) เป็นทูอินวัน คือ ได้ปฏิบัติธรรมและได้ชีวิตที่ดีขึ้นในทางเศรษกิจ! (creative economic) และ๓๐ กว่าปี แห่งการเผยแพร่ธรรมะ มีผู้ปฏิบัติลดละกิเลสและขอบวชตาม เพื่อทำงานด้านศาสนาโดยเฉพาะ เป็นร้อยๆ ชีวิต! ท่านโพธิรักษ์ได้จัดงานประจำปีที่ใช้คำว่า "ปลุกเสกฯ" "พุทธาภิเษกฯ" รวบรวมญาติธรรมมาฝึกกินอยู่อย่างพระธุดงค์ ๑ อาทิตย์ ด้วยแนวคิด "ประจุพุทธคุณลงในคนเป็นๆ !" ด้วยแนวคิด "นอกกรอบ" ตีความใหม่ผิดไปจากพระเกจิฯ ทั้งหลาย ซึ่งพยายามจะประจุพุทธคุณ ลงในอิฐหิน ดินทราย แต่ท่านกลับสร้างกิจกรรมเป็นตัวอย่าง กระตุกเตือนใจให้ญาติธรรม โน้มน้อมประจุในตน เพื่อเป็น สันทิฏฐิโก-อกาลิโก-เอหิปัสสิโกและโอปนยิโก! วันนี้ของญาติธรรมที่เรียกตัวเองว่า " ชาวอโศก" มี How to ที่เป็นรูปธรรมเด่นชัดคือ "ฝึกกินน้อยลง-ใช้น้อยลง และทำงานให้มากขึ้น" "เราจะมาเป็นคนจนมหัศจรรย์?" นี่คือแนวทางของลูกหลานอโศกทุกชีวิต สังคมใหม่ของท่านโพธิรักษ์ คือ สังคมที่ฝึกเป็นคนจนอย่างเต็มใจ จนอย่างมีความสุข? ครั้งหนึ่งในงานปีใหม่ของญาติธรรมชาวอโศกท่านโพธิรักษ์ อวยพร "ขอให้จนๆๆ" การให้ คนไทยมาจน" เป็นทางออกของประเทศชาติหรือไม่? หลายท่านอาจนึกสงสัย ปฏิทินปี ๒๕๕๑ ของชาวอโศกมีโศลกธรรม ๒ บรรทัด "เศรษฐกิจบุญนิยม คนจนรู้จักพอ จะเห็นว่าแนวคิดของท่านโพธิรักษ์ เน้นการพัฒนาตนเองด้วยหลักการดำรงชีวิตแบบคนจน ขณะที่ คุณหมอประเวศ วะสี วิเคราะห์สังคมไทย เต็มไปด้วยความเครียด และเห็นแก่ตัว เพราะมัวแต่ตั้งคำถามว่า "ทำอย่างไรจะรวย?" เพราะเหตุนี้ โลกยุคโลกาภิวัตน์ ผู้คนยิ่งเป็นทาสการบริโภค นับวันก็จะยิ่งยากจน "มาฝึกใช้ชีวิตอย่างคนจน" จึงมิใช่คำขวัญลอยๆ แต่ต้องให้ลงลึกในชีวิตประจำวัน เพื่อเข้าสู่ "คนจนผู้ยิ่งใหญ่" เป็น "คนจนที่มีความสุข" และเป็นการแก้ปัญหาสังคมในระดับ "มหภาค" ผู้เขียนได้คุยพระอาจารย์วิปัสนาหลายท่านซึ่งพูดถึง หลักธรรม " สติปัฏฐาน" อันเริ่ม จาก กาย-เวทนา-จิต-ธรรม "กาย" หมายถึง การพิจารณาอวัยวะใหญ่น้อย กายเหล่านี้ น่าจะเป็น ระดับ "กายใน" แต่กรณีของท่านโพธิรักษ์ ที่ให้อุดรูรั่วใช้ชีวิตประหยัด ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค การลดละอบายมุข การฝึกจรณะ๑๕ (ศีลสังวร-สำรวมอินทรีย์-ชาคริยานุโยค-วิกาลโภชนา) ทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ "กายนอก" เรื่องของกายคตานุสติปัฏฐาน จึงน่าจะเป็น ๑.๑ คือ กายนอก ๑.๒ คือ กายใน จะได้เกิดประโยชน์ครบพร้อม ใครที่ยังรุงรังกับชีวิตก็ถากถางให้โล่งพอสังเขป (ตัด-กำจัด-ละทิ้งวัตถุ) ใครที่มีบารมีเก่า ชีวิตไม่มีอะไรรุงรังก็มาพิจารณาลงลึกให้มากขึ้น เป็นจินตามยปัญญาไปเลย แนวปฏิบัติของท่านโพธิรักษ์ จึงมิได้ผิดแผกแตกต่างไปจากความเข้าใจของชาวพุทธทั่วไป แต่เป็นการเพิ่มเติม ในสิ่งที่มีอยู่ และค่อนข้างมีการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเป็น how to ที่จับต้องได้ ชุมชนชาวอโศก ๑๐ กว่าชุมชนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นชุมชนเข้มแข็ง เป็นชุมชนตัวอย่างตลอดจน ญาติธรรม หลายๆ คนที่เป็นข้าราชการ เป็นเอกชน ทำงานจนได้รับรางวัลดีเด่นในหน่วยงาน น่าจะเป็นหลักฐานหรือข้อยืนยันแนวปฏิบัติธรรม "ขอให้จน" ว่าน่าจะเป็นทางออกของสังคมไทย เราคิดอะไร ธรรมดาของโลกจะได้ไม่ต้องโศกสลด ฉบับ ๒๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๒ |