ฉบับที่ 164 ปักษ์แรก 1-15 สิงหาคม 2544
ข่าวหน้า1 | ธรรมะพ่อท่าน | กสิกรรมธรรมชาติ | จับกระแส ต.อ. | สกูป | ศูนย์สุขภาพ | ข่าวหน้าใน
| ข่าวสั้น [กลับหน้า index]

หัวข้อข่าว
[1] ฉลองวันเกิด 9 ปี ชมร. ช.ม. เน้นพืชผักไร้สารพิษทำอาหารแจก พ่อให้ท่านให้โอวาทสายตรงจากบ้านราชฯ
[2] แง้มประตูมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน ส่วนหนึ่งของชีวิต พินิจ จันทร์สมบูรณ์
[3] ประธานสาขาพรรคเพื่อฟ้าดิน ภาคเหนือ รับการอบรมการเมืองการปกครอง

[4] จับกระแส ต.อ.
[5] พุทธสถานสีมาอโศก จัดงานอบรมเยาวชน "คนสร้างชาติ" ครั้งที่ 5
[6] ข่าวสั้นทันอโศก


[1] ฉลองวันเกิด 9 ปี ชมร. ช.ม. เน้นพืชผักไร้สารพิษทำอาหารแจก พ่อท่านให้โอวาท สายตรงจากบ้านราชฯ (ข่าวหน้าหนึ่ง)

ลูกค้าต่างประทับใจ น้ำผลไม้ส่งตรงจากดอย

วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2455 ชมรมมังสวิรัติแห่งประเทศไทย สาขาเชียงใหม่ (ชมร.ช.ม.) ได้โอกาสทำบุญประจำปี เพื่อเป็นการฉลองในเทศกาลวันแม่ และวันเกิดครบ 9 ปี ของชมร.ช.ม. ซึ่งในงานนี้ญาติธรรมเชียงใหม่จะได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์และร่วมฟังธรรมะทางโทรศัพท์จากพ่อท่านฯ และจากสมณะจำนวน 9 รูป นำทีมโดยอาจารย์ 1 (สมณะบินบน ถิรจิตโต) จากพุทธสถานภูผาฟ้าน้ำโดยครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากญาติธรรมหลายท่าน ทั้งการเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหาร และการทำมาเองแบบข้าวหม้อแกงหม้อ ย้อนกลับสู่บรรยากาศของการเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันอีกครั้ง ลูกค้าที่มาซื้ออาหารในวันนี้พลอยได้รับอานิสงส์ จากการแจกให้รับประทานฟรี แบบตักให้และเลือกตักเอง (บุฟเฟ่ต์) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พิเศษกว่าทุก ๆ ปี

10.05-10.15 น. ญาติธรรมเชียงใหม่ประมาณ 150 คน ร่วมใจกันรับฟังโอวาทของพ่อท่านฯ จากเครื่องโทรศัพท์ทางไกล ขยายเสียงด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส หลาย
คนปิติตื้นตันจนน้ำตาไหลซึม โดยมีเน้อหาพอสรุปได้ดังนี้ คือ ให้หัดเป็นคนขัดเกลา กิเลส ลดกิเลส ไม่เห็นแก่ตัว เป็นคนมีคุณค่า เป็นคนประเสริฐ ขยันหมั่นเพียร สร้างสรรค์ อย่ากอบโกย อย่าเอาเปรียบ ช่วยเหลือผู้อื่นเป็นความดีงาม ทำงานนออกงานในไปพร้อมกัน เหมือนแม่โคที่เลี้ยงลูกไปด้วยเล็มหญ้าไปด้วย อย่าเอาแต่อัตตาตัวเอง ขอให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง ทั้งเจดตวิมุติ และปัญญาวิมุติกันทุกคน

ชาวภูผาฟ้าน้ำได้นำผักผลไม้ไร้สารพิษสด ๆ จากดอกแพงค่านำมาปรุงเป็นอาหารแจกใหม่ ๆ ร้อน ๆ หม้อแล้วหม้อเล่า อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่คือ น้ำผลไม้บรรจุขวดแบบดื่มได้ทันทีจำนวนกว่า 300 ขวด ที่ปกติขายราคาขวดละ 8 บาท มาแจกฟรีในวันนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

คุณรัตนาภรณ์ บุญยัง ผรฃ.ชมร.ช.ม. เป็นตัวแทนมอบกระเช้าของที่ระลึกแด่ คุณพ่อไพโรจน์ ภัทรโกศล ที่ได้กรุณาบริจาคที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของ ชมร.ช.ม.มาจนถึงทุกวันนี้

ผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่ ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว ต่างก็ตื้นตันใจและประทับใจกับบรรยากาศที่อบอุ่น เช่น

อาจารย์สุภาภรณ์ อาภาวัชรตม์ อายุ 54 ปี จากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ม.ช.) “รู้สึกประทับใจในการต้อนรับและอัธยาศัยไมตรีอันดีงามของสมาชิกที่เป็นอาสาสมัครทุกคน ซึ่งเสียสละเวลาและความสบายส่วนตนเพื่อ “ให้” แก่ผู้อื่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขอขอบพระคุณมากค่ะที่มอบสิ่งที่ดีงามแก่ดิฉันในวันนี้”

คุณอู่แก้ว ประกอบไวทยกิจ “ได้มาร่วมทำบุญโดยบังเอิญ เพราะได้เอามะพร้าวจากที่บ้านมาให้ชมรมในวันนี้พอดี ได้เห็นบรรยากาศแล้วรู้สึกมีความหวังว่าสังคมไทยคงไม่ล่มสลาย เพราะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความรักดีใฝ่ดี และมีจิตใจเป็นมิตร เมตตา อนาคตของสังคมเราคงจะดีขึ้น”

มิสเตอร์แดเนียล สโตกส์ อายุ 26 ปี น.ศ.ปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา “ผมดีใจมากที่ได้มีโอกาสมากินข้าวที่นี่ วันนี้อร่อยมาก และทำให้ผมมีความรู้สึกว่า ไม่ทำบาปด้วยการบริโภค ขอบคุณมากนะครับ”

มิสเตอร์ไบรอัน เบอร์นาร์ดส์ อายุ 23 ปี จากสหรัฐอเมริกา น.ศ.ปริญญาตรี ปี 5 กำลังเรียนภาษาไทยระดับสูง (โครงการ AST) ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับการกินมังสวิรัติและการกินเจ แล้วจะเสนอผลงานอาทิตย์หน้า ฉะนั้นจึงมาที่นี่เพื่อจะได้ความรู้มากขึ้น และเพราะชอบกินอาหารที่ปลอดเนื้อสัตว์ “ขอบคุณมากที่เปิดโอกาสนี้ให้เรา”

นายสุทัศน์ สมศรี จาก วิทยาลัยพลศึกษา เชียงใหม่ “ประทับใจในการที่ชมรมฯ ร่วมกันทำบุญในวันครบรอบประจำปีรวมกันเป็นปึกแผ่นและมั่นคงดี ขอให้ยืนหยัดอยู่คู่ชาวเชียงใหม่ไปตราบนานแสนนาน อาหารทุกอย่างถูกใจมาก ๆ แต่ทานเพียง 3 อย่างเท่านั้น ส้มตำ แคบหมูเจ และผัดถั่ว”

อาจารย์ไพจิตร อิงศิริวัฒน์ จากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เชียงใหม่ “รู้สึกประหลาดใจที่มีงานบุญโดยไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบล่วงหน้ามาก่อน ได้รับการเชื้อเชิญและต้อนรับจากญาติธรรมทุกท่านอย่างอบอุ่น มีอาหารหลากหลายมากกว่างานบุญวันที่ 5 ธันวาคม และทำอาหารต่าง ๆ มาเติมอย่างไม่ขาดสาย น่าจะทำตู้หยอดเงินเพื่อบริจาคตามจิตศรัทธาเพื่อไว้ใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ และควรจะประกาศการตักอาหารให้พอสมควร โดยชิมดูก่อน ถ้าชอบค่อยเติมเพิ่ม อาหารจะได้มีพอเพียงไม่เหลือทิ้ง”

อาจารย์นพวรรณ หมั่นทรัพย์ จากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เ ชียงใหม่ “รู้สึกตื้นตันใจ ประทับใจในงานบุญที่ไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อน อาหารอร่อย สมาชิกตั้งใจทำงานบุญอย่างมาก ได้รับความสะดวกสบายหลายอย่าง ทำให้คิดว่า ควรทำความดีให้มาก เพราะผลความดีจะตอบแทนเรา ให้ได้พบกับสิ่งดี ๆ โดยเฉพาะเพื่อนที่ดี สิ่งที่ควรปรับปรุง คือต้องแนะนำผู้มาร่วมรับประทานอาหารให้ตักอาหารพอกิน ไม่ควรตักมากมาย แล้วกินไม่หมด เททิ้งเสียดายของ ขอบคุณค่ะ”

พระภิกษุณี หยินเต๋อ “ดีมาก รู้สึกมีความอบอุ่นทั้งกายและใจ มาฉันข้าวที่นี่บ่อย ๆ ก็รู้สึกบริการดีและเป็นกันเองมาก ๆ”

คุณเครือวัลย์ ปัญญา พยาบาลจาก ร.พ.สวนดอก “รู้สึกยินดีและสุขใจอย่างยิ่ง ที่มาร่วมทำบุญและฟังธรรมในวันนี้ อยากให้มีขึ้นทุกปี เพื่อที่จะให้สมาชิกทุกคนได้มีส่วนร่วมในการทำบุญ และพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ทำให้ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับสมาชิกท่านอื่น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และมีใจรักที่อยากจะร่วมกิจกรรมของชาว ชมร. ช.ม.เรื่อย ๆ ไปค่ะ ทุกท่านให้บริการด้วยความเป็นมิตร เป็นกันเอง รู้สึกประทับใจมากค่ะ”

14.00 น. หลังจากรับประทานอาหารแล้ว ญาติธรรมต่างช่วยกันเก็บกวาดร้านให้สะอาดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับให้บริการในวันต่อไป

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว] [กลับหน้า index]

[2] ส่วนหนึ่งของชีวิต พินิจ จันทร์สมบูรณ์ (แง้มประตูมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน)

คราวก่อนข้าพเจ้าเขียนเล่าเรื่องของ ส.ส.พินิจ จันทร์สมบูรณ์ ที่เป็นผู้นิยมการนั่งรถประจำทาง ไปประชุมสภาผู้แทนราษฎร แทนการนั่งรถยนต์ส่วนตัว เฉกเช่นนักการเมืองทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ข้าพเจ้ามีความประทับใจเป็นอย่างมาก

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2544 ส.ส.พินิจ จันทร์สมบูรณ์ ถูกเชิญให้ไปพูดแนะนำ เรื่องราวชีวิตของตนเอง แก่ผู้สนใจ ร่วมเรียนพระไตรปิฎก ที่โบสถ์สันติอโศก เขานั่งรถประจำทางจากกาญจนบุรี ไปลงที่ขนส่งสายใต้ และนั่งแท็กซี่ต่อไป จนถึงสันติอโศก เขาใช้เวลาบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาโดยละเอียด ด้วยท่าทีลูกทุ่งเป็นกันเอง และด้วยสำเนียงเหน่อมหาเสน่ห์แบบคนเมืองกาญจน์ขนานแท้ ในบางครั้งที่เขาเล่าถึงความทุกข์ยากลำบากในวัยเด็ก เขาจะพูดด้วยเสียงสะอื้นและต้องเช็ดน้ำตาเป็นระยะ ทำให้หลายคนที่ฟังอยู่พลอยร้องไห้ไปด้วย

ส.ส.พินิจ จันทร์สมบูรณ์ ใช้เวลาพูดถึงการปฏิบัติธรรมในแนวของศีลห้าเป็นหลัก เขาเคร่งครัดเรื่องรักเดียวใจเดียวต่อภรรยาเป็นอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่เขาพูดถึงเรื่องนี้ เขาจะแสดงออกถึงความภาคภูมิใจและความมั่นใจอย่างแท้จริง

ส.ส.พินิจ จันทร์สมบูรณ์ ใช้เวลาพูดที่โบสถ์สันติอโศกถึง 2 ชม. แล้วจึงนั่งรถเมล์กลับไปขึ้นรถประจำทางที่ขนส่งสายใต้กลับสู่เมืองกาญจน์ฯ ทิ้งไว้แต่ความประทับใจให้แก่ผู้ฟังเป็นอย่างยิ่ง

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม 2544 ส.ส.พินิจ จันทร์สมบูรณ์ มาที่สันติอโศกด้วยตนเอง เพื่อนำเห็ดโคนยักษ์ที่เพาะเองมาถวายเป็นจำนวนมาก แน่นอนเขาต้องหอบหิ้วขึ้นรถเป็นประจำทางจากเมืองกาญจน์สู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ตี 4 ถึงสันติอโศกตอน 7 โมงเช้า แล้วต้องรีบนั่งรถเมล์ต่อไปที่รัฐสภา เพียงแต่ข้าพเจ้าขอร้องให้นั่งรถมูลนิธิฯ ไปพร้อม ๆ กัน ด้วยเหตุผลว่า ข้าพเจ้าต้องออกไปธุระข้างนอกอยู่แล้ว เขาจึงเปลี่ยนแผนการนั่งรถเมล์เป็นการนั่งรถเก๋งเก่า ๆ ของมูลนิธิเพื่อช่วยเพื่อน

เมื่อถึงรัฐสภา เขาพาข้าพเจ้าและคณะ 3-4 ชีวิต เดินไปชมสถานที่ต่าง ๆ พร้อมแนะนำให้ใครต่อใครรู้จักข้าพเจ้าและสันติอโศกโดยไม่ขวยเขิน เขาพาไปถึงห้องประชุมใหญ่คณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ แนะนำให้ใครต่อใครรู้จัก ข้าพเจ้าแล้วพูดสำทับว่าควรพิจารณางบประมาณให้หน่วยงานที่พัฒนาคนบ้าง เช่น สันติอโศก ปฐมอโศก เป็นต้น ข้าราชการจากสำนักงานงบประมาณได้ฟังแล้วก็ยิ้มแย้ม แจ่มใสตอบรับเป็นอย่างดี

ส.ส.พินิจ จันทร์สมบูรณ์ พาข้าพเจ้าและคณะเข้าห้องประธานคณะกรรมาธิการศึกษา พบ ส.ส.วิจิตร ศรีสอ้าน พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยท่าทีเป็นกันเอง ไม่ถือพรรคถือพวกแต่อย่างใด

เมื่อเดินผ่ายห้องรองประธานสภาผู้แทน (สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง) เขาพาข้าพเจ้าเข้าห้องรองประธานฯ เพื่อฝากถ้อยคำเป็นกำลังใจให้คุณสมศักดิ์ต่อสู้อุปสรรคปัญหากรณีเทปลับ โดยไม่ถือว่า คุณสมศักดิ์อยู่คนละพรรคกับตน นอกจากนั้นยังแบ่งเทปธรรมะของมูลนิธิฯ ที่มอบให้เขาแก่คุณสมศักดิ์ด้วย

เขาพาข้าพเจ้าและคณะเข้าชมหอประชุมสภา ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เปิด แต่เขาขอให้เจ้าหน้าที่เปิดหอประชุม เพื่อเข้าชมเป็นการเฉพาะ ขณะเขาชมหอประชุมอยู่นั้น คุณสมศักดิ์เข้ามาทักทายคุณพินิจและกล่าวขอบคุณกำลังใจที่มอบให้ ก่อนลาออกจากสภาไปให้การแก่คณะกรรมการการเลือกตั้งในกรณีเทปลับ อันสืบเนื่องมาจากการเลือกตั้งในกรณีเทปลับ อันสืบเนื่องมาจากการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จังหวัดนครนายก

ในครั้งล่าสุด สด ๆ ร้อน ๆ ที่ผ่านมาใหม่ ๆ คุณพินิจได้ช่วยประสานงานกับกระทรวงกลาโหมและกองทัพบก หน่วยงานต้นสังกัดสถานีวิทยุ FM 103 ที่ข้าพเจ้าจัดทำรายการอยู่ให้ข้าพเจ้าดำเนินรายการต่อไปได้ตามเดิม โดยไม่ต้องยกเลิกรายการ และไม่ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเช่าเวลา นับเป็นสิทธิพิเศษที่อำนวยประโยชน์แก่งานศาสนาไม่ใช่น้อยเลย

ข้าพเจ้าขอบันทึกความดีของมนุษย์โนเนมไว้ตรงนี้ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อความดีของมนุษย์

[3] ประธานสาขาพรรคเพื่อฟ้าดิน ภาคเหนือ รับการอบรมการเมืองการปกครอง

การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการแก่ผู้บริหาร สาขาพรรคการเมือง ประจำปี 2544 ที่โรงแรมทิพย์ช้าง อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง วันที่ 12-13 ก.ค. 44 เริ่มเวลา 19.15 น.

ประธาน นายจิระ บุญพจน์สุนทร (กรรมการการเลือกตั้ง) ประธานได้กล่าวเปิดงานว่า "จุดประสงค์ที่จัดงานครั้งนี้เพื่อพัฒนาบุคลากรสาขาพรรค ให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 จะได้นำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง และแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อจะได้นำไปพัฒนาสาขาพรรคต่อไป

พรรคการเมืองมีสาขาพรรค เพื่อดำเนินกิจการทางการเมือง ให้ความรู้ด้านการเมืองการปกครอง แก่สมาชิกพรรคและประชาชนที่ใกล้ชิดกับสาขาพรรค และดำเนินงานตามนโยบายพรรค และขอบข่ายของกฎหมาย จะได้ไม่ผิดพลาด ทางกฎหมาย เช่น การรับสมาชิกพรรคการเมืองต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิดการรับบริจาคเงินก็ต้องตรวจให้ถูกต้องว่า เป็นคนไทยเท่านั้น การแจ้งหนี้สินของกรรมการสาขาพรรค เป็นต้น เรื่องเหล่านี้สำคัญมากถ้าทำผิดพลาด มีโทษปรับและจำคุก หวังว่าผู้เข้ารับการอบรมคงนำความรู้ไปใช้ต่อไปและขอถือโอกาสนี้เปิดการอบรม"

สำหรับความคิดเห็นของผู้ร่วมงานมีดังนี้

น.ส.ดวงดาว หมู่พยัคฆ์ อายุ 26 ปี เจ้าพนักงานการเลือกตั้ง 3 สำนักงาน กกต. จ.นครสวรรค์ ผู้เข้าร่วมประชุม ฐานะผู้สังเกตการณ์

ถาม: มีความคิดเห็นอย่างไร ในการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้

ตอบ: โดยภาพรวมคณะกรรมการและคณะวิทยากรเตรียมได้ดี แต่ผู้เข้าร่วมประชุมหลายคนเท่าที่ได้พูดคุยมาไม่สนใจแต่งบประมาณ หลายสาขาพรรคไม่รู้เรื่องการบริหารจัดการ เพราะสำนักงานใหญ่จักการให้หมด และไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเท่าที่ควร

ถาม: คิดว่าหลังจากฝึกอบรมครั้งนี้แล้ว จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ไหม

ตอบ: ก็หวังว่าน่าจะพัฒนาขึ้นกว่าเดิม

นายอินชัย แสงทำเล อายุ 57 ปี ประธานสาขา พรรคชาติประชาธิปไตย สาขา จ.ลำปาง

ถาม: มีความคิดเห็นอย่างไร ในการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้

ตอบ: ดีมากได้รับรู้เรื่องใหม่ ๆ มากมาย ชัดเจน ในเรื่องกฎระเบียบกฎหมายและการทำบัญชีและได้ทราบว่า พรรคการเมืองมีเงินสนับสนุนจากรัฐด้วย

ถาม: หลังจากการอบรมเสร็จ คิดว่าจะนำความรู้ไปใช้ได้ไหม

ตอบ: แน่นอน ก็ต้องนำกลับไปพัฒนาสาขาพรรคต่อไป งานครั้งนี้ทำให้ผมได้รับความรู้มีความเข้าใจในระบบ การบริหารจัดการเรื่องพรรคการเมืองมากยิ่งขึ้น

คุณชัยณรงค์ (เมืองหิน) ลือโขง ประธานสาขาพรรคลำดับที่ 8 จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อฟ้าดิน

ถาม: มีความคิดเห็นอย่างไร ในการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้

ตอบ: ผมคิดว่าได้รับประโยชน์มาก วิทยากร อธิบายได้ชัดเจน แม่เป้า ตรงประเด็น และทำให้เข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ของกฎระเบียบ ข้อบังคับ เกี่ยวกับพรรคการเมืองมากขึ้น เพราะถ้าผิดพลาด นั่นหมายถึง ถูกปรับและติดคุก

ถาม: ประทับใจวิทยากรท่านใดมากที่สุด

ตอบ: คุณสมพงษ์ ปฏิเวชพิศาล สามารถอธิบายการทำบัญชีได้รวดเร็วถูกต้องและเข้าใจได้ง่าย ซึ่งวิชาบัญชีเขาเรียนกัน 4-7 ปี แต่คุณสมพงษ์สามารถอธิบายภายในเวลา 2 ชั่วโมง ให้พวกเราเข้าใจได้ และสามารถนำไปใช้ได้จริง และอีกท่านที่ผมประทับใจก็คือ คุณกริช เอื้อวงศ์ ท่านเป็นผู้ดำเนินรายการที่สร้างบรรยากาศได้ดีมาก

ถาม: หลังจากอบรมเสร็จ คิดว่าจะนำไปใช้ได้มากน้อยแค่ไหน

ตอบ: ต้องนำกลับไปใช้ทุกอย่างที่ได้รับความรู้จากการอบรมครั้งนี้ครับ

ในการอบรมครั้งนี้พรรคเพื่อฟ้าดินเข้าร่วมการอบรม 2 สาขา คือ สาขาลำดับที่ 5 จ.นครสวรรค์ (ศาลีอโศก) และสาขาลำดับที่ 8 จ.เชียงใหม่ พวกเราได้รับความรู้จากการอบรมครั้งนี้มาก ขอขอบพระคุณทาง กกต. และเจ้าหน้าที่ทุก ๆ ท่าน ที่ให้โอกาสพวกเรา

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว] [กลับหน้า index]

[4] จับกระแส ต.อ.

 ข่าวล่า (ช้า) เมื่อวันที่ 22-24 มิถุนายน ที่ผ่านมา 5 ส.นำทีมโดย คุณอาภรณ์ วิชัยดิษฐ์ ไปประเมินผล 5 ส. ที่บ้านราชฯ (จากที่เคยร่วมกันรณรงค์ ครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 14-16 มีนาคม ) ผลปรากฎว่า ยังรักษามาตรฐาน 5 ส. ไว้ได้ เนื่องจากชาวบ้านราชฯ ยังรณรงค์กันต่อ จนกลายเป็นกิจกรรมหนึ่ง ของงานอบรม ผู้ที่เข้ามาอบรมทุกรุ่นของที่นี่ และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการพัฒนาอีก โดยเฉพาะ ร้านค้าปันบุญ จากสาวบ้านนอกบ้านากลาย เป็นสาวงามเท่ห์และเก๋ ที่ใครได้พบก็จำแทบไม่ได้เลยทีเดียวเชียว

 งานนี้ 5 ส. ขยายผลไปยังเด็ก นร.สัมมาสิกขาทั้งที่บ้านราชฯ และศีรษะอโศก (25-26 มิ.ย.) ทำให้เห็นศักยภาพของเยาวชนรุ่นใหม่ ได้มีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน เขาไม่ได้ทำแค่ 5 ส. เขาได้ทำเพิ่มอีก 1 ส. และ 1ซ. คือสร้างและซ่อม เกินคาดจริง ๆ “ชอบมากครับงานอย่างนี้ อยากมีเวลาเช่นนี้มานานแล้วครับ” ไม่เคยเห็นเด็กที่อยากจัดอยากดูแลบ้านพักอาศัยเช่นนี้มาก่อน น่าเอ็นดูสุดจะบรรยาย งานนี้แทบจะสำลักความประทับใจจริง ๆ

 คุณขอมา สีมาอโศกมีโครงการจะอบรม ธ.ก.ส. เช่นเดียวกับพุทธสถานอื่น ๆ โดยกำลังเตรียมความพร้อมหลายอย่าง ความพร้อมที่สำคัญยิ่งประการหนึ่งก็คือ บุคลากร เม่อวันที่ 7-8 กรกฎาคม ทางสีมาอโศกจึงได้เชิญทีม คุณสุนัย เศรษฐบุญสร้าง ไปช่วยอบรม AIC (Appreciation Infuence Control) หรือการอบรมอริยสัจสี่และทีม 5 ส. เพื่อเคลียร์ปัญหาบุคลากร ปัญหาพื้นที่ก่อนจะไปอบรมคนอื่น งานนี้ทีมผู้ใหญ่หยุดงานทั้งงานราษฎร์งานหลวงมาอบรมร่วมกันอย่างเต็มที่ ตลอด 2 วัน 1 คืน โดยให้ทีมเด็ก น.ร.สัมมาสิกขาฯ มาทำให้กองทัพเดิน (ด้วยท้อง) ไปได้ด้วยดี น่าปลื้มใจเด็กของเราจริงๆ ต้อง “ขอขอบพระคุณพ่อครัวแม่ครัวที่ทำอาหารให้พวกป้า ๆ น้า ๆ อา ๆ รับประทานใน 2 วันนี้” สาธุ!

 ข้อตกลงระหว่าง ต.อ.กลางกับหน่วยผลิตชุมชน เกี่ยวกับการจดแจ้งผลผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรชนิดชง, ยาจากสมุนไพรชนิดชง และยาใช้ภายนอกบางชนิด ออกมาเรียบร้อยแล้ว ผุ้ผลิตทุกท่านกรุณาอ่านรายละเอียดได้ จากสารอโศกฉบับที่ 237 เดือนมิถุนายน (ชื่อ เข้าพรรษา ‘ 44 มีตบะหรรษา) ได้เลยค่ะ

 อนุโมทนา ชุมชนศีรษะอโศก ที่เห็นแก่ผู้บริโภค งดผลิตและจำหน่ายยาจากสมุนไพรขี้เหล็กแล้ว

 17-18 ก.ค. ทีมงานของอย. นำโดยท่านรองเลขาธิการฯ (น.พ.บุญชัย สมบูรณ์สุข) คณะศูนย์ประสานงานพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สุขภาพชุมชน (ภญ.สุบุญญา หุตังคบดี ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ที่ปรึกษา และคณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ซึ่งมาจากกองควบคุมอาหาร กองควบคุมยา กองควบคุมเครื่องสำอางของ อย., กรมอนามัย และสำนักนโยบายและแผน ของกระทรงสาธารณสุข) ได้ไปเยี่ยมชุาชนราชธานีอโศกและศีรษะอโศก และติดตามโครงการนำร่องการวิจัย พัฒนากระบวนการผลิตและการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์สุขภาพในระดับชุมชนด้วย อยากจะให้ชุมชนของชาวอโศก เป็นแม่แบบและศูนย์เรียนรู้สำหรับชุมชนอื่น ๆ ในการพัฒนาควบคุม และตรวจสอบตนเอง ในกระบวนการผลิตให้ได้ผลผลิต ที่มีคุณภาพ ถือว่าเป็นสำนึกและความรับผิดชอบที่มีต่อผู้บริโภคโดยตรง ไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานภายนอกมาเป็นผู้ควบคุมตรวจสอบให้

17 ก.ค. ทีมงานของอย.โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มาจากกองควบคุมเครื่องสำอาง (ภญ.พรพรรณ สุนทราธรรม) ได้ไปที่ราชธานีอโศก โดยชื่นชมที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของโรงแชมพูอย่างเห็นได้ชัดจากที่เคยได้มาเยี่ยมและให้คำแนะนำไว้เมื่อหลายเดือนก่อน โดยกล่าวว่า พวกเรามีฐานศีลและสำนึกพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเสมอ และที่เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากอีกเรื่องคือ เมื่อ ภญ.พรพรรณกลับไปถึง อย.ก็ได้รีบเสนอโครงการศึกษาและพัฒนาน้ำหมักชีวภาพทดแทนสารเคมีในแชมพู โดยจะช่วยออกแบบเครื่องมือเก็บข้อมูลประสิทธิภาพการใช้ และได้ทีมตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการคณะเภสัชฯ มหาวิทยาลัยอุบาลราชธานี และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ อุบลราชธานี และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ อุบลราชธานี มาร่วมงาน ซึ่งอาจารย์และผู้อำนวยการศูนย์
วิทย์ฯ ทั้ง 2 ทีมก็ได้มาร่วมศึกษาดูงานและให้ความสนใจในนวัตกรรมใหม่ของชาวอโศกครั้งนี้ด้วย

ในวันที่ 18 ก.ค. ทีมงานของอย.ไปที่ศีรษะอโศก งานนี้มีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และชี้ขุมทรัพย์ซึ่งกันและกันอย่างอบ…อุ่นจริงจริ๊ง และต.อ.กลางที่นำทีม อ.ย.ไปก็หน้า ไม่แตก เพราะมีการพัฒนา ปรับปรุงสถานที่ ที่ยังเป็นจุดอ่อนในการผลิต จนเกือบสมบูรณ์ตามเกณฑ์ GMP เลยทีเดียว

 มาทีหลังดังกว่า ปฐมอโศกเริ่มทยอยจดแจ้งเข้ามาทีละหน่วยผลิตเกือบทุกหน่วยผลิตแล้ว ทำได้ครบสมบูรณ์ดีมาก ทั้งการกรอกใบจดแจ้ง ฉลากและผลผลิต ทำส่งมาครบๆ เต็มๆ อย่างนี้ ต.อ.กลางทำงานง่าย ตรวจได้เร็ว คงจะผ่านการจดแจ้งได้เลขทะเบียนเร็วกว่าชุมชนอื่น ๆ คงไม่ว่ากันนะจ๊ะ

ต.อ.ชุมชนท่านใดสนใจอยากรู้เทคนิค ทำไมหน่วยผลิตถึงให้ความร่วมมือดี สอบถามคุณตำนานบุญ นาวาบุญนิยม ต.อ.ชุมชนปฐมอโศกได้โดยตรงเลยค่ะ

 ล่าสุด ประชุม 5 พาณิชย์ เมื่อ 30 กรกฏาคม ต.อ.กลางถูกตำหนิ เรื่องระบบการส่งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการว่า ส่งผลผลิตมาตรวจแล้วไม่ได้ผลตรวจซักที ซึ่งทางห้อง Lab ของเราก็ชี้แจงมาแล้ว ก็ขอภัยในความไม่สะดวกด้วยประการทั้งปวง และจะพยายามปรับปรุงระบบการทำงานให้ดีขึ้นตามกำลัง (คน) อันน้อย..นิด ให้ได้ โดยถือคติ ตามท่านเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ แห่งมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน ที่ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น” ก็แล้วกัลล์ล์

[5] พุทธสถานสีมาอโศก จัดงานอบรมเยาวชน “คนสร้างชาติ” ครั้งที่ 5

งานอบรมเยาวชน “คนสร้างชาติ” ครั้งที่ 5 ณ พุทธสถานสีมาอโศก ระหว่างวันที่ 20-22 กรกฎาคม 2544

วันที่ 20 กรกฎาคม 2544

คณะครู ร.ร.ครบุรี จำนวน 6 ท่าน นำนักเรียนจำนวน 46 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 31 คน เดินทางมาถึงสีมาอโศก เวลา 17.30 น. คณะครูและนักเรียนสัมมาสิกขาร่วมต้อนรับ ด้วยหน้าตาที่สดชื่นแจ่มใสพร้อมเพรียงกัน จากนั้นเข้าศาลากราบสมณะ มีพิธีกล่าวต้อนรับแล้วพาเข้าบ้านพักโดยมีผู้รับใช้นำไป หลังจากรับประทานอาหารเย็นร่วมกันแล้ว เวลา 18.45 น. เข้าสู่รายการ “ที่นี่…สีมาอโศก” ซึ่งเป็นรายการพบกับผู้ใหญ่ชาวชุมชน 3 ท่านคือคุณป้าอารีย์ คุณวรัทยา(อาอินทร์) และคุณอาหินเรือง มาแนะนำชุมชนสีมาอโศกและเล่าประวัติชีวิตส่วนตัวของแต่ละคน หลังจากมีการแบ่งกลุ่มเป็น 6 กลุ่ม ทุกคนให้ความร่วมมือดี สนุกสนาน เมื่อได้กลุ่มก็แนะนำพี่เลี้ยงและสมณะประจำกลุ่ม จากนั้นก็มีการมาพบกลุ่ม แสดงความคุ้นเคยโดยการเขียนชาร์ด แสดงให้เห็นภาพ (เขียนชื่อกลุ่มคติกลุ่มฯ) เมื่อเขียนครบทุกกลุ่มก็กราบลาสมณะไปพักผ่อน

วันที่ 21 กรกฎาคม 2544

เวลา 14.00 น. ตื่นมาทำวัตรเช้า สมณะเด็ดขาด จิตตสันโต นำนักเรียนกล่าวปฏิญาณตนหลังจากนั้น เป็นการปฐมนิเทศโดยสมณะมือมั่น ปูรณกโร กล่าวแนะนำเรื่อง 5 ส. และ 7 ส. เสร็จแล้วนำชมสถานที่ แต่น่าเสียดายสายฝนโปรยลงมาอย่างชุ่มฉ่ำ จึงไม่ได้พานร.ครบุรีเดินชุม เมื่อแสงสีทองเริ่มส่องแสงมา ตามด้วยบรรยากาศที่สดชื่น พวกเราเยาวชนคนสร้างชาติก็ออกปฏิบัติงานตามฐานต่าง ๆ มีอยู่ 3 ฐานในเช้านี้คือ 1.ปลูกสมุนไพร 2.ปลูกกล้วย 3.ถางหญ้าเตรียมปลูกตะไคร้ งานละ 2 กลุ่ม มีผู้รับใช้พานำ สร้างความอบอุ่น

จนกระทั่งเวลา 09.00 น. คนสร้างชาติทุกคนขึ้นศาลา พบกับ รายการ “รักษ์วัฒนธรรมไทย” มีผู้รับใช้มาแสดงละครสั้นเกี่ยวกับการล้างจานชุดเล็กและการดื่มน้ำ จากนั้นเป็นการเทศน์ก่อนฉัน เรื่อง “ชีวิต…จุด…จุด…จุด” โดยสมณะก้อนหิน โชติปาสาโณ รายการนี้ เยาวชนคนสร้างชาติรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อจบรายการก็รับประทานอาหารร่วมกันแล้วคนสร้างชาติรวมกตัญญุต่อสถานที่อย่างขยัยขันแข็ง ช่วงบ่ายพบกับรายการ “วัฒนธรรมไทย” เป็นการสาธิตมารยาทไทย เช่นการกราบพระ เดินผ่านผู้ใหญ่ ฯลฯ จากนั้นเป็นการเรียนรู้ตามฐานงานต่าง ๆ ได้แก่ 1.ฐานยา 2.ฐานแปรรูป 3.ตอนกิ่งไผ่ตงเขียว 4.ปลูกกล้วย ทุกคนสนใจในฐานงานดีมากสนุกกับการได้เรียนรู้ หลังจากนั้น “คนสร้างชาติ” แต่ละกลุ่มก็ซ้อมการแสดงและรับประทานอาหาร

รายการภาคค่ำ วันนี้เป็นรายการ “สันทนาการ” (แสดงละครแต่ละกลุ่ม) ค่ำคืนนี้ทุกคนสนุกสนานเต็มที่ให้ความร่วมมือดี หลังจากนั้นสมณะประจำกลุ่มให้โอวาทแล้วเข้าที่พัก

วันที่ 22 กรกฎาคม 2544

ทำวัตรเช้า แสดงธรรมเรื่อง “สู่ทางธรรม” โดยสมณะแก่นเมือง เกตุมาลโก จากนั้นเป็นรายการ “ฐานงานสาธิต” ก็มีอยู่ 4 ฐานงาน คือ 1.สาธิตการเพาะถั่วงอก 2.สาธิตการทำจุลินทรีย์ 3.สาธิตการทำกระเป๋าจากกล่องนม 4. สาธิตการตอนกิ่งไผ่ตงเขียว จากนั้นก็ลงงานตามฐานเดิม 4 ฐาน ทุกคนทำงานท่ามกลางสายฝนที่ชุ่มฉ่ำ โดยเฉพาะฐานปุ๋ย เปียกกันทั้งตัว แถมกลิ่นยังไม่คุ้นจมูกเลย สุดที่จะทนจริง ๆ แต่ทุกคนก็ทำกันสำเร็จ

รายการก่อนฉัน “ไขใจครบุรี” (ตอบปัญหา) โดยสมณะเด็ดขาด จิตตสันโต แล้วร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน ระหว่างรับประทานอาหาร นร.สัมมาสิกขาแสดงวัฒนธรรมอีสานใต้ (รำกันตรึม) จากนั้นเป็นรายการ “เปิดใจ” นร.สัมมาสิกขารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง มานั่งอยู่ตรงกลางระหว่างผู้เข้าร่วมอบรม พิธีกรให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มมา “เปิดใจ” รวมทั้งนร.สัมมาสิกขาด้วย ทุกคนแสดงความรู้สึกออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “รู้สึกประทับใจการต้อนรับ ความเป็นกันเองระหว่างนักเรียนสัมมาสิกขาและนักเรียนครบุรี ฐานงานและอื่น ๆอีกหลายอย่าง เมื่อเปิดใจเสร็จก็เป็นการรับพรจากสมณะแต่ละรูป และมีตัวแทนนักเรียนครบุรีมาแสดงความรู้สึกพร้อมด้วยท่านผู้ช่วยผู้อำนวยการร.ร.ครบุรี นายเกษมพงษ์ กัลปพิญโญกุล

เมื่อทางตัวแทน ร.ร.ครบุรี กล่าวจบ ก็มีคุณอาด่วนดี ซึ่งเป็นตัวแทนชาวชุมชนสีมาอโศกกล่าวขอบคุณบ้าง

ก่อนที่สมณะจะให้พร นร.สัมมาสิกขาร่วมกันร้องเพลง “คนสร้างชาติ” มอบให้แก่นร.ครบุรี จากนั้นพิธีอำลาก็มาถึงนร.สัมมาสิกขาและนร.ครบุรี ไหว้ผู้ใหญ่ชาวชุมชนเป็นแถว แล้วมาตั้งวงไหว้ซึ่งกันและกัน จากนั้นร่วมร้องเพลงอำลาด้วยกันเพื่อการลาจากและจะพบกัน ร่วมกันทำในสิ่งที่ดีในวันหน้า

พิธีอำลาเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 15.30 น. งานอบรมนักเรียนครบุรีครั้งนี้ มีความเป็นกันเองอย่างมาก สนุก การพูดจาเข้ากันได้และที่สำคัญ ภาษาโคราชเป็นภาษาที่มีความสนุก ตลก เพลิดเพลินกับสำเนียงโคราช ได้รับประโยชน์กันถ้วนทั่วทุกๆคน

“เอ่ยคำลาทั้งๆที่ไม่เคยต้องการ
แต่เมื่อวันและคืนนั้นเปลี่ยนหมุนไป
ก็คงต้องจำใจจากกัน
สู่ฝันแม้วันห่างไกล
อาจต้องทน อดทนต่อไป
อย่าได้ท้อเลย”

สส.ม.แก้วเกร็ดรุ้ง รายงาน

[6] ข่าวสั้นทันอโศก

สันติอโศก…เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ก.ค.44 เวลา 9.00 น. ณ พุทธสถานสันติอโศก อ.ประคอง เพ็ญเสงี่ยม อาจารย์สอนวิชาพุทธศาสตร์ จากร.ร.วัดบ่อนันทวิทยา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้พานร.ชั้นป.6 เข้าอบรมพิเศษเพื่อปลูกฝังศีลธรรม โดยมี สมณะนึกนบ ฉันทโส ให้การต้อนรับ พาชมสถานที่และทานข้าวร่วมกันที่ศาลา พาเล่นน้ำตก ช่วงบ่ายพบ สมณะร้อยดาว ปัญญาวุฑโฒ เพื่อสนทนาธรรมก่อนกลับ

อ.ประคอง เล่าว่าเด็กๆ กลุ่มนี้เคยมาแล้วครั้งหนึ่งตอนเรียนอยู่ป.3 แต่ยังประทับใจในธรรมชาติที่เป็นป่า มีถ้ำ มีน้ำตก จึงเรียกร้องอยากมาอีก วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่เด็กสนใจธรรมะ เคยนิมนต์ท่านจันทร์ไปเทศน์ที่ ร.ร. แล้วให้ใบประเมินผลไป เด็ก ๆประทับใจและชอบ เขาเข้าใจถึงการศรัทธาคุณพระรัตนตรัย หมายถึงอะไร เป็นต้น ผู้ปกครองไม่ค่อยมีเวลาให้เด็กๆ แต่ก็ยังดีที่เห็นว่าเด็กไปวัดเป็นสิ่งที่ดีงามดีกว่าไปเธค มาครั้งก่อนโชคดีมากได้ฟังธรรมจากพ่อท่าน พ่อท่านเมตตามากๆ

 


เจ้าของ มูลนิธิธรรมสันติ สำนักงานและพิมพ์ที่ โรงพิมพ์มูลนิธิธรรมสันติ
67/1 ซ.ประสาทสิน ถ.นวมินทร์ บึงกุ่ม กทม. 10240 โทร.02-3745230 ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นายประสิทธิ์ พินิจพงษ์
จำนวนพิมพ์ 1,300 ฉบับ

[กลับหน้าสารบัญข่าว]

[163]16-31jul2001