ฉบับที่ 221 ปักษ์หลัง 16-31 ธันวาคม 2546

[01] บทนำข่าวอโศก พรปีใหม่'๔๗ จากพ่อท่าน:
[02] ธรรมะพ่อท่าน: "กิเลส อัตตา ที่ทำให้เราทุกข์"
[03] พรจากสมณะมหาเถระ
[04] จับกระแส ตอ.
[05] กสิกรรมธรรมชาติ ความจนเป็นทุกข์ในโลก
[06] สกู๊ปพิเศษ:สัมภาษณ์ สมณะเดินดิน ติกขวีโร
[07] พตท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร รณรงค์งดเหล้าเบียร์ฉลองปีใหม่
[08] ศูนย์สุขภาพ: อดมื้อกินมื้อเสริมสุขภาพ

[09] จัดเวิร์คช็อปที่บ้านราชฯ หลักสูตร สร้างผู้นำกสิกร
[10] หน้าปัดชาวหินฟ้า:ห
[11] ครูฝึกจากมูลนิธิหมอชาวบ้าน สอนโยคะเสริมสุขภาพบุญนิยม
[12] งานตลาดอาริยะปีใหม่'๔๗
[13] ค่าย สร้างผู้นำ ครั้งที่ ๒ ณ ชุมชนสันติอโศก
[14] ข่าวสั้นทันอโศก:
[15] ชายงามรายปักษ์ นายสุนทร หาสุข:



พรปีใหม่'๔๗ จากพ่อท่าน

ไม่รอ ไม่หวัง แต่เราทำด้วยวิชชา
- สมณะโพธิรักษ์ -
๑๙ ธ.ค. ๒๕๔๖


ช่วยงานตลาดอาริยะปีใหม่

ในช่วงปกติของชุมชนชาวอโศก จะมีการรณรงค์เรื่องการแยกขยะอยู่เป็นประจำ

บางแห่งถ้าลืมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ที่ทิ้งขยะก็จะมีขยะปนกันมาก สร้างความลำบากให้กับ ผู้ที่ทำหน้าที่เก็บขยะพอสมควร

บางแห่งขนาดรณรงค์อยู่บ่อยๆ ก็ยังมีผู้ทิ้งขยะแบบไม่ยอมแยกตามที่มีป้ายเขียนติดถังหรือถุงขยะไว้เลย

ยิ่งงานตลาดอาริยะปีใหม่ จะมีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

หากชาวเราจะช่วยแบ่งเบา งานส่วนกลางได้บ้าง ก็โดยช่วยกัน แยกขยะ

ยิ่งช่วยเป็นเจ้าหน้าที่เก็บขยะ แล้วแยกขยะที่ยังไม่ได้แยก ท่าน ก็ยิ่งจะได้บุญกุศล และรอดพ้น จากการถูกแจกหนวดอย่างแน่นอน.


[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


กิเลส อัตตา ที่ทำให้เราทุกข์

ทำไมเป็นอย่างนี้! ทำไมไม่ทำอย่างนี้ ! ทำไมคิดอย่างนี้ ! และฯลฯ เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นซ้ำๆซากๆมาหลายครั้ง กับคำถามที่ว่า ทำไม ทำไม และทำไม แล้วเราก็ต้องพบกับความหงุดหงิด เสียใจ ทุกข์ใจ น้อยใจ เมื่อประสบกับความผิดหวัง ความ ไม่สมหวัง สิ่งเราหวังไว้ไม่เป็นไปตามที่เราปรารถนาหรือมุ่งหวังไว้ เคยถามตัวเองบ้างไหมว่า เราอยากจะทุกข์อย่างนี้ ต่อไปเรื่อยๆ หรืออยากจะพ้นทุกข์จากเรื่องเหล่านี้ ใจของเราจะไม่ทุกข์อย่างนี้อีกแล้ว เรื่องที่เราทุกข์นั้นเป็นกิเลสตัวไหน เกี่ยว กับเรื่องนี้...พ่อท่านได้เทศน์ไว้ว่า... (๘ ต.ค. ๔๖ ราชธานีฯ)

"...ถ้าใจเราเป็นตัวมักมาก กำหนดนั่น กำหนดนี่ จะเอาอย่างนั้น จะเอาอย่างนี้ จะเอาสวยอย่างนั้น จะเอามากอย่างนี้ จะเอาเป็นลักษณะโน้น ลักษณะนี้อะไรต่างๆนานา ยึดติดไปหมด มันก็ยึดติด เราต้องมาเรียนรู้ว่า จิตใจเราไปยึด ติดอะไร กันนักกันหนา สิ่งเหล่านั้นมันก็เป็นไปได้บ้าง เป็นไปไม่ได้บ้าง ได้ก็ดี ไม่ได้ก็แล้วไป ใจไม่ต้องได้ไป เที่ยวผูกพัน ยึดถือ ติด จะต้องกำหนด จะต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้สมใจ นี่แหละตัวกิเลสอัตตา....."

ก่อนจะลงมือล้างกิเลส เรามาดูกันซิว่ากิเลสอัตตาที่ทำให้เราทุกข์นั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งพ่อท่านได้แยกแยะไว้ชัดเจน ต่อไป ดังนี้

"....ตั้งแต่อัตตาที่เป็นอัตตาหยาบ โอฬาริกอัตตา เป็นมโนมยอัตตา เป็นอรูปอัตตา ก็เป็นอัตตาหยาบไปจนถึงอัตตาละเอียด เป็นอัตตาหมด ถ้าเราล้างอัตตานี้ได้หมด ตั้งแต่อัตตาหยาบ บ้านของเรา เรือนของเรา ที่ดินของเรา ทรัพย์สินของเรา เพชรนิลจินดาของเรา อะไรต่ออะไรของเรา เป็นวัตถุหยาบ เป็นเรื่อง นอกตัว เป็นเรื่องที่เห็นชัดๆ ไปยึด แม้แต่ลูกเรา เมียเรา ผัวเรา คนรักของเรา โอ๊ย... ผูกพัน นัวเนีย เป็นอัตตา เป็นตัวเป็นตน เป็นของตัวของตน พราก ไม่ได้ พลัดพรากสิ่งที่รักเป็นทุกข์ ก็ไม่ต้องผุดต้องเกิดกันพอดี (จริงๆถ้าไม่ต้องผุด ต้องเกิด เป็นอรหันต์แล้ว) มันต้องเกิด เกิดมาเป็นวรรคเป็นเวร อีรุงตุงนังเข้าไปอีกตลอดเวลา...."

เมื่อรู้จักหน้าตาของกิเลสแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการลงมือล้างกิเลส ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์ที่จะล้างให้หมดสิ้นไปได้ แต่...ผู้ที่ มีความตั้งใจ ขยันหมั่นเพียรที่จะล้างมากที่สุด คือผู้ที่จะพ้นทุกข์เร็วที่สุด ทุกคนมีเวลาเท่ากัน ต่างกันที่ ความพากเพียร เท่านั้น...ที่ไม่เท่ากัน

"....เราจะต้องเรียนรู้ด้วยทุกอย่าง เกิดเหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่เกิดในตัวเรา ได้สัมผัส สัมพันธ์ ได้เกี่ยวข้อง เราจะต้อง มีปัญญารู้เท่าทัน สิ่งเหล่านี้แหละมันเป็นโจทย์ให้เรา บางอันบางอย่างเป็นโจทย์อย่างแรงด้วยนะ โดยเฉพาะ กิเลสของเรา มันมีกิเลสของเรา กิเลสอุปาทานของเรา โอ้โห...เรื่องนี้เราไปผูกไปพัน ไปติดไปยึด เราไปกำหนด โน่นนี่ เราไปเอามาก ใจเรานั่นแหละมีกิเลสเป็นเจ้าเรือน ต้องรู้ตัวให้ดีๆ แล้วก็เลิกละมา...."

ฉบับหน้า เรามาดูการชำแรก แยกแยะอัตตา ๓ ที่พ่อท่านได้อธิบายขยายความถึง โอฬาริกอัตตา มโนมยอัตตา อรูปอัตตา ว่า หน้าตาของอัตตาแต่ละตัวนั้นเป็นอย่างไร

.- เด็กวัด -

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


พรจากสมณะมหาเถระ

ของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่า
คือใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จิตใจที่แจ่มใสเบิกบาน
ควรเป็นของกำนัลที่มอบให้กับทุกๆคน
- สมณะเดินดิน ติกขวีโร -

คิดดี ใช่ว่าคนอื่นจะยอมรับเสมอไป แต่การรู้จักประมาณคำพูด พฤติกรรมให้เหมาะสมต่างหาก คือความเจริญที่จักค่อยเป็นค่อยไปตามแนวคิดที่ดีได้
- สมณะเพื่อพุทธ ชินธโร -

ขอให้ทุกท่านเอาจริงในการประพฤติปฏิบัติธรรม
- สมณะพิสุทธิ์ พิสุทโธ -

ปีใหม่นี้ขอให้พวกเรามี
ศรัทธาเกิดอยู่เสมอๆ
ศรัทธายังคงมั่นอยู่
ศรัทธายังพัฒนาต่อไปอีก
ในหมู่กลุ่ม ในเพื่อนดี มิตรดี สหายดีนี้
- สมณะก้อนดิน เสฏฐพโล -

สมบัติกับความตาย
คนเรามีกรรมเป็นทรัพย์สมบัติ จะสุขหรือทุกข์ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเอง เมื่อมีบุญวาสนาได้เกิดมาเป็นคนกับเขาชาติหนึ่ง อย่าทำโอกาสของตนให้สูญเปล่า บุญกุศลพึงรีบทำแต่วันนี้ เพราะถ้าช้าไปเราอาจไม่มีโอกาสได้ทำ

ชีวิต...ของทุกคนต่างบ่ายหน้าไปสู่ความตาย ความตายจึงเป็นสิ่งน่ากลัวสำหรับคนทั่วๆไป เพราะกลัวต่อการพลัดพราก จากของรักของชอบใจทั้งปวง สุดท้ายของการเดินทางเราก็มาถึงความตาย ต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เราหามาได้ ทั้งหมดไป แม้ร่างกายที่เราแสนรักแสนหวงก็ต้องทิ้งไปเช่นกัน ความตาย จึงคือเจ้าของชีวิต พร้อมจะกระชากวิญญาณ ออกจากร่างของเราไปได้ทุกขณะๆ

สิ่งที่ติดตามไปได้ คือกรรมที่เป็นกุศล และอกุศลเท่านั้น เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ พระพุทธเจ้าทรงเตือนสาวก ทั้งหลายว่า เธอพึงบำเพ็ญกุศล ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด
- สมณะกรรมกร กุสโล -

๖ ธ.ค.๔๖

"คน" ที่ชอบกินเกิน ใช้เกิน ฟุ่มเฟือย มีแต่ทำลายโลก เรียก "คนโลกีย์"
และคนที่รู้จักลดกิเลสจนสามารถหลุดพ้นได้ จะมีประสิทธิภาพสูง เรียก "คนบุญ"
เมื่อคนบุญจะหยิบอะไรย่อมเป็นบุญญาวุธไปหมด ย่อมเจริญ ไม่อดอยาก
นี้แหละเขาเรียกว่า คน "จอมยุทธ"
- สมณะเมืองแก้ว ติสสวโร -
๑๕ ธ.ค.๔๖

การปฏิบัติบูชานั้นนำความสุขที่แท้จริงมาให้ มีการกระทำใดๆที่เป็นปฏิบัติบูชามากเท่าใด ก็จะพ้นทุกข์ต่างๆได้มากเท่านั้น ไม่เสื่อมต่ำมากเท่านั้นๆ
ขอให้ชาวอโศกทุกๆท่านประสบความสุขในปีใหม่นี้จากการปฏิบัติบูชายิ่งๆขึ้นเถิด
- สมณะน่านฟ้า สุขฌาโน -
๔ ธ.ค.๔๖

"พรปีใหม่"
ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่ก็ก้าวเข้ามา ทำให้ต้องฝึกทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมา นึกถึงความโชคดีของตัวเองที่ได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาปฏิบัติธรรมกับพ่อท่านจนได้บวชเป็นสมณะ และได้เป็นสมณะรูปแรกที่พ่อท่านบวชให้อีกด้วย
๒๕ ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ทางโลก และอีก ๒๕ ปีกว่า (จะกว่าไปอีกเท่าไรก็ยังไม่รู้ ตราบใดที่ยังไม่ตาย) ๒๕ ปีหลังนี้ได้เลือกมาใช้ชีวิตทางธรรม ได้มีโอกาสร่วมงานกับหมู่กลุ่มของชาวอโศก ยิ่งนานวันนานปีก็ยิ่งประทับใจในความดี ความมีน้ำใจ ความเสียสละของพ่อท่าน ของเพื่อนสมณะ และของญาติธรรมทุกๆคน
พวกเราได้ช่วยกันทำงานทำประโยชน์ให้กับสังคม จนเป็นที่ยอมรับของสังคมมากขึ้น จากแต่ก่อนแต่เดิมมีแต่กระแสต่อต้านจากผู้คนที่ไม่เข้าใจ ไม่เห็นด้วย พวกเราก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆอย่างไม่ย่อท้อ ทุกวันนี้นับวันเราจะมีงานมากขึ้น จึงขอให้ทุกๆคนดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจให้ดี จะได้สร้างบุญสร้างบารมีร่วมกันไปได้นานๆ
ขอบุญบารมีที่ได้สร้างสมกันมาจงช่วยคุ้มครองป้องกันให้ชาวอโศกทุกๆคนอย่าได้มีโรคภับไข้เจ็บ พ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง ขอจงมีความสุขความเจริญในกุศลธรรมโดยทั่งถึงกันทุกท่านทุกคนเทอญ
เจริญธรรม
- สมณะเสียงศีล ชาตวโร -

ผ่านไปอีกหนึ่งปี ชีวีเราสั้นลง...!!!
ทุกเหตุการณ์ที่ผันผ่าน... เป็นประโยชน์เสมอ
ไม่ว่าจะทุกข์ยาก...หนาวเหน็บ...หรือเจ็บปวด
ผู้มีปัญญาย่อมเห็นได้
ทำแล้วไม่ได้...ไม่มี !!!
ทำมาก...ได้น้อย...แปลว่า...ให้มาก...หรือสร้างบารมี
ทำน้อย...ได้มาก...แปลว่า...กินบุญเก่า...หรือเป็นหนี้
บัดนี้พ่อท่านอายุย่าง ๗๐ แล้ว เรากำลังทำอะไรอยู่...!?
- สมณะแน่วแน่ สีลวัณโณ -
๑๙ ธ.ค.๔๖

พรดีปี ๒๕๔๗
ปี ใหม่ใจ เบิกบาน ประสานมิตร
ใหม่ ด้วยคิด พูดทำ ย้ำกุศล
ไม่ เป็นทาส โลกีย์ ที่วกวน
รอ ใครดล ไม่ดีเท่า เราพึ่งกรรม
ไม่ ย่อท้อ ต่อสู้ คู่สัจจะ
หวัง ลดละ อัตตา อย่าใฝ่ต่ำ
เรา พึ่งตน พึ่งบุญ พึ่งคุณธรรม
ทำ ดีล้ำ ทำให้ดี ปีใหม่เอย
- สมณะเก้าก้าว สรณีโย -

ปีใหม่ ขณะใหม่
กาลครั้งหนึ่ง มีคนผู้หนึ่ง เห็นชีวิตเป็นสิ่งที่น่าท้าทายที่ดี จึงหันกลับมากำหนด สำรวจตนเอง สำรวมใจ-กาย หายใจเข้า ก็พอใจ หายใจออก ก็พอใจ ขณะใดๆ หายใจ รู้อิ่มเอิบอยู่ ก็ใจพอ เต็มจิตเต็มใจ ในอิริยาบถต่างๆ
เห็นชีวิตเป็นสิ่งที่กล้าท้าทาย จากคิดที่จะเอามาให้แก่ตน พวกของตน เป็นกล้าสละ กล้าให้ อย่างมีปัญญา จากล้มเหลวพลาดผิด ก็ไม่ติดจม กล้ากระเสือกกระสนดิ้นรนออกมา ไม่จมอยู่กับความท้อ ความผิดหวัง ความพรากจากสิ่งรักสิ่งผูกพัน กล้าริเริ่มสร้างสรรอย่างไม่ยึดถือครอง ยิ่งเรียบง่าย สงบภายใน ในทุกกิจกรรม ยิ่งกล้าท้าทาย
เห็นชีวิตที่ได้ท้าทาย เป็นสรุปผลที่ดี ที่ไม่เห็นแก่ตน ก็นำมาเพียรเสริมสร้างต่อ เห็นความบกพร่อง ก็สำรวจนำมาเป็นข้อมูล สำหรับสร้างเสริมแก้ไขใหม่ อย่างไม่ซ้ำเติมทับถมตน หรือไม่ประมาทขาดความระมัดระวังต่อไป มีความพอใจสร้างความรู้ตัวทั่วพร้อมในการบากบั่นดี สร้างขณะใหม่ เกิดอะไรใหม่ที่ดีให้แก่ตนและผู้อื่นได้เสมอ
- สมณะมั่นแจ้ง พุทธชาโต -
๑๐ ธ.ค.๔๖

๒๐ ธ.ค. ๔๖
สิ้นเดือนนี้แก่ไปอีกปีรวมทั้งพรรษาจะได้เป็นมหาเถระด้วย พอดีได้มาสัมมนาที่โรงแรมบ้านไทเรื่องประเมินการศึกษา ที่มีปัญหาให้ชาวชุมชนมาช่วยแก้เป็นขบวนการจึงจะดีได้
ของฝากจากมหาเถระ ผู้มีปีติในธรรมอยู่เป็นสุข ใจดีสู้เสือได้ ใจไม่ดีสู้หมาก็ไม่ได้ น่าคิดนะ! สำนึกดีทุกๆคน
- สมณะกำแพงพุทธ สุพโล -

สวัสดีปีใหม่เอย
โอ้อโศกผองเรา จงมาพากันสร่างเมาจากบ่วงห่วงโลกีย์ มาพากันไปตามทางที่พระพุทธเจ้าท่านสั่ง ท่านว่าโลกนี้มันมีแต่อนิจจัง ให้เราอย่าไปหลงยินดีกับอ้ายสตรีและอีสตางค์ นี่แหละเส้นทางแห่งพุทธองค์
และยิ่งมีอโศกเกิดมาเติมเชื้อพุทธแท้ๆด้วยซี ต้องติดตามไปช่วยกันทำความดี ไปจนกว่าจะตายกลายเป็นผี จะเหลือแต่กรรมดีๆงามๆติดๆตามๆเราไป
เกิดมาเจออโศกอีกแล้วหนึ่งหน ต้องอดทนและพยายาม อย่าให้โลกเขาประณามว่าอโศกเลวทรามและไร้ค่า
เกิดเป็นอโศกต้องอดทน ต้องดิ้นรนเพื่อการพัฒนา ให้เป็นประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านและมวลประชา จนเป็นขวัญตาและขวัญใจของผองไทยและยิ่งๆไปให้ทั่วโลกาเอย
- สมณะทำดี อโสโก -
๔ ธ.ค.๔๖

พรปีใหม่ ปี ๒๕๔๗
วัน เดือน ปี ย่อมผ่านไป แต่ละช่วงของชีวิต ขอให้ชาวพุทธทุกคนจงตระหนักถึงคุณค่าของเวลาและชีวิต เพราะชีวิตแต่ละคนเดินทางไปสู่ความตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปสู่จุดนั้น ในช่วงที่เรามีโอกาส ขอให้พวกเราทุกคนให้รีบขวนขวายสั่งสมบุญกุลปฏิบัติธรรมปรับปรุงกรรมที่ดีให้กับชีวิต
ด้วยการให้ทานเสียสละ รักษาศีล ทำกิเลสให้ลดลง และภาวนาเพียรพยายามสร้างบุญกุศลให้เจริญยิ่งๆขึ้นให้กับชีวิต ตลอดปี ๒๕๔๗
- สมณะผืนฟ้า อนุตตโร -

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


* ขอเชิญ! ขอเชิญ!
ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงการประชุมพาณิชย์บุญนิยมทุกวันจันทร์หลังอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ก็ขอเชิญตัวแทนร้านค้า และต.อ.ชุมชนทุก ชุมชนชาวอโศกมาร่วมประชุมเสนอปัญหา เรื่องเพื่อพิจารณาเข้ามาเพื่อช่วยกันแก้ไข หรือมีข่าวคราวที่น่าสนใจ ฮอต ฮอต (ร้อน! ร้อน!) มาแจ้งในที่ประชุมทราบก็จะมีประโยชน์ไม่น้อย ที่ผ่านมามีคนกล่าวว่าการประชุมขององค์กรนี้ มีชีวิตชีวาสนุก และน่าสนใจกว่า การประชุมใดๆ เพราะเป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการ (work shop) และช่วยแก้ปัญหาของหน่วยงานได้ สนใจไหมล่ะ วางแผน เตรียมพร้อม หวังว่าคงได้เจอกันคราวหน้านะ

* ขอเพิ่มงานหน่อยน่า!
บจ.พลังบุญได้รณรงค์ให้ผู้ผลิตติดข้อมูลบนฉลากสินค้า อันได้แก่ ชื่อสินค้า ชื่อผู้ผลิต ปริมาณสุทธิ วันผลิต และ/หรือ วันหมดอายุ หรือ ควรบริโภคก่อน มาตั้งแต่ปลายปี'๔๕ จนบัดนี้จะครบ ๑ ปีแล้ว ก็นับว่าผู้ผลิตให้ความร่วมมือได้ดีพอสมควร แต่ในสินค้า บางชนิด จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งได้แก่วัตถุดิบธัญพืช โดยเฉพาะกลุ่มข้าว(พันธุ์อะไรบ้าง) ข้าวอาร์ซี (ข้าวสาลี ข้าวฟ่าง ลูกเดือย ฯลฯ) โปรตีนเกษตร หรือบางที่ทำฉลากเตรียมได้แล้ว แต่ไม่พิมพ์วันผลิตวันหมดอายุและปริมาณสุทธิลงไป ซึ่งยังเป็นปัญหา แก่ร้านค้า ในการ จำหน่ายสินค้า เพราะจะถูกลูกค้าทักท้วง ทักถามข้อมูลบนฉลากกันเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้บริโภคใน กทม. ซึ่งเป็นลูกค้า ระดับชน ชั้นกลาง ที่มีความรู้และสนใจเรื่องสุขภาพ จะให้ความสำคัญกับข้อมูลบนฉลากมาก ซึ่งอันที่จริงแล้ว ก็เป็นสิทธิอันพึงจะได้ของผู้บริโภคเขาจริงๆ

เรื่องนี้ได้ถูกนำเข้ามาในวาระปัญหาระหว่างองค์กรในที่ประชุมพาณิชย์บุญนิยม เมื่อวันที่ ๑ ธ.ค.๔๖ ที่ประชุม จึงมีความเห็น ร่วมกันว่า เพื่อความถูกต้อง ของการผลิตสินค้าที่ต้องแจ้งข้อมูลบนฉลาก และเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ขาย และผู้ซื้อ รวมทั้ง เป็นการพัฒนา การทำงาน ของชาวเรา จึงเห็นควรให้ผู้ผลิตและบริษัทขายส่ง (บจ.ขอบคุณ บจ.แด่ชีวิต) รับนโยบายนี้ ไปปฏิบัติ โดยเริ่มจากสินค้า ที่มีปัญหาก่อน และนอกนั้นก็ทยอยทำไปเรื่อยๆ

ฝ่ายการค้าการขาย ก็คงต้องเพิ่มอิทธิบาทกันอีกนิด จะสัมพันธ์กับโลกก็ต้องมีโลกวิทูกันบ้าง จะเอาแต่ใจตนเอง สะดวก ง่ายๆ แบบลูกทุ่ง คงไม่ได้แล้ว บุญนิยมของเราคงพ่ายแพ้ทุนนิยมเป็นแน่แท้ เพราะขณะนี้แว่วข่าวมาว่า เขาพัฒนาการบริการอ่อนโยน อ่อนน้อม เอาใจลูกค้า กันอย่าง สุดๆเลย ชนิดที่ทำให้ลูกค้าประทับใจเลยทีเดียว ขอส่งข่าวให้ทราบเดี๋ยวจะหาว่าไม่ส่งสัญญาณเตือนกันบ้าง

* ปรับ ๒๐ เท่า
ร้านค้าใดไม่สามารถปราบขโมย หรือจับขโมยได้อย่างคาหนังคาเขาที่ประชุมพาณิชย์บุญนิยม เสนอแนวทางเลือกไว้ ดังนี้

๑. ติดกระจกสะท้อนไว้ตามมุมต่างๆของร้าน เพื่อเอาไว้ขู่ลูกค้าประเภทขโมย ซึ่งเป็นการใช้หลักจิตวิทยาอันหนึ่ง

๒. เขียนป้ายแผ่นโตๆ ติดไว้ว่า ผู้ใดขโมยสินค้าในร้านจะโดนปรับ ๒๐ เท่าของราคาสินค้า หรือจับดำเนินคดี และติดรูปประจาน ให้สังคมรับรู้

* ต้องทำให้ได้
เพื่อให้บรรลุเป้าบุญญาวุธ หมายเลข ๓ คือ กสิกรรมไร้สารพิษ ฝ่ายการตลาดพาณิชย์บุญนิยม เสนอแนวทางป้องกัน การประพฤติมิชอบ ในแวดวง กสิกรรมดังนี้ ผู้ที่จะนำพืชผักผลไม้มาขายในเครือข่ายชุมชน ของเรา ต้อง
๑. ผ่านหลักสูตรอบรมผู้นำกสิกร (ศีลเด่น)
๒. ไปดูแหล่งผลิต (เป็นงาน)
๓. ส่งผลผลิตตรวจ (ชาญวิชา)

* สูญญากาศ
ข่าวดี! ข่าวด่วน อีกไม่นานเราจะมีข้าวไร้สารพิษบรรจุสูญญากาศจำหน่าย จาก คกร.บ้านโตนะ จ.สุรินทร์ รับรองคราวนี้ บรรดามอด มด สารพิษ อัลฟาท็อกซิน หาที่อยู่ไม่ได้แน่ ก็ขอเอาใจช่วยทำให้สำเร็จ แต่ก็อย่ารีบร้อนจนเสียการนะฮะ ช้าๆได้พร้าเล่มงาม (คมกริบ)

ข่าวด่วนจากแดนไกล ขณะนี้ชุมชนเลไลย์อโศก มีพืชไร่ไร้สารพิษ รวมทั้งพันธุ์ข้าวพื้นเมืองหลากหลายชนิด ซึ่งพวกเรา น่าจะมาช่วยกันกิน ช่วยกันขาย นอกจากเป็นการส่งเสริมรักษาพันธุ์ข้าว ไม่ให้สูญพันธุ์ ยังช่วยให้เราได้กินข้าว ที่จะเพิ่มพลัง ความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ ชุมชนเลไลย์ ยังมีกระชายดำ ราคาไม่แพงประมาณ กก.ละ ๑๕ บาท ไม่รวมค่าขนส่ง ติดต่อโดยตรงที่ คุณหินชนวน โทร. ๐-๙๔๑๖-๕๖๑๘

* นำนโยบายลงสู่ภาคปฏิบัติ
คือ ต.อ.ชุมชนปฐมอโศก โดยคุณตำนานบุญ ขานรับนโยบายงดจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ ที่เมืองไทยผลิตได้ เช่น หน่อไม้ฝรั่ง, ธัญพืชชง จากประเทศมาเลเซีย ฯลฯ โดยจะนำสินค้าที่ผลิตในเมืองไทยมาแทน และเลือกจำหน่ายสินค้า ที่ชุมชนผลิตได้เอง เพื่อส่งเสริมผลผลิต ของชาวชุมชน ที่มีอยู่แล้ว

ร้านค้าปฐมอโศกให้ความร่วมมือด้วยดี โดยกล่าวว่า ร้านค้าเป็นของส่วนรวม เมื่อเห็นว่าไม่ควรขาย ก็ไม่ขาย เพื่อปฏิบัติตาม นโยบายส่วนรวม

ขออนุโมทนาต่อปฏิกิริยาขานรับอย่างดีจากร้านค้าชุมชนปฐมอโศกมา ณ ที่นี้ด้วยนะฮะ.

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


ทาฬิททิยํ ทุกขํ โลเก = ความจนเป็นทุกข์ในโลก
- โดย สมณะเสียงศีล ชาตวโร -

เกิดมาไม่มีใครอยากเป็นคนจน เพราะคนจนต้องอยู่อย่างลำบากในสังคม เป็นที่ ดูถูกดูแคลน ไม่พออยู่พอกิน ทุกวันนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ยังยากจนยังมีหนี้สิน จะแก้ปัญหาความยากจนให้กับเกษตรกรส่วนใหญ่ได้อย่างไร

ที่จริงประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไม่น่ามีคนยากจน วิธีแก้ปัญหาความยากจนก็คือหัดรู้จักกินรู้จักใช้ ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย อุดรูรั่วของชีวิต ไม่ติดอบายมุข ขยันเพิ่มขึ้น ก็จะหายจน มีอยู่มีกินอย่างสบาย

ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี มีการ อบรมหลักสูตรสัจธรรมชีวิต ๔ คืน ๕ วัน อบรมผ่านมาได้ ๒๒ รุ่น โดยเน้นในเรื่องคุณธรรมนำความรู้ หรือเน้นเรื่องจิตภาพและกายภาพ

เรื่องจิตภาพหรือคุณธรรม ก็คือต้องฟื้นฟูจิตใจให้มาก ต้องสะอาดกายสะอาดใจ,ขยัน,ประหยัด,ซื่อสัตย์, เสียสละ และกตัญญู ดังที่ได้อธิบายรายละเอียด ไปแล้วในคราวก่อน

เรื่องของกายภาพหรือความรู้ เรื่องอาชีพการทำมาหากิน ก็เน้นเรื่องการทำ กสิกรรมธรรมชาติ ทำปุ๋ยหมักใช้เอง ประหยัดต้นทุน รู้จักทำน้ำยาอเนกประสงค์ ใช้สระผม ซักผ้า ชำระล้าง...ฯลฯ สอนให้รู้จักนำเอาทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ให้เป็น เรามีแปลงสาธิตเป็นตัวอย่างให้ดู และมีตัวอย่างบุคคลที่เคยอบรมกับเราไปแล้ว นำเอาความรู้ไปใช้ดำเนินชีวิต จนมีชีวิตที่เจริญก้าวหน้า หมดหนี้หมดสิน มาเล่าเรื่องราววิธีการดำเนินชีวิตให้เราฟังเพื่อเป็นตัวอย่างและเป็นกำลังใจ

กิจกรรมของเราจึงมีทั้งการอบรม (การบรรยาย) การสาธิต (ทำให้ดู) และลงมือปฏิบัติ (หัดทำเองจนเป็น) ผลการอบรมที่ผ่านมาช่วยให้หลายครอบครัว หมดหนี้หมดสิน ฐานะดีขึ้น กลายเป็นวิทยากร ถ่ายทอดความรู้ต่อ จนมีชื่อเสียงของหมู่บ้านไปก็หลายคน ผลสำรวจจากที่คณะของเราที่ได้ออกติดตามประเมินผล เยี่ยมเยียนชาวบ้านที่เคยผ่านการอบรมกับเรามาแล้ว เขาจะเล่าประสบการณ์อย่างภาคภูมิใจและอย่างสนุกสนานถ้าหากท่านผู้ฟังสนใจ อยากจะได้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเกษตรธรรมชาติ การทำนาธรรมชาติที่ลงทุนน้อยได้ผลผลิตสูง การปลูกผักไร้สารพิษ ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมี ไม่ต้องฉีดยาฆ่าหญ้า ฉีดยาฆ่าแมลง เรามี VCD ถ่ายทำจากผู้มีประสบการณ์ และประสบผลสำเร็จในชีวิตมาแล้วให้เลือกเอาไปศึกษา

สนใจติดต่อ ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน ตู้ ปณ.๖๗ ปทจ.นครปฐม ๗๓๐๐๐ เราจะส่งรายละเอียด ชื่อ VCD ชุดต่างๆ และราคามาให้ผู้อ่านเลือกตามต้องการ หรือจะติดตามฟังบรรยากาศ ในการอบรม เราก็มีเทปคลาสเซส ให้ฟังในราคาม้วนละ ๒๐ บาท หรือจะติดตามฟังจากรายการวิทยุ ก็ลองเปิดวิทยุฟังได้ที่สถานีวิทยุ ตชด.AM 576 KHz ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ในเวลา ๒๑.๐๐-๒๒.๐๐ น. วันเสาร์เวลา ๒๐.๓๐-๒๒.๐๐ น., สถานีวิทยุ ทอ๐๑๒ กำแพงแสน AM 1368 KHz ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ในเวลา ๒๒.๐๐- ๒๓.๐๐ น., สถานีวิทยุ จทล.ลพบุรี AM 1197 KHz ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา ๑๔.๐๐-๑๔.๓๐ น.,สถานีวิทยุ มก.หาดใหญ่ AM 1269 KHz ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา ๐๖.๐๐-๐๖.๓๐ น. ในรายการเพื่อนช่วยเพื่อน.

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]

สัมภาษณ์ สมณะเดินดิน ติกขวีโร

การอบรมหลักสูตร "สร้างผู้นำกสิกร" ครั้งที่ ๑ ซึ่งบ้านราชฯเป็นต้นแบบมีผลดีผลเสียอย่างไร พัฒนาการตลาดอาริยะปีใหม่'๔๗ มีอะไรบ้าง และรับพรปีใหม่ ๒๕๔๗ จากสมณะเดินดิน ติกขวีโร

** ทางบ้านราชฯเพิ่งจัดการอบรมหลักสูตรสร้างผู้นำเป็นครั้งแรก ไม่ทราบว่ามีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างคะ

ข้อดีในการอบรมหลักสูตรสร้างผู้นำหรือหลักสูตรต่อยอดในครั้งนี้ก็คือ

๑. ได้นำเกษตรกรมาตอกย้ำ ทำความชัดเจน มั่นใจในเส้นทางของสัจธรรมชีวิตมากยิ่งขึ้น ผู้เข้ารับการอบรมเขาจะอุทานกันว่าเราจะต้องกลับไปเป็นคนจนพันธุ์ใหม่ เป็นคนจนที่ไม่หลงบูชาเงิน แต่เป็นคนจนที่มีน้ำใจ มีความขยัน มีจิตใจที่สันโดษ มีความร่ำรวยทางจิตใจ ก็จะสามารถกลับไปสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับแผ่นดินได้ ก็เหมือนกับการเอาเพชรมาเจียระไน ให้เขาเห็นความชัดเจนในเส้นทางชีวิตอย่างคมชัดลึกยิ่งขึ้น

๒. เป็นเหตุปัจจัยทำให้ศูนย์อบรมของเรา ต้องเร่งรัดพัฒนาการให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะเราตระหนักว่าการกลับมาครั้งที่ ๒ ของเกษตรกร จะต้องมีอะไรที่แปลกใหม่ให้เขาสัมผัสได้ วันแรกก็พาไปดูสวนที่เพิ่งทำกันมาได้ ๑ ปี ๘ เดือน ซึ่งตอนที่เขามาอบรมแรกๆก็ไม่เห็นมีอะไร แต่กลับมาครั้งนี้ได้เห็นมะละกออยู่หลายร้อยต้นเต็มไปหมด เห็นกล้วยซึ่งกินไม่รู้ว่ากี่รุ่นแล้ว เห็นต้นพืชผักผลไม้ในอนาคตที่กำลังเติบโตสูงท่วมหัว เกษตรกรเขาจะพอมองภาพออกว่า เขาจะกลับไปพัฒนาที่ดินของเขาอย่างไร

ส่วนวันที่สอง พาไปดูตลาดพืชผักผลไม้ไร้สารพิษที่อุทยานบุญนิยม ให้เขาได้ไปคุยกับแม่ค้าพ่อค้าซึ่งเป็นเกษตรกรอย่างเดียวกับเขา แล้วก็ผ่านการอบรมสัจธรรมชีวิตมาเหมือนกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เราก็นำเสนอให้รู้ว่าคนมาซื้อที่นี่เขามีความคิดอ่านอย่างไร คนขายมีความคิดอ่านอย่างไร สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจ ทำให้เกษตรกรที่มาต่อ ยอดอยากจะกลับไปปลูกพืชผักไร้สารพิษ เพราะว่ามีทิศทางมีอนาคตที่ชัดเจนถ้าเขาสามารถทำได้ รู้สึกว่าเขาเกิดกำลังใจที่ได้มาเห็นรูปธรรมที่เรานำเสนอ ซึ่งหลักสูตรการ ต่อยอดพยายามเน้นเรื่องลงภาคสนาม มากกว่าที่จะให้เขามานั่งฟังความคิดหรือทฤษฎี เหมือนอย่างรุ่นแรกที่ผ่านๆมา

๓. ได้เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างแม่ข่ายกับลูกข่าย ระหว่างพี่เลี้ยงกับน้องเลี้ยง ได้เอาปัญหาที่แต่ละหมู่บ้านมาเสนอกัน มาแก้ปัญหาร่วมกัน เอาประสบการณ์ของแต่ละคนมาแลกเปลี่ยนกัน เป็นตลาดวิชา บางรายไปปลูกเผือกมาได้ผลผลิตดีกว่าปลูกข้าว ก็เล่าสู่กันฟัง บางรายมีวิธีปลูกผักกระเฉดแบบให้ยอดอวบอ้วนน่ารับประทาน โดยการเอาไปมุดน้ำ ก็เล่าสู่กันฟัง ใครปลูกข้าวได้ผลผลิตดีก็เอามาเล่าสู่กันฟัง ได้ร่วมรับรู้ปัญหา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ก่อให้เกิดความสัมพันธ์กันที่แนบแน่นยิ่งขึ้น จนหลายๆคน ตั้งใจว่าจะต้องกลับมาช่วยเตรียมงาน ปีใหม่ที่ศูนย์แม่ข่าย

ปีนี้ทางโรงสีบ้านราชฯกลัวว่าจะไม่มีข้าวมาสี เพราะถูกทางตลาดเมืองนอกบุกเข้ามาตั้งราคาสูงให้กับเกษตรกร เพราะเขาก็ต้องการข้าวไร้สารพิษเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริงๆเกษตรกรกลับนำข้าวไร้สารพิษที่เขาปลูกเก็บเอาไว้ให้กับโรงสีทางบ้านราชฯโดยเฉพาะ โดยไม่ได้เห็นแก่เงินเป็นใหญ่ เป็นความสัมพันธ์ผูกพันที่มีต่อกัน เป็นวิญญาณสัมพันธ์ที่พี่เลี้ยงกับน้องเลี้ยงมีต่อกัน

ส่วนข้อเสียก็คือ
๑. พวกเราเปิดทางอนุโลมให้ผู้นำที่ไม่เคยผ่านการอบรมสามารถมาร่วมอบรมได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆผู้นำเหล่านั้นกลับให้เมียตัวเองมาบ้าง ให้เพื่อนบ้านมาแทนบ้าง กลายเป็นว่ามีคนใหม่ๆมาถึงสิบกว่าคน ทำให้เกิดปัญหาช่องว่างขึ้นมา ทางที่ดีควรเน้นเฉพาะผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นหลัก เพราะมิฉะนั้นจะเกิดปัญหาคนรู้เรื่องกับคนไม่รู้เรื่องมาอบรมพร้อมๆกัน

๒. มีเกษตรกรมาอบรมประมาณ ๗๐ คน เป็นระดับผู้นำชุมชน ๔๘ คน ที่เป็นเช่นนี้เพราะเราให้เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.คัดคนมาให้ประมาณร้อยเศษ มาจริงก็เหลือเพียง ๖๐ กว่าๆ ฉะนั้นถ้าจะให้ยอดถึงร้อย ต้องให้ ธ.ก.ส.ตั้งเป้าไว้ประมาณ ๑๕๐ เอาเข้าจริงๆยอดก็จะตกมาเหลือร้อยพอดี และเพื่อให้เกิดผลต่อการเปลี่ยนแปลงในชุมชน ถ้าหมู่บ้านไหนอยากมากันมากๆ ก็ให้มาได้เลย เพราะรุ่นนี้ทาง ธ.ก.ส.คัดมาแบบเฉลี่ยหมู่บ้านละ ๓-๕ คน ทางที่ดีถ้ามีคนที่เคยอบรมแล้วอยากจะมา ๓๐- ๔๐ คน ก็ให้มากันทั้งหมดเลย เพราะจะได้กลับไปเปลี่ยนแปลงอย่างมีพลัง


** การเตรียมงานปีใหม่ปีนี้มีความพร้อมแค่ไหนคะ

ปีนี้ค่อนข้างมีความพร้อมกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา มีการเตรียมงานกันอย่างเป็นระเบียบระบบ โดยเฉพาะเป็นระบบสาธารณโภคีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น การจัดซื้อที่ต่างคนต่างไปซื้อของมา แล้วได้แหล่ง จัดซื้อที่ถูกบ้างแพงบ้างต่างกัน เวลามาขายของ ก็ทำให้เกิดปัญหาที่บางอย่างดูจะไม่ถูกเท่าไหร่ ปีนี้เอาเงินมารวมกัน แล้วให้ทางส่วนกลางที่มีความเชี่ยวชาญไปจัดซื้อ ญาติธรรมที่ต้องการขาดทุนหนึ่งแสนสามารถซื้อของได้เป็นล้าน คนที่ขาดทุนสองแสนสามารถซื้อของมาขายให้ประชาชนขนได้ถึงสองล้านบาท เพราะฉะนั้นประสิทธิภาพที่เราจะสามารถลงทุนเพื่อขาดทุนให้กับประชาชน เราสามารถได้ของที่ดีมีคุณภาพและมีปริมาณที่มากเพียงพอที่จะรับมือ กับชาวบ้านได้

นอกจากนี้ตลาดอาหาร ก็จัดทำเป็นระบบสาธารณโภคีด้วย ร้านอาหารแต่ละแห่งมีวัตถุดิบเป็นของส่วนกลาง เป็นแผนกสโตร์รวมสินค้าอยู่จุดเดียว ไม่ต้องต่างคนไปจัดซื้อจัดหามา จะมีศูนย์รวมสิ่งของอยู่จุดเดียว เวลาขายก็ให้อาหารชนิดเดียวกันอยู่ที่เดียวกัน แผนกก๋วยเตี๋ยว ๓ ร้าน ๔ ร้าน ๕ ร้าน ก็อยู่จุดเดียวกันเลย แผนกส้มตำมี ๘ ร้าน ๙ ร้าน ก็อยู่แผนกส้มตำ แผนกข้าวราดแกงก็อยู่ข้าวราดแกง ๖ ร้าน ๗ ร้าน ก็เป็นแผนกข้าวราดแกงเลย ไม่ต้องเดินไปเดินมาให้ฝุ่นฟุ้งตลบ สามารถเลือกได้ตรงจุดใดจุดหนึ่งตามความต้องการ ส่วนคนขายก๋วยเตี๋ยวก็ขายก๋วยเตี๋ยวไปเลย กำลังข้างหลังจะมีคนคอยจัดเครื่องจัดอะไรให้จุดเดียว แต่ให้บริการ ๔-๕ ร้าน สิ่งเหล่านี้ก็เป็นพัฒนาการของพวกเรา ที่จิตวิญญาณสามารถหล่อหลอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ระเบียบ ระบบความเป็นสาธาณโภคี ความร่วมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็มีมากขึ้น การตระเตรียมงานก็ทำเป็นระบบมากขึ้น เด็กที่มาช่วยเตรียมงานก็ไม่ได้มาทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ให้เป็นหลักสูตรว่าด้วยวิชาการตลาดอาริยะ มีองค์ความรู้ให้เด็กได้ศึกษาเรียนรู้ในการสร้างตลาดอาริยะ มีระบบมีระเบียบ มีหลักเกณฑ์ การจัดงานอย่างไร ทำเป็นหลักวิชาการขึ้นมา แล้วถ่ายทอดให้เด็กของเราเรียนรู้ไปด้วยในตัว

ซึ่งตลาดอาริยะเป็นบุญญาวุธหมายเลข ๒ ที่ประกาศความเป็นบุญนิยมให้สังคมได้รับรู้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น พ่อท่านเองก็ถือว่า งานปีใหม่ หรืองานตลาดอาริยะเป็นเสมือนงานสอบไล่ใหญ่ และงานทำบุญใหญ่ของชาวอโศก เพราะเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวอโศกทีเดียว ซึ่งทุกคนก็ควรตั้งใจไว้ว่าเราจะมาสอบไล่ สอบไล่อะไร? คือการที่เราตั้งใจจะมาให้นั่นเอง ถ้าใครออกจากบ้านคิดที่จะมาเอาก่อน คนนั้นก็ถือว่าสอบตกตั้งแต่อยู่ในบ้านแล้ว เพราะว่างานนี้ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจ ร่วมแรงร่วมกายของญาติธรรมอย่างมากทีเดียว จึงจะสามารถทำให้งานตลาดอาริยะเกิดความสมบูรณ์ได้

เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องตั้งใจที่จะมาให้ มาเสียสละร่วมกัน แม้ในการให้การเสียสละก็ยังมีขั้นตอนอีกว่า การให้ของเราเป็นการให้ที่เป็นโลกียะ หรือเป็นการให้ที่เป็นโลกุตระ ซึ่งพ่อท่านเคยย้ำว่า คนที่ไม่ได้ศึกษาธรรมะจะ ไม่สามารถทำบุญให้ถึงการให้ที่เป็นบุญกุศลโลกุตระได้ เวลาเขาให้ออกไปก็อดไม่ได้ที่จะเอาผลตอบแทนกลับคืนมา มีการทวงบุญทวงคุณ แม้แต่ลึกๆรู้สึกว่าฉันให้ไปเขาจะได้นับถือศรัทธาเราก็ยังดี ส่งเหล่านี้มันก็ยังเป็นโลกียะที่ยังไม่สมบูรณ์ เราต้องมาศึกษาการให้ที่ให้แบบได้ลดละกิเลสในตัวของเราด้วย บางครั้งญาติธรรมของเราบางคนอาจจะตั้งใจมาเสียสละเต็มที่เลย แต่พอมาถูกกรรมการฝ่ายตรวจสอบตลาดพูดจาไม่ดี บางคนรู้สึกเสียใจ อยากจะเลิกขายไปเลย แต่ถ้าเราตั้งสติให้ดีๆ พยายามที่จะอ่านจิตใจของเราที่เป็นความเสียใจ น้อยเนื้อต่ำใจ ให้เห็นว่ายังเป็นความถือตัวถือตนของเรา เราได้ละล้างตัวน้อยใจ ละล้างตัวเสียใจนี้ออกไปได้ อันนี้เราก็ได้กุศลที่เป็นโลกุตระขึ้นมา หรือบางคนได้รับมอบอำนาจจากส่วนกลางไปแล้ว รู้สึกเกิดอหังการ มมังการ เกิดยกหูชูหางกางเงี่ยง อาละวาดฟาดฟันคนอื่นไปหมด อันนี้ทำงานไปเราก็เป็นเพียงได้แค่กุศลโลกียะ ถ้าจะให้ได้ถึงกุศลโลุกตระ เราก็ต้องพยายามลดความ อหังการมมังการลง มีความอ่อนน้อมถ่อมตน อ่านจิตของเราที่มีความถือดี ที่จะไปฟาดฟันคนอื่น พยายามอ่านจิตตัวนี้ให้ได้ ก็จะเป็นการสอบไล่ใหญ่ของเราว่า เราได้ให้ ให้จนไม่เอากลับคืนมา แม้แต่เพื่อให้สมใจตัวเราเอง เพื่อให้สะใจตัวเราเอง เพื่อได้สมอัตตาของเรา ก็เป็นการให้ที่สมบูรณ์ที่สุด สิ่งนี้ถือ่าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นวิชาสำคัญของชาวอโศกที่เราจะได้มาร่วมกันสอบไล่ หรือทำบุญครั้งใหญ่ในงานปีใหม่


** อยากให้ท่านฝากข้อคิดในวาระส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้กับญาติธรรมของเราด้วยค่ะ

อยากจะให้พวกเราได้ชัดเจนในเรื่องสัจจะแห่งกรรม ซึ่งพ่อท่านได้ย้ำกับพวกเราตลอดมา คนที่ไม่เข้าใจในสัจจะแห่งกรรม ก็จะพากันยึดสมบัติบ้าทั้งหลายทั้งปวงเอามาเป็นของตน แม้เขาจะเชื่อว่าตายแล้วเอาไป ไม่ได้ แต่กิเลสก็มีจริง มันจะบงการให้ตั้งหน้าสะสมสมบัติบ้าเหล่านั้น เพราะเขายังไม่เชื่อจริง ยังไม่ลึกพอที่จะมองเห็นชัดๆว่า ทุจริต สุจริต เป็นทรัพย์ติดตัวไปมากกว่าสมบัติบ้าเหล่านั้น

ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ต่างพากันวิ่งไปสู่เส้นทางสายบาปมากกว่าเส้นทางสายบุญ ยินดีพอใจที่ได้เปรียบมากกว่าเสียเปรียบ ยินดีพอใจที่ได้ทำงานเบาสบายมากกว่าได้ทำงานหนัก ได้เสียสละ คนชั้นสูงก็อยากจะได้ทำงานเบา คนชั้นกลางต้องทำงานหนักกว่า แต่ก็อยากจะได้ทำงานที่เบา ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะเลือกทางสายนี้แหละ ทำงานสายเบา สายที่ได้เปรียบ ซึ่งแม้แต่ในสังคมของพวกเราเองก็มีสองฝ่ายเห็นได้ชัด พวกที่ทำงานหนักสาหัสสากรรจ์ก็จะรับงานเละ แทบจะเละตุ้มเปะเต็มไปหมด ส่วนผู้ที่เบาตัวเบาสบายไม่ต้องรับผิดชอบอะไร อยู่สบายๆไปวันๆหนึ่ง พวกนี้จะเลือกทางสายเบา เหมือนไม่ต้องมีภาระอะไร จริงๆแล้วก็ยังอยู่ในเส้นทางสายบาปอยู่นั่นเอง

พ่อท่านเคยกำชับกำชาเอาไว้ว่า หนี้บาปมันไม่หมดสิ้นง่ายๆ ถ้าเราไปเอารัดเอาเปรียบใครๆ เราต้องชดใช้ ไม่มีวันได้ฟรีๆ ยิ่งมาเอารัดเอาเปรียบในสังคมของคนดีๆด้วยกันแล้ว บาปก็ยิ่งหนักหนาสาหัสสากรรจ์มากมาย หลายเท่าตัว ท่านตอกย้ำให้พวกเราได้เห็นได้ระมัดระวังว่า หนี้บาปจงอย่าไปทำเลยแม้นิดแม้น้อย มันพาให้เราทุกข์ร้อนไปอีกหลายต่อหลายชาติ จนกว่าจะปรินิพพาน

ดังนั้นอยากจะฝากเป็นข้อคิดให้ญาติธรรม ว่า ทุกวันนี้เรากำลังเดินอยู่บนเส้นทางสายไหน สายบุญหรือสายบาป สายหนักหรือสายเบา สายเอาภาระรับผิดชอบ หรือสายไม่เอาภาระ รับผิดชอบ หนี้บาปจงอย่าได้ไปทำเลยแม้เล็กแม้น้อย เพราะจะติดตัวเราไปให้ได้ทุกข์ร้อนไปอีกนานนับกัปป์กัลป์ทีเดียว

หนึ่งปีที่กำลังจะหมดไปได้สะสมอะไร ให้กับจิตวิญญาณบ้าง อนุโมทนากับผู้ที่ทำดีมาตลอดทั้งปี ส่วนใครที่มัวแต่ยึดสมบัติบ้า เอารัดเอาเปรียบในสังคมของคนดีๆด้วยกัน ก็รีบกลับตัวกลับใจเสียใหม่ แล้วพบกับชีวิตใหม่ในงานตลาดอาริยะปีใหม่'๔๗ ที่บ้านราชฯนะคะ

.- ทีมข่าวพิเศษ -

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


พตท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร
รณรงค์งดเหล้าเบียร์ฉลองปีใหม่
สัมมาสิกขาสันติอโศกร่วมงานที่ทำเนียบฯ

ออกรายการนายกฯคุยกับประชาชน
สธ.เสนอเครื่องดื่มทางเลือกใหม่

จากการที่นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุขได้ชิมเครื่องดื่มที่ปราศจากแอลกอฮอล์ในงานประกวด "เครื่องดื่มทางเลือกใหม่ Alternative Drinks" ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อ ๖ ธ.ค. ที่ผ่านมา มีดำริว่า น่าจะนำไปจัดเลี้ยง คณะรัฐมนตรีในวันที่ ๑๖ ธ.ค.๔๖ ซึ่งทาง พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสนับสนุน การรณรงค์งดเหล้าเบียร์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยพูดออกรายการวิทยุฯนายกฯคุยกับประชาชน และเดินชมซุ้มสาธิตของนักศึกษา จากสถาบัน อุดมศึกษา ๕ แห่งคือ ม.เกษตร, จุฬาฯ, ม.ธรรมศาสตร์, ราชมงคลฯ เทคนิคกรุงเทพ, ราชมงคลฯกาฬสินธุ์ ที่ชนะการประกวด เครื่องดื่มที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ซึ่งนำมาจัดเลี้ยงแก่คณะรัฐมนตรี หลังจากนั้นได้เดินทักทาย นักเรียนสัมมาสิกขา สันติอโศกที่ยืนแจก บัตรอวยพรปีใหม่ ๒๕๔๗ และถือป้ายรณรงค์งดเหล้าเบียร์ฉลองปีใหม่พร้อม กับให้นักเรียนฯจับมือ

สถาบันวิจัยสังคมประเมินงดเหล้าฯ ว่า ประชาชนเห็นด้วย เทศกาลปีใหม่ มีปัญหาอุบัติเหตุจราจร ความรุนแรงในครอบครัว เพิ่มมากที่สุด ประหยัดเงินเป็นหมื่นล้าน ต่างประเทศชื่นชมที่รัฐบาลไทยกล้าออกมติควบคุมการโฆษณาเหล้า

คบอช. (คณะกรรมการควบคุมการ บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ) ร่วมกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้า รณรงค์งดเหล้าปีใหม่ อวยพรด้วยสิ่งไม่เป็นอบายมุข ซึ่งทำให้อายุสั้น มีเป้าหมายดังนี้

๑. ชักชวนรณรงค์ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวันปีใหม่

๒. ชักชวนอย่าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นของขวัญปีใหม่

๓. ชี้ให้เห็นว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเครื่องดื่มอายุสั้น

การรณรงค์จะมีเทปออกทางวิทยุกระจายเสียง, โปสเตอร์ตามถนน โรงงานอุตสาหกรรม, ชมรมพุทธฯชวน น.ศ.๔๐ สถาบันงดดื่ม, สถาบันราชภัฏ๔๐ แห่ง ชวนชุมชนงดดื่ม, ศูนย์พัฒนาคุณธรรม (พระอาจารย์วีรพันธ์) รณรงค์ผู้ขับไม่ดื่ม, ส.ค.ส.แปลกและดี สีส้ม+ เขียว เป็นสีประจำของเรา แจกให้องค์กร เครือข่ายเพื่อไปส่งต่อให้ ใครต้องการแจ้งขอที่มูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน

ให้องค์กรช่วยติดตามระวังการละเมิดการโฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ ป้ายใกล้โรงเรียน แจ้งที่ www. stopdrink.com

สำหรับตัวอย่างกิจกรรมที่เครือข่ายองค์กรฯร่วมกันรณรงค์เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีดังนี้

ห้างทวีกิจ ๕๑ สาขา ยอดขายเหล้าเบียร์บุหรี่รวม ๗ แสนต่อเดือน พอมีธรรมะมากขึ้น ทวีกิจจึงไม่ขายเหล้า-เบียร์-บุหรี่ เพราะเราห่วงใยคุณและ ทุกคนในครอบครัว จัดทำคัตเอ๊าต์ใหญ่ที่สระบุรี "ส่งความสุขปีใหม่ไม่มีสุราเมรัยเพราะเราห่วงใยคุณ" เลิกขายแล้วมีความสุข รายได้ไม่ลด มีผู้สนับสนุนและเป็นกำลังใ
สภาอุตสาหกรรม ปีที่ผ่านมามีผู้เขียนใบปวารณาตัวแสนกว่าคน ปีต่อไป จะให้ข้อมูล ความรู้ รณรงค์อย่างต่อเนื่อง ขยายการให้รางวัลพนักงาน

มูลนิธิธรรมกาย จัดรณรงค์ "รวมพลคนเทเหล้าเผาบุหรี่" ปชส. ป้าย โปสเตอร์ ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค พระภิกษุสงฆ์

๒๙ พ.ค.-๓๐พ.ย.๔๖ รวม ๑๓๙ ครั้ง แบ่งเป็น ตจว. ๖๔ ครั้ง กทม. ๔๖ ครั้ง ตปท. ๒๙ ครั้ง

"พอกันที เลิกกันที ชาตินี้" มีกิจกรรมทำให้เกิดกำลังใจ เมืองไทยจะได้ปลอดจากอบายมุข คนที่กำลังเลิกจะขาดกำลังใจ พอมาได้ปฏิบัติธรรมจิตใจ จะเข้มแข็งขึ้น.

"การถวายบุหรี่แก่พระภิกษุสงฆ์ เป็นบาป"

(สรุปการประชุมสมัชชาเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ครั้งที่๒ ที่โรงแรมมิราเคล แกรนด์ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ๑๓ ธ.ค.๔๖ และการจัดเลี้ยงคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ๑๖ ธ.ค.๔๖)

- ฅนเดินทาง -

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


อดมื้อกินมื้อเสริมสุขภาพ

เรื่องนี้เป็นการทดลองของนักวิจัยที่ทดลองกับหนูและหนอน เนื่องจากคงยากที่จะวิจัยกับคน แต่ผลของการวิจัย อาจเทียบเคียงใช้กับคน จะเป็นไปได้หรือไม่ ลองพิจารณาดูนะคะ

นักวิจัยได้ทำการทดลองโดยการแบ่งหนูออกเป็น ๓ กลุ่ม กลุ่มแรกให้กินอาหารตามใจปาก กลุ่ม ที่สองให้กินอาหารที่มีแคลอรี่ลดลงร้อยละ ๔๐ กลุ่มที่สามให้กินอาหาร ตามใจได้ ๑ วัน สลับกับอดอาหารในวันถัดไป ทำอย่างนี้เป็นเวลา ๙ สัปดาห์

พบว่าหนูกลุ่มที่อดวันเว้นวัน มีค่าผลทางห้องปฏิบัติการเหมือนกับหนูกลุ่มที่ลดแคลอรี่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาลในเลือด หรืออินซูลิน (ฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด)

ผลทางห้องปฏิบัติการนี้บ่งชี้ของการมีอายุยืนของหนูที่ให้อดมื้อกินมื้อ และหนูที่ลดแคลอรี่ว่ามีอายุยืนมากกว่าหนูกลุ่มที่ให้กินอาหารตามใจปาก

และยังมีการพบต่อไปอีกว่า กลุ่มที่จำกัดแคลอรี่ เซลล์ประสาททนต่อสารพิษ ได้ดีกว่าหนูที่อดวันเว้นวัน

ผลการวิจัยนี้นักวิจัยสนับสนุนว่า การจำกัดแคลอรี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยป้องกันเซลล์ เพราะการกินอาหาร มากทำให้เกิดการเผาผลาญมาก ผลพวงของการเผาผลาญคือ อนุมูลอิสระซึ่งกัดกร่อนเซลล์ นักวิจัยเหล่านี้ตั้งสมมติฐานว่า การอดอาหาร หรือกินบ้างอดบ้าง จะกระตุ้นให้เซลล์ สร้างกลไกบางอย่างขึ้นมา เพื่อป้องกันตนเอง และกลไกอันนี้อาจนำไปสู่การป้องกันความชรา และโรคแห่งความเสื่อมทั้งหลาย

ค่ะ นี่เป็นการทดลองในหนูที่บ่งบอกว่า การอดมื้อกินมื้อเป็นผลดี ต่อสุขภาพ หรือมีบางท่านได้กล่าวไว้ ว่า กินน้อยตายยาก กินมากตายไว ท่านผู้อ่านลองเทียบเคียงกับคนเอาเองนะคะ คิดเห็นอย่างไรคงแล้วแต่ใจ เลือกปฏิบัติได้ตามอัธยาศัยค่ะ.

- กิ่งธรรม -

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


จัดเวิร์คช็อปที่บ้านราชฯ หลักสูตร "สร้างผู้นำกสิกร"
ลด ละ เลิก อบายมุข มีชีวิตที่พอเพียง

ระหว่างวันที่ ๖-๑๐ ธ.ค.บ้านราชฯ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร "สร้างผู้นำกสิกร" ครั้งที่ ๑ ต่อจากหลักสูตรสัจธรรมชีวิต สำหรับแกนนำเครือข่าย กสิกรรมไร้สารพิษ ณ ศูนย์ฝึกอบรม เครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษราชธานีอโศก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เพื่อเป็นต้นแบบของการอบรม สร้างผู้นำ กสิกรของทุกเครือข่าย มีตัวแทนจาก ๒๐ เครือข่ายมาร่วมสังเกตการณ์ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการอบรม

ครั้งนี้เป็นการให้กำลังใจ ตอกย้ำคุณธรรม เป็นหลัก อาชีพเป็นตัวรอง ทำความชัดเจนในการนำไปใช้ ดำเนินวิถีชีวิต ของกสิกรให้กับผู้ที่เคยผ่านการอบรมหลักสูตรสัจธรรมชีวิต เป็นการสร้างผู้นำที่เน้นการปฏิบัติ เวิร์คช็อป ผู้ที่เข้ารับ การอบรมส่วนมากจะเป็นระดับแกนนำของหมู่บ้าน ๙๐ เปอร์เซ็นต์ผ่านการอบรมหลักสูตรสัจธรรมชีวิต

วันแรก ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จ.อุบลฯ นายสุเทพ ฉลวยศรี กล่าวเปิดงาน สมณะเดินดิน ติกขวีโร ปฐมนิเทศโดยที่ชี้ให้เห็นอันตรายของความร่ำรวยที่ไม่มีความยั้งคิด จะเป็นพิษแก่ตน และชวนให้เลิกเป็นนายทุน มาเป็นนายบุญ จะพบความสุขที่แท้จริงคือรู้จักพอ แล้วเริ่มกิจกรรมฮู้จักมักจี่ ผู้นำกลุ่มเลือกสีผ้าพันคอและเลือกเข้ากลุ่มตามสี พร้อมกับแนะนำตัวเอง หลังจากนั้นเดินทางไปชมสวนไวพลัง สวนต้นแบบบนเนื้อที่ ๑ ไร่ ที่สามารถบริหารจัดการพื้นที่ ปลูกต้นไม้ผสมผสานถึง ๓๒๑ ต้น มีทั้งผลไม้ยืนต้นใหญ่-ผลไม้เล็กยั่งยืน-ผักพื้นเมือง-ผักยืนต้น แล้ว ซักถามปัญหาข้อข้องใจ ในการทำกสิกรรมธรรมชาติภาคค่ำสัมภาษณ์จุดเด่นของผู้นำ และการสร้างกระบวนการกลุ่มจากผู้เข้ารับอบรม มีกสิกรที่ผ่านการอบรมหลักสูตรสัจธรรมชีวิต ขึ้นมาบอกเล่าประสบการณ์การทำงาน และพัฒนาการสู่การเป็นผู้นำของกลุ่ม- ชุมชนของตน ชีวิตสู่ความจนจะพบกับความสุข ชีวิตที่แสวงหาความร่ำรวยจะมอดม้วยมรณา ชีวาหาสุขไม่ ผู้นำต้องทำ เป็นตัวอย่างก่อนด้วยการลด ละ เลิก อบายมุข ปฏิบัติศีล รู้จักชีวิตพอเพียง เพราะผู้นำที่แท้จริงคือผู้รับใช้

วันที่สองหลังทำวัตรเช้า ชมตลาดกสิกรรมไร้สารพิษที่อุทยานบุญนิยม สัมภาษณ์พ่อค้าแม่ขายบุญนิยม ที่นำพืชผักผลไม้ ไร้สารพิษมาจำหน่ายราคาต่ำกว่าท้องตลาด มีวิถีชีวิตอย่างไร ปลูกพืชผักด้วยวิธีใด จึงมีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงตน ได้อย่างมีความสุข ให้เวลาจับจ่ายซื้อสินค้าไร้สารพิษ ฟังอาหารใจจากพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ ที่เน้นย้ำว่ายิ่งขายแพงมาก เท่าใด ยิ่งบาปมากเท่านั้น ขายถูกมากเท่าใดก็ได้บุญแก่ตนมากเท่านั้น รับประทานอาหารร่วมกันแล้วเดินทางกลับ

ภาคค่ำรายการ เคล็ดลับที่ต้องเปิดเผย เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์หลังการอบรมสัจธรรมชีวิต มีเคล็ดลับอย่างไร ในการทำกสิกรรมไร้สารพิษที่ได้ผลผลิต สำหรับเคล็ดลับที่ไม่ลับนั่นก็คือตัวของกสิกร ต้องลดละเลิกอบายมุข และฝึก ปฏิบัติศีล จะทำให้ประสบความสำเร็จในการทำกสิกรรม ไร้สารพิษอย่างแน่นอน

วันที่สาม พ่อท่านโพธิรักษ์ ทำวัตรเช้า ด้วยเสียงในฟิล์มภาษาอีสานบ้านเฮา หลักในการปฏิบัติตนด้วยมรรคมีองค์ ๘ อ่านกิเลสให้ชัด แล้วละเลิกออกมาให้ได้ จึงจะพบกับความสุข แล้วพบกับการต่อยอด กสิกรรมของการปรับปรุงบำรุงดิน โดย อ.ข้าดิน ศรีเชียงสา ในแปลงกสิกรรมและการนำจุลินทรีย์ต่อเข้ากับระบบปั๊มน้ำ ด้วยอัตราส่วน จุลินทรีย์ ๑ ส่วนต่อน้ำ ๑ พันลิตร รดแปลงพืชผักอย่างประโยชน์สูง-ประหยัดสุด สะดวกสบายไม่ยุ่งยากในการผสม ปั๊มน้ำครั้งเดียวก็เสร็จเรียบร้อย สาธิตกันไปในแปลงผักเช่นเดียวกัน โดยนิสิตหนึ่งผา นาวาบุญนิยม ภาคบ่ายสาธิตเศรษฐกิจพึ่งตน ๓ ฐานอาชีพ ที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ทันที การทำยาหม่อง-แชมพู- น้ำเสาวรส และวิธีปลูกผักกระเฉดน้ำ

หลังจากนั้นสร้างสุขภาพของผู้นำที่บ้านสุขภาพ ใช้บริการอบ ประคบ กดจุด ตีด้วยไม้ ย่าง พร้อมคำอธิบาย เป็นวิธีการง่ายๆ ได้ผลดี สามารถนำกลับไปบริการให้กับตนเอง ครอบครัว หรือชุมชนได้ แล้วดื่มน้ำสมุนไพรภูมิปัญญาไทย ที่ไม่ต้องพึ่งยา จากต่างชาติ ที่มีแต่ผลข้างเคียง ผู้นำต้องมีสุขภาพดี

ภาคค่ำเพิ่มอาหารใจ สร้างสัมมาทิฏฐิให้กับตนเอง พูดคุยซักถามข้อสงสัยจากสมณะ-สิกขมาตุ

วันที่สี่หลังทำวัตรเช้า เรียนรู้เรื่องระบบน้ำฝอยที่เดินไปบนต้นไม้กับคุณแก่งธรรม สยะรักษ์ แบ่งกลุ่มบำเพ็ญประโยชน์ เตรียมแปลงผัก-ปลูกมันริมมูล-กรอกถุงเพาะต้นกล้า ภาคบ่ายต่อยอดฐานงานอาชีพ แล้วสร้างสุขภาพผู้นำ และสาธิตอาหาร ภาคค่ำม่วนซื่นโฮแซว

วันสุดท้าย หลังทำวัตรเช้า สัมมนากลุ่ม การสร้างศูนย์การเรียนรู้ ล่องนาวาบุญนิยม ทำบุญใส่บาตร นำเสนอผล การสัมมนากลุ่ม ทานข้าวร่วมกัน เปิดใจและพิธีอำลา

จากโครงการพักชำระหนี้ ๓ ปีของรัฐบาล ทำให้เกิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการพัฒนาศักยภาพ และคุณภาพชีวิต เกษตรกร หลักสูตรสัจธรรมชีวิต โดยการสนับสนุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สถาบันเพื่อพัฒนาเกษตรและชนบท จำเนียร สารนาค(สจส.) และเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษแห่งประเทศไทย(คกร.) โดยเริ่มอบรมรุ่นที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ พ.ค.๔๔ ณ ชุมชนราชธานีอโศก ซึ่งเป็นต้นแบบของการอบรม ของหลักสูตร สัจธรรมชีวิต และในวันที่ ๒๕ พ.ค. ฯพณฯนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และคณะได้ให้เกียรติ มาเยี่ยมเยียน การอบรมที่ศูนย์การอบรมฯราชธานีอโศก จนถึงวันนี้มีเครือข่าย กสิกรรมไร้สารพิษ ๒๐ แห่งได้เปิดอบรม ให้แก่พี่น้องเกษตรกร ทั่วทุกภาคของประเทศไทย มีเกษตรกรที่เขารับการอบรมฯ ได้พบกันมากมายและเริ่มโครงการอบรมหลักสูตรต่อไปคือ หลักสูตร "สร้างผู้นำกสิกร"

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]

 

หน้าปัดชาวหินฟ้า

เจริญธรรม สำนึกดี พบกับ นสพ.ข่าวอโศก ฉบับที่ ๒๒๑ (๒๔๓) ปักษ์หลัง ๑๖-๓๑ ธ.ค.๔๖

พบกับข่าวความเคลื่อนไหวของชาวอโศก ในช่วงท้ายปีเก่า

น่าปลื้ม...แม้จะอยู่ใกล้วัด ช่วยงานวัดที่สันติอโศก ครูใหญ่ที่ปฐมอโศกก็ยังเห็นแววดีที่มีอยู่ จึงขอครูใหญ่ของ สส.สอ. ให้ ศศิธร กับ สุพิณทอง ศิษย์เก่า สส.สอ. ๒ คน ไปช่วยอบรมนักเรียน สส.ฐ. สัก ๒ วัน

พอครูใหญ่ สส.สอ. อนุมัติ พร้อมหารถไปส่งถึงที่ในฐานะครูพิเศษ อบรมนักเรียนชั้น ม.๒ บางส่วนเมื่อวันที่ ๑๒-๑๓ ธ.ค.ที่ผ่านมา

ผลการอบรมน้องๆ ปรากฏว่า ทั้งครูใหญ่และน้องๆ รวมทั้งสมณะที่ปฐมฯ ต่างประทับใจกับครูพิเศษที่ส่งไป

จิ้งหรีดเองพอได้ฟังเรื่องดีๆอย่างนี้แล้ว ก็พลอยประทับใจร่วมไปด้วยนะเนี่ย

นี่ล่าสุดจิ้งหรีดยังได้ข่าวว่า ทาง สส.ส. (สีมาอโศก) ก็จะขอตัวไปอบรมน้องๆด้วยเช่นกัน ใครเป็นครูบาอาจารย์ได้ฟังความก้าวหน้าของลูกศิษย์เช่นนี้แล้ว คงปลื้มใจไม่น้อย จริงมั๊ยฮะ...จี๊ดๆๆๆ

ผิดคาด...หลังงานมหาปวารณา สมณะนวกะ วิเชียร วิชโย ขออาจารย์ไปฝึกเดินจาริก กับรุ่นพี่ที่ไม่ขึ้นรถ (สมณะหม่อน มุทุกันโต) โดยมีท่านแก่นเกล้า สารกโร ร่วมเดินจาริกไปด้วย

ฝ่ายเพื่อนๆสมณะนวกะหลายต่อหลายรูปพอทราบข่าว ก็พากันคาดว่า ท่านวิชโย คงลำบากแน่ๆ โดยเฉพาะเท้า คงยางแตกภายในไม่กี่วัน

แต่เอาเข้าจริง พอท่านวิชโยโทรมาหาอาจารย์ ๑ เมื่อวันที่ ๗ ธ.ค.ขณะนำทำวัตรเย็น ที่ศาลาบรรพชน ภูผาฯรายงานว่า ได้เดินทางมาถึงทักษิณอโศกเรียบร้อยแล้ว จิ้งหรีดได้ยินอาจารย์ ๑ ถามลูกศิษย์ว่า "เท้าเป็นยังไงบ้าง" ก็ได้ยินท่านวิชโย ตอบมาว่า "ไม่เป็นอะไรมาก แค่บวมนิดหน่อย" พอเพื่อนๆสมณะได้ยินเข้า ก็พากันแสดงความชื่นชม บ้างก็แซวว่า ท่านมุทุกันโตคงพบทายาทแล้วกระมัง

เมื่อท่านวิชโย ได้เรียนถามอาจารย์ ๑ ต่อว่า ท่านมุทุกันโตจะเดินทางต่อไป จ.นราธิวาส อาจารย์จะมีนโยบายอย่างไร (เพราะท่านวิชโยลาประชุมวันเปิดเรียนสมณะนวกะ เมื่อวันที่ ๔ ธ.ค.ที่ผ่านมา) ท่านอาจารย์ก็ถามลูกศิษย์ว่า "จะเดินต่อไหม" ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า "จะขอเดินต่อ ถ้าอาจารย์อนุญาต"

สรุปว่า ท่านอาจารย์ก็อนุญาตจริงๆ พร้อมแนะนำว่า "ช่วงนี้มีโอกาส ก็ฝึกเดินให้เต็มที่ เพราะไปกับอาจารย์ใหญ่ในด้านการเดินอยู่แล้ว" สาธุ...จี๊ดๆๆๆ

ยกทัพ...วันที่ ๘ ธ.ค. สมณะ ๑๐ รูปจากภูผาฯ ได้เดินทางไปบ้านราชฯ เพื่อช่วยงานปีใหม่ของชาวอโศกที่จะมาถึงในปลายเดือนนี้ ตามหน้าที่ของสมณะที่บวชใหม่ ด้วยสโลแกน "สมณะเด่น เน้นธรรมวินัย ร่วมใจขวนขวาย" สาธุ...จี๊ดๆๆๆ

สู่บุญนิยม...บจ.แด่ชีวิต มีการขายสินค้าเท่าทุนทุกวันพระ ลูกค้าสนใจวันพระมากขึ้น ตอนนี้ ชมร.ช.ม. เริ่มมีการขายสินค้าเท่าทุนทุกวันพระอีกแห่ง เริ่มเมื่อวันอังคารที่ ๑๖ ธ.ค. นี้เป็นครั้งแรก ลูกค้าสงสัยว่าเหตุใดจึงขายเท่าทุน พอโยมใบจริงบอกว่า จะขายเช่นนี้ทุกวันพระ ลูกค้าก็อุทานด้วยความเข้าใจ และก็ได้รู้ว่า วันนี้เป็นวันพระ โดยไม่ต้องดูหัวพระเป็นปฏิทิน แต่ถ้าเห็น ชมร.ช.ม. ขายเท่าทุนเมื่อไร เมื่อนั้นแหละตรงกับวันพระ เพิ่งขายไปวันแรกก็ได้ข่าวว่า อยากจะขายทุกวัน เพราะคนขายสนุกกับการขายแบบนี้ นี่ถ้าเกิดขายทุกวันจริงๆ จะไหวเหรอฮะ แค่นี้เขาก็ทึ่งแล้ว และก็พอทน แล้วนะฮะสำหรับบางคน เพราะบางคนมองกำไรที่เงินเป็นหลัก ยังไงๆก็เห็นใจกันนิดๆก็ยังดี เพราะขนาดบางคนเห็นลูกค้าตักอาหารในราคา ๘ บาท จนพูนจาน(มาก) คิด ๘ บาทยังทำใจยาก

ซึ่งก็ต้องขอชื่นชมแม่ใบจริง ซึ่งบอกว่า "ชนะแล้วๆๆๆตัวขี้จิ๊ รู้สึกสบายใจ" จิ้งหรีดเองก็ขอชื่นชมที่ทำได้ดีระดับนี้แล้วนะฮะ...จี๊ดๆๆๆ

พลังบ้านราชฯ...ช่วงหลังน้ำท่วมบ้านราชฯ ก็มีการปลูกพืชผักสีเขียวกันยกใหญ่ ช่วงกลางเดือนธันวาฯ ก็เขียวพรึ่บไปอย่างน่าอัศจรรย์ ก็ขนาดคุรุใบลาน ซึ่งสวมหมวกหลายใบในบ้านราชฯ ทั้งเป็นคุรุ สอนนักเรียน สส.ธ. เป็น ม.วช. เป็นพยาบาล เป็นฝ่ายการเงิน ซึ่งแค่เป็นคุรุก็แทบจะมีเวลาส่วนตัวน้อยอยู่แล้ว แต่ก็ยังสละเวลามาปลูกพืชผักสีเขียวต้อนรับงานตลาดอาริยะปีใหม่อีก และใครปลูกอะไรก็ต้องดูแลรักษารับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองปลูกเอาเอง มิให้เป็นภาระผู้อื่น จะได้ประมาณกำลังตัวเองได้ถูก เพราะการปลูกให้คนอื่นดูแล มันเป็นความเห็นแก่ตัวได้เหมือนกัน ถ้าเป็นแล้วรู้ตนได้ยาก คุรุใบลานจึงต้องดูแลรดน้ำเอาเอง

บ้านราชฯจึงเขียวได้ เพราะชาวบ้านราชฯ มีพลังในการปลูกและรู้รับผิดชอบดูแลในสิ่งตัวเองทำ นี่คือ พลังบ้านราชฯที่น่าเอาอย่าง สาธุ... จี๊ดๆๆๆ

ชมร.ช.ม....เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๔ ธ.ค.ที่ ผ่านมา กลุ่มภูผาฟ้าน้ำ ได้ประชุมกัน ณ ศาลา ซาวปี๋ ที่ประชุมมีมติอนุมัติตามมติของที่ประชุมชมรมมังสวิรัติแห่งประเทศไทย สาขา เชียงใหม่ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ ที่ผ่านมา เพื่อพัฒนา ชมร.ช.ม.สู่บุญนิยมยิ่งๆขึ้นในรูปแบบใหม่ๆ ดังนี้

๑. การขายสินค้าในร้านขายของแห้งของ ชมร.ช.ม.ทุกวันพระ ให้มีการขายสินค้าเท่าทุน (เริ่มวันที่ ๑๖ ธ.ค.๔๖)
๒. ทุกเดือนให้มีการขายอาหารมังสวิรัติในราคาอิ่มละ ๕ บาทเป็นจำนวน ๑ วัน เพราะมีลูกค้าเหมาแจกฟรีอยู่บ่อยๆ ทาง ชมร.ช.ม.จึงเปลี่ยนมาขายแบบอิ่มละ ๕ บาท

จิ้งหรีดฟังแล้วก็ขออนุโมทนากับชาวบุญนิยมด้วยฮะ...จี๊ดๆๆๆ

พึ่งเจ็บ...อาอ๋อย(ต้นกล้า) ดูแลคุณแม่ อายุ ๘๐ กว่าปี ที่จังหวัดพะเยา ช่วงนี้ใครไม่เห็นหน้าเห็นตากันก็อย่าสงสัย เพราะนอกจากจะดูแลคุณแม่แล้ว เธอยังปรุงยาสมุนไพรรักษาคุณแม่จนอาการดีขึ้นด้วยมือเธอเอง สาธุ ได้บุญยกกำลัง ๒ เชียวนะฮะ...จี๊ดๆๆๆ

มรณัสสติ
คุณแม่เช็งเกียว แซ่แต้ (คุณแม่ของ น.ส.วรางคณา) เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๕ ธ.ค.๔๖ ด้วยโรคชรา รวมอายุ ๘๑ ปีก่อน

จากฝากถึงกันด้วยคติธรรมคำสอนของพ่อท่านที่ว่า
ทุกวินาที ทำความยินดีให้มีพลัง
(สารอโศกฉบับ เม.ย.- พ.ค.๔๐)
(จาก หนังสือโศลกธรรม สมณะโพธิรักษ์ หน้า ๑๐๕)

สวัสดีปีใหม่ฮะ

- จิ้งหรีด -

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


ครูฝึกจากมูลนิธิหมอชาวบ้าน สอนโยคะเสริมสุขภาพบุญนิยม
ต่อมไร้ท่อ ๗ ต่อมแข็งแรง

ขึ้นเมื่อวันที่ ๒๗-๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ ที่ปฐมอโศก ทีมสุขภาพบุญนิยมเชิญครูแก้ว และ ครูกวี จากโครงการ เผยแพร่โยคะ เพื่อสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน มาให้ความรู้ ทำความเข้าใจ สาธิตและพาฝึกปฏิบัติจริง ตลอดช่วงเวลา ๒ วัน กับ ๑ คืน โดยมีผู้อบรมกว่า ๔๐ ชีวิต บรรยากาศเป็นการเรียนรู้ร่วมกันเป็นมิตรและได้ประโยชน์ ด้วยว่าโยคะเป็นศาสตร์ ที่เหมาะกับคนทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยและทุกอาชีพ

จากการเรียนรู้ครั้งนี้ทำให้ได้รู้ว่า โยคะไม่ใช่ศาสตร์แห่งการบำบัด และไม่ใช่การบังคับกายให้ต้องทำในท่าที่ยากๆ หรือต้องทำให้ได้เหมือนเกณฑ์ที่ตั้งไว้ แต่การฝึกโยคะเป็นการทำให้กายและจิตนิ่ง สบาย ใช้แรงแต่น้อย มีสติ ผ่อนคลาย และสงบ อาจกล่าวได้ว่าในขณะฝึกอาสนะ (ท่าโยคะ) เรากำลังคืนสมดุลแห่งชีวิตให้กับตัวเราเอง

คุณครูบอกว่าจากการศึกษาผลทางกายพบว่า โยคะมีผลดีต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ อย่างน้อย ๗ ต่อม คือ ต่อมพิทูอิตารี ต่อมไพเนียล ต่อมไธมัส ไทรอยด์ ตับอ่อน ต่อมหมวกไต และต่อมเพศ ให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งต่อมเหล่านี้ จะมีผลต่อการทำงานของอวัยวะสำคัญๆ เช่น กระดูกสันหลัง ระบบไหลเวียนเลือดและต่อมน้ำเหลือง (ภูมิคุ้มกันโรค) ตลอดจนถึงระบบประสาทกล้ามเนื้อสัมพันธ์ (Neuromuscular Coordination) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้ฝึกโยคะต่อเนื่อง ยืนยันว่า ฝึกโยคะแล้วได้ประโยชน์ ทำให้นิสัยที่เคยขี้หงุดหงิด โกรธง่าย หรือเป็นหวัดบ่อยๆ หรือร้อนในมีแผลในปากเป็นประจำ อาการเหล่านี้หายไปจากชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

เมื่อพูดถึงโยคะเรามักคิดถึงท่าแปลกๆ ที่มีชื่อเรียกจำยาก ทำแล้วบาดเจ็บง่าย แต่จากการเรียนรู้ครั้งนี้ พบว่า โยคะมีเทคนิค ที่น่าสนใจ เป็นเรื่องง่ายสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เพราะเป็นการจัดอิริยาบถหรือออกกำลังทางกาย เพื่อเรียนรู้ตนเอง ยอมรับข้อจำกัดและความสามารถของตัวเรา ไม่ได้เน้นท่าสวยงาม แต่เน้นความรู้ตัวของแต่ละคนว่ากำลังทำอะไร อิริยาบถนี้มีผลต่ออวัยวะใด กล้ามเนื้อส่วนไหน การเคลื่อนไหวจะช้า สงบ นิ่งสบาย ใช้แรงแต่น้อย และที่สำคัญมีสติ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถ ขณะเอนกายหรืออิริยาบถอื่นๆขณะทำโยคะอาสนะ

นอกจากนี้ยังมีเรื่อง อ.อากาศ มีการฝึกการหายใจโดยหน้าท้องและโดยทรวงอก โดยธรรมชาติการหายใจเป็นการทำงาน ทางกายที่ถูกควบคุมโดยระบบประสาทกึ่งอัตโนมัติ จากการฝึกปราณยามะ (การหายใจแบบโยคะ) ทำให้ได้รู้ว่า เราสามารถควบคุมลมหายใจ เพื่อกำหนดความสมดุลของการผ่อนคลายและการตื่นตัวของอารมณ์และจิตใจได้ด้วย ทั้งนี้เป้าหมาย สูงสุดของการฝึก ก็เพื่อนำสู่สภาวะความสงบของจิตนั่นเอง

คุณพรเพ็ญ รัศมีวิเชียรทอง ผู้ร่วมฝึกได้แสดงทัศนะว่า

"ได้ฟังการบรรยายและได้ฝึกแล้ว เข้าใจปรัชญาของโยคะคืออะไร เป็นการใช้ท่าอาสนะ และลมหายใจ (ปราณยามะ) เพื่อฝึกให้จิตสงบ

หลังจากกลับมาบ้านได้มาฝึกต่อ มีความรู้สึกว่าถ้าเรามีสติรู้ตัวตามอิริยาบถที่เรากำลังทำโดยยึดหลัก นิ่ง สบาย ออกแรงไม่มาก ใช้สติตามการเคลื่อนไหว และพยายามตรวจดูว่าสบาย หรือเกร็งกล้ามเนื้อมากไป เราก็ลดเลื่อนอิริยาบถ นั้นให้ได้จุดที่นิ่งสบาย ออกแรงไม่มาก จะรู้สึกว่า กล้ามเนื้อที่ทำงานตรงอิริยาบถนั้นได้พลังมาก และรู้สึกว่าทำท่านั้นง่ายมาก เลือดไหลเวียนได้ดี เพราะรู้สึกอุ่นๆไปทั่วตัว หลังจากทำท่าอาสนะไป ๔-๕ ท่า แล้วพักในท่าศพและกำหนดจิตผ่อนคลายไปทั้งตัวสัก ๑๐ นาที จะมีความรู้สึก เบา สบาย

ในแง่การออกกำลังนั้น กล้ามเนื้อที่มีการหดตัวแบบข้อเกร็งอยู่กับที่จะมีกำลัง(พลัง ของตัวกล้ามเนื้อ) มากกว่าการหดตัว แบบข้อเคลื่อนที่ ซึ่งในช่วงที่เราทำอาสนะนั้นทุกท่าจะมีจุดที่นิ่ง เบา สบาย อยู่นานเหมือนกันตามสภาพของแต่ละบุคคล

คิดว่าจะลองศึกษาไปเรื่อยๆ และคงจะพบข้อดีอื่นๆอีกมากกว่านี้"

คุณครูทั้งสองท่านแนะนำให้ผู้เข้าอบรมฝึกโยคะอาสนะทุกวัน ฝึกปราณยามะระหว่างวัน หมั่นเฝ้าดูลมหายใจของตนเอง และฝึกปรับลมหายใจของตนเองให้สมดุลตามบรรยากาศที่แวดล้อมอยู่ขณะนั้นๆ เช่นในภาวะเริ่มเครียด ให้ทำลมหายใจ แบบอุจจัย คือหายใจโดยให้ลมหายใจผ่านการเกร็งกล้ามเนื้อที่คอ ทำให้เกิดเสียงเล็กน้อย จะทำให้จิต จดจ่ออยู่กับกาย และจิตดีขึ้น

สำหรับเรื่องอาหารและการเอาพิษออกนั้น อาหารมังสวิรัติที่ชาวอโศกถือปฏิบัติมาโดยตลอด ก็เป็นผลดีต่อสุขภาพ ระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งมีการรณรงค์ใช้ผักพื้นบ้านและผลไม้ไร้สารพิษ ก็นับเป็นผลดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้นไปอีก การเลือกบริโภค อาหารที่ปลอดภัยนับเป็นการไม่เอาพิษภัยเข้าร่างกายด้วย อีกทั้งมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า โดยศาสตร์แห่งโยคะ เป็นศาสตร์แห่ง การดับ การปรุงแต่งของจิต ดังนั้นการเอาพิษภัยออกก็สามารถทำได้ในหลายๆวิธี ทั้งทางหายใจ ทางเดินอาหารและระบบ ขับถ่าย ซึ่งจะอิงธรรมชาติและพึ่งตนเองเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนที่จำเป็น ต้องเอาพิษภัยออก ในผู้ที่เป็นผู้ป่วยแล้ว ต้องอาศัยความรู้ทางอายุรเวท ซึ่งในส่วนของโยคะจะเป็นเพียงการปรับสมดุลที่ต้องอาศัยเวลา สำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพดีที่จะต้องสร้างและทำเอง

และระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๒ ธันวาคม ที่ผ่านมา บ้านราชฯได้จัดอบรมสุขภาพบุญนิยม ตามโครงการข้างต้นด้วยเช่นกัน มีสมณะ สามเณร สิกขมาตุสนใจเข้ารับการอบรมมากมาย โดยเฉพาะสมณะนวกะ ที่เดินทางมาจากพุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ เพื่อมาช่วยเตรียมงานปีใหม่ที่บ้านราชฯ ได้มาร่วมอบรมด้วย โดยการอบรมจัดที่ชั้น ๔ เฮือนศูนย์สูญ สำหรับครูที่มาให้ความรู้ ด้านโยคะได้ให้สัมภาษณ์ดังนี้


ครูกวี พงษ์ภักดีพงษ์ "เราพบว่ากลุ่มผู้เรียนที่มีพื้นทางพุทธ คุยอะไรกันต่อยอดได้ทันที เห็นเป้าหมายร่วม เกิดฉันทะง่าย จะเกิดวิริยะ คนที่นี่ผมไม่ห่วงอยู่แล้วมีวิริยะสูง เรามาคุยกันตรงนี้ ยิ่งเราเห็นสภาวะแห่งจิตตะการมีจิตจดจ่อ การมีวิมังสา ช่วยให้เราเรียนรู้ศาสตร์นี้อย่างไม่หลงทาง ไม่ตาบอด ในแง่ของการตอบรับดีมาก ในแง่ของการทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ขึ้นกับความมุ่งมั่นของเรา ด้วยจิตใฝ่ ด้วยจิตพิเคราะห์ เพราะผมว่าพุทธศาสนิกชนพูดเรื่องอย่างนี้ พูดเรื่องเดียวกันอยู่แล้ว ผมเห็นสมณะที่ตื่นตัวมาก เข้าเรียนแบบสนใจจริงจัง อนาคตคงเห็นความงอกงามของเป้าหมายได้ดีขึ้น ผมไม่แคร์ว่า ได้มีการฝึกโยคะต่อเนื่องมั้ย หรือพาให้คนเข้าสู่เป้าหมายของจิตได้ดีขึ้น ผมถือว่างานของผมเสร็จแล้ว ส่วนเรื่องสถานที่ดี ลมเย็นทั้งวัน อาหารอร่อยมาก"ครูแก้ว วิทูรย์เฑียร "โครงการนี้มีมา ๓-๔ ปีแล้ว ในเครือข่ายของชาวอโศก มาที่นี่เป็นแห่งที่ ๒ แห่งแรกเราไปที่ปฐมอโศกรู้สึกประทับใจ เพราะเวลาที่เราไปอบรมโยคะที่อื่น เขาจะสนใจกายมากกว่าจิต ซึ่งจริงๆเป้าหมาย คือจิต ก็กลายเป็นว่าพอพูดถึงเรื่องจิตก็จะง่วงนอน สังคมปัจจุบันคนสนใจเรื่องภายนอก ความสวยงาม จริงๆจิตกับกาย ต้องไปพร้อมกัน".

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


งานตลาดอาริยะปีใหม่'๔๗
พุธที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๖ - ศุกร์ที่ ๒ มกราคม ๒๕๔๗

วันพุธ๓๑ ธ.ค.๒๕๔๖
๐๓.๓๐-๐๕.๓๐ น. ธรรมะรับอรุณส่งท้ายปีเก่า
๐๖.๓๐-๐๗.๓๐ น. บิณฑบาต
๐๙.๐๐ น.-๐๙.๑๕ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายจิระศิกดิ์ เกษณียบุตร กล่าวเปิดงาน
๐๙.๑๕-๑๐.๔๕ น. จะบอกให้โลกใบนี้ร้ายกว่าที่เราคิด! โดย ดร.นิติภูมิ นวรัตน์
๑๘.๐๐-๒๐.๓๐ น. รายการแสดงภาคค่ำ

วันพฤหัสบดี ๑ ม.ค ๒๕๔๗
๐๓.๓๐-๐๕.๓๐ น ธรรมะรับอรุณต้อนรับปีใหม่
๐๖.๓๐-๐๗.๓๐ น. บิณฑบาต
๐๙.๐๐-๑๐.๓๐ น. ชาวอโศกเท่าที่เห็นและปรารถนาให้เป็น...โดย คุณโสภณ สุภาพงษ์
๑๘.๐๐-๒๐.๓๐ น. รายการแสดงภาคค่ำ

วันศุกร์ ๒ ม.ค.๒๕๔๗
๐๓.๓๐-๐๕.๓๐ น ธรรมะรับอรุณเพื่อชาวบุญนิยม
๐๖.๓๐-๐๗.๓๐ น. บิณฑบาต
๐๙.๐๐-๑๐.๓๐ น. ชีวิตใหม่ที่หันหลังให้กับทุนนิยม โดย ฝรั่งมักทำนา มาร์ติน วีลเลอร์
๑๘.๐๐-๒๐.๓๐ น. รายการแสดงภาคค่ำ

หมายเหตุ
ตลาดอาริยะจะเปิดขายตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น.
ส่วนร้านอาหาร จะเปิดบริการตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐-๑๗.๐๐ น.

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


ค่าย "สร้างผู้นำ" ครั้งที่ ๒ ณ ชุมชนสันติอโศก

เมื่อวันที่ ๙ ธ.ค.- ๑๓ ธ.ค.๔๖ ชุมชนสันติอโศกได้จัดค่ายอบรมหลักสูตร "สร้างผู้นำ" รุ่นที่ ๒ ซึ่งสนับสนุนโครงการโดย สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

การเข้าค่ายครั้งนี้มีผู้มาร่วมอบรมทั้งสิ้น ๖๔ คน (แต่มีผู้กลับในระหว่างงาน ๒ คน เหลือเพียง ๖๒ คน)

โดยเช้าวันที่ ๙ ธ.ค. ผู้เข้าอบรมทั้งหมดลงทะเบียนและปฐมนิเทศ เสร็จแล้วแบ่งกลุ่มสีพร้อมแนะนำกลุ่มพี่เลี้ยง และร่วมกิจกรรมต่างๆ จนกระทั่งค่ำ

สำหรับกิจกรรมในแต่ละวัน เริ่มต้นด้วยการทำวัตรเช้าโดยสมณะและสิกขมาตุ เสร็จแล้วร่วมกันออกกำลังกาย แบบโยคะ และแอโรบิก กิจกรรม ๕ ส.โดยทำความสะอาดครัว ส้วม ลานวัด และบ้าน ที่ใช้ระหว่างเข้าค่ายครั้งนี้

สำหรับกิจกรรม ในภาคค่ำ มีการพบสมณะประจำกลุ่ม ฝึกกายภาพ สันทนาการ และสวดมนต์ก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อน

ส่วนในวันที่ ๑๓ ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเข้าค่าย หลังกิจกรรมในช่วงเช้าและรับประทานอาหารมังสวิรัติร่วมกันแล้ว ผู้เข้าอบรมและพี่เลี้ยงร่วมกิจกรรมอำลาก่อนจาก โดยทีมพี่เลี้ยงและตัวแทนผู้อบรมกล่าวเปิดใจและจุดเทียนน้อยเพื่อสัญญา เสร็จแล้วสมณะกล่าวปิดการอบรม โดยก่อนเดินทางกลับ ทางชุมชนได้มอบชุดน้ำยาซักล้างเพื่อให้ทดลองใช้ด้วย การอบรมครั้งนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับความรู้สึกของผู้เข้าค่ายครั้งนี้ มีดังนี้

นายพิเชษฐ์ การช่าง อายุ ๓๔ ปี "ขอขอบคุณที่ทุกคนให้ความไว้วางใจ และให้เกียรติเลือกให้เป็นประธานรุ่น
ที่ ๒ นี้ อบรมครั้งนี้ได้รู้จักพึ่งตนเอง ได้ตั้งตนอยู่บนความลำบาก ที่สำคัญคือได้ค้นพบตัวเองในการฟังธรรมและฝึกลดกิเลส

ตอนนี้อยากจะเปลี่ยนอาชีพจากการค้าขายเนื้อสัตว์มาเป็นมังสวิรัติ อยากศึกษาวิถีชีวิตของชาวชุมชน อยากฝึกลดกิเลส กินน้อยใช้น้อย"

นายสุทธิพงษ์ จิตวงศ์นันท์ อายุ ๒๕ ปี พี่เลี้ยงกลุ่ม "ยินดีที่ได้มีส่วนร่วมกับชาวชุมชนในการสร้างผู้นำ งานนี้ทำให้ได้ฝึกลดละอัตตามานะ ฝึกสติ ฯลฯ โดยส่วนตัวแล้วอยากให้ชาวชุมชนสันติอโศกทุกหน่วยงานมาร่วมกิจกรรมให้มากกว่านี้ครับ"

นายสมชาย กาบภิรมย์ อายุ ๒๐ ปี ผู้เข้าอบรม "มาอบรมที่นี่เป็นครั้งที่ ๒ แล้ว ครั้งแรกมาอบรมเยาวชนคนสร้างชาติครับ ตอนนั้นได้สูตรทำขนมกลับไป ทำให้ผมมีรายได้เสริมจากการทำขนมขาย ช่วยครอบครัวได้อีกทาง ทำให้ชีวิตผมดีขึ้น ที่สำคัญทำให้ผมกินมังสวิรัติ

ได้เห็นประโยชน์ของการเข้าอบรม ได้ฝึกลดละกิเลสและปฏิบัติธรรม จึงอยากหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง ให้มากกว่านี้ และอยากมาศึกษาวิถีชีวิตของที่นี้ จึงมาสมัครอบรมอีก มาครั้งนี้ได้เรียนรู้การทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพและน้ำหมักต่างๆ...ฯลฯ"

สำหรับค่ายอบรมหลักสูตร "สร้างผู้นำ" ครั้งที่ ๓ จะจัดในวันที่ ๑๓-๑๗ ม.ค.๔๗ ผู้สนใจ สามารถสมัครได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชุมชนสันติอโศก.

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]


๓ ธ.ค.๔๖ - นักเรียนสัมมาสิกขาราชธานีอโศกและสมุนพระรามไปร่วมงานการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเป็นประธานในพิธี ณ ทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี

๑๑ ธ.ค.๔๖ - ดร.วุฒิชัย นีรนาถวงศ์ ที่ปรึกษา อาวุโสบริษัท บางจาก จำกัดและคณะรวม ๘ คนเป็นตัวแทนพนักงานมาอวยพรปีใหม่ ๒๕๔๗ แด่พลตรีจำลอง ศรีเมือง ณ ชุมชนสันติอโศก

๑๑-๑๒ ธ.ค.๔๖ - ชุมชนราชธานีอโศกเปิดอบรมผสมผสาน "โยคะค่ายสุขภาพ ๗ อ." โดยครูแก้วและครูกวี จากโครงการเผยแพร่โยคะเพื่อสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน

๑๒ ธ.ค.๔๖ - ตัวแทนเครือข่ายชุมชนชาวอโศกไปดูงานสหกรณ์โคนมซอนต้าจอมบึง จำกัดและโรงงานน้ำอ้อยพลาสเจอร์ไรท์ของไร่ไม่จน ที่อำเภอบ้านโป่ง จ.ราชบุรี

๑๓ ธ.ค.๔๖ - ตัวแทนเครือข่ายชุมชนชาวอโศกร่วมประชุมสมัชชาเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ครั้งที่ ๒ เพื่อรณรงค์ช่วงเทศกาลสำคัญให้งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

๑๔-๑๗ ธ.ค.๔๖ - สถาบันฝึกอบรมผู้นำมูลนิธิพลตรีจำลอง ศรีเมือง จ.กาญจนบุรี จัดอบรม "คอร์สมหัศจรรย์" มีครูฝึกมาขอรับการอบรม ๒๔ คน โดยสมณะบินบน ถิรจิตโตและคณะ

๑๔-๒๓ ธ.ค.๔๖ - นักเรียนสัมมาสิกขาชั้นม.๔ ทุกแห่ง ไปร่วมรวมกันเรียนแบบบูรณาการวิถีพุทธเป็นครั้งแรกและช่วยเตรียมงานค่าย ยอส. ที่ราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี

๑๕-๒๐ ธ.ค.๔๖ - มูลนิธิเพื่อนช่วยพื่อนเดินทางไปถ่ายทำรายการ "วิถีธรรม" นำโดยสมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ ที่ประเทศศรีลังกา ติดตามชมรายการทาง ITV วันอังคาร เวลา ๐๕.๓๐ น.

๑๕-๑๘ ธ.ค.๔๖ กลุ่มรามบูชาธรรมอบรม "ค่ายจริยธรรมหนุ่มสาว" ณ วังสวนฟ้า จ.สระแก้ว

๑๖ ธ.ค.๔๖ - นักเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก นักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษา ๕ แห่งและเครือข่าย องค์กรงดเหล้าร่วมกันรณรงค์ "งดเหล้าเบียร์ฉลองปีใหม่" โดยนำเครื่องดื่มทางเลือกใหม่ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ไปจัดเลี้ยงคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล

๒๐-๒๔ ธ.ค.๔๖ - พนักงานบจ.ฟ้าอภัย, สำนักพิมพ์กลั่นแก่น, เครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษ แห่งประเทศไทย, เครือข่ายองค์กรงดเหล้า, บจ.พลังบุญ จำนวน ๓๗ คนไปร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ "ค่ายสุขภาพ๗อ." ที่วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

คำคมคอร์สมหัศจรรย์
"นักปฏิบัติธรรมต้องหมั่นฝึกฝนตน
การป้องกันดีกว่าการรักษา"

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]

ชื่อ นายสุนทร หาสุข
เกิด ๒๐ พ.ย. ๒๔๗๑ อายุ ๗๕ ปี
ภูมิลำเนา ๑๒๖ ม.๘ ต.บึง กิ่งอ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์
การศึกษา ม.๖
สถานภาพ แต่งงานแล้ว บุตร ๖ คน
ส่วนสูง ๑๖๓ ซ.ม.
น้ำหนัก ๕๔ กก.

คุณลุงสุนทร เป็นญาติธรรมกลุ่มสุรินทร์ อโศก หลังจากเกษียณราชการแล้ว ลุงไปอยู่วัดช่วยงาน ทำเกษตร และก่อสร้างต่างๆของชาวอโศกหลายแห่ง

*** ประวัติ
มีพี่น้อง ๗ คน ลุงเป็นพี่คนโต พ่อแม่ทำนา จบ ป.๔ เรียนต่อจนจบชั้นมัธยม ๖ ปวช. สอบเปรียญธรรมได้นักธรรมเอก ที่วัดสระเกศ กทม. สอบเรียน นร.ช่างโยธา หลักสูตร ๓ ปี อยากได้ยศเลยลาสิกขาบท เพื่อเรียนต่อ ๓ ปี ช่างโยธา ควบคุมงานสนาม เกษียณอายุราชการ ตำแหน่งช่างโยธา ๕

*** ประสบการณ์
ไปทำงานอยู่กับพวกคอมมิวนิสต์ที่ภูพาน ทางกรมคัดเลือก สามารถพูดได้ ๕ ภาษา เขมร ส่วย โซ เฌอ ภูไท ลาว เพราะตอนทำงานไปอยู่ทุกจังหวัด ไปควบคุมงาน และเป็นนโยบายของกอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน) ไปอบรมชิงประชาชนออกจากคอมมิวนิสต์เป็นเวลา ๗ ปี ไปพัฒนาแหล่งน้ำ ทำถนน ขุดลอกคลอง แหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอุปโภค-บริโภค

เริ่มทำงานบรรจุครั้งแรกเงินเดือน ๓๐๐ บาท ตอนออกเงินเดือน ๙,๐๐๐ บาท

เคยทำตำหนักพระราชชนนีที่ลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา โครงการชลประทานห้วยเสนงา จ.สุรินทร์

แต่งงานตอนอายุ ๓๐ ปี แม่บ้านอายุ ๒๐ ปี เป็นหลานย่าโม เป็นเพื่อนกับพี่ชาย ไปเป็นที่ปรึกษากองทัพเรือ สร้างเขื่อนภูตาหลวง ที่กม.๑๐ สัตหีบ ๑ ปี เมื่อก่อน อบายมุข กินเหล้า สูบบุหรี่ โดยเฉพาะกินเหล้าเถื่อน เหล้าโรง สุรากลั่น

*** เจออโศก
ปี ๒๕๓๑ เขาลือกันว่า ที่อ.กันทรลักษ์ มีวัดพระคอมมิวนิสต์ เนื่องจากผมเคยผ่านคนที่เป็นคอมมิวนิสต์มาก่อน เขาจึงส่งไปดู เข้าไปเจอแต่กุฏิ เจอพระคอมมิวนิสต์ไม่โกนคิ้ว เจอพระรูปหนึ่ง ผมก็จ้องหน้าท่านว่าเป็นพระคอมมิวนิสต์ หน้าตาเป็นอย่างไร ท่านก็จ้องหน้าผมอยู่นาน สุดท้ายท่านถามผมทำงานอะไร ผมก็บอกท่านไปว่า เคยไปเป็นหัวหน้าชลประทาน ทำงานที่นาเชือก ๔ ปี ท่านก็บอกว่าเคยเป็นช่างไม้อยู่ที่นั่น เลยได้พูดคุยกันเรื่องคอมมิวนิสต์จนเข้าใจ

หลังเกษียณผมได้ไปช่วยงานชาวอโศก หลายแห่ง เช่น ทำสวนซำตาโตงที่ศีรษะฯ ทำนาไร้สารพิษกับท่านนาไท (ตอนนั้นยัง ไม่บวช) ทำกุฏิสิกขมาตุกับท่านสมาหิโต ทำศาลาดอกไม้งามที่ปฐมฯ ทำกุฏิที่สันติฯ

*** ทำนาไร้สารฯ
๑๐ ปีได้มาอยู่ช่วยงานวัดต่างๆของชาวอโศก กลับไปทำนาไร้สารฯที่บ้านสุรินทร์ ถูกชาวบ้านโจมตี เมื่อปี ๒๕๔๐ โดยนำข้าว ปิ่นแก้วไปปลูก ไปซื้อขี้วัว-ควาย ขี้หมู ขี้เป็ด ชาวบ้านกลับยกให้ทั้งหมู่บ้าน มีนา ๒๐ ไร่ บริจาคสาธารณกุศล ๙ ไร่ ทำเกษตร ธรรมชาติ ช่วงต้นไม่ดี เพราะดินยังปรับตัว ปีที่ ๖ ดีมาก ข้าว ๖ ไร่ได้ข้าว ๔๕ กระสอบ มีหนูมาช่วยกิน ส่วนสวนผลไม้ มีทั้งมะม่วง กล้วย มะละกอ ได้กินตลอดทั้งปี ไม่ขาย เอาไปแจก ใครขอก็ให้ และแนะนำให้เอาเมล็ดไปปลูกต่อ ไม่ขาย ทำพออยู่พอกิน

*** ตั้งกลุ่ม
กลุ่มสุรินทร์จะตั้งกลุ่มตอนปีใหม่ ๒๕๔๗ มีที่อยู่ ๑๕ ไร่ และทำชุมชนด้วย โดยลุงรับฝ่ายก่อสร้าง

๑๖ ปีที่เปลี่ยนมาเป็นอาหารมังสวิรัติ ควบคุมกาย วาจา ใจ ปลาในนาในสระมีเยอะ

ตายไม่กลัว กลัวแต่เจ็บ ทรัพย์สมบัติแบ่งให้ลูก เหลือแต่ที่ดิน เป็นห่วงแต่แม่บ้านที่ป่วยเป็นมะเร็งอยู่เท่านั้น

*** ฝาก
ไม่เบียดเบียน ไม่เพ่งโทษ ไม่โกรธง่าย ถ้าเราโกรธคือเราโง่ เราโมโหคือเราบ้า ให้เอาชนะความโกรธด้วยการไม่โกรธ เอาคำสอนมาสอนตัวเอง แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร มาประพฤติตน สิ่งดีคือให้อภัย สิ่งยิ่งใหญ่คือเมตตาธรรม เป็นคติชีวิต

สักกายะคือ อัตตามานะ ถือตัวถือตน เพราะเคยปกครองคน ลดยากเหมือนกัน บางทีก็ขึ้นมา ลดโดยเอาคติมาใช้ทันที ดีขึ้นเยอะ

การปฏิบัติธรรมต้องรู้แล้วลดสักกายะของตัวเองลงได้ จึงจะเข้าสู่ภูมิอาริยะ ปฏิบัติธรรมมาหลายปี หากยังไม่รู้สักกายะของตัวเอง ก็เป็นแค่กัลยาณชนเท่านั้นเอง!

- บุญนำพา รายงาน -

[จบข่าว...กลับไปหัวข้อข่าว]

 

เจ้าของ มูลนิธิธรรมสันติ สำนักงานและพิมพ์ที่ โรงพิมพ์มูลนิธิธรรมสันติ
๖๗/๑ ซ.ประสาทสิน ถ.นวมินทร์ บึงกุ่ม กทม. ๑๐๒๔๐ โทร.๐-๒๓๗๔-๕๒๓๐ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นายประสิทธิ์ พินิจพงษ์
จำนวนพิมพ์ ๒,๐๐๐ ฉบับ

[กลับหน้าสารบัญข่าว]