.

รีไซเกิลขยะเน่าเหม็นให้เป็น "ขยะหอม" ทําเงิน

พูดถึงขยะแล้ว คงไม่มีใครชอบเท่าไหร่นัก เพราะเป็นสิ่งที่สังคมไม่ต้องการหรือออกจะรังเกียจด้วยซ้ำ แต่ในมุมมองของ อ.หนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง จ.ชลบุรี กลับเห็นว่า "ขยะ" เป็นเงินเป็นทองสำหรับเขา

อ.หนึ่งดิน เผยว่า ปัจจุบันขยะที่ถูกทิ้งจากบ้านเรือนประชาชนมีจำนวนมาก แค่ใน กทม.มีถึง 4,000 ตัน/วัน ไปทิ้งที่ไหนก็มีแต่คนรังเกียจ เพราะไม่เพียงก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ยังส่งผล ต่อสุขภาพ ผู้อาศัยอยู่โดยรอบอีกด้วย จากปัญหานี้เอง จึงคิดว่า จะทำยังไง ให้ทุกบ้าน ไม่ทิ้งขยะออกมา ซึ่งถ้าไม่ทิ้ง ก็จะช่วยลดภาระ ให้แก่เทศบาล/กทม.ได้มาก คิดได้ดังนี้ จึงลองนำขยะ เน่าเหม็นเหล่านี้ มาทำให้เป็น "ขยะหอม" ซะ เพราะถ้าขยะหอม และขายเป็นเงินเป็นทองได้แล้ว ก็คงไม่มีใครทิ้งอีกแน่

แล้วเจ้า "ขยะหอม" คืออะไรล่ะ อ.หนึ่งดิน ขยายความให้ฟังว่า ขยะหอมคือวิธีการกำจัดขยะสด หรือขยะเปียก ให้นำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีคุณค่า ด้วยการเพาะเลี้ยง จุลินทรีย์กลุ่มสร้างสรรค์ ในขยะสด ให้เจริญเติบโต เพื่อช่วยในการย่อยสลาย ให้สมบูรณ์ ทำให้ไม่เกิดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่า จึงไม่มีกลิ่นเหม็น ในขยะสดนั้นๆ ซึ่งมีสูตรวิธีทำไม่ยาก

ก่อนอื่นให้เตรียมสิ่งต่อไปนี้ 1. ถังพลาสติก ขนาด 20 ลิตร (ขนาดขึ้นอยู่กับปริมาณขยะ) 2. ขยะสด 3 กก.ใช้ขยะสดได้ทุกชนิดตั้งแต่เศษผัก เปลือกผลไม้ เศษอาหารทุกอย่าง เช่น ข้าว กระดูก เศษเนื้อ ฯลฯ 3. น้ำตาลทรายแดง 1 กก. 4. ถุงปุ๋ยขนาด พอเหมาะ กับถัง เมื่อพร้อมแล้ว ให้เริ่มนำเศษขยะสด (ถ้าชิ้นโต ก็สับให้เล็ก) 3 กก. ผสมกับน้ำตาล ทรายแดง 1 กก. คลุกให้เข้ากัน (ไม่ ต้องเติมน้ำ) แล้วนำใส่ ลงในถุงปุ๋ย ให้ถุงปุ๋ย อยู่ในถังพลาสติกอีกที
ทิ้งไว้ ประมาณ 10 วัน จะได้น้ำจุลินทรีย์ ซึมออกมา ให้เติมน้ำเปล่าลงไปประมาณ 5 เท่า ของปริมาตร น้ำจุลินทรีย์ ที่ได้ ซึ่งน้ำที่ได้คือ น้ำหมักชีวภาพ

ในระหว่างนี้สามารถเติมขยะลงไปได้ทุกวัน จนขยะเต็มถุงปุ๋ยก็ยกออกมาทำเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ โดยคลุกเคล้ากับดินใส่โคนต้นไม้และพืชผักได้ทุกชนิด ส่วนถ้าจะทำปุ๋ยใหม่ก็ให้ใส่ลงไป ในถังขยะหอม ตามเดิม เพื่อใส่ขยะต่อไป เมื่อเต็มก็เปลี่ยนถุงปุ๋ย ทำเช่นนี้ไปจนน้ำหมด ก็เริ่มต้น ทำใหม่ หรือถ้าไม่อยากเริ่มต้นก็ให้เติมน้ำตาลทรายแดงลงไป 1 กก. แล้วเติมน้ำลงไป 5 ลิตร เท่านี้ก็สามารถ นำน้ำจุลินทรีย์ที่ได้ ไปทำเป็นน้ำยาดับกลิ่นเหม็น ในห้องส้วม กองขยะ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ร่องน้ำเน่าเหม็น แถมยังควบคุมยุงได้ด้วย ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังใช้แทนปุ๋ยเคมีเพื่อการเกษตรได้ด้วย โดยผสมน้ำหมัก อัตรา 1 ส่วนต่อ 500 ส่วน ใส่ในนาข้าว สวนผลไม้ สวนผัก หรือลดไม้ดอกไม้ประดับในบ้านก็ได้ ไม่ต้องไปซื้อหา น้ำหมักชีวภาพ ให้เปลืองกะตังค์ หรือถ้ามีเวลาอาจทำขายเป็นรายได้เสริม ให้แก่ครอบครัวอีกทาง ก็ไม่เลว ทีนี้ขยะที่ว่าเหม็น ก็เห็นจะกลายเป็น ขยะหอมได้ในฉับพลัน ถึงเวลาแล้ว!!! ที่ทุกคน ควรจะต้อง มาร่วมด้วยช่วยกัน ในการกำจัดขยะ ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นภาระ ของหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันที่ 5 มิ.ย.ศกนี้ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ได้กำหนดให้เป็น "วันสิ่งแวดล้อมโลก" ของทุกปี ซึ่งในปีนี้ ใช้หัวข้อคำขวัญ รณรงค์เดียวกันทั่วโลกคือ "Give earth a chance" หรือ "ให้โอกาสโลกฟื้น คืนความสดใสให้ชีวิต"

ในส่วนของบ้านเราปีนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม และ โครงการสิ่งแวดล้อม แห่งสหประชาชาติ (UNEP) ได้ร่วมกันจัด "สัปดาห์ วันสิ่งแวดล้อมโลก" ขึ้นในระหว่างวันที่ 5-9 มิ.ย. ณ ศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ผู้สนใจเรื่องราวในวันนี้ และผู้ที่อยากรู้ว่า สิ่งแวดล้อมโลกเรา ในวันนี้ วิกฤติขนาดไหนแล้ว เชิญไปหาความรู้กันได้ ตามวันและสถานที่ดังกล่าว.

ดวงแก้ว ผุงเพิ่มตระกูล

Copy right(c)2000 by Vacharaphol Co.,Ltd.
1 Viphavadirangsit Rd. Bangkok 10900 ThailandTel.(662) 272-1030 Fax. (662) 272-1324