.

ต่อท่อลมหายใจผู้ป่วยเอดส์!

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยว่า กรมฯได้อนุมัติการ จดอนุสิทธิบัตร สารผสมเภสัชกรรม (ยาเอดส์) ขององค์การเภสัชกรรม 2 สูตรยา หลังจากที่ พิจารณาแล้ว ไม่ซ้ำซ้อนกับอนุสิทธิบัตรเดิม และเห็นว่า จะเป็นประโยชน์ ในด้านการบำบัด ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV เพราะเดิมการใช้ยา มักถูกจำกัดอยู่กับการใช้ยา เพียงชนิดเดียว ซึ่งมีประสิทธิภาพจำกัด เกิดผลข้างเคียง และยังทำให้เกิดการกลายพันธุ์ขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ สายพันธุ์ ที่ต่อต้านยาของ HIV ในที่สุด

โดยสูตรยาป้องกัน HIV ตัวใหม่ทั้ง 2 สูตรนั้น สูตรที่ 1 เป็นการนำยาสาวูดีน ลามิวูดีน และเนวิราพีน มาผสมกัน และสูตรที่ 2 นำยาซิโดวูดีน ลามิวูดีน และเนวิราพีนมาผสมกัน ถือเป็นการพัฒนาการบำบัดผู้ที่ติดเชื้อ HIV ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และอาจลดการพัฒนา สายพันธุ์ที่ต้านทานยาของ HIV รวมทั้งอาจยับยั้งการสร้างตัวซ้ำของไวรัส HIV เป็นเวลาที่พอเพียง เพื่อขจัด HIV ออกไปจากร่างกายได้ และสำหรับเหตุผล ที่กรมฯได้อนุมัติ การจดอนุสิทธิบัตร ยาเอดส์สูตรใหม่ ขององค์การเภสัชกรรม เพราะเห็นว่า เป็นการประดิษฐ์ ที่เกี่ยวกับสารผสม ทางเภสัชกรรมชนิดใหม่ เพราะได้นำเอายาชนิดต่างๆ มารวมกันไว้ ในรูปขนาดการให้ยาที่เป็นรูปเดี่ยว เป็นประโยชน์ในการบำบัดการติดเชื้อไวรัส HIV

"องค์การเภสัชฯจะผลิตยาทั้งสองสูตรเป็นยาเม็ด ยาแคปซูล และยาน้ำเชื่อม เพื่อให้ง่าย ต่อการบริโภค และทำให้ต้นทุนในการบริโภคยาของผู้ป่วยโรคเอดส์ต่ำลงจากเดิมเป็น 100 เท่า เพราะยา ที่มีอยู่ปัจจุบัน ต้องนำเข้า การบริโภคต้องกินทีละหลายขนาน ต้นทุนต่อหน่วยก็สูง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจดอนุสิทธิบัตรยาเอดส์ครั้งนี้ องค์การเภสัชกรรม สามารถนำไปใช้ ในเชิงอุตสาหกรรมได้ โดยผลิตแล้วนำออกมาจำหน่ายได้ ซึ่งล่าสุด อยู่ระหว่างการผลิต เพื่อนำออกมาจำหน่ายเป็นการทั่วไปแล้ว โดยได้รับการสนับสนุน จากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว. สาธารณสุข เอง ก็มีนโยบายให้ทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และ กำลังจะพิจารณา นำเข้าเป็นหนึ่ง ในโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค.

ไทยรัฐ ๑๙ ส.ค. ๔๕