นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ
รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่า ข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้ว
จะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด เขาเผยว่า
ผิดกับที่เคยเชื่อกันมาก่อนว่าผักและผลไม้ หากต้มปรุงสุกแล้ว
จะเสียคุณค่าทางอาหารลงไป สู้กินดิบๆไม่ได้
แต่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษคงไว้ได้
แม้ว่าจะสูญเสียวิตามินซีไป
เขาได้พบในการต้มข้าวโพดหวาน ด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส
ในเวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที พบว่า ยิ่งต้มนานจะทำให้มันมีสารอันเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้น
เป็น 22, 44 และ 53 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นตามลำดับ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษ
ช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตราย กับเซลล์ของอวัยวะต่างๆ
ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวพันกับโรค อันเนื่องมาจาก ความแก่ชรา ต่างๆ
อย่างเช่น ต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมอีกด้วย
คณะนักวิจัยแจ้งว่า ข้าวโพดหวานที่ต้มหรือปิ้ง จะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า
กรดเฟรุลิก อันเป็นคุณ กับร่างกาย ยิ่งมากขึ้น เมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้น
กรดเฟรุลิกเป็นพวกพฤกษเคมี ซึ่งในผัก และผลไม้ มีอยู่ไม่มากนัก
แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพด ผสมปนเปรวมอยู่กับ อย่างอื่น
การทำให้มันสุก จึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น.