นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ถั่วเหลืองจัดเป็นถั่วเม็ดเล็ก
ที่อุดมไปด้วย สารอาหารหลักจำพวกโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้
ถั่วเหลืองยังมีใยพืช ที่ให้สารอาหาร จำพวกวิตามิน เกลือแร่ แคลเซียมและธาตุเหล็ก
ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยตรงอีกด้วย ซึ่งคนไทย ส่วนใหญ่จะคุ้นเคย
กับอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองในรูปของเต้าหู้ น้ำมันถั่วเหลือง และซอสปรุงรส
เนื่องจากผลผลิตพื้นฐานของถั่วเหลืองที่สำคัญมีเพียง 2 อย่างคือ
น้ำมันและโปรตีน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ถั่วเหลืองสามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารอื่นๆ
ได้มากมายหลายแบบ อาทิ เนยเทียม มายองเนส น้ำมันสกัด และในรูปส่วนผสมของแป้งขนมปัง
นมเด็ก ครีมเทียม เป็นต้น
นพ.มานิตกล่าวต่อไปว่า จากการศึกษาวิจัยคุณค่าทางอาหารของถั่วเหลืองพบว่า
ผู้ที่บริโภคถั่วเหลือง หรือผลผลิตจากถั่วเหลืองเป็นประจำวันละ 2,547
กรัม หรือประมาณ1/4-1/8 ถ้วยตวง จะทำให้ คอเลสเทอรอลต่ำ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและรักษาระดับ
ความดันในเส้นเลือด รวมทั้งการบริโภค นมถั่วเหลือง 1 ถ้วย หรือเต้าหู้
1 ถ้วย หรือแป้งถั่วเหลือง 1/4 ถ้วยทุกวัน จะสามารถลด อัตราเสี่ยง
ต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคอ่อนเพลีย ลูคีเมีย และมะเร็งผิวหนังได้
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าผู้หญิงที่กินอาหารจากถั่วเหลือง มีอัตราการเป็นมะเร็ง
น้อยกว่าคนที่ไม่ได้กิน ถึงร้อยละ 50 อย่างไรก็ดีถั่วเหลือง จัดเป็นพืชชนิดเดียว
ที่ให้โปรตีนที่มีคุณค่า เท่ากับโปรตีน ที่ได้จาก เนื้อสัตว์ นม
และไข่ โดยให้ปริมาณสารอาหารจำพวกโปรตีนที่มากกว่าโปรตีนจากเนย 1.5
เท่า โปรตีน จากเนื้อและปลา 2 เท่า โปรตีนจากไข่ 3 เท่า และมากกว่าโปรตีนจากนมถึง
6 เท่า