ผมอ่านหัวข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
เมื่อวันวานนี้แล้ว ก็บังเกิดความหดหู่ใจ อย่างบอกไม่ถูก... ข่าวที่บอกว่า
มีคนจิตใจเลวทรามตํ่าช้า บุกช่วงชิง ทรัพย์สินเงินทอง ของผู้ประสบเคราะห์กรรม
ที่หล่มสัก ซํ้าเติมเขา อีกนั่นแหละ
ไทยรัฐบอกว่า
โจรซํ้าคนนํ้าท่วม... บุกลักของตกค้างตามบ้าน... ตำรวจสั่งเล่นงาน
นับเป็นพฤติกรรมที่สุดเลวจริงๆ
ขอขอบคุณท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ที่มีคำสั่งให้ตำรวจ ในทุกพื้นที่ ที่เกิดภาวะนํ้าท่วม ออกไปดูแล ประชาชน
อย่างเข้มแข็งมากขึ้น
และให้จัดการอย่างเฉียบขาดทันที
สำหรับโจรร้าย ที่แอบแฝง มาในคราบของ ไทยมุง เหล่านี้
เอาเลยครับ...
จับตัวได้เมื่อไร ก็ขอให้ดำเนินคดี เสียให้เฉียบขาดไป จะได้หลาบจำ
กันบ้าง
ในห้วงเวลาที่คนทั้งประเทศ
กำลังตกอยู่ในภาวะ เศร้าเสียใจ กับเคราะห์ร้าย ของเพื่อนร่วมชาติ
แทนที่จะร่วมเสียใจ
หรือยื่นมือไปโอบอุ้ม ช่วยเหลือ กลับไปเหยียบยํ่า ซํ้าเติม เขาเสียอีก
คนประเภทนี้ชักจะมีให้เห็นมากขึ้นครับ
ในปัจจุบัน
โดยเฉพาะในกรณีของ
อุบัติภัย และ อุบัติเหตุ นั้น จะมีคนใจโหด เข้าไปปล้นซํ้า
ในทุกๆ เรื่อง
เครื่องบินตก
รถควํ่า เรือล่ม เกิดขึ้นที่ใด จะมีผู้คนไปเก็บกวาด กอบโกย หรือยึดเอา
ทรัพย์สิน ของผู้เคราะห์ร้าย อยู่เนืองๆ
แทนที่จะให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล
หรือดูแลผู้ประสบเคราะห์
ในบางแห่งบางที่
กลับถือโอกาสทำร้ายผู้บาดเจ็บ เพื่อความสะดวก ในการหยิบฉวย สิ่งของด้วยซํ้า
กลายเป็นว่า
รถไปควํ่า ณ ที่ใด หรือเครื่องบินตก บริเวณใด เหมือนกับเอา แจ็กพอต
ไปแจก ณ ที่นั้น
ผู้คน
(ส่วนใหญ่ในละแวกนั้น) จะมาปลดทอง ปลดนาฬิกา คว้ากระเป๋าสตางค์ และของมีค่าอื่นๆ
ไปเป็นของตน อย่างหน้าตาเฉย
หรือในกรณีไฟไหม้
ก็มักจะมีผู้ปรารถนาดี เข้ามาช่วยขนของ แต่แล้วก็ขนไป เป็นของตนเอง
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซํ้าแล้วซํ้าเล่า
และเป็นเรื่อง ที่น่าสังเวชใจยิ่งนัก
อย่างไรก็ตาม
แม้ข่าวคราวในเรื่องนี้ จะเกิดขึ้น ถี่กว่าเมื่อก่อน แต่ผมก็ยังเชื่อว่า...
คนใจโหด ใจโฉดเหล่านี้ เป็น คนกลุ่มน้อย ของประเทศไทย
ผมมั่นใจว่าโดยทั่วไปแล้ว
คนไทยส่วนใหญ่ ยังเป็นคน โอบอ้อมอารี และมีนํ้าใจสูง
ดังจะเห็นได้จากการแบ่งปันนํ้าใจ
ไปช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยต่างๆ ทุกครั้ง ที่มีเหตุ เกิดขึ้น
เท่าที่ไทยรัฐเคยเป็นสื่อกลางในการรวมนํ้าใจ
ของคนไทยทั่วประเทศ มาหลาย ต่อหลายครั้ง เราพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ ยังน่ารักมาก
และเปี่ยมล้น ไปด้วยความรัก ความเมตตา ต่อเพื่อนร่วมชาติอื่นๆ
สำหรับคราวนี้
คณะผู้บริหารของเรา ได้ตัดสินใจบริจาคทันที 5 ล้านบาท และผมคิดว่า
หากสถานการณ์ โดยทั่วไปยังไม่ดีขึ้น และต้องการ ความช่วยเหลือ มากกว่านี้
คณะผู้บริหารของเรา อาจจะริเริ่มเป็นสื่อกลาง ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นได้
ผมเชื่อว่า
หากเราจัดขึ้น ธารนํ้าใจก็จะยังหลั่งไหลมา อย่างมากมาย เหมือนเช่นเคย
ผมก็อยากจะจบข้อเขียนวันนี้
ด้วยการขอร้องคนไทย กลุ่มน้อย ที่ยังหลงผิด ให้กลับเนื้อ
กลับตัวเสียเถิด
อย่าได้กระทำตัวเช่นที่ท่านกระทำ
อยู่ทุกวันนี้ ต่อไปเลย
ขอให้นึกถึงพระราชเสาวนีย์
ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม และน้อมนำใส่เกล้าฯไว้
มาช่วยกันทำให้แผ่นดินสดใสขึ้น
รักเมืองไทยให้มากขึ้น เลิกเห็นแก่ตัวตน และเลิกเอาประโยชน์ ที่ไม่ชอบธรรม
จากคนอื่น
ขอให้ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากการซํ้าเติม
ความทุกข์ของพี่น้องชาว หล่มสัก เพชรบูรณ์ คราวนี้ จงเป็นครั้งสุดท้ายเถิดนะครับ.
"ซูม"