ตะลึง! รักษาโรคสมองฝ่อได้
รายแรกของโลก

ข่าวแจ้งว่า น.ส.ราเชล ฟอร์เบอร์ วัย 20 ปี ซึ่งเดิมร่างกายแข็งแรง ถูกแพทย์ วินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองฝ่อหรือ "ซีเจดี" เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

แพทย์ลงความเห็นว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมากอีก 1 ปี โดยเธอสูญเสีย ความสามารถในการเดิน พูดจาไม่ปะติดปะต่อ และไม่สามารถ รับประทาน อาหารเองได้ แต่นายสตี-เฟน ฟอร์เบอร์ บิดาของเธอ ไม่อาจทนเห็น ลูกสาว ตายไปต่อหน้าต่อตาได้ จึงพาเธอไปให้ศาสตราจารย์สแตนลีย์ พรูซิเนอร์ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ช่วยรักษา

นายพรูซิเนอร์ได้รับรางวัลโนเบลในฐานะที่สามารถระบุ "ไพรออน" (Prion) โปรตีนต้นเหตุการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค "วัวบ้า" (Bovine Spongi-form Encephalopathy) หรือ "บีเอสอี" ในปศุสัตว์ ซึ่งกลายพันธุ์ก่อให้เกิด โรคสมองฝ่อ หรือ "ซีเจดี" ในมนุษย์ โดยตั้งแต่ปี 2539 มีผู้ป่วยด้วยโรคซีเจดีทั่วโลก 106 คน มีเพียง 7 คนที่ยังมีชีวิตอยู่

"เธอะ เมล์" เผยว่า หลังทีมของศาสตราจารย์พรู ซิเนอร์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ รักษา น.ส.ราเชลด้วยยาสูตรใหม่ เธอก็มีอาการดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา จนปัจจุบัน สามารถเดินเหินได้เองและพูดจาเกือบเป็นปกติ ซึ่งนายสตีเฟนผู้บิดาชี้ว่า นี่คือ "ปาฏิหาริย์" เขาเชื่อว่าลูกสาวหายขาดจากโรคนี้แล้ว "เหมือนกับว่าราเชล ถูกดึงจากนรกคนเป็นกลับขึ้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ขณะที่อนาคตของเธอ คือความตายที่น่าสะพรึงกลัว" นายสตีเฟนกล่าว

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์พรูซิเนอร์กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าสามารถ รักษาโรคสมองฝ่อให้หายขาดได้ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษยืนยันว่า ผลการรักษา น.ส.ราเชลด้วยยาชนิดใหม่ เบื้องต้นมีความหวังมาก และจะตีพิมพ์ รายงานเรื่องนี้ลงในวารสารการแพทย์ในสัปดาห์นี้ แต่โฆษกของรัฐบาลอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่สามารถให้ความเห็นในเรื่องนี้ อย่างเหมาะสมได้ จนกว่า รายงานจะถูกตีพิมพ์ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว