นิทานบ้านใกล้

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
สิงหาคม 2544

วันนี้ ไม่มีประเด็นการเมืองเขียน ผมขอซื้อเวลา ด้วยการเล่านิทานครับ

กาลครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้

มีมหานครเล็กๆ ขนาดย่อมเยาแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เหนือบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ จำนวนประชากรไม่มาก เมื่อเอารายได้มหาศาลไปหารเฉลี่ยกับจำนวนประชากรนิดหน่อย

ประชาชนเมืองนี้ จึงได้ชื่อว่ามีรายได้เฉลี่ยสูงสุดติดอันดับโลก

มหานครร่ำรวย ก็แน่นอน...พระราชาก็ทรงร่ำรวยติดอันดับโลกไปด้วย แต่พระนามของพระราชา กลับเป็นที่รู้จักของชาวโลก น้อยกว่า

พระอนุชาองค์สุดท้อง

พระอนุชาองค์นี้ ฉายวี่แววพระปรีชา พระราชาไว้วางพระทัย ให้คุมการคลัง คุมกระทั่งสำนักงาน กองทุนเงินสำรองของรัฐ ตั้งแต่ปี 2529 ถึงปี 2540

คุมกองเงินกองทอง จึงไม่แปลก ที่จะมีการหยิบฉวยไปทำมาค้าขาย หารายได้เพิ่มขึ้น

มีพระอนุชาเก่งค้าขาย พระราชาก็น่าจะทำสถิติร่ำรวยที่สุดในโลกต่อไป...ได้เรื่อยๆ

ช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังดี ชื่อเสียงมหานครนี้ก็ยังดีคงที่อยู่ จะมีวี่แววไม่ดีอยู่บ้าง ก็คือข่าวคราว การใช้เงินมือเติบของพระอนุชา แซมมาเป็นครั้งคราว

ซื้อเครื่องบิน ต้องซื้อเป็นฝูง อยากได้ทีมฟุตบอลดังๆ จากต่างประเทศ ก็ทุ่มเงินจ้างมาเล่น อยากได้สาวงามสหรัฐฯ ก็ว่าจ้างมาเก็บไว้ในฮาเร็ม

แต่ดูเหมือนว่า อัตราค่าจ้าง กับเงื่อนไขการจ้าง ก็ทำกันไม่ชัดเจน นางงามกลับเมืองก็ทำเรื่องฟ้องศาล ไม่เพียงมีพระอนุชา เป็นผู้ต้องหา พระราชาก็พลอยติดร่างแห

ทรงพระขายขี้หน้าไปด้วย

แต่ช่วงนั้นเศรษฐกิจโลกยังดี รวมกับค่านิยม เศรษฐีทำอะไร ไม่น่าเกลียด ก็แค่เป็นข่าวซุบซิบกันไป ประสมประสานกับข่าวไปขุดทอง ของดารานักร้องสาวสวยเมืองไทยบางคน

มาถึงช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หลายประเทศในอาเซียน ไม่ว่าใหญ่เล็ก ก็ทำท่าจะล้มคว่ำคะมำหงาย ฐานะอันมั่งคั่งมั่นคงของมหานครนี้ ก็เริ่มเปลี่ยนไป

มีข่าวเงินสำรองของประเทศหาย ตัวพระอนุชา ก็พลอยหายหน้า พระราชาต้องจ้างทีมนักสืบ ติดตามได้ตัวมา ตอนนี้ไม่ยอมให้ไปไหน ให้อยู่แต่ในวัง

ฐานะนักโทษของพระอนุชา ดูไปก็น่าอิจฉาครับ เพราะรับเงินค่าเลี้ยงดู ให้เดือนละ 3 แสนเหรียญสหรัฐฯ ก็ 11 ล้านกว่าเงินบาทไทยเท่านั้น

เงินขนาดนี้ เลี้ยงดูสี่พระชายา 35 พระธิดาพระโอรส ถือว่าน้อยไป ไม่สมฐานะ

ปัญหาที่ตามมา ก็คือยังตามหาเงินที่หายไปไม่เจอ จำนวนก็ยังไม่แน่ว่าจะมากกว่า หรือน้อยกว่า 16,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 7.2 แสนล้านบาท

ข่าวล่า ทำให้ชาวโลกฮือฮา เมื่อตอนยึดทรัพย์พระอนุชาออกประมูลขาย ในจำนวนของมีค่ากว่า 1 หมื่นชิ้น มี ที่เก็บกระดาษชำระในส้วม กล่องใส่แปรงขัดส้วมของพระอนุชา ทำด้วยทองคำ รวมอยู่ด้วย

เคราะห์ดี ที่กระดาษชำระ ทำจากทองคำไม่ได้

ก็แค่คนคนเดียว ใช้เงินสำรองของรัฐสนุกมือ อย่างนี้แหละครับ ฐานะของประเทศที่เคยได้ชื่อว่า ร่ำรวยที่สุด พลิกเป็นประเทศที่แม้ไม่ถึงขั้นยากจนที่สุด แต่ก็เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เอาตัวเองแทบไม่รอด

นี่เป็นเรื่องราวในนิทานบ้านใกล้ๆ แค่บรูไนครับ

ส่วนนิทานบ้านเรา เป็นหนี้เป็นสินถูกยึดทรัพย์ขายกันไม่เว้นแต่ละวัน ผล...มีวิกฤติเศรษฐกิจ เอาตัวไม่รอด เหมือนกัน ต่างกันก็ตรงบ้านเรามีเศรษฐีหนี้เน่า ใช้เงินมือเติบมากมายหลายพันคน

เศรษฐีตกยาก นี่ก็แปลก ไม่ว่าบ้านไหนเมืองไหน อยู่สุขสบายเหมือนกันไปหมด

บางประเทศ ผมได้ข่าวมา รัฐบาลอุ้มชูดูแลยิ่งกว่าลูก กู้ไปแล้วทำเจ๊ง ตอนนี้มีข่าวว่า กำลังให้กู้ใหม่ จะเจ๊งอีกหรือไม่ ก็ไม่ว่า

กิเลน ประลองเชิง