สันทัดกรณี 24 กันยายน 2544    กองบรรณาธิการ ไทยโพสต์



เรียน คุณสันทัด กรณี ที่เคารพ
ผมอ่าน  X-cite  ไทยโพสต์  18 ก.ย. พบข่าวพาดหัวเล็กๆ “ครูหยุย ตีแผ่พฤติกรรมวัยรุ่นยุคใหม่  หยอดเหรียญแลกคู่นอน”  การพูดครั้ง นี้เป็นการพูดในการอภิปราย “แนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติของเยาวชนไทย” เป็นการบังเอิญในคอลัมน์ว่ายทวนน้ำ ไทยโพสต์ 18 ก.ย. ผมก็ได้พูดถึงเรื่อง นี้เหมือนกัน แนวคิดของผมผมเชื่อว่า ผมคิดเช่นเดียวกันกับครูหยุย  แต่จะแตกต่างกันตรงที่ ครูหยุยลงในรายละเอียด “หยอดเหรียญแลกคู่นอน”  ซึ่งผมไม่ทราบมาก่อน
แต่ผมทราบและรู้ดีว่า นักเรียนชายบางคนเรียนหนังสือเพื่อ  “หาเมีย”  โดยตั้งเป้าว่า  ถ้าเรียน ปวช.1-3 จะได้เมียกี่คน ม.4-ม.6 จะได้กี่คน นักเรียนหญิงบางคน รอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ เพราะครูอาจารย์ทราบเรื่อง เพราะครู-อาจารย์ขอร้องไว้ พฤติกรรมเช่นนี้แก้ยาก ถ้าเด็กผู้ชายหน้าตาดี มีเงิน ใจกล้า  โดยใช้ทฤษฎี  3  จับ (จับมือได้ควายครึ่งเสี้ยว จับขาได้ควาย ครึ่งตัว จับก้นได้ควายทั้งตัว) และเด็กผู้หญิงจะรอดยาก 
ถ้าเด็กผู้หญิงรักเด็กผู้ชาย ติดสอยห้อยตามอย่างขาดสติ โดยตาม ไปที่บ้านเด็กผู้ชาย เที่ยวกลางคืนด้วยกัน ตามสถานบันเทิงต่างๆ   หรือตาม สถานที่ที่ห่างสายตาของคน  และเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยาก ของผู้ชาย เฉพาะครั้ง แรกเท่านั้น  เด็กผู้หญิงถ้ารักดี ต้องพยายามไม่ให้มีครั้งแรกเกิดขึ้น เรื่องนี้มีคน พยายามหาทางแก้ไข ว่าจะทำอย่างไร ผู้ปกครองและคร ูต่างก็เข้าใจกันผิด ผู้ปกครองบางคน จะคิดว่าครูและสถานศึกษา จะแก้ปัญหาได้   ครูและสถาน ศึกษา ก็คิดว่าพ่อ-แม่ผู้ปกครอง จะแก้ปัญหาได้  กว่าจะรู้ว่าต่างฝ่ายต่างก็แก้ ปัญหาไม่ได้ ก็สายเสียแล้ว
มีบางท่านแนะว่า ถ้าจะแก้เรื่องนี้   ต้องสอนเรื่องเพศศึกษา  เลิกรับนักเรียน แบบสหศึกษา บางท่านบอกว่า ต้องปรับปรุงการเรียนการสอน พุทธศาสนาเสียใหม่ หรือแนะนำให้สถานศึกษา ขอความร่วมมือจากวัดใกล้ๆ  ให้พระมาช่วยสอน พระพุทธศาสนา  ซึ่งหลายสถานศึกษา เคยทำมาแล้ว ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง  โดยเฉพาะสถานศึกษา ที่ไม่มีวินัยจะแก้ยาก  ปัญหาต่างๆ ของวัยรุ่น เช่น สิ่งเสพติด ทะเลาะวิวาท  ทำร้ายไม่เชื่อฟังครู อาจารย์  ผมว่าเป็นปัญหาที่พอแก้ได้  แต่ปัญหาทางเพศ เป็นปัญหาที่แก้ยาก โดยเฉพาะผู้หญิง วัยรุ่นบางคนถือว่า เรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมดา   จนทำให้พัฒนา ขึ้นไปถึงขั้นแลกคู่นอน   ผู้หญิงบางคน จะสำนึกก็ต่อเมื่อ ตั้งครรภ์ หรือมีโรคร้ายเกิดขึ้น ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ป้องกันได้ และแก้ไขได้ แม้จะยากสักเพียงใด ก็ตาม  จะทำอย่างไรล่ะครับ ในเมื่อสังคมปัจจุบัน ที่บ้านลูกใหญ่กว่าพ่อแม่  ที่สถานศึกษา (บางแห่ง) เด็กนักเรียน ใหญ่กว่าครูอาจารย์ ถ้าพลิกสภาพสอง ประการนี้ได้ บางทีอาจแก้ปัญหาได้กระมังครับ
เคารพ
เกษียณ เสมา
///////////////////
ตอบ คุณเกษียณ เสมา
ความอบอุ่น  ความรักในครอบครัว  อาจจะทำให้เด็กหรือ เยาวชนมีต้นแบบ ที่เขาต้องการใช้เป็นแบบอย่าง ในการดำเนินชีวิต แทนที่จะมี ฮีโร่ในดวงใจ เป็นพวกไร้สติ ที่ถูกสร้างขึ้นในโลกทุนนิยมเสรี
ผมเชื่อว่าความรัก และความอบอุ่น  จะเป็นภูมิต้านทานให้เด็ก สามารถยืนหยัด โต้กับความยั่วยวน ในรูปแบบต่างๆ ที่นักธุรกิจบางประเภท สร้างสรรค์สิ่งที่เรียกว่า ยาพิษขึ้นเพื่อดึงดูดเงินจากเด็กๆ
ที่สำคัญ สถานศึกษาเอง  จะต้องร่วมกันในการให้ความรัก ดูแลอบรม ให้การศึกษาแก่เด็ก และครูต้องทำหน้าที่ เป็นแบบอย่างที่ดี  ไม่ใช่ให้ความสำคัญ กับการสอนในโรงเรียน เป็นงานดิเรก ขณะที่มองว่าผลประโยชน์ จากการสอน กวดวิชา คืองานหลัก
ครับ..ผู้ใหญ่ทุกคน  ควรที่จะได้ร่วมกันคิด และหาวิธีปฏิบัติว่า  จะสามารถ ดำรงตนอย่างไร ให้ได้รับความเคารพ เชื่อถือจากเด็กๆ  ซึ่งการที่เด็ก จะขาดความเคารพ นับถือพ่อแม่  ครูบาอาจารย์ มันก็มีเหตุสมควร ให้ผู้ใหญ่ ต้องย้อนหันกลับ มาพิจารณาตนเองด้วยเหมือนกัน
ขอแสดงความนับถือ
สันทัด กรณี