5 วันสหรัฐฯพัง 63 ล้านล้าน

ม่มีใครรู้ สัปดาห์นี้ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐฯ จะส่งเครื่องบิน เข้าถล่มอัฟกานิสถานเพื่อไล่ล่าตัวโจรก่อการร้าย โอซามา บิน ลาดิน หรือไม่

แต่ในความเห็นของผม ผมเชื่อว่าบุชจะต้องจัดการเรื่อง “ความมั่นคงภายในบ้าน” ให้เรียบร้อยเสียก่อน ก่อนที่จะสั่งเคลื่อนกำลังเข้าโจมตี เพื่อก่อ “สงครามใหม่” หรือ NEW WAR ที่จะกินเวลาการทำสงครามที่ยาวนานที่สุด ซึ่งอาจจะถึง 10 ปี อย่างที่บุชประกาศ

ความย่อยยับของสหรัฐฯในครั้งนี้ เป็นการ “โจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ” ที่ โอซามา บิน ลาดิน ประกาศไว้ ซึ่งยังไม่มีใครสามารถ “ประมาณความเสียหายได้” เพราะแค่ที่มองเห็น ก็เสียหายเป็นเงิน ไม่รู้กี่ล้านล้านบาทแล้ว

เฉพาะ “มูลค่าหุ้น” ในตลาดหุ้นสหรัฐฯอย่างเดียว ซึ่งเป็น “ความมั่งคั่ง” ของประชาชน อเมริกันทั้งประเทศ แค่ 5 วันทำการที่ เปิดซื้อขาย หลังวันถูกโจมตี ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17-21 กันยายน ท่านผู้อ่านเห็นตัวเลขแล้ว จะช็อกซํ้า เพราะมูลค่าหุ้น ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หดหายไปถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ (1.4 trillion) เอา 45 บาทคูณเข้าไป ความมั่งคั่งของคนอเมริกัน หายไปทันที 63 ล้านล้านบาท

ตัวเลขความเสียหาย 63 ล้านล้านบาทนี่ นับเฉพาะความเสียหาย จากมูลค่าหุ้น ที่นับเป็นมูลค่าได้ ยังไม่ได้นับความเสียหาย ของอาคารแฝดเวิลด์เทรด 2 ตึกใหญ่ 1 ตึกเล็ก กระทรวงกลาโหมเพนตากอน เครื่องบินอีก 4 ลำ และ ผลกระทบ ทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ตามมาอีกมากมายมหาศาล

ที่สร้างความเจ็บปวดให้ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐฯ และคนอเมริกันก็คือ การก่อการร้าย ที่สร้างความเสียหายมหาศาล ให้แก่สหรัฐฯ ในครั้งนี้ ผู้ก่อการร้าย ลงทุนถูกมาก ใช้เงินแค่ 200,000 เหรียญ หรือ 9 ล้านบาทเท่านั้นเอง

นอกจากตลาดหุ้นแล้ว กิจการที่ได้รับความเสียหายจากการก่อการร้าย ครั้งนี้มากที่สุดก็คือ “สายการบิน” เวลานี้ คนมีสตางค์ หรือคนไม่มีความจำเป็น ต้องบิน ทุกคนต่างยกเลิก การเดินทาง ด้วยเครื่องบินหมด ยกเว้นคนที่จำเป็น ต้องบินเท่านั้น

ในสหรัฐอเมริกาช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เส้นทางบินทุกเที่ยว มีผู้โดยสารโหรงเหรง แค่ 20-40 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนที่นั่ง ในเที่ยวบินเท่านั้น ทั้งๆ ที่ทุกสายการบิน ต่างก็ลดเที่ยวบินลงมากว่า 20 เปอร์เซ็นต์แล้ว คนอเมริกัน ต่างเปลี่ยนวิถีการเดินทาง จากเครื่องบิน มาเป็นรถเมล์และรถไฟเป็นหลัก

เส้นทางบินข้ามประเทศอย่างสาย นิวยอร์ก-ลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็น สายที่เครื่องบินถูกจี้ ไปถล่มตึกเวิลด์เทรด เป็นเส้นทางที่หงอยมากที่สุด ขนาดลดค่าตั๋วเครื่องบิน จากราคาหลายร้อยดอลลาร์ ลงมาเหลือแค่ 50 ดอลลาร์ ก็ยังไม่มีคนอยากบิน เช่นเดียวกับเส้นทางบิน ที่บินเข้าสหรัฐอเมริกา ผู้โดยสารก็ลดลง

ทำเอาสายการบินต่างๆ ต้องปลดคนกันระนาว นับแสนคนในชั่วเวลาเพียงสั้นๆ แม้แต่บริษัทผลิตเครื่องบินโบอิ้ง ก็ยังต้องปลดคนงานลง 3 หมื่นคน เพราะขายไม่ออก ลูกค้าชะลอใบสั่งซื้อกันเพียบ เพราะเป็นเครื่องบินแบบ ที่ผู้ก่อการร้ายขับคล่อง

จนรัฐบาลบุชต้องขออนุมัติงบฉุกเฉินจากรัฐสภา 15,000 ล้านดอลลาร์ 675,000 ล้านบาท เพื่ออุ้มอุตสาหกรรมการบิน ไม่ให้ล้มละลาย โดย 5 พันล้านดอลลาร์ แรกให้ฟรี อีกหมื่นล้าน ใช้คํ้าประกันเงินกู้

แต่ปัญหาที่น่ากลัวที่สุดของสายการบินในวันนี้ก็คือ คำขาดของ บริษัทประกันภัย ที่ประกาศว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (อังคารที่ 25) เป็นต้นไป บริษัทประกัน จะไม่คุ้มครอง ความเสี่ยง ที่เกิดจากภัยสงคราม และ ภัยผู้ก่อการร้าย

ถ้าสายการบินกับบริษัทตกลงกันไม่ได้ในเรื่องนี้ วันพรุ่งนี้ คงไม่มีสายการบินไหน กล้านำเครื่องบิน ขึ้นบินแน่นอน

ไม่มีประกันภัย เครื่องบินก็ขึ้นบินไม่ได้ เพราะผิดกฎการบิน โดนบอมบ์เมื่อไร สายการบินต้องจ่ายเอง ทุกบาททุกสตางค์ อ่วมอรทัยแน่นอน.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

ไทยรัฐ กันยายน ๒๕๔๔