|
||
ต่อไปเป็นการตอบประเด็น ๑.การที่คนตายไปแล้ว บอกว่าไปนรกสวรรค์ที่มีหลายชั้น หมายถึงอย่างไร ตอบ อายตนะคือการเกี่ยวเนื่องกระทบสัมผัส อายตนะไม่ตั้งอยู่ เกิดเมื่อมีเหตุปัจจัย ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย ไม่มีการกระทบสัมผัส ก็ไม่มีอายตนะ ไม่ถือว่าเป็นธาตุด้วยซ้ำ จิตคือธาตุรู้ คือมนายตนะ กับธรรมายตนะ ถ้าทรงไว้ด้วยอวิชชา ก็พาปรุงเลอะ ไปตามเรื่อง มันปรุงไม่หยุดหรอก ไปตามที่เรายึดถือ ที่เราติด จิตมันปรุงอยากได้ เช่นอยากได้ทางตา ทางหู เมื่อคุณตายไป คุณไม่มีตา หูแล้ว แต่คุณจะมี มนายตนะ กับธรรมายตนะ (อายตนะ ๒) มันปรุงกันเองเลย โดยไม่ต้องมี เหตุปัจจัยอื่น เมื่อคุณตายไป ก็ยิ่งดิ้น แต่ก็ไม่ได้ จมดิ่งอยู่เดี่ยวๆ ไม่เกี่ยวกับใคร ลองเดาดูว่า คนถูกผีอำ จะดิ้นออกมา แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร เพราะจะไปตามเหตุปัจจัย มันจมอยู่กับจิต อย่างเดียว นรกก็มีตรงนั้น สวรรค์ปลอม ก็เป็นของเท็จ มันยึดว่าเป็นของจริง คุณจะไม่ได้สวรรค์สดๆ เมื่อตายจะมีแต่นรก ที่ดิ้นรนอยากได้ สวรรค์สดๆ อย่างที่เคยติด แต่ไม่ได้ เพราะไม่มีทวารให้เสพ พระอรหันต์ไม่มีนรกสวรรค์ เป็นอนาคามี ไม่ต้องสุขทุกข์ กับทวารนอกแล้ว ท่านก็ศึกษารูปราคะ อรูปราคะของท่าน ท่านจะรู้การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป ของภพชาติ เพราะมีนิโรธ จากกามภพแล้ว ก็ทำต่อเรื่องรูปภพ อรูปภพต่อได้ ได้ดูรายการของคุณโสภณ มีเด็กร้องเพลงได้ดีมากเลย เหมือนผู้ใหญ่ คุณโสภณว่า เขามีพัฒนาการสมอง มากกว่าปกติ แต่ดิฉันว่า เขาสะสมมาใช่ไหม? ตอบ... เขามีอุปกรณ์ของเขามาดี ถ้าโพธิสัตว์เป็นช้าง ก็ใช้สมองของช้าง แม้วิญญาณ จะมีบารมี พอมาเกิดเป็นคน ก็มีสมองใช้ได้ บอกตรงๆ พ่อครูชาตินี้ แม้มีบารมีหลายอย่าง แต่อุปกรณ์ใช้ได้แค่นี้ ส่วนของบารมี มีทั้งรูปธรรม และนามธรรม คนที่มีบารมีอย่างที่พูด มีไม่น้อยหรอก คนที่ชำนาญมามีบารมี แต่ก็อุปกรณ์ไม่ให้ ก็มีเยอะเลย ถ้าอย่างโมสาร์ท มีอุปกรณ์พร้อม และมีบารมีด้วย ก็ปรากฏผลเลย ขอชื่นชมรายการวิปัสสนาข่าวครับ ลงตัวมากขึ้น เห็นการเตรียมงานของบ้านราชฯ รู้สึกว่ายิ่งใหญ่ครับ ส่วนรายการ บอกเล่าข่าวอโศก เห็นใจผู้ดำเนินรายการ ที่บอกว่า อยู่คนเดียว ไม่มีตากล้อง จะอัดไว้เป็นเทปมาออกก็ได้นะครับ เห็นใจว่าไปช่วย ถ่ายทอดสดให้ เอเอสทีวี แต่รายการบอกเล่าข่าวอโศก ไม่มีคนทำ ตอบ โทรทัศน์เราถูไถมาได้หลายปี ตอนนี้มีงานเยอะ คนเราก็น้อย ผู้มีน้ำใจ ขอบริจาคน้ำใจ ก็อนุโมทนาสาธุ ก็เข้าใจตามนี้ พ่อครู ก็เห็นใจคุณทองแก้ว ไม่ได้ติดใจ มันเป็นความไม่สมบูรณ์ของเรา คนจะเห็นว่า น่าขายหน้าเราก็ทำ เราไม่ได้มีอามิส เรามีเจตนาทำดีที่สุด แต่ว่าคนเรา มีเท่าที่ได้ ก็ว่ากันไป อนุโมทนากับคนที่ ช่วยกันอยู่ พ่อครู ไม่ค่อยชม จะติมากกว่าชม น้ำฉี่ที่เก็บไว้เป็นปีดื่มได้ไหม ตอบ คงไม่เป็นอะไร ถ้าไม่มีเชื้อโรคมาก และตอบไม่ได้ด้วย ต้องให้ผู้สันทัดกรณีตอบ ก็ไม่ค่อยมีความรู้ เดี๋ยวนี้คนหนุ่มสาว เขาชอบอยู่กันอย่างลับๆ แอบเสพกาม ในกลุ่มหลวงพ่อมีไหม ตอบ ก็อาจมีบ้างทีหร็อย หลบทำ แต่ว่าเราก็พยายาม ให้ลดละล้างกัน ในเรื่องกาม หากเขาทำแบบไม่รู้ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวเขาไหม หรือหากรู้ชัด จะต้องให้ทำตาม ประเพณีหรือไม่ ตอบ เป็นรายละเอียด เราก็มีประเพณี มีระเบียบ ส่วนคนที่มีภรรยามากกว่าหนึ่ง จะเป็นอย่างไร ตอบ ถ้ารู้เราก็ไม่สนิทไม่คบ ถ้าไม่รู้ก็ไม่รู้ ถ้าในครอบครัวเขามีคนเต็มใจที่จะมี มากกว่าหนึ่งคนในคู่ครอง แต่เขาเต็มใจ เพราะเป็นกิเลสกามได้ไหม ตอบ เป็นไปตามกฏของหมู่เป็นใหญ่ ก็เป็นเรื่องที่ ไม่น่าทำหรอก คนที่ฆ่าตัวตายจะทำอย่างไร เพื่อนผมผูกคอตาย จะทำอย่างไร ตอบ เอาไปเผา ทิ้งไว้ก็ขึ้นอืด รีบเอาไปเผา ตอบจริงๆซื่อๆ ถ้าจะถามว่า วิญญาณจะเป็นอย่างไร ตอบไม่ได้ ไปตามวิบาก ไม่เก่งเรื่องทำนายกรรมวิบาก ถ้าเก่งเรื่องนี้ คนจะมาถามมาก ไม่ต้องทำงานอื่น เราไม่ทำงานนี้ ในดงแห่งโลกธรรม โลกกาม โลกอัตตา จะมีการปลดล็อกอย่างไร ตอบ เหมือนถามศาสนาพุทธทั้งหมดเลย ที่ถามมาคือ ให้ตัดโลกโลกียะทั้งหมด ก็คือที่พยายาม พูดกันนี่แหละ เลิกได้หมด ก็เป็นอรหันต์ อยู่กับโลกช่วยโลก ขอท่านวิจารณ์พระพุทธเจ้าน้อย ว่าเกิดมาจะเป็น พระพุทธเจ้าเลยไหมครับ ตอบ เจ้าชายสิทธัตถะ ก็ถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว มีพุทธการกธรรม สมบูรณ์แล้ว ถ้าจะเอารูปธรรม ว่าเป็นเด็ก ยังไม่ตรัสรู้ก็ได้ แต่ถ้าเข้าใจในนามธรรม ในชาติที่ท่านเป็น โพธิสัตว์ใหญ่ บางชาติก็เป็นฆราวาส ก็มีภูมิธรรม ท่านก็สอนธรรมะ อยู่ที่ใครจะตั้งแง่มาว่า เท่านั้นเอง ถ้าพูดโดยรูปธรรม ว่าพระพุทธเจ้าน้อย ท่านเป็นเจ้าชาย สิทธัตถะน้อยก็ได้ แต่ถ้าจะเรียกพุทธเจ้าน้อย ก็เป็นการเคารพธรรมะ ในตัวท่าน ชาติที่ท่านเกิดมา เป็นพระพุทธเจ้า ท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมอะไร มีภูมิจะเป็น พระพุทธเจ้าแล้ว การสำรวมกายและใจ จะถือว่าเป็นการสำรวมผัสสะ กับการสำรวมอินทรีย์ มีสภาวะต่างกันอย่างไร ตอบ อินทรีย์หมายถึง ตัวกำลังและทวารด้วย การสำรวมอินทรีย์ คือการสำรวม กาย วาจา ใจไปด้วย ทั้งทวาร ๖ ต่างอย่างไรกับผัสสะ ก็คือ มันเป็นคนละระยะ สำรวมก็คือ ยังไม่ผัสสะ พอผัสสะก็มีวิญญาณ แล้วก็อย่าให้ตกหล่น เมื่อกระทบ ก็อย่าให้ปรุงแต่งเป็นผี อ่านแล้วมีธัมมวิจัย ไม่ใช่คิด แต่วินิจฉัยด้วย อย่างเห็นสภาวะจริง ว่าอะไรคือรูป อะไรคือนาม อะไรคือตัวแฝง และได้ปหานไหม มีผลอย่างไร คนธรรมดา ไม่สำรวมหรอก ก็ปรุงแต่งไปเรื่อยๆ ไม่ได้หัดระงับเรียนรู้ ลดละเลย ขนาดเราตั้งใจทำ ต้องค่อยๆมีผล คนที่รู้สึกว่า เราได้ปฏิบัติธรรม จะรู้เลยว่า เราได้สำรวม จะรู้ว่าวันหนึ่ง เราจะรู้ว่า เรารู้สึกตัว ว่าเราได้ปฏิบัติธรรม สังวรมากกว่าปกติ นั่นคือลักษณะ ปฏิบัติธรรม แต่ถ้าวันหนึ่งๆ ก็ได้รู้แต่ครั้งสองครั้ง อย่างนี้ไม่พอกิน ต้องมีการสำรวม ระวังให้มาก เสมอๆ ต้องมีความเพียรให้มาก แต่ไม่ต้องเคร่งเครียด ให้สังวรเรื่อยๆ รู้ตัวแล้วทำ ให้ถูกต้องเสมอ .... คำว่า ภิกษุนั้นย่อมเสพให้มาก ย่อมเจริญให้มาก ย่อมกระทำให้มาก ซึ่งมรรคนั้น เป็นอย่างไร จึงย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไปได้ ภิกษุนั้นนึกถึงอยู่ฯ รู้อยู่ฯ เห็นอยู่ฯ อธิษฐานจิตอยู่ฯ น้อมจิตไปด้วยศรัทธาฯ ประคองความเพียรไว้ฯ ตั้งสติไว้มั่นฯ ตั้งจิตไว้อยู่ฯ ทราบชัดด้วยปัญญาฯ รู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่งอยู่ฯ กำหนดรู้ซึ่งธรรมที่ควรกำหนดรู้ฯ ละธรรมที่ควรละฯ เจริญธรรมที่ควรเจริญฯ ทำให้แจ้ง ซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้งฯ นี้ชื่อว่าเสพให้มาก ย่อมเจริญให้มาก ย่อมทำให้มาก ซึ่งมรรคนั้น จึงย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไปได้. (ล.๓๑ ข.๕๓๕) ตอบ คุณมีกรอบศีล ๕ ก็ทำตามกรอบ ผมถือศีล ๕ ไปเหยีบมดคันไฟ เอามือปัดมันก็ไม่ออก จะผิดศีลไหม ตอบ องค์ของปาณาติบาตมี ๕ คือ ๑.รู้ว่าสัตว์มีชีวิต ๒.สัตว์มีชีวิต ๓.เจตนาฆ่า ๔.พยายามฆ่า ๕.สัตว์ตาย ต้องครบองค์ ๕ จึงผิดศีล เราต้องรู้ว่า ปัดแรงมันก็ตายสิ เราก็ตั้งใจทำเบาๆ ทำให้บริบูรณ์ขึ้น ต้องออกจากวัดไปดูแลพ่อ ตอนนี้พ่อเสียแล้ว เหลือแม่ แม่ไม่ยอมให้ไปไหนเลย ทำอย่างไร ตอบ ก็ปฏิบัติไป อยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติได้ แม้ไม่มีสิ่งแวดล้อมดี แต่ก็ทำได้ติดต่อกันได้ คนมีวิบากต่างกัน อย่าใจร้อน กิเลสกาม คนที่มีภรรยามากหรือน้อยก็แล้วแต่ ให้ดูกระดูกที่สันติอโศก ถูกเผาแล้ว ก็ไม่เหลืออะไร ตอบ ก็มีการพิจารณาอสุภะ ..... จบ...
|
||
|