|
||
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องพูดเล่น แต่เป็นเรื่องที่มีหลักฐานยืนยัน หมออาจพูดเวอร์ ไปหน่อยก็ได้ หรือเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่เขาดูจากเครื่องมือ และประสพการณ์ เครื่องมือ ที่ว่านี้ เป็นของรพ. ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในเมืองไทยเลยนะ คือ รพ.บำรุงราษฏร์ ที่กทม. ใครก็รู้ว่าเป็นรพ.ที่ใหญ่ที่สุด เข้าไปแล้วลูกค้า คนไข้มากเหลือเกิน เคยไปรพ.อื่น ก็เห็นว่า ต่างจากรพ.นี้ เป็นรพ.ใหญ่และคนก็มาก ทั้งในและต่างประเทศ พอดีมีหมอ ที่ทำงานที่นั่น ก็อยากให้ ไปใช้บริการที่นั่น จนหมอเอง ก็แย่งจ่ายเงิน แต่มีญาติธรรม ก็เอาเงิน ไปให้ก่อนทุกที หมอก็ว่า ผมขอจ่ายบ้าง นี่ก็เล่าให้ฟัง นิดหน่อย ที่พ่อครูทำเรื่อง ที่มีคนจะพิสูจน์ เขาเชื่อว่า จิตใจพ่อครู ไม่มีปัญหา ดังนั้น อิทธิบาท ก็เป็น อิทธิปธานสังขาร แน่นอน คือจิตที่มีฉันทะ มี จะปรุงแต่งโดยรูป ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับนามธรรม แต่ถ้าอุตุหรือพีชะ ก็เป็น อนุปาทินนกสังขาร คือสังขารที่ ไม่มีวิญญาณครอง ก็ปรุงแต่งไป แต่ไม่มีทุกข์ ก็ไม่ใช่เรื่อง ของศาสนาพุทธ เพราะพุทธสอนเรื่องทุกข์ กับความดับทุกข์ ซึ่งแม้แต่ คนที่มีจิตวิญญาณ ที่สอนไม่ได้ ก็เป็นอเวไนยสัตว์ สอนให้ดับทุกข์ไม่ได้ ทุกวันนี้ขออภัย ที่ต้องบอกความจริงของตน เหมือนชมตนเอง แต่ศาสนาพุทธนั้น บอกความจริง ของตนได้ พุทธนั้นอวด ในสิ่งที่มีได้ เป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์ และที่จะพูดต่อไป ก็เป็นเรื่อง ๘ อ.แต่คงพูดไม่ครบ ๘ อ. เท่าที่มีเวลา ๘ อ.นี้มีอิทธิบาทเป็นตัวต้น ถ้าไม่มีก็ไม่ครบสมบูรณ์ และลงท้ายด้วย อาชีพ ซึ่งอาชีพนี้ สามารถเป็นพิษภัย ให้อายุสั้นได้ แต่อาชีพที่ดี ทำให้อายุยืนได้ อิทธิบาท นั้นขอสรุปว่า มันมีในตัว ถ้าไม่มีเราต้องเพียร เป็นปธานสังขาร คนเรา ต้องพยายามจัดแจง จัดการ สังขารขึ้นมา ผู้ใดสังขารมาได้ โดยเพียร (ปธาน) ให้เป็น สมาธิ เป็นความเต็มของจิต และตั้งอยู่ เป็นความตั้งมั่น แข็งแรง ไม่มีอะไรสั่นคลอน เป็นตัว ของตัวเอง เรียกสมาธิ และผู้ใด มีความยินดี ก็มีสมาธิ พ่อครูทำงาน ก็ทำด้วยใจ มีสมาธิ ตั้งมั่นแข็งแรง และมีจิตยินดี ไม่มีความเหนื่อยหน่าย ในการทำงานทางธรรม พ่อครูว่า ตนอ่านจิตตน ได้อย่างถี่ ต่อเนื่องได้มาก เท่าที่พ่อครูมีจริง ความเร็วของจิต ของใครของมัน ก็จะรู้ว่า จิตตนต่อเนื่อง เกิดมีอะไรคั่นก็รู้ ขออภัย ที่ต้องอวดฌาน อวดสมาธิ เป็นความเก่งฤทธิ์ของจิต มีจิตตะ คือใจเอาใจใส่ จิตติทธิบาท พ่อครูแปล จิตตะ ว่า มีใจเท่าไหร่ โถมเข้าไปให้เต็ม วิมังสา คือการมีปัญญา พ่อครูแปลว่า มีแต่เนื้อๆ ส่วน วิ แปลว่ายิ่ง วิเศษ ที่ไม่ใช่เนื้อ ไม่มี มีแต่เนื้ออย่างวิเศษ ถ้าเป็นธรรมะ ก็เป็นโลกุตรธรรม นี่ไม่ได้พูดโมเม ต้องปฏิบัติ ไตร่ตรอง เลือกเฟ้นเอาแต่เนื้อ ต้องทำการไตร่ตรอง ตรวจสอบ เอาแต่เนื้อที่ดีๆ เนื้อที่เน่าเสีย ไม่เอา นี่คือแปลอย่าง โพธิรักษ์ เอาสภาวะมาแปล สรุป อิทธิบาท คือต้องพากเพียรด้วยยินดี เอาแต่เนื้อๆ ถ้าไม่ยินดี ก็ไม่สำเร็จ เช่น จะทำให้อายุ ยืนยาวต่อไป ต้องมีฉันทะ อ.ที่ ๒ คือ อารมณ์ คนที่จะบรรลุธรรมได้ ต้องมีโพชฌงค์ (องค์แห่งการตรัสรู้) ตามพระพุทธเจ้าสอน ผู้จะรู้อารมณ์ตน ต้องมีโพธิ มีองค์แห่งการตรัสรู้ รู้ว่าสติเรา มีเต็มขนาดไหน มีสติชนิดไหน จนมีสติเป็นอรหันต์ ก็เรียกว่า มีโพธิญาณ สมบูรณ์ มีธัมวิจัย คือวิจัย นามธรรมในตน คือ เวทนาในเวทนา จิตในจิต รู้เวทนาที่เป็น เนกขัมสิตะอุเบกขา จนเที่ยงแท้แน่นอน ในทุกปัจจุบัน สั่งสมเป็นอดีต จนคำนวณ อนาคตได้ว่าสูญ ไม่ใช่ว่าแต่นึกเอา แต่ต้องมีของจริง อรหันต์ จะไม่สรุปตนง่ายๆ ว่าจบ ท่านจะมีปัญญาจริง ตั้งแต่อนาคามี ก็ไม่มีประมาท ถ้าประมาท ก็ไม่ใช่อรหันต์แน่ อารมณ์ต้องมี โพชฌงค์ ๗ และทำไม โพชฌงค์ ๗ จึงทำให้อายุยืนยาวได้ ... ขอผ่านก่อน วันนี้ อาหาร...โดยเฉพาะ กวฬิงการาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค ก็ทำให้ อายุสั้นได้ ซึ่งอาหาร เดี๋ยวนี้ มอมเมาให้อายุสั้นมาก แล้วมอมเมาให้หลงใหล ใส่กามคุณ ๕ ไปมากมาย คุณต้องไม่ติด ในรสอาหาร จนคุณกินอาหาร ไม่มีอาการอร่อย กินก็รู้แต่รส กินไม่มีรสอร่อย เผ็ดก็รู้เผ็ด ขมก็รู้ขม ฝืนกว่า หวานก็รู้ เราก็ต้องให้พอดี รู้ว่าเราชอบหวาน เปรี้ยว เผ็ด เท่านี้ เราต้องอ่าน อาการอารมณ์ออก คนยังมีอร่อยอยู่ ยังมีอัตตา คนที่เขาเถียงพ่อครู เขาว่า อัตตาไม่ใช่อัตตา แล้วคุณรู้จัก รสอร่อยไหม ถ้าคุณยัง อร่อยอยู่ คุณมีอัตตา แต่พ่อครูว่า ตนไม่มีอร่อยแล้ว ก็รู้รสธรรมชาติของมัน แล้วอะไร มันฝืดฝืนหน่อยก็รู้ กระเทียม แต่ก่อนพ่อครู ก็พยายามกิน เพราะมันมีธาตุ ที่เป็นประโยชน์ อย่างนายกฯ อินเดีย ก็กินกระเทียมกับฉี่ แต่มันเผ็ด พ่อครูพยายามกิน แม้ชิ้นเล็กๆ ก็ไม่ได้ ไอทันทีเลย ทั้งๆที่ร่างกายต้องการ จะกินบ้าง ให้มันช่วย สังขารร่างกาย แต่ไม่ได้อยากติด กลิ่นรสมัน อากาศ...ก็ต้องสะอาด ออกกำลังกาย ก็ต้องมีความเพียร ต้องฝืนมันหน่อย แต่พ่อครูออกกำลังกาย ก็ไม่ต้องฝืน แต่ว่ามันเบียดเบียน เวลาทำงานบ้าง ก็เว้นบ้าง แต่ไม่มีจิตขี้เกียจ คุณต้องอ่าน จิตขี้เกียจให้ออก ก็สงสารคุณ ๘๗๐๕ ที่ย้อนพ่อครูมา ก็จะใช้เป็นประเด็น ที่ขยายความ จากอัตตา แต่เขาไม่รู้จักอัตตา เอนกาย....คือรู้จักพัก รู้จักเพียร เอาภาษาสำนวน เอนกายมาใช้ คืออย่าไปหลงงาน จนไม่พัก รู้จักนอนบ้าง พ่อครูว่า ตนถูกบังคับ ให้นอนมาก ก็รู้ว่า ตนต้องจัดสรรอย่างไร เอาพิษออก ตอนนี้กำลังฮิท เหงื่อออกนี่ ก็เอาพิษออกแล้ว ทุกวันนี้ คนเขารู้วิธี เอาพิษออกมากมาย สุดท้ายคือ อาชีพ ถ้าตั้งใจจัดสรร ๘ อ.ให้ดี ก็สามารถต่ออายุขัยได้ เช่นจะต้องตาย แล้วหมดอายุขัย แล้วให้ต่อไปได้ เช่นพ่อครู ที่ต้องยกตัวอย่างตน ที่พ่อครูรู้ว่า อายุขัยตน มีที่อายุ ๗๒ ปี แต่ก็ว่าตนต้องทำ ให้ผ่านให้ได้ ก็ทำได้ เลย ๗๒ ปี ตอนนี้ก็รู้สึกว่า ดีขึ้น ก็ไม่รู้ว่า ร่างกายส่วนนอก มันเหี่ยวไป แต่ส่วนใน รู้สึกหนุ่มขึ้น แต่ไม่ใช่หนุ่มขึ้น อย่างมี ฮอร์โมน กามนะ แต่มีความกระปรี้กระเปร่า มีความหนุ่มแน่น เป็นเรื่องที่พ่อครู อยากให้พวกเรา พากเพียรพิสูจน์ เราจะได้พิสูจน์ทฤษฏี พระพุทธเจ้า ที่ไม่เก่าเสมอ ทันสมัยจริงๆ โบราณนวทัศน์ อโศกเราทันสมัย ล้ำสมัย เขาจะตามอโศก กว่าจะได้ ก็นาน ขออภัย ชักคุยตัวใหญ่แล้ว ถึงอย่างไรก็ตาม ในวิธีการสิ่งที่กำหนด ให้มาเข้าพรรษา เราต้องตั้งใจศึกษา จะมีสมณะผู้รู้ มาอยู่ประจำที่ ไม่ซัดส่าย ก็ให้เอาตัว เอาใจมา ตั้งใจเอาใจใส่ เกื้อกูล ๓ เดือนนี้ จะได้เห็นผล ในการปฏิบัติธรรม อย่างแท้จริง . จบ
|
||
|