|
||
พ่อครูว่า... เราจะทำธรรมะ ใครจะทำอธรรม ก็เรื่องของเขา กรรมของใคร ก็ของคนนั้น เรื่องนี้ใครไม่ค่อยเชื่อกัน เพราะไม่ออกผล จนคนไม่เห็นกันทันตา แต่ถึงจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่เราทำสิ่งทีดี ทุกกรรมกิริยา ที่เราทำดี มันจะออกผล หรือไม่ออกผล เราก็เป็นคนได้ทำดี ทันทีแล้ว คุณก็ได้แล้ว ไม่ต้องคิดอะไรมาก จะไปคิดว่า ทำดีไม่ได้ดี ก็ว่ากันไป โดยไปเข้าใจผิดว่า ทำดีจะต้องได้เงิน ที่คือลาภ ยศ หรืออะไรที่ต้องได้ตามใจ นั่นมันได้สมใจกิเลส แล้วบอกว่าได้ดี อันนั้นไม่ใช่ คุณตีหัวคนปั๊ป ก็เป็นกรรมชั่ว ก็ได้ดีทันที โจรตีหัวคนสลบ ได้ทรัพย์ไป ไม่ใช่ได้ดี แต่ได้กรรมชั่วไป ขโมยซ้ำ เป็นชั่วสองชั่ว เข้าไปอีก เหมือนกับที่ เขากำลังจะปล้น ประเทศไทย ปล้นไปก็ว่า ไม่ได้ปล้น ทำผิดก็ว่า ไม่ทำผิด ดีไม่ดี ทำร้ายทำลายกัน ฆ่าแกงกัน นี่หนักหนาขึ้น เหตุที่เกิดระเบิดวันนี้ แสดงว่า เขาดิ้นสุดดิ้นแล้ว ...มีคุณโน้ต (เพชรพันศิลป์) เขาไปอยู่ในเหตุการณ์ที่ ถ.บรรทัดทองมา (เหตุคนร้ายปาระเบิด) เขาเล่ามาว่า.. วันนี้ มีสามสิ่งที่แปลก (๑๗ ม.ค.๒๕๕๗) ในฐานะที่นับถือศาสนาพุทธ ผมยังคงเชื่อเรื่อง กรรมวิบากของตน... ทุกอย่าง บนโลก ไม่มีเรื่องบังเอิญ อาตมาดูอยู่ที่สันติอโศก เขาก็ถ่ายภาพออกอากาศ เขาถ่ายภาพ เห็นคนทำการณ์ ๒-๓ คนเดินอยู่บนดาดฟ้า อาตมาดูอยู่ เห็นตัวบุคคลทำการณ์ อยู่บนตึกเลย แต่ว่าเขาอยู่ ที่ตรงนั้น ไม่เห็นหรอก พวกเราไม่ได้ เข้าไปข้างใน จนเขาพังรั้วเข้าไป ก็นาน กว่าจะเข้าไปได้ ถ้าอยากได้ภาพ อาตมาก็ให้สัญญาณ แก่ผู้ที่อัดไว้ไปดูได้ อันนี้เป็นความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าด้วย ทุกอย่างมาแต่เหตุ ไม่มีเรื่องบังเอิญ ๑ บวก ๑ เท่ากับสอง ๒ บวก ๒ เท่ากับ ๔ อยู่ดีๆ มาเลยไม่ได้ มาแต่เหตุทั้งสิ้น การกระทำของคน เป็นวิบาก เป็นผลเป็นทรัพย์ของผู้นั้น ทำชั่วทำผิด เป็นของผู้นั้น ทำดี ก็เป็นของผู้นั้น อย่างแท้จริง การกระทำเป็นของตน หรือกรรม มันก็สั่งสม ในอัตภาพ แต่ละคน มีอยู่ในอัตภาพ มากมาย แต่ละคนที่ ถ้าได้ฝึก ก็สามารถ ย้อนระลึกได้ ไปในอดีต ถ้ามีความสามารถ จะทำได้ มันไม่หายไป ถ้าระลึกได้ ก็จะรู้ได้ ถ้ามีบารมี มีความสามารถเท่าใดๆ ก็สามารถรู้ได้ละเอียด ชัดมากขึ้น เท่านั้น ว่าพระพุทธเจ้า ท่านเกิดมา เป็นเจ้าชาย สิทธัตถะ ท่านก็ระลึกไม่ออกว่า เป็นพระพุทธเจ้า แม้มีพราหมณ์ มาทำนายไว้ ก็ตาม จนกว่าจะวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ก็ตั้งใจระลึกชาติ เหมือนคนโลกๆ นี่แหละ แต่ท่าน มีบารมีมาก ก็เลยระลึกได้ อย่างพุทธ ระลึกแล้วรู้จัก ปรมัตถ์ด้วย รู้ว่าเราเกิด แต่ละชาติ ได้ปฏิบัติอย่างไรมา นี่คือการได้ปรมัตถ์ คนไม่ได้เรียนรู้มา ไม่ได้ฝึก ก็ทำไม่ได้ ถ้าไม่ได้ฝึก โลกุตรธรรมมา ระลึกไปเท่าไหร่ ก็ไม่มี พระพุทธเจ้าท่านได้ฝึกมา ได้มาแล้ว ก็ระลึกได้ รู้ตัวว่า ท่านเป็น พระพุทธเจ้า คืนนั้น ก็ตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้า ไม่ใช่ว่าการปฏิบัติธรรม คือนั่งหลับตาทำ แต่ว่า ท่านได้นั่ง ระลึกชาติของท่าน ที่ท่านสั่งสมมา ท่านมีของท่านอยู่แล้ว อาตมาก็ได้ระลึกรู้ สิ่งที่อาตมามีมา หลายปางแล้ว มาพูด ไม่ได้โมเมพูด นี่ไม่ใช่ การอวดอ้าง อุตริมนุสธรรม แต่เป็นการยืนยัน สัจธรรม ที่อาตมาเกริ่นเรื่องกรรม เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และไม่ตั้งอยู่ ดับไป และไม่ดับไป ธรรมดาของ ไตรลักษณ์ ในปัจจุบัน จะมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป แต่สิ่งที่สะสมในจิต จะไม่เกิดขึ้น ไม่ตั้งอยู่ และไม่ดับไป เช่น เราสัมผัสเห็น มันก็เกิด มันก็ตั้งอยู่ แต่พอเรา ไม่สัมผัส มันก็ดับไปแล้ว แต่สิ่งที่เราเห็น แล้วเราประทับใจ เมื่อเราไม่สัมผัส โดยปัจจุบัน มันก็ดับไป แต่ไม่ได้ หมายความว่า สิ่งที่ได้เห็น อาจชอบด้วย ติดด้วย มันก็อยู่ในอนุสัย เป็นวิบาก อยู่ในอนุสัย ปัจจุบันมันแม้ดับไป แต่ไม่ได้หมายความว่า จะหายไปจากอัตภาพ อาจลืมได้ นึกไม่ออก แต่ถ้าไม่ได้ล้าง อุปาทาน ไม่ได้ล้าง ความยึดมั่น ว่าเป็นเรา เป็นของเรา ไม่ใช่แค่ภาษา แต่ว่าต้องเรียนรู้สภาวะ เห็นด้วยปัญญาว่า. จึงจะวางได้จริง ถ้าไม่เกิดญาณ จนคุณรู้ว่า ใจของเราปล่อยวางได้จริง ผู้จะรู้อาการ ของวิชชาหรือญาณ ได้ปานฉะนี้ คือ วิปัสสนาญาณ ๙ จะเกิดได้ ต้องปฏิบัติ โพธิปักขิยธรรม ๓๗ จรณะ ๑๕ หรือไตรสิกขา จะเรียกอะไรก็ตาม เป็นเหมือนกัน เพียงขยายออกไป โดยปฏิบัติ โพชฌงค์ ๗ อยู่ในฐานของ มรรคองค์ ๘ ไม่ว่าใคร หากทำอย่างถูกทฤษฎีของ พระพุทธเจ้าสัมมาทิฏฐิ ก็จะได้ผลเหมือนกัน ละหน่ายคลาย ดับหรือกำจัดกิเลส ได้สนิทเกลี้ยงจริง เป็นวิธีอย่างถาวร ให้ไม่กลับกำเริบเลย ไม่มีอะไร หักล้าง เปลี่ยนแปลงได้ ตลอดกาล สัสสตัง การเกิด เรียกว่า ชาติ ทางชีววิทยา เขาก็เรียนการสั่งสมเผ่าพันธ์ แล้วไม่ควรเรียก กรรมพันธุ์ น่าจะเรียกว่า สรีรพันธุ์ แต่ของพุทธนั้น เรียนรู้การสั่งสม ในจิตวิญญาณ เป็นกรรมพันธุ คุณสั่งสมแต่อกุศล อกุศลก็เพิ่ม บาปเพิ่ม กิเลสเพิ่ม แต่ถ้าคุณลด กิเลส บาป อกุศลก็ลด ทุกข์ก็ลด แม้ที่สุดหมดเลย เป็นพันธุ์ เช่นพันธุ์โสดาบัน พันธุ์สัตว์นรก ซึ่งคงไม่มีใคร อยากได้ แต่ว่าถ้าไม่ได้ศึกษา ไม่ปฏิบัติ ก็รู้ไม่ได้ ก็สั่งสมพันธุ์ สัตว์นรก โดยไม่รู้ ต้องล้างละไปตามลำดับ ตั้งแต่โสดาบัน สกิทาฯ อนาคาฯ อรหันต์ หมดสิ้นเกลี้ยง แต่หากไม่เรียนรู้ ไม่ฝึกลดละ มันก็เป็น จอมบงการคุณไป ตลอดกาล อันนี้เป็นชาติที่เป็นทิฏฐิ เป็นอัตตา วันนี้จะอธิบาย ชาติประเทศ ที่รวมมา ตั้งแต่เป็นรัฐ องค์ประกอบ ของประเทศ ต้องมี มนุษย์ กับแผ่นดิน จบ |
||
|