_570122_พ่อครูที่เวทีป้อมมหากาฬ
เรื่อง วิวัฒนาการประชาธิปไตยไทยอย่างมหัศจรรย์


            ลักษณะอย่างนี้ ความจริงที่ปรากฏมากขึ้น เขาก็ต้องต่อสู้ ฮึดสู้ใหญ่เลย จนมาถึงวันนี้ เขายิ่งดิ้น เขาก็ยิ่งหลุด หรือเขายิ่งสู้ เขายิ่งเป็นจริง ว่าใครผิด หรือใครถูก การสู้กัน โดยสันติธรรม โดยสัจธรรม แต่ถ้าสู้กันด้วย ไม่สัจธรรม เอาใครมีกำลัง มีเล่ห์เหลี่ยม มากกว่า โกงมากกว่า ด้วยอำนาจเงิน หรืออาวุธก็ชนะได้ เป็นเช่นนี้มาตลอด สำหรับคนมีใช้มาก ซัดกันด้วยอำนาจเงิน หากใคร ยึดอำนาจได้ ผู้นั้นเป็นผู้ชนะ แต่ทางสัจธรรม ผู้มีความถูกต้อง มีคุณธรรม ชอบธรรมกว่า คือผู้ชนะ ไม่ต้องม ีเงินทอง ทรัพย์สิน มาเป็นเครื่องวัด แต่เรายืนยัน ความถูกความผิด ใครผิดแพ้ ใครถูกชนะ ใครดีชนะ ใครชั่วแพ้ การรบที่เราทำนี่ เป็นการต่อสู้ที่ ไม่เหมือนก่อนๆ ที่ต่อสู้กันมา แล้วใช้อำนาจเงิน

            อย่างการเมืองไทย ตั้งแต่เริ่มมาเป็นประชาธิปไตย อำนาจเป็นตัวชนะ มาเรื่อยๆ ตั้งแต่ พศ.๒๔๗๕ มาเรื่อยๆ จนล้มลุกมามาก มีอำนาจและเงิน ก็มาสมทบ จนรู้ว่า เงินสามารถเบิกทาง ให้ได้อำนาจใหญ่ขึ้นได้ ก็มีทั้งขุนศึกและนายเงิน ตอนแรก ก็มีแค่ ขุนศึก ต่อมาก็มีนายทุน มาสนับสนุนมากขึ้น แต่เดิม เขาก็ไม่อยากให้ใครรู้นะ นายทุน ยังไม่ออกตัว อาศัยอำนาจ ที่บริหารปกครองบ้านเมือง ถือว่าอำนาจใหญ่เบ่งข่ม คนกลัว ในสังคม เป็น Force power อำนาจข่มขี่คุกคาม เป็นอำนาจโลกีย์ เดรัจฉานก็ทำ แต่โบราณมา คนก็ทำกันมาก จนกระทั่ง เกิดภูมิปัญญามาเห็นว่า อำนาจแห่งความเมตตา อารีย์เป็นอำนาจ ก็ดีขึ้นมา

            แต่ก็เป็นการใช้อำนาจ อย่างข่มขี่เล่ห์เหลี่ยม มาจนเป็น ประชานิยม คือเอา ความช่วยเหลือ มาบังหน้า ไม่ได้เบ่งข่ม แต่เป็นอำนาจที่ซ้อนอยู่กับ ทุนสามานย์ จนพัฒนามาเรื่อย ในประเทศไทย แต่ต่างประเทศ เขาก็ทำกัน แต่ละประเทศ นับถือศาสนา ไม่เหมือนกับพุทธ แต่ก็ไปสู่ความดี เหมือนกัน

            ไทยเราเป็นพุทธ มาแต่อ้อนแต่ออก พัฒนามา จนวันนี้แล้ว เรามีทุนรอน มาแต่เดิม ของพุทธเป็นโลกุตระ ต้องลดอำนาจ ของลาภยศ มันกลับทวนกระแส แล้วเป็นอำนาจ ของคุณธรรมที่แท้ สมบูรณ์ ก็กระเตื้องขึ้นมา จนถึงรุ่นของเรา ๒๕๐๐​ มา ย่างเข้า จนมาถึงบัดนี้ ก็ชัดขึ้น มีโลกุตรธรรมมากขึ้น จนเห็นผล ในบัดนี้

            ซึ่งเป็นการแสดงความเป็นจริง ของพฤติกรรมคน ที่ไม่ล่อหลอก จริงใจ ปรารถนาดีต่อกัน ไม่ใช้อำนาจ ลาภยศสรรเสริญ มาเป็นตัว ผสมแรง แต่ใช้คุณธรรม ล้วนๆ มีสาราณียธรรม ๖ พุทธพจน์ ๗
๑.         สาราณียะ (รู้จักระลึกถึงกัน คำนึงถึงคนที่ควรเอื้อ)
๒.        ปิยกรณะ (รักกันสัมพันธ์ดี-ปรารถนาดีต่อกัน) .
๓.        ครุกรณะ (เคารพกัน รู้จักฐานะ รู้จักคุณวุฒิ)
๔.        สังคหะ (สงเคราะห์เกื้อกูลช่วยเหลือกัน) . . .
๕.        อวิวาทะ (ไม่วิวาทแตกแยกกัน) .
๖.         สามัคคียะ (พร้อมเพรียงกัน มีพลังรวมยิ่งใหญ่) .
๗.        เอกีภาวะ (เป็นปึกแผ่น มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน)
            จนสภาพตอนนี้ จัดแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่เราทำ กับกลุ่มของรัฐบาล ที่กระทำ ไม่ถูกต้อง จนเราต้องมาจัดการ ให้ดีขึ้น เป็นอำนาจสองอย่าง คืออำนาจอย่าง กดขี่ข่มเหง กับอำนาจโดยธรรม มีจิตวิญญาณประเสริฐ มีจิตวิญญาณพระเจ้า เป็นจิตวิญญาณของ มนุษยสัมพันธ์

            ก็มีการตำหนิติเตียนกันบ้าง ดีไม่ดี ก็ด่ากันด้วย เพราะว่ามนุษยชาติ ก็จะมี อย่างนี้อยู่ เป็นธรรมชาติ แต่ไม่ทะเลาะวิวาท ไม่ทำร้ายร่างกายกัน เราอาจด่ากันได้ อาจด่ากันได้ แต่ด่าก็คือ ตำหนิอย่างแรง ด้วยภาษาร้ายแรง ก็เท่านั้น พพจ. ท่านเรียกว่า หอกปาก มุขสตี ไม่ได้ทำร้าย เกินกว่านั้นเลย ไม่รุนแรง จนเลือดตก ยางออก ไม่ทำ  แล้วจะลดลงๆ จนสุภาพ เรียบร้อยไม่ด่าว่ากัน แต่ว่าสุดวิสัย ก็ด่ากันบ้าง ตำหนิติเตียนกัน แต่ว่าไม่มีทำร้ายร่างกายกัน ไม่ทำ

            ชาวเราที่รวมกลุ่มกันมารบกัน กับที่เขาเป็น เขาก็ใช้แบบโลกๆ แต่พวกเรา ใช้อย่างอาริยะ ในแกนแท้ ของพวกเราที่ทำ นอกจาก ยังมีพวกที่หลง ที่หลุด ก็มีบ้าง ขาดหก ตกหล่น พวกที่ภูมิธรรม ยังไม่ถึง มาผสม ปนมาบ้าง ก็สุดวิสัย แต่โดยแท้แล้ว พวกเรา รักษาคุณภาพ ของคุณธรรม ได้อย่างดีทีเดียว ๓ เดือนมานี้ เรามารวมตัวกันเป็น กปปส.นี่ เราทำได้ โดยเฉพาะ แก่นหลักแก่นกลาง ดังที่เลขาธิการ กปปส. กำนันสุเทพ จะประกาศไปตลอดว่า เราสู้ด้วยสงบรำงับ ไม่ใช้อาวุธ ไม่รุนแรง นั่งสงบ และเรา กองทัพธรรม ทำมาตลอด เราถนัด ก็ยืนหยัดยืนยันมาได้ จนทุกวันนี้

            เรารบกันด้วยสงบ ไม่ใช้อาวุธ นี่เป็นการสร้างอำนาจอธิปไตย ชนิดที่เป็น พลังพิเศษ แห่งความสงบ ถูกต้องดีงาม เป็น Authority ไม่ใช่การรบด้วยการ ใช้กำลัง กดขี่ กดข่มกัน คุกคามกัน เราไม่ใช้กำลังอำนาจอย่างนั้น เราใช้คุณความดี กับความถูกต้อง ใครชั่วใครไม่ดี คนนั้นแพ้ ผู้ถูกต้อง มีคุณงามความดี ผู้นั้นชนะ

            มาถึงวันนี้พิสูจน์กันไปแล้ว รัฐบาลทำไม่ชอบธรรม จนเขาผิด เขาแพ้ ยิ่งผิด ก็ยิ่งแก้ตัว ไม่ยอมรับ ก็ทำอย่าง รุนแรงซับซ้อน เขาก็ยิ่งหาความผิดทับทวี เป็นปฏิภาค จนถึงวันนี้ ก็ยิ่งทำผิดไปอีก เพราะเขาทำจนหมดความชอบธรรม ที่จะไปเป็นรัฐบาล หมดทั้งทางรัฐธรรมนูญ​ หมดในสัจธรรม จนเขากลายเป็นกบฏ

            เราทำอย่างถูกรัฐธรรมนูญ จะมาเรียกว่า เราเป็นกบฏ ไม่ถูก แต่ที่จริง กบฏคือเขาแล้ว เขาหมดความชอบธรรม เพราะเราออกมาถึง เป็นล้านคน ก็เป็นจำนวนมาก ไม่ใช่เรื่องบังคับซื้อหา หลอกมาก็ไม่ แต่เป็นอิสระ เสรีภาพ มาแสดง คะแนนเสียง ตามหลักประชาธิปไตย อย่างไม่เคยปรากฏในไทย มาก่อนเลย

            มีสองลักษณะ ทั้งคุณภาพ และปริมาณ

            คุณภาพ ออกมาอย่างไม่ทุจริต ไม่ใช้อำนาจ เลห์กล ไม่ซื้อ ไม่บังคับ ไม่หลอกลวง มีอิสร เสรีภาพ  รู้ด้วยปัญญาว่า ขับไล่รัฐบาล ขอยึดอำนาจคืน เพื่อจัดการใหม่ ปฏิรูปใหม่ ก็ได้ประกาศไปแล้ว ทำไปแล้ว อย่างรัฐศาสตร์ ตามสากลเลย เนื้อแท้คือ ประชาชน มาปฏิวัติ แม้ไม่มีภาษาเขียน ในรัฐธรรมนูญ

            ทุกทีเขาปฏิวัติ ด้วยกำลังทหาร หรือ Force ทั้งสิ้น แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แล้ว หลายที มีคนทำอย่างนี้  แต่ว่ามวล ไม่มากพอ แม้จะยืนยันว่าถูกต้อง และถูกต้องจริงด้วย แต่ก็มวลไม่ถึง จนมาถึงกลุ่ม พธม. ก็พยายามใช้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหลัก พยายาม เอาธรรมนำหน้า จะได้จริงได้มาก ได้คุณภาพดีเท่าไหร่ก็ตาม ก็พัฒนามาเรื่อย อาตมา ก็ได้นำ ชาวอโศกมาร่วม เอาธรรมะโลกุตระ หรืออาริยธรรม มาแทรกผสม ร่วมปฏิวัติ ค่อยๆ วิวัฒนาการมา

            จนมาครั้งเสธ.อ้าย ก็ยังปริมาณไม่ถึง ทำด้วยสงบ ไม่มีอาวุธ ไม่เอากำลัง ข่มขี่ คุกคามด้วย เราก็โดน จนต้องพักมา งวดหลังนี่ มาสมทบกับกปท. เราก็มาสมทบ จนมาเป็น กปปส. ก็ยังใช้ธรรม เป็นอาวุธ จนมาถึงขณะนี้ ทั้งปริมาณก็ก้าวหน้า อย่างไม่เคยเกิด ในไทยมาก่อน จนกระทั่ง เป็นล้านคน ทางนิด้าได้ประเมิน ตามวิชาการแล้ว ว่าได้ถึง ๑๐ ล้านคน ซึ่งมีทั้งปริมาณ และคุณภาพ ที่เป็นคุณธรรม ผสมอยู่ ประสิทธิภาพ จึงประเสริฐนัก จะเป็นผล ที่กล้าพูดได้ว่า ชนะรายทาง มาตลอดเวลา จะว่าไปแล้ว ข้าศึกหลังติดฝาแล้วนะ คู่ต่อสู้ ดิ้นรนสุดที่แล้ว คุณเปลว สีเงิน บอกว่า เป็นมวยสิ้นสภาพ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ นับวัน เหลือแต่ตำรวจ สี่หรือห้านาย รายล้อม แซมปลัดกลาโหม

            เป็นการรบที่วิเศษ วิสุทธิ์ วิศิฏฐ์ เป็นการเริ่มการรบ ทางรัฐศาสตร์ ของพวกเรา จงมั่นใจเถิด

            มีคิงส์วิลเลี่ยมที่ ๓ ได้เคยพูดไว้ว่า... These is one certain mean by which I can be sure never to see my country's ruin; I will die in the last ditch. แปลว่า มีอยู่วิธีที่แน่นอน อยู่วิธีหนึ่ง ซึ่งสร้างความมั่นใจได้ว่า ข้าพเจ้าจะไม่ต้องเห็น ความย่อยยับ ของประเทศข้าพเจ้า นั่นคือ... ข้าพเจ้าจะขอตาย อยู่ในคูรบ แห่งสุดท้าย....

            นี่เป็นยกสุดท้ายแล้วนะ ถ้ามวย ก็ยก ๑๒ แล้วนะ มวยของพวกเรา ก็ไม่ใช่ มวยหมัดน็อค ใช้กำลังหมัดเด็ด ไปฆ่าไปทำร้าย แต่เป็นมวยที่ใช้ คุณธรรมศิลปะ ความถูกต้อง

            การรบของเราถึงช้า เพราะพิสูจน์กับ คนมีกิเลส ยึดติดด้านทน ก็ใช้ทั้งมวล ทั้งความจริง มาแสดงยืนยัน เราต่อสู้กับคนที่เลวร้าย หน้าด้าน หน้าทนมาก เลวร้ายต่ำทราม ทุจริตอกุศลหนัก ซับซ้อน ใจจืดใจดำ หนักเลย ที่เห็นคือ ตัวต้นหลัก ทำไมถึงอำมหิต กับน้องสาวขนาดนี้ ปล่อยให้เป็น หนังหน้าไฟอยู่ แทนที่ จะยกธงขาว ยอมแพ้ นี่คือความใจจืดใจดำ ก็เห็นคนมา ทำไมถึงเลวร้าย ได้ถึงขั้นขนาดนี้

            แล้วใช้ฤทธิ์ของโลกธรรม หลอกล่อให้คนงมงาย หลงใหลติดยึด เป็นอำนาจโลกีย์ เขาทำได้ แต่ก็ลดลงๆ เรื่อยๆ ก็ต้องช้า เสียเวลาพอสมควร ก็ขอยืนยันว่า ต้องอดทนหน่อย มันนาน ก็เห็นใจกัน ต้องใช้ความอดทน อย่างมาก หนักหนาสาหัสมา จนป่านนี้ แต่ก็เห็นผลก้าวหน้า ชนะมาเรื่อยๆ
           
            เรารู้สึกว่า เราชนะรายทางอยู่ จริงไหม หรือว่าเรากลบเกลื่อนเอา หลอกตัวเองไหม ก็ใช้วิจารณญาณ ตรวจสอบดูนะ เราก็พัฒนามาเรื่อยๆ จนจะยกสุดท้าย แล้วนะ ข้าศึก หลังติดฝาแล้วนะ มีผู้อธิบายว่า ข้าศึก ถ้าจะแพ้ ก็ต้องหาวิธี ที่จะดิ้น พลาดๆ เราก็เห็นว่า ดิ้นจริงๆ จริงๆเขาไม่มีสิทธิ์ ที่จะประกาศ พรก. ฉุกเฉินอะไรนี่นะ

            เป็นการประกาศ พรก. ฉุกเฉินปลอม เป็นประกาศกงเต็ก  เป็นแบงค์ปลอม  (เปลว สีเงินใช้ภาษาว่า “สิ่งเทียมรัฐบาล” หรือ “รัฐบาลสิ่งเทียม”) เขาไม่มีสิทธิ์ทำได้ ที่จริง แม้รักษาการณ์ เขาก็ไม่มีสิทธิ์ เขาหลุดไปโดยธรรม เราก็ประกาศโดย ประเพณี สากล ไทยเราอาจไม่เคยมี ประชาชนยึดอำนาจ แต่ประชาชน สามารถ ยึดอำนาจได้ โลกนั้นกลัว อำนาจปืนอาวุธ เมื่อมายึด เขาก็ยอมได้ พอยึดได้ ก็สั่งให้ผู้ทำงาน คณะต่างๆ ในประเทศ ทำหน้าที่ได้เลย สงบยอมได้เลย มารายงานตัว เป็นธรรมเนียม สากลเลย

            แต่การปฏิวัติโดยประชาชน ถ้ามีทหารมาทำร่วม ก็ทำได้สำเร็จก็มี แล้วทหาร ก็ยกอำนาจให้ประชาชนทำ ทหารไม่ยึดอำนาจไว้เอง ก็มี ทำได้สำเร็จ ไทยเราก็เคย ทำมาอย่างนั้น ซึ่งไทยก็กำลังทำ อย่างที่เป็น ประชาชนทำมา แต่ถ้าทหาร จะมาร่วม ก็มาแสดงตัวว่า อยู่ข้างประชาชน ไม่ต้องเอาอาวุธมาเลย แล้วประเทศไทย จะได้เป็น ประชาธิปไตย ที่สวยงามที่สุดในโลก

            ประชาชนไทยมารวมกัน เป็นประชาชนปฏิวัติ ด้วยพลังงานสงบ เรียบร้อย เอาความจริง ความถูกต้อง มายืนยัน ส่วนจะมีมือที่ ๓ มาทำความรุนแรง แทรกแซงก็มี แต่ความรุนแรง ไม่ได้เกิดจากพวกเราเลย ถูกใส่ความมาตลอด

            ต่อไป ถ้าเจริญแล้ว ก็เป็นประเพณี ว่าประชาชน จะปฏิวัติ ก็เป็นเพียง สัญลักษณ์ เมื่อเขาผิด ก็ออกมา ทำสัญลักษณ์ จะไปปิดกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ ก็ไปทำ เราก็จะมี ประเพณีต่อไป ซึ่งตอนแรก ก็อาจดูเหมือนคุกคาม ที่คุณลูกหมี ไปที่ดีเอสไอ ก็เป็นเพียง ไปบอกว่า คุณหยุด อย่าไปทำงาน ให้รัฐบาลที่ผิด ก็ไปเอากุญแจไปใส่ ลูกเล็กๆ บางที เขาก็บอก ให้ไปปิด เสียด้วยซ้ำ

            ต่อไป ก็ไปเป็นพิธี เอาพลาสเตอร์ไปแปะว่า ปิดแล้วนะ ไม่ต้องเสียเงิน ซื้อกุญแจ ไม่ร่วมมือแล้วนะ ประชาชน มาปฏิวัติ เขาเห็นด้วย เขาก็หยุด เป็นขนบ แบบแผนไป เขาก็ใช้รูปลักษณ์นี้ จะเป็นรัฐศาสตร์ที่สวยงาม เป็นการเมืองประชาธิปไตย ที่สวยงาม ตอนนี้ เป็นรุ่นบุกเบิก อาจยังไม่งาม ไม่รู้ ไม่เข้าใจวิธีการ นี่คือ วิวัฒนาการของ ประชาธิปไตย...

จบ


 
๑๒ มกราคม ๒๕๕๗ ที่ เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กทม.