570322_พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ที่เวที สะพานผ่านฟ้าลีลาศ
เรื่อง ยอดแห่งประชาธิปไตยของโลก

        ตอนนี้เรามี บ้านราชฯเมืองเรือ กับ บ้านราชดำเนิน ไม่ได้ไปบ้านราชธานี ๗ เดือน ซึ่งนานมาก

        เราก็มาต่อต้าน ต่อมา เขาก็ดื้อด้าน เราก็มาล้มล้างเลย เราทำตามรธน. ม.๖๙ ทำด้วยสันติวิธี ไปชี้กดดัน ไม่ให้ทำงานแล้ว ตามสถานที่ ราชการแล้ว เป็นวิธีการ ด้วยสงบ ไม่ใช้อาวุธ คำว่าสงบ อย่างเก่ง ก็แค่ว่ากล่าว ไม่ได้ทำร้าย ทำลายเลย ก็อยู่ในกรอบ ของสันติ เวลาตำหนิ ก็ต้องว่า แต่ตำหนิแล้ว ไม่กระดิก ก็ต้อง ตำหนิมากขึ้น ถึงด่าว่า แต่ไม่ได้ไป ทำร้ายทำลาย ให้บาดเจ็บ แต่อย่างใด แต่ว่ามีบกพร่องบ้าง ส่วนใหญ่ ไม่ได้เกิดจากเรา แต่หากเป็นพวกเรา ที่ทำรุนแรง เราจับได้ เราก็ลงโทษ ถึงไล่ออกด้วย เราก็ทำ ในคนหมู่มาก เป็นแสน เป็นล้าน ก็มีรุนแรงบ้าง คนก็มารวมกันมาก จะไปจัดการ ให้ทั่วถึงยาก ขาดหก ตกหล่นบ้าง ไม่สมบูรณ์เต็มที่ ในคนที่มาแซม ก็เป็นธรรมดาเลย เราก็พยายามที่สุด ไม่ให้เกิด เราทำได้ขนาดนี้ ๑. เรารักษาความสงบ ๒. ไม่รุนแรง ๓. เรามีคุณธรรม แล้วเราไม่ทำร้าย

        คนพวกเรามีแกนคุณธรรมแท้จริง เป็นหลัก เราก็พูดเตือน ให้สติ ตลอดเวลา

        เราออกมาเป็น ๑ คะแนนเสียง โดยไม่หลอกล่อ หรือจ้างวาน แต่อย่างใด มาด้วยศรัทธาปัญญา เห็นด้วยว่า อย่างนี้ถูกต้อง คนออกมา ๑ คนนี่ ให้คะแนน ๑๐ ก็ยังน้อยไป คะแนนเลือกตั้ง เหมือนกับโฟม แต่คนมาประท้วงนี่ คะแนนเหมือนปรอท คุณภาพ สูงกว่ามาก เช่น ฝ่ายแดง เขาก็ว่าเขาได้ ๑๕ ล้านเสียง แต่ของที่ เขาออกมาไล่ ที่คุณเลือก คนแย่ คนเก๊ ไปทำงาน ซึ่ง ๑ คน ที่มาประท้วงนี่ มีน้ำหนัก ๑๐ ต่อ เพราะฉะนั้น ออกมา ๑ คนเท่ากับ ๑๐๐ คน และคนที่ออกมา ประท้วงนี่ แค่ ๑ ล้านคนก็ ๑๐ ล้านแล้ว ๒ ล้านคนก็ ๒๐ ล้านแล้ว เหนือชั้นกว่า ๑๕ ล้าน นี่คือ ความเป็นประชาธิปไตย ที่ลึกซึ้ง เกี่ยวกับคุณค่า สาระแก่นแท้ของ ประชาธิปไตย ไม่ใช่ว่า ยืนยันแค่ว่า ประชาธิปไตย ต้องเลือกตั้ง แต่นี่เขาเอาตัวจริง ออกมาเลย เขาต้องการ อย่างใด ก็ใช้สิทธิเขา เต็มที่เลย

        ไทยเราไม่เคยเกิดเช่นนี้เลย มวลที่ออกมา เขาประเมินว่า ๑๐ ล้านเลย แต่อาตมาลดให้เหลือ ๕ ล้านเลย ในด้าน ๑. ปริมาณ ใครจะมีมากกว่า และ ๒. ในพฤติกรรม มวลไหน รุนแรง ผิดกฎ ผิดรธน.กว่ากัน ไม่สงบ กลุ่มไหนล่ะหรือ พฤติกรรมแสดงออก กายวาจาที่หยาบ ทุจริตกว่า เลวร้ายกว่า และ ๓​. มโนกรรม หรือคุณธรรม

        วัดกัน ๓ อย่างนี้ใครได้มากกว่าชนะ ไม่ต้องฆ่าแกงทำร้ายกัน นี่คือ ประชาธิปไตย​ ไม่รู้ว่าฝ่ายแดง ใครจะบรรยายได้ไหม นักรัฐศาสตร์ฝ่ายแดง ก็จะมีใคร บรรยาย อย่างนี้ไหม

        ต้องมีฝ่ายค้าน และฝ่ายทำงาน คือต้องตรวจสอบ และทำงาน ถ้าไม่มีค้าน ก็เป็นเผด็จการ เผด็จการหมู่ ไม่ใช่ประชาธิปไตย​ Majority rule แต่ประชาธิปไตย ไม่ใช่ถือมวลใหญ่ เป็นใหญ่ แต่ให้ตรวจตาม Minority right ถ้าเขาถูกต้อง เช่นผู้บริหารผิด แล้วประชาชนออกมา ๑ คน ซึ่งน้อยนะ แต่มีหลักฐานยืนยัน ถ้าผู้บริหาร ปกครอง มีคุณธรรม ปัญญารู้ประชาธิปไตย ไม่หน้าด้าน มีมารยาท ถ้าเขาผิดจริง ก็ลาออก เขาไม่ดื้อด้าน เขาได้รับอำนาจ แทนประชาชน แล้วประชาชน ประท้วงเขา เขาไม่ใช่ เจ้าของอำนาจ แค่ทำงานให้ รับใช้ประชาชน อำนาจทำงาน ตามกรอบของหน้าที่ รมต.ก็มีหน้าที่ตามกรอบ นายกฯก็ทำตาม กรอบ กำหนดกฎเกณฑ์

        อำนาจของประชาชน ๑ คนมาประท้วง โดยมารยาทประชาธิปไตย ถ้าเขาผิดจริง หนูผิดจริง หนูก็ลาออก เพราะเป็นนักประชาธิปไตย​ แต่ว่าบอกหนูไม่ผิด หนูไม่ลาออก หนูไม่ใช่ประชาธิปไตย หนักเข้า ศาลตัดสิน ก็ว่าศาลลำเอียง เข้าข้างไม่ยุติธรรมอีก

        นี่หรือนักประชาธิปไตย กบฎต่ออำนาจ แม้ประชาธิปไตยขาเดียว เขาก็ยกเป็นหนึ่ง พระเจ้าอยู่หัว ท่านตรัส เราไม่เคยทำผิดกฎหมาย เหตุการณ์ ที่เคย มีคนให้ท่าน พระราชทานนายกฯ แต่ท่านไม่ยอมให้พระราชทาน โดยไม่ถูกกฎหมาย แต่ในหลวง ก็เคยได้พระราชทานนายกฯ สัญญา ธรรมศักดิ์ อย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย เพราะมีคน ทูลเกล้าถวาย ให้ลงพระปรมาภิไธย ตามกฎหมาย

        ในหลวงเคยพระราชทานนายกฯ ตามกฎหมาย... ตอนนี้เขาติดว่า คนไหนจะทูลเกล้าฯ ซึ่งจะทำได้ ที่เคยมีมาคือ นายกฯคนเก่า ก็ทูลเกล้านายกคนใหม่ไป หรือ ประธานสภาฯ ก็ทูลเกล้าได้ ตอนนี้ นายกฯรักษาการณ์ ไม่มีสิทธิ​์ แต่ตอนนี้ ประธานสภา ก็ยุบสภาไปแล้ว เหลือสว. ก็มีประธานสภา สว. ตอนนี้ ก็ขาหักแล้ว ศาลชี้ให้หยุด ทำหน้าที่แล้ว แต่ไม่มีประเพณี รองประธานสภาฯ ทูลเกล้าฯ แต่ประเด็นนี้ ไม่เคยมีมา คือสภาประชาชน

        เมื่อนายกฯไม่มี ประธานสภาฯไม่มี ก็ต้องหาตัว ผู้มีอำนาจรองลงมา ทำแทน ทูลเกล้าฯเสนอ ที่นี่มีสภาประชาชน ที่เป็นเจ้าของอำนาจ โดยปฏิภาณไหวพริบ ประชาชน เป็นเจ้าของอำนาจ ทำไมประชาชน จะตั้งสภาเองไม่ได้ และเจ้าของอำนาจ ในขณะที่ ครม.ยุบไปแล้ว สภาฯก็ล้มเหลวแล้ว เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ จึงสมควรที่สุด

        อาตมาเคยอธิบายว่า ประเพณีปฏิวัติ ที่ไม่ถูกต้อง ตามวิถีในรธน.นี้ก็เคยมีมาแล้ว โดยทหาร ก็ทำ โดยคณะราษฎร์ ก็ทำแล้ว เป็นสิ่งผิดรธน. แต่ก็ยอมรับ ให้คณะนั้น บริหารมาต่อเนื่อง แล้วยอมรับกัน ที่ฝ่ายแดง เขาก็มาโวยๆกันอยู่นี่ ก็ทำต่อมาจากทหารนั้นเอง ทั้งที่เป็นอำนาจ ผิดตามรธน. คุณก็จำนน ยอมรับกัน

        อำนาจของประชาชน มารวมตัวกัน ยืนยันเลยว่า คุณผิด คุณล้มละลายหมดแล้ว ขออำนาจคืนประชาชน เราทำอย่างสันติ ถูกต้องตามรธน.นี้ ไม่เหมือน คณะรัฐประหารโดยอาวุธ ผิดรธน. ทำสำเร็จมาแล้ว ทำไมประชาชน ก็มาปฏิวัติ เอาอำนาจ การปกครองประเทศ เมื่อสภาประชาชนตั้งขึ้น ก็เหมือนกับ เมื่อผู้แทน ได้รับเลือกไป ก็ไปสรรหา ตั้งคณะไปทำ แต่นี่ประชาชน ก็จะสรร ตั้งครม. ของประชาชน มาก่อน ประชาชนมีสิทธิ์ ใช่ไหม เขาก็ตั้งคณะ ครม.ของเขา เมื่อสภา หรือ ครม. โดยตัวแทน ล้มละลายไปแล้ว ประชาชน ก็มีอำนาจตาม มาตรา ๓

        เมื่อตั้งครม.แล้ว ก็อาจตั้งคณะซ้อน ให้เกิดวิธีการ ที่ถูกต้องที่สุด เหมือนจะไปจดทะเบียนบริษัท ก็จะมีคณะก่อการ กรรมการก่อการ ก็จะมาจัดหา คณะกรรมการถาวร จะไปบริหารถาวร ต่อไป ฉันเดียวกัน คณะ กปปส.​ ก็จะตั้งสภาประชาชน​ ตอนนี้ เสวนากัน จะสรรหาบุคคล ไปจัดการ เป็นคนที่ มีความรู้สามารถ และเป็นกลางที่สุด ไม่อคติที่สุด อาจเคยอยู่พรรคนั้น ฝ่ายนี้ แต่เขาเป็นคนที่ เป็นกลาง ไม่ใช่ว่า เป็นคนไม่เคยอยู่ฝ่ายไหน แต่เป็นคน จิตเป็นกลาง มาทำคณะก่อการ ตามประเพณีเดิม จะจัดสรร หรือแก้รธน. บางมาตรา แล้วจัดสรรเสร็จ ทำถูกต้อง ตามรธน. อาจแก้บางมาตรา แล้วทำถูก แล้วก็ทูลเกล้าฯไป จะได้ไม่ระคายเบื้อง พระยุคลบาท แต่ก่อน นายกฯคนเก่า หรือประธานสภาฯ เป็นผู้ทูลเกล้าฯ ก็ฉันเดียวกัน ประธานสภาประชาชน ก็จะทูลเกล้าฯ ตามประเพณี เข้ามาตรา ๗ ไม่ผิดกฎหมายใดๆเลย ท่านก็พระราชทานมา ให้เต็มที่ได้เลย วิธีนี้ยังไม่เคยเกิด มันจะเป็นของใหม่ ของสำคัญ แล้วทำได้วิเศษ เราทำได้ถูกต้อง แม้ศาลก็รับรองเรา

        คณะชุมนุมประท้วงนี่ คณะแดงเขาชุมนุม ไม่กี่วันก็เลิกแล้ว นานๆที เขาก็ทำแอ็ค แต่เราทำมา ๗ เดือนแล้ว สันติ ไม่ใช้อาวุธ ใครจะเหนือใครกันแน่ อาตมาขอท้า แดงเอาอย่างกปปส. ทำบ้างสิ ยืนหยัด ยืนยัน ทำบ้างสิ เราก็มีน้อย หรือมากบ้าง แต่ก็รักษามวล อยู่ประจำ แต่ละวันๆ ไม่น้อยเลย แดงลองดูบ้างสิ จะทำได้อย่างนี้ บ้างไหม? เอาสัก ๖ เดือน หรือ ๔ เดือน เท่ากปปส.ก็ได้

        ๑.ปริมาณ ๒.คุณภาพ ๓.คุณธรรม ๔.สงบสันติ ๕. มีระยะเวลายาวนาน ทำได้อย่างนี้ เป็นคะแนน ประเสริฐยอดเยี่ยม เมื่อเราจะมารวม บางคนก็ต้อง ทำมาหากิน ก็ต้องไปบ้าง แต่มีมวลหลัก ตามแต่ละเวทีของเรา ก็มีมวลหลัก ประจำเลย อย่างที่นี่ กลุ่มกองทัพธรรม ประจำเป็นหลักนี่ ไม่อยากพูดยกตัว แต่พูดเพื่อ ยืนยันสัจธรรม

        เนื้อหาประชาธิปไตย ที่ประชาชนมาใช้สิทธิ แสดงอำนาจ ก็ออกมายืนยัน ความรู้ความจริง ต้องการเปลี่ยนแปลง คณะรัฐบาล พูดตรงที่สุด ไม่อ้อมค้อมเลย แม้รัฐบาล ถูกพิพากษา ไปแล้ว จนเขาต้องยุบสภาเอง จนเขาทำเอง ก็ถกกันอยู่นี่ มารักษาการ ก็ต้องเลือกตั้ง ก็ทำการเลือกตั้ง กกต. ก็จัดการเลือกตั้ง แล้วเรียบร้อย แต่เลือกตั้งแล้ว ไม่เรียบร้อย ไม่เป็นไปตามรธน. สส.ไม่ครบ หลายจังหวัด ไม่ลงสมัคร หรือเลยเวลากำหนด สรุปคือ เลือกตั้งล้มเหลว ไม่เป็นเลือกตั้งวันเดียว เมื่อผิดรธน. ก็ต้องให้ มหาประชาชน รับทอดไป ทำงานต่อ ปฏิบัติต่อ ทำไม ไม่ให้เกียรติ กับประชาชน ประชาชน ไม่มีอำนาจอธิปไตยหรือ? อยากจะถาม นักรัฐศาสตร์??

        ประชาธิปไตยเลือกได้ ไม่ต้องฆ่าแกงกัน ให้คุณไปทำงาน แต่เมื่อคุณไม่ทำหน้าที่ ก็ให้ไปทำงานการเมือง ภาคประชาชน ​เช่น ให้ความรู้ประชาชน ให้การศึกษา แก่ประชาชน เราก็ตั้งรร. ต้องวิทยาลัย เหลือแต่มหาวิทยาลัย เราทำโรงเรียน มาหลายสิบปีแล้ว ไม่ได้เก็บค่าเรียนด้วย เราทำภาคประชาชน ให้การศึกษาจริงๆ ผู้ได้รับการศึก ษาจากเรา ก็ไปเป็นประชาชน ไปเรียนต่อ ไปทำงาน นี่คือการเมือง ภาคประชาชน

        หรือภาคเศรษฐกิจ เรามีระบบเศรษฐกิจพอเพียง ขาดทุนของเรา คือกำไรของเรา ทวนกระแสทุนนิยม ทำได้จนเป็น กลุ่มอโศก ในเรื่องของงาน ที่ทำให้แก่ ประชาชน เช่น ให้ช่วยดูแลสังคม เราไม่ได้ทำอย่าง โรงเรียนเอกชน ที่มีค่าเทอม แต่ของเรา ไม่ได้เก็บค่าเรียน เลี้ยงดู เหมือนลูกหลาน ให้เรียนฟรีเลย เศรษฐกิจ เราก็ทำแบบ เศรษฐกิจพอเพียง แบบคนจน ขาดทุนของเรา คือกำไรของเรา อยากให้ดีกว่านี้ ก็พากเพียรอยู่

        แม้แต่ การสื่อสาร เช่น FMTV ขออภัย เหมือนพูดยกตัว แต่ขออ้างอิง ไม่มีจิต อยากอวดดี ที่จริง ไม่อยากอวด เพราะคน จะเข้าใจผิดได้ง่าย การสื่อสารเรานี่ ตอนแรกก็ว่า มีโฆษณา แต่ว่าตอนหลัง พอไหว เราก็ไม่ให้มีโฆษณา ใช้เงินชาวอโศก ทำเองเลย หรือคนมีสิทธิ ตามกติกา ที่จะมาร่วมกันทำได้ นอกนั้น ชาวอโศก ก็ทำกิจการ ในการทำงานสื่อสาร ชาวอโศกบริจาค หรือทำงานมาใส่ เราได้มาจาก สขจ. งานขยะ เป็นต้น เรามีคนทำงานฟรี เป็นเรื่องมหัศจรรย์ เราทำตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ นี่รวมปีที่ ๗ แล้วนะ นี่ก็สื่อสาร ประชาธิปไตย เพื่อประชาชน ให้ประโยชน์ แก่ประชาชน แม้แต่สื่อสารเจ้าอื่น เราเห็นอันไหนดี เราก็มารีรัน ให้ ไม่ได้เอามาหาประโยชน์ เขาก็รู้อยู่ หลายที่ก็ยินดี ไม่ว่าเรา เราก็เอามาออกให้ หลายเจ้า เราก็ทำหนังสือไปขอ เขาก็ให้ใช้ได้ เราไม่ได้เอามา ทำมาหากิน เขาก็ต้องการสื่อสาร กับประชาชน มันกลับเสริม ให้กับเขาด้วย เขาไม่ติดใจ สนับสนุนด้วย นี่คือสื่อสาร เพื่อประชาชน นี่คือการเมือง ภาคประชาชน    

        หรือการอื่นๆ แม้แต่สุขภาพ เราก็ทำอยู่ หรือด้านสังคม เราก็ทำ เพื่อ พหุชนหิตายะ (เพื่อหมู่ชน เป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุข ของหมู่ชน เป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ (รับใช้โลก ช่วยโลก)

        นี่คือประชาธิปไตยของชาวอโศก
        ความเป็นประชาธิปไตย แต่แฝงเผด็จการ เผด็จการ คือใช้อำนาจตน เพื่อแสวงหา ลาภ ยศ สรรเสริญ เอามาเพื่อเสพกาม หรือ บำเรออัตตา คือได้ดั่งใจ อันไม่เกี่ยวกับ กามคุณ ๕ คือได้สมใจข้า อย่างนี้ เช่น ขอเขกหัว ซักทีซิ นี่คือบำเรออัตตา

        ผู้ที่สร้างอำนาจด้วยอัตตา หรือโลกธรรม นี่คือเผด็จการ จะใช้ด้วยวิธี ล่อให้หลงเห่อ ก็ตามที สรุปคือ ทำงานแฝงโลกธรรม ไม่ใช่ประชาธิปไตย สมบูรณ์ แน่นอน มีกิเลส ก็ต้องพยายามลด นั่นคือ มีประชาธิปไตยสูงขึ้น และเมื่อลดได้หมด นักประชาธิปไตย ตัวจริงแท้ คืออรหันต์ มีโลกุตรจิต บริบูรณ์ ส่วนผู้ที่บอกว่า บรรลุอรหันต์ แต่ไม่มีโลกวิทู ไม่มีโลกานุกัมปา ได้แต่หนี ไปป่าเขาถ้ำ ไม่เกี่ยวกับใคร นั้นคือ ไม่ใช่พุทธ ไม่มีพหุชนหิตายะ (เพื่อหมู่ชน เป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุข ของหมู่ชน เป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ (รับใช้โลก ช่วยโลก)

        เขาสอนกันผิด อาตมามารื้อฟื้น ให้พวกเราทำได้ จึงมีคนพุทธ อย่างที่พวกเราได้ทำกันมา อ้างอิงจาก พระไตรฯ ฉบับเถรวาท นี่แหละ ยิ่งทำยิ่งตรง แต่เขาอธิบาย เพี้ยนไปไกลเลย จนค้านแย้งกับ พระพุทธเจ้าเลย

        สรุปอีกที พุทธนี่คือ ยอดแห่ง ประชาธิปไตยของโลก พระพุทธเจ้า ทุกพระองค์คือ จอมประชาธิปไตยของโลก เพราะเข้าใจ โลก อัตตา และธรรม ท่านก็แจกแจง ในศัพท์ว่า

        โลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย และธรรมาธิปไตย
        อำนาจพลังแรงฤทธิ์เดช ของคุณธรรม อย่างโลกๆเรียกว่า โลกาธิปไตย คนทางโลก เขาใช้อำนาจแบบโลกๆ ได้ลาภก็ใช้ลาภ ได้ยศก็ใช้ยศ ใช้สรรเสริญ มากดข่มคนอื่น แทนที่จะใช้ลาภ ยศ อำนาจ โดยธรรม ไม่ไปกดข่มใคร ใช้ทำงาน คนอื่น เขานับถือยกย่องเรา เพราะเรามีสิ่งดีให้เขา เขานับถือเอง เป็นสัจจะ ในตัวเอง หรือทำดี จนคนรู้ ลือกระฉ่อนไป ก็เป็นสัจธรรมเอง

        ผู้รู้จักโลกไม่ตกเป็นทางโลกธรรม เรียนรู้กามและอัตตา ไม่ตกเป็นทาส กามและอัตตา ที่เป็นสองข้างของโลก คนไหนหลงกาม ก็เป็น กามสุขขัลลิกะ คนไหนหลงอัตตา ก็เป็น อัตตกิลมถานุโยค เมื่อเรียนรู้ กามและอัตตา จนไม่มีเลย ทั้งสองข้าง ไม่มีเหลือ ทั้งฝ่ายกาม และอัตตา ไม่มีอันตา ฆ่าหมดทั้งมานะ อุทธัจจะ และ อวิชชาเกลี้ยง อรหันต์จึงเป็น ผู้เป็นกลาง เป็นนักประชาธิปไตย

        ศาสนาพุทธ ไม่หนีโลก แต่รู้เท่าทันโลกธรรม รู้เท่าทันอัตตา รู้เท่ากันกาม ไม่สร้างกิเลสให้คน แต่จะมีลาภโดยธรรม ไม่ต้องการมา แต่เขาก็จะมาบริจาค อุดหนุนให้ คนนี้เขาไม่ทำ เพื่อตัวเอง ทำเพื่อคนอื่น คนก็เต็มใจเอามาให้ สะพัดออกไป เป็นนักเศรษฐศาสตร์ ชั้นหนึ่ง มีอำนาจหน้าที่ ก็จะรู้ทำงาน คนเขามอบให้ทำ เราก็ทำ ไม่เป็นคนรับจ้าง แต่ทำงานฟรี ส่วนทำแล้ว คนจะสรรเสริญ ก็เป็นธรรมชาติ แต่ไม่มีกามและอัตตา ลดไป ตามลำดับไป

        ยิ่งเป็นอรหันต์ ยิ่งชำนาญ ไม่เป็นคนด้อย ที่ไม่รู้จักโลก แต่อยู่เหนือโลกีย์ เป็นคน โลกานุกัมปา ที่คนยกย่อง ให้อยู่เหนือหัว เช่นในหลวงเรา เป็นต้น เป็นเรื่องสัจธรรม ไม่ใช่ศักดินา ในหลวงเรา รับใช้ประชาชน (ไม่ได้หมิ่นฯนะ )แต่ท่านดูแลประชาชน ตั้งแต่รับครองราชย์​ ในหลวงเรา ไม่เคยผิดรธน. แต่คนไม่รู้ หาว่าในหลวง เป็นพวกศักดินา เขาไม่รู้เรื่องเลย คณะโน้น เขามีนักรู้ แล้วไปหลง มาร์กซิส ไปหลงฝ่ายแดง ที่เห็นวัตถุเป็นหลัก ไม่เข้าใจจิตวิญญาณ แต่พวกเรา ไม่ใช่จิตนิยม แต่เรารู้ว่า จิตเป็นนายวัตถุ

        ฝ่ายแดง เป็นธาตุจิต เชิงฉลาดเฉกา แกมโกง เผด็จการซ้อน ชนิดหนึ่ง ในประชาธิปไตย หรือในสังคมนิยม สังคมนิยม คือประชาธิปไตย นี่แหละ ในมวลประชาชน คือสังคมประเทศ จริงๆ ก็หมายความว่า เพื่อประชาชน แต่จริงๆ เขาใช้อำนาจบาตรใหญ่ รวมตัว เป็นคณะคอมมิวนิสต์ บริหาร ก็เป็นความคิดที่ดี ว่าให้เป็น คณะบริหาร แต่เขาไม่ได้เรียนรู้ ลดละกาม และอัตตา พวกมีบารมีบ้าง ก็ทำดีตอนแรก แต่ว่าอยู่ไป กิเลสก็ขึ้น ก็คอรัปชั่น ซึ่งผ่านไป ๗๐ กว่าปี มาร์กซิสต์ ก็ล้มละลายไปแล้ว แม้แต่เลนิน หรือเหมาฯ ก็ล้มไปหมด ยังเหลือแต่ คอมมิวนิสต์หลงยุค ในเมืองไทย แล้วมาหลอกว่า เป็นประชาธิปไตย แต่ที่จริง เป็นคอมมิวนิสต์ ตอนนี้ เป็นเผด็จการทักษิณ ข้าราชการ อยู่ใต้อาณัติเขา เขาจะแต่งตั้งใคร อยู่ที่เขาหมด เป็นเรื่องจริง ไม่ได้ใส่ความนะ

        ฝ่ายแดง มีฝ่ายซ่อนอยู่ ขออาศัย อำนาจทักษิณ แล้วทำเป็นแดงเลย อาศัยทักษิณ ล้มประชาธิปไตยไทยก่อน แล้วจะมาล้มทักษิณ อีกที นี่คือ ภาวะซับซ้อน ที่เป็นอยู่ คนหลงทฤษฎี ประชาธิปไตย ไม่เต็ม ไม่รู้ว่าประชาธิปไตย อันลึกซึ้ง ซับซ้อนอย่างไร ก็ขอเสนอว่า ไปเรียนพุทธศาสนาให้ได้ แล้วจะรู้ ประชาธิปไตย เมื่อมีโลกุตรธรรม หรือเป็นมนุษย์อารยกะ อยู่เหนือโลก หรืออัตตา จึงมาทำงาน เพื่อประชาชน เป็นพหุชนหิตายะ

        คนที่มีธรรมะอันเป็นอาริยะ หรือโลกุตระ จึงเป็นผู้อยู่ในโลก รับใช้โลก พหุชนหิตายะ (เพื่อหมู่ชน เป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุขของหมู่ชน เป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ (รับใช้โลก ช่วยโลก) นี่คือ ประชาธิปไตย ที่เหนือโลก เหนืออัตตา สมบูรณ์แบบ ของพระพุทธเจ้า ประกาศมาทุกพระองค์ ท่านประกาศเผยแพร่ ทำจริงด้วย ท่านเป็นรัฐอิสระ ในยุคสมบูรณายาสิทธิราช

        พระพุทธเจ้าเรียนรู้ ความเป็นคน กับสังคม ท่านผ่านมาแล้วทุกยุค อาตมาก็ผ่านมา เท่าที่จำได้ จึงรู้ ซึ่งวนเวียน วัฏฏะสงสาร นานนับชาติ ระบอบบริหาร ก็มีประมาณนี้ เผด็จการ คอมมิวนิสต์ ประชาธิปไตย หลักใหญ่ก็มีเช่นนี้ ถ้าคนมีคุณธรรม อาริยธรรม สมบูรณ์ แม้เผด็จการ ท่านก็ประชาธิปไตยสุดยอด ทำงานเพื่อประชาชน เช่น พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นต้น ท่านมีบารมีเก่า แต่ในช่วงต้น ท่านมีวิบาก เป็นลิงลม อมข้าวพอง ท่านก็เป็น คนโลกๆเก่ง สามารถมาก ทำอย่างโลกๆ เลยดูแล้วน่ากลัว เอาอย่างโลก แล้วเหนือโลก เสร็จแล้วของเก่า ท่านมีบารมี พอได้พบ ศาสนาพุทธ ท่านก็เปลี่ยนแปลง แล้วทำงาน รับใช้ประชาชน ตามหน้าที่ของท่าน ทำงานตลอด พระชนม์ชีพ เมืองไทย ก็ได้รับ การเผยแพร่จาก พระราชโอรสของท่าน นี่คือสัจจะต่างๆ สืบต่อมา นับเวลาไม่ได้เลย

        สรุปอีกนิดหนึ่งว่า... ฤาตุลาการ เป็นตัวการสร้าง ความแตกแยก... อาตมาเคยอธิบายแล้ว ว่าตุลาการนี่ เขาคัดเลือกคน ที่ไม่มีอคติ หรือ อคติน้อย ทุกองค์คณะ ต้องไม่ให้มี อคติ จึงเรียกว่า เป็นกลาง ประเทศไหน เหมือนกันหมด สถาบันตุลการ จึงเป็นสถาบัน ที่เที่ยงตรง ไม่มีอคติ เป็นที่นับถือ แต่เมื่อรัฐบาล ไม่รับ อำนาจศาล ก็เสียหาย แต่เรื่องอคตินี่ ตุลาการ เป็นหลักใหญ่เลยว่า ต้องปราศจาก อคติ

        เมื่อตุลาการ พิพากษา ก็ต้องชี้ถูก แล้วความถูก ก็ต้องไปตรงกับคนถูก เป็นสัจจะ แล้วชี้ผิด ก็ต้องไปตกที่ คนผิด คนผิดก็เสียประโยชน์ ก็ต้องร้อง โดยเฉพาะ คนสะกดคำว่า แพ้ไม่เป็น กลุ่มคนพวกนี้ ก็จะว่าศาลลำเอียง เข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นการไม่ยอมรับความจริง เมื่อศาลชี้ผิด ก็เอ็งผิด จะให้ชี้ถูกได้อย่างไร ศาลไม่ได้ลำเอียง แต่ชี้สัจจะ คนผิดไม่ยอม ก็เพราะมีอัตตา กูต้องชนะ สะกดคำว่า แพ้ไม่เป็น เขาไม่รู้หรอกว่า อะไรถูกหรือผิด เขารู้แต่ว่า ตนถูก คนอื่นไม่ให้เขาถูก ก็ต้องว่า เอียงไปหมด วิบากประเทศไทย มีคนเช่นนี้ เราก็ทำไปด้วย ความซื่อสัตย์ เรียบร้อย เพราะคนพวกนี้ ด้านมาก โด้ กับง่านนี่เอง