570506_พ่อครูเปิดงานสัปดาห์วิสาขบูชาวิชิตชัย เรื่อง วิสาขบูชาวิชิตชัย |
วันนี้เป็นวันเริ่มงาน สัปดาห์วิสาขบูชาวิชิตชัย ที่ เวทีผ่านฟ้าฯ ซึ่งจะจัดในวันที่ ๖-๑๒ พ.ค. ๕๗
พ่อครูมาเทศน์เปิดงาน...เริ่ม ๐๘.๓๓ น...
ณ บัดนี้ เราจะได้เริ่มสัปดาห์ วิสาขบูชาวิชิตชัย ครั้งที่ ๑ เมื่อวานนี้ เป็นวัน ฉัตรมงคล และเป็นวันฉัตรมงคล ที่เป็นประวัติศาสตร์ เหตุการณ์บ้านเมือง ด้วยมีคณะบุคคล ที่เห็นความ ไม่ดีงาม ในการบริหาร บ้านเมือง ได้ออกมา ร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อปฏิบัต ิการปฏิวัติ
แล้วปฏิวัติอะไร? ปฏิวัติรัฐบาล ซึ่งเป็นการปฏิวัติโดยประชาชน เพื่อประชาชน ของประชาชน ประชาชนเอง เขามาทำเอง จึงเรียกว่า ประชาชน โดยประชาชน และก็ทำเพื่อ ประชาชน เพราะว่า
ประเทศนี้ เป็นของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรือแม้แต่ การปกครอง โดยระบอบ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ประชาชน จะต้องช่วยกัน ประคับ ประคอง ต่อต้าน ประท้วง ติงเตือน ผู้ที่จะมาทำหน้าที่ ให้แก่ประเทศ เมื่อเลือกมา ทำหน้าที่ แต่เขาทำทรยศ
เมื่อเช้า อาตมาฟังหม่อมอุ๋ย ออกมาเรียบเรียบ รวบรวม ข้อผิดพลาด ๘ ประเด็น ของรัฐบาลนี้ ชัดๆ ตั้งแต่ที่ศาล ตัดสินว่าผิด เพราะว่า ไปโยกย้าย คุณถวิล จนถึง จำนำข้าว ซึ่งเมื่อทำผิดพลาด ขนาดนี้ เป็นรัฐบาลน่า จะมีมารยาท มีจริยธรรม ทางการเมืองบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย ขออภัย ที่ต้องใช้ภาษาว่า หน้าด้านหน้าทน เกินขนาด เห็นแล้ว เอน็จอนาถใจ ขายขี้หน้า ไปทั่วโลก
ทุกวันนี้ ยุคสื่อสารสนเทศ ถึงกันทั่วโลก ไม่มีอะไรกั้นได้ ก็น่าจะมีสำนึก แต่ไม่รู้ตัว ว่าตนเอง ทำไมถึง ไม่มีจริยธรรม ทางการเมืองเลย อาตมาว่า มันเกินสุดเกิน ก็ไม่ได้ แปลกใจเลยว่า ประชาชน จะออกมากัน โดยการเรียกร้อง รวมตัวกัน
กรณีที่เกิด ที่สนามหลวง ถ.ราชดำเนิน วัดพระแก้วนั้น เหตุเกิด เมื่อวานนี้ เป็นการรวมตัวกัน ที่ไม่ได้เป็นเพราะ รัฐบาลรวบรวมจัด แต่เป็นพิธีการ ของประชาชน จนเกิด ปรากฏการณ์ อันยิ่งใหญ่ ที่เห็นประชาชน ออกมารวมตัวกัน โดยใช้สัญญาณว่า มาตั้งสัตยาธิษฐาน ในวันฉัตรมงคลนี้
เราประท้วงมาต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรม ปฏิกิริยา ที่เราพึงทำ อย่างเหมาะสม ก็ทำมาตลอด รวมทั้ง ชาติที่เราจะดูแล พิทักษ์รักษา รวมทั้งศาสนา เราก็พยายาม แสดงออก และรวมทั้ง กษัตริย์ ซึ่งยังไม่เคยมีเคยเป็น ในประเทศไทยเลย ที่คนจะออกมา แสดงการลบหลู่ แสดงออก อย่างหน้าเกลียด คนมีหน้าที่จัดการ ก็ปล่อยปละละเลย
จนกระทั่ง ธรรมชาติ ก็ทนไม่ไหว ๑๘.๐๘ น. เมืองไทยทางด้านเหนือ แผ่นดินก็ไหว ลึกลงไปถึง ๗ กิโลเมตร มีแผ่นดินไหว แยก นี่คือ ปรากฏการณ์ สอดคล้อง ที่เกิดวิกฤติ ในประเทศไทย ที่จะทำให้ ประเทศชาติ เป็นอยู่ดีขึ้น เมื่อประชาชนมาพร้อม ธรรมชาติ ก็แสดงออก อย่างสอดคล้องให้เห็น
ผู้ที่มององค์ประกอบทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งที่ รวมตัวกันอยู่ มีเหตุปัจจัยของ รูปและนาม เรียกตามภาษา ของทางโลกว่า มีทั้งพลังงาน และสสาร และสิ่งเหล่านี้ จะออกมาเป็น แผ่นดินไหว ก็เป็นเรื่อง พลังงานและสสาร ที่เปลี่ยนแปลง เป็นเรื่อง ไม่ปกติแล้ว มันเป็นการเปลี่ยนแปลง ปรับตัว จนถึงขีดๆหนึ่ง เป็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน แยกแตก อย่างร้ายแรง รุนแรง ความแรงถึง ๖.๔ ก็ประมาณนั้น
สสารพลังงานของโลก เปลี่ยนแปลงเช่นนั้น มนุษย์ก็มี พฤติปฏิบัติ แล้วผิดเหมือนกัน รุนแรงมาก เสียหายรุนแรง จนมีมวลมหา ประชาชน รวมตัวกัน มายับยั้ง สิ่งรุนแรง สิ่งเหล่านี้ เกิดอย่างมีเหตุปัจจัย
วันนี้ สัปดาห์วิสาขบูชาวิชิตชัย... อาตมาก็ต้อง ขอขอบพระคุณ ต่อมวลมหาประชาชน จำนวนล้าน ที่ออกมาแสดง คะแนนเสียงตัวตน ในคืนวานนี้ ออกมาแสดง คะแนนเสียงสดๆ ไม่ใช่ที่ไปลงคะแนนเสียง เลือกตั้ง แต่เราออกมาแสดง เสียงสดๆ นับกัน ไม่หวาดไม่ไหว ได้แต่ประมาณกันเอา รวมตัวกัน เป็นหนึ่งเดียว ด้วยสัญญลักษณ์ สีเหลือง เป็นความเป็น เอกภาพ ที่วิเศษ วิสุทธิ์ วิสิฏฐิ์
อาตมาว่า ปรากฏการณ์สีเหลือง ที่ประชาชนไทย ได้แสดงออก เทิดทูนในหลวง ที่เขารัก และเทิดทูน เป็นปรากฏการณ์ ที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่เคยเกิดมาก่อน คนที่มีปัญญา ก็คงรับ ซับซาบได้ ว่ามีความหมายอย่างไร
นี่คือภาพของ มวลประชาชน ที่ถ่ายภาพ บันทึกไว้ ก็น่าเสียดาย ที่สื่อสาร ถูกฝนถูกน้ำ ก็ทำให้ทำงาน ไม่ปกติ ทำงานไม่ออก ก็เลยส่งออกอากาศ ไม่เต็มที่เลย
สิ่งปรากฏนี้ มาแต่เหตุ ที่เกิดจาก ความเข้าใจ ต้องการที่จะ ขจัดปัดเป่า ประชาชนคนไทย ได้แสดงออก ถึงการขับไล่ รัฐบาลนี้ออก โดยทำอย่าง ถูกต้องดีงาม ตามสากลของโลก ตามรธน.นี้ด้วย และทำอย่างสุภาพ ไม่รุนแรง ไม่มีอาวุธ ใช้ความถูก ผิดมาชี้ แล้วมวลประชาชน ก็รับทราบว่า ควรต้องร่วมมือกัน เป็นสัญญลักษณ์ ว่านี่คือ ความต้องการ ความจริง ของประชาชน ในระบอบ ประชาธิปไตยเป็นการแสดงออก จากจิตวิญญาณ ไม่ได้ใช้เล่เหลี่ยม หรือจ้างวาน ที่เขาใช้อำนาจไปซื้อ หรือ บังคับให้คน ออกมาแสดง หรือใช้อำนาจ หน้าที่การงาน ให้คนมาแสดงคะแนน ก็เป็นวิธีการ ที่เขาทำกัน แต่มวลมหาประชาชน ที่ทำกันอย่าง ยาวนานนี้ ไม่ได้ใช้เล่เหลี่ยม แต่เราใช้ความจริง สะอาดบริสุทธิ์ แต่ละคน ใช้วิจารณญาณ ส่วนตน ในการออกมา มันสุดยอด ปรากฏการณ์ แห่งสังคม ประเทศแล้ว
น่าเสียดาย ไทยเรามี ประชาชนอาริยะ แต่ในความเป็นอนาริยะ ของคนไทย อีกส่วนหนึ่ง ที่ได้อำนาจ อย่างไม่สุจริต ที่ได้อำนาจมาจาก การเลือกตั้ง แต่มีเชิงซ้อน ที่เขาได้ชนะ มันฉ้อฉล ไม่เป็นความบริสุทธิ์ ก็ชนะได้อำนาจ แล้วมาบริหาร ให้เห็นความผิดพลาด ไม่เข้าท่า บริหารอย่างห่วยๆ ชัดเจน จนกระทั่ง ความบริสุทธิ์ใจ ความมีปัญญา ของคนไทย อาตมาว่า ส่วนใหญ่ คนไทยเป็นคนเจริญ รู้ดีชั่ว ก็ออกมาแสดงตัว
เป็นพฤติกรรมที่แสดง อย่างจริงจัง จริงใจ ส่วนผู้ที่ เขาพยายามปลุกเร้า ครอบงำ จ้างวาน ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ขนาดนั้น ก็เห็นชัดๆ เลยว่า เขาแพ้ สู้มวลมหา ประชาชนไม่ได้ นี่คือ แสดงความดี ความจริง ของมวล ประชาชนคนไทย แต่ประชาชนที่เลว ก็ยังแสดง วิธีการเอาชนะ เพื่ออยู่ทำเลวร้ายต่อไป
คงปล่อยไปไม่ได้แล้ว ที่พูดอยู่นี่ คือสัจธรรม คือ จะต้องพูดชี้สิ่งถูก และข่มความไม่ดีงาม ยกความดีงาม และข่มความไม่ถูกต้อง นี่เป็นหน้าที่ ตามรธน. และในสัจธรรม ก็เป็นหน้าที่ ในบ้านเมือง สังคมเรา จะบริหาร ด้วยกฎหลัก กฎหมาย ระเบียบวินัย ทางรูปธรรม โลกๆ อย่างเดียว ไม่เอาคุณธรรม ไม่เอาธรรมะ ไม่เอาความรู้จริง แห่งปัญญา ไม่เอาพลังงาน ทางจิต ที่จะช่วยกัน รับผิดชอบ แล้วออกมา ร่วมแรงร่วมใจ ปรับปรุงแก้ไข ให้ดีงาม
เราเรียกด้านนี้ว่า จริยธรรม หรือธรรมะ สังคมต้องใช้ หลักของสังคม จะเรียกรัฐศาสตร์ ก็ต้องใช้ ส่วนทางจริยธรรม ก็ต้องใช้ เมื่อใช้สองอย่าง ดีงาม แล้วก็มาชี้กัน
ชี้ผิด ชี้ถูก ว่าควรทำอย่างไร แก้ไขอย่างไร แม้จะต้องให้ออก ก็เป็นสิ่งควร ส่วนผู้ที่อยู่ ในภพตน ทำมาหากิน ขี้เกียจ หรือเอาแต่เที่ยว ไม่เอาตาดูหูแล บ้านเมือง การบริหาร จะสูญเสีย ฉิบหาย ไม่เอาตาดูหูแล สำนึกสำเหนียกเลย ก็ใจดำเกินไป ก็ไม่ควรเป็นคน อยู่ในสังคมไทย ที่ร่วมกันนี้ มันดูดายเกินไป
ผู้ที่ยังไม่ค่อยสำนึก ก็คงพอเข้าใจได้ว่า อาตมาตำหนิอะไร เตือนอะไร ที่พูดนี้ ไม่ได้อวดใหญ่ แต่พูดด้วย สำนึกสามัญ ที่เรามีชีวิต ในสังคม มีพฤติกรรมสังคม ที่เดือดร้อน ตามที่ดำเนินไป มันวิปริตแล้ว เสียหายแล้ว ก็ควรต้อง ออกมาช่วยกัน ก็ขอบคุณ ผู้มีน้ำใจ เอาตาดูหูแล ช่วยสังคม สังคมไทยยังดีนะ ไม่ได้โง่หรือชั่ว เกินการณ์ ส่วนคนชั่ว ก็ทำเห็นๆ แสดงออก ให้เห็น ผู้มีปัญญา พึงรู้ได้
ถ้าเราทำอย่าง ไม่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ตามหลักเกณฑ์ เขาทำได ้อย่างซับซ้อน ซ่อนเชิง ทำแล้วก็ล้มเหลว ฉิบหาย ขืนปล่อยต่อไปอีก ไม่ได้ ปล่อยต่อไป อาตมาว่าพัง นี่เขาก็ดึงดัน จะเอาชนะ คะคาน ทั้งที่แพ้ ไม่รู้จะแพ้ เท่าไหร่แล้ว
วันนี้ ตุลาการภิวัตน์ ก็จะชี้ ยืนยันออกมา เขาก็ตั้งหน้าตั้งตา ทำข่าว เพื่อสู้เอาชนะ ไม่ยอมแพ้ ทุกวิถีทาง เราจะได้เห็นภาพ แต่เราต่อสู้ อย่างซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้อำนาจอาวุธ ก็จะดู ไม่มีแรง อย่างอำนาจ Force แต่เราทำอย่างนี้ เป็นอำนาจ Authority เป็น sovereignty ก็เลยดูไม่แรง และอำนาจนี้ เป็นพลัง แห่งความดีงาม ประเสริฐ ผู้มีปัญญารู้ จะเชิดชูยกย่อง มีธรรมฤทธิ์ และไม่ใช่ว่าเป็นฤทธิ์อำนาจ ที่ทุ่มโถม ให้เกิดบาดเจ็บ ล้มตาย เสียหาย แต่เป็นแรง ที่ทำให้เกิด ความดีงาม
คนไทยเรา สร้างให้เกิดขึ้นได้แล้ว เป็นปรากฏการณ์วิเศษ ทำได้สวยงาม เกิดมา อายุปูนนี้แล้ว ก็เพิ่งเห็น ตั้งแต่เรารวมตัวกัน วันที่ ๑๔ ต.ค. ๑๖ ก็เริ่มต้น นักศึกษาประชาชน ออกมา แต่ก็ยังไม่สวยงาม จน ๑๖ ต.ค.๑๙ ก็มีการปะทะ สูญเสีย บาดเจ็บ ล้มตายไป จนพฤษภาคม ๓๕ ก็เป็น จนมาถึงตอนนี้
ตั้งแต่ ๑๔ ตุลา ก็เป็นการปฏิวัติ โดยประชาชน แต่คนไทย ยังไม่รอบรู้ ไม่เกิดจริยธรรม ที่ดีพอ ก็เลยเกิด เลวร้ายรุนแรง และ ๑๖ ตุลา ๑๙ นั้นเกิดจาก ความเลวของคน ที่ซับซ้อน เกิดเหตุการณ์ น่าสยอง ทำทุกเรศ ทุรังการ เอาศพมาทุบตี ฆ่ากัน อุบาศก์จริงๆ เกิดจากจิตเลว ของคนเลว สร้างวิธีการซับซ้อน เป็นบทเรียน เป็นการลงทุน ชนิดหนึ่ง ของสังคมไทย เป็นรอยด่างพร้อย ที่ยืนยันชี้
พอ พฤษภาคม ๓๕ ที่เกิดปฏิวัติ โดยมวลประชาชน ก็พัฒนาขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลง โดยไม่ใช้ใช้ทหาร แต่ใช้ทหาร ก็สำเร็จ มาตลอด เพราะคนกลัว แต่โดยประชาชนนี่ คนไม่กลัว ดีไม่ดี หาคนมาสู้ด้วย
เราประท้วงกันมา หลายยกแล้ว มายุคนี้ ประชาชน มาประท้วงกัน มาหลายยกแล้ว ตั้งแต่คุณสนธิ มาเป็นตัวหลัก ก็ทำด้วย คุณงามความดี การแสดงออก ของคนไทย มาประท้วง ต่อต้าน ปฏิวัติ ต้องการ เปลี่ยนแปลงอำนาจ ต่อสู้มาหลายยก ทำด้วยวิธี การปฏิวัติ สมัยใหม่ แบบใหม่ ยังไม่เคยมีมาเลย สงบเรียบร้อย แม้มีสูญเสียบ้าง เพราะมีคนไม่ยอม แต่เราก็ รักษาสถานที่ สงบเรียบร้อย ไม่รุนแรง ควบคุม กาย วาจา ใจ อย่าให้รุนแรงออกไป แม้สุดวิสัยบ้าง มีวิวัฒนาการ เจริญด้วยวิธี การประท้วงต่อต้าน ปฏิวัติ ทำโดย ประชาชนมือเปล่าๆ ไม่ใช้ทหารอาวุธ ใช้ความถูกต้องดีงาม เป็นธรรมาวุธ ให้ยืนยัน ให้เขายอม แต่เขาก็หวงแหน ดึงดัน ดื้อด้าน เป็นตัวอย่างอันเลว ให้เราดู เหมือนเทวฑัต แสดงให้เราเห็น
เป็นการสู้ ระหว่าง ธรรมะกับอธรรม มวลประชาชน ใช้ธรรมะ เป็นอาวุธ ต่อสู้กับอธรรม ซึ่งเขาแฝง ใช้ความไม่ถูกต้อง สู้กับเรา เป็นธรรมาธรรมะสงคราม โดยแท้จริง
การเมืองนี่ รัฐศาสตร์ เขาเรียนกันว่า การเมือง คือการแย่งชิงอำนาจ มาบริหารประเทศ และที่บอกว่า การเมือง ต้องแก้ด้วย การเมืองนั้น ถ้าอาตมาเป็นอาจารย์ จะให้คะแนน ๐+ ไปอีกร้อยพัน ๐ คือมันผิด ที่จะเอาการเมือง ไปแก้การเมือง เพราะการเมือง ที่ไม่พัฒนามันเลว จะไปแก้ได้อย่างไร การเมือง ต้องแก้ด้วยธรรมะ เอาสิ่งถูกต้องดีงาม มาชนะ ถ้าเอาความเลวร้าย มาแก้ ความเลวร้าย ก็ยิ่งซ้ำกันไปอีก ตอนนี้ การเมืองในประเทศไทย ต้องแก้ด้วยธรรมะ
ขอย้ำว่าสมณะโพธิรักษ์ กำลังเทศน์ แสดงธรรม ในสัปดาห์ วิสาขบูชาวิชิตชัย
ในวันที่ ๕ พ.ค. ๕๗ เป็นฉัตรมงคล ก็ได้มีการจัด ยัญพิธี เป็นวันที่ทำเพื่อ สถาบันกษัตริย์ จากนั้น วันที่ ๑๓ พ.ค.๕๗ ก็เป็นวันศาสนา เป็นวันวิสาขบูชา เป็นความฉลาด ของมนุษย์ ที่จัดองค์ประกอบศิลป์ ที่จะทำให้เกิด พลังรวม เกิดพลังงานของ อาริยชน ไม่ใช่ว่ารวมตัว ถือมีด ถือดาบปืนกัน มาฆ่ากัน นั้นก็เขาก็ทำกันมา แต่ยุคไม่เจริญ แต่ยุคนี้ เจริญมากแล้ว เขาไม่ทำกันแล้ว เราจะออกมาแสดง องค์ประกอบศิลป์ ที่ดีงาม
อย่างเมื่อวาน ที่ทำพิธี วันฉัตรมงคล ทั้งสวยสดงดงาม และปริมาณ ที่แสดงออก เป็นปรากฏการณ์ ของมนุษยชาติ ที่จะเป็นธรรมเนียม ปฏิบัติต่อไป และในวันที่ ๑๓ ก็เชิญชวน คนไทยออกมา จะเป็นองค์ประกอบศิลป์ ที่จะโน้มไปสู่ การปฏิวัติ
เป็นพลังงาน ที่จะเกิดฤทธิ์อำนาจ ได้ และในวันที่ ๑๔ จะเป็นวันแห่งชาติ ส่วนการปฏิวัติ จะทำอย่างไร? วิธีการปฏิวัติ เขาจะไม่เปิดเผย ขืนเปิดเผย เขาก็กันไว้หมด แต่ก็บอกแต่ว่า ประชาชน จะยึดอำนาจ
เช่นแสงไฟ ถ้ามีรวมกันหลายดวง จะเอาไปทำอะไร? ก็ต้องมีวิธีการทำ ของเราเรียก รวมกันมาหลายที เมื่อวาน ก็เรียกกันอีก มีองค์ประกอบศิลป์ มีการตบแต่ง ประกอบ มีวงดนตรี ประสานเสียงอีกโยธวาฑิตอีก ประกอบกัน ให้งดงาม
เพื่อให้สู่เป้าหมาย สำคัญชัดเจน สิ่งปรากฏในประเทศไทย ขณะนี้ มันเป็นสิ่งที่ ยอดเยี่ยมจริงๆ จงรู้เถอะว่า เมืองไทย กำลังก่ออะไรขึ้น ให้โลกเห็น วันที่ ๕ เราทำได้แค่นี้ และในวันที่ ๑๓ เอาให้ยิ่งใหญ่หนาแน่น สงบเรียบร้อย สวยงาม ให้ยิ่งกว่านี้ เพราะเป็นวัน ศาสนาด้วย
อาตมาว่า เราก็จะพยายาม ประจุธรรมะ เป็นพลังวิเศษ พลังสำคัญ ก็ขอเริ่ม และทุกเย็น อาตมาก็จะทำรายการ “ปักหลักเปิดโลก”
เปิดโลก คือจะได้สาธยาย เรื่องมนุษย์ ที่มีจิตวิญญาณ เป็นสัตว์ และยังไม่เจริญเป็นมนุษย์ ที่แปลว่า ผู้มีจิตสูง หรือคือ ยังเป็นเดรัจฉานอยู่ และที่พูดว่าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่จะเอาที่ใจ เป็นหลัก มโนเสฏฐา มโนมยา
เราจะมาอธิบาย ที่จิตไม่สูง เป็นสัตว์อยู่ คืออะไร
พระพุทธเจ้าตรัสเรื่อง สัตว์ไว้ ๙ อย่าง ในสัตตาวาส ๙ คือ จิตยังเป็นสัตว์ ทางจิตวิญญาณอยู่นั่นเอง
ในสัมมาทิฏฐิ ๑๐ ในข้อที่ ๙ ให้รู้เรื่อง สัตตาโอปปาติกา
คือ จะต้องรู้ เข้าใจ ให้ถูกต้องว่า สัตว์นี้คืออะไร อยู่ตรงไหน ... อยู่ในปุถุชน ปุถุชนไม่หมดความเป็นสัตว์ แม้จะเริ่มต้น กำจัดความเป็นสัตว์ ทางจิตวิญญาณได้ เริ่มรู้จริง เห็นถูกต้อง เข้ากระแสโลกุตระ (โสตาปันนะ) ไม่ใช้โลกโลกีย์ แต่เป็นโลกเจริญแท้ โลกุตระ (โลกอุดร) ต้องเรียนรู้ นามธรรม ปรมัตถ์ จิตเจตสิก อ่านจิตได้ แล้วแบ่งทำ เป็นส่วนๆ ใช้หลักเกณฑ์ เช่นศีล ๕ แล้วเรียนรู้ตามความหมายของ ศีล ๕ ว่าเราจิตเหี้ยมโหด ดุร้ายเลวร้าย หรือจิตขี้โลภ ตะกละ จะเอาสุข ทั้งลาภ ยศ สรรเสริญ กาม อัตตา เราก็มาละเลิก วางไปลำดับๆ พระพุทธเจ้า ไม่ให้ผลีผลามทำ อย่างไม่มีหลัก แต่ให้ทำอย่าง เป็นสัดส่วนงดงาม
ใครทำได้รู้ มีญาณปัญญา รู้จักสัตว์อบาย เราโกรธจัด โทสะจัด โลภจัด ราคะรุนแรง ในศีล ๓ ข้อแรก ส่วนข้อ ๔ นี้ทางวจีกรรม แล้วเราเรียนรู้ ไม่ให้กาย วจีเราไปส่งเสริม สิ่งที่เป็นเหตุ เป็นสัตว์อบาย ที่มีพลัง ให้เราละเมิดศีล เรามีกรอบขอบเขตว่า เราจะไม่รุนแรง ขนาดนี้ เช่น ฆ่าสัตว์ เราเลิกฆ่าทุกอย่างได้เลย
อย่าไปโกรธเกลียดสัตว์ อย่าไปฆ่า พวกเรานี่ ไม่แค่ฆ่า แม้อ้างว่า เป็นอาหาร เอาเนื้อเขา มาเป็นอาหาร พวกเราก็ไม่ทำ เพราะเราเข้าใจวิบาก ที่มันมีพยาบาท อย่างเรา ไปฆ่าหมู ฆ่าวัว ฆ่าปลา จิตมันผูกพยาบาทนะ มันเป็นวิบากต่อกัน จองเวรจองกรรม ทำร้ายกัน เป็นความตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้า คนไม่เชื่อ ไม่เข้าใจ ก็ไม่ทำตาม เราไม่ต้องไปอ้างถึง การยังชีพเลย เรายังชีพได้ อย่างไม่ต้อง ไปใช้เนื้อสัตว์เลย ในต่างประเทศ ก็มีสืบทอดกันมา เป็นพันๆปีเลย
เราศึกษาจริงทำจริง ก็จะได้จริง ในจิตเจตสิก มีวิธีการทำลาย อกุศล เลวร้าย พระพุทธเจ้า ให้ทำอย่างรู้ๆ มีวิธีการ ที่พิสูจน์ได้
รู้จัก คือเราได้แตะต้องสัมผัส สิ่งนี้เลย รู้รายละเอียดต่างๆชัดเจน เรียกว่า “รู้แจ้ง” พอรู้ครบ ก็เรียกว่า “รู้จริง” ครบเท่าไหร่ ก็จริงเท่านั้น แม้นามธรรมก็รู้ได้ นี่เป็นสัตว์อบาย สัตว์กามภูมิ
กามภพ ก็มีหลายชั้น สัมผัสทาง ทวาร ๕ ภายนอก ก็เป็นอัตตาหยาบ รวมกัน เป็นอย่างนี้ด้วย เสร็จแล้ว ก็เกิดในจิต เราก็ลดราคะ โทสะ โมหะ เมื่อล้างได้จริง อย่างถูกตัว เห็นแจ้ง ไม่คลุมเครือ ทำโดยหลักใหญ่ สองอย่าง คือ
๑. สมถะ เป็นการกดข่ม ไม่ได้จริง ต้องชนะด้วย
๒. วิปัสสนาวิธี เห็นเลยว่า มันเป็นทุกข์ ทำเสียหาย เลวร้าย และเห็นเลยว่า มันไม่เที่ยง จนปัญญา เห็นจริง มีพลังอำนาจ มีฤทธิ์แรง สามารถสลาย ความไม่ดีงาม ลงไปได้ มีฤทธิ์ชัดเจน ทำลายกิเลสได้ จนมีญาณ หรือปัญญา เวลาปฏิบัติให้เกิด พลังปัญญา เรียกว่า ฌาน เป็นพลังงาน อุณหธาตุ เป็นพลังงานไฟ มีฤทธิ์ สลายจิตที่ไม่ดี หรือสลายพลังชั่ว หายไปเลย
คุณไปทำดู ถ้าเห็นเลยว่า สามารถทำลายได้ อย่างแท้จริง ก็จะยิ่งชัดเลย เมื่อทำลายได้ ก็เกิดปัญญา ซ้ำซ้อน เรียกว่า ญาณทัสสะ เห็นเลย พลังงานทางชั่ว หายไป เราจะมีพฤติกรรม ดีงามอย่างไร จะเป็น วิมุติญาณทัสสะอีก ก่อเกิดดีงาม ประเสริฐอย่างไรอีก จะมีน้ำหนักขึ้นอีก เห็นแจ้งว่า อันนี้มันเลวร้าย เราไม่เอาอีกแล้ว เหมือนเด็กถูกไฟ ก็ร้อน ต่อไป ไม่เอาอีก ไม่จับอีก สิ่งนี้เป็นสิ่งเลวร้าย พาทุกข์ เมื่อไหร่ สิ่งนั้นมาอีก มันก็เข้าไม่ได้เลย เป็นพลัง วิมุติญาณทัสสนะ รู้แท้ รู้ทัน ไม่ให้สิ่งนั้น เข้ามาได้อีกเลย ให้พิสูจน์ตนเองว่า ได้วิมุติญาณทัสสะ ปฏิบัติมาตั้งแต่ สิ่งหยาบๆมา แล้วจะชัดเจน แล้วจะทำต่อไป มีเหตุปัจจัยสะสม เป็นตัวอย่าง ของจริง รองรับมาเรื่อยๆ ว่าดีอย่างไร วิเศษอย่างไร
แม้จะทวนกระแสโลกีย์ จะเข้าหาความเบาว่าง น้อยลง ไปเรื่อยๆ จะพบว่า ความไม่รุนแรง มันดีกว่ารุนแรง ความไม่เอามาเป็นของตน ดีกว่าความเอามา เป็นของตน ดีอย่างนี้เอง
โลกที่ปฏิบัติโดย กำจัดความเป็นสัตว์ คือจิตวิญญาณเลวร้าย ออกไป ซึ่งอาตมา จะอธิบายขยายความ ในสัปดาห์ วิสาขบูชาวิชิตชัยนี้
คนจะเอาธรรมะ เทียบเท่าเขาโค ส่วนคนไม่เอาธรรมะ จะมีปริมาณ เท่ากับ ขนโค เป็นเรื่องจริง แต่เราก็ทำเต็มที่ โดยไม่ได้ย่อท้อ แต่อย่างใด ใครจะมาฟังกัน สดๆที่นี่ ก็จะดี ทุกวันนี้ ก็มีการสื่อสาร ช่วยด้วย
ทุกวันนี้ การเมืองเลวร้ายหนัก หยาบคาย ด้านหนา ดันทุรัง ดื้อดึง จัดจ้านมาก เราจะปล่อยปละ ละเลยไม่ได้ การแก้การเมืองเลวร้ายนี้ จะใช้การเมืองไม่ได้ เพราะปฏิบัติการเมือง อย่างไม่ถูกต้อง ถูกตรง อาตมานิยาม การเมืองไว้ ๑๐ ข้อ เป็นการเมือง ทำเพื่อบ้านเมือง ทำเสียสละ
การแก้การเมือง ด้วยการเมือง ก็เหมือนเอาขี้โคลน มาล้างสิ่งสกปรก จะไปล้าง ได้อย่างไร การเมือง ต้องแก้ไข ด้วยธรรมะ ขอฝากความนี้ ถึงนายทหารหาญบ้าง อย่าพูดเลยว่า การเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง แล้วท่านไปศึกษา ธรรมะคืออะไร แล้วการเมือง จะแก้ด้วยธรรมะได้ ยกตัวอย่าง เหตุการณ์เกิดเพราะ ผู้บริหารผิดพลาด เลวร้ายเป็นอธรรม ก็ไม่ต้องสนับสนุน ส่วนประชาชน ออกมาทำ อย่างเป็นธรรมะ ก็ควรสนับสนุน เต็มที่ ดังนั้น พฤติกรรมของ คุณธรรมนี่ แก้การเมืองได้ ไม่ต้องเอาอาวุธมา
แก้ปัญหาด้วยการเมือง ที่ยังไม่เป็นการเมือง ไม่ได้ ยิ่งแก้ปัญหาการเมือง ด้วยการเมืองเลวร้าย ก็ยิ่งแย่กว่าเก่า ต้องเปลี่ยนแปลง ปฏิรูปก่อน อย่างการเลือกตั้งนี้ เป็นค่ายกล ที่เลวร้าย ที่เขาอ้าง เขาว่าประชาธิปไตย คือการเลือกตั้ง เท่านั้น รู้แค่นี้
จงแก้ไขการเมือง ด้วยธรรม เมื่อแก้ไขแล้ว จะเป็นการเมือง ที่มีธรรมะ เข้าไปสถาปนา ทุกวันนี้ พลังเลวร้าย ฝังลึกเข้าไป ในการเมือง ต้องแก้ไข ให้ถูกเหลี่ยม ถูกสาระ...