570520_พ่อครูที่ห้องกันเกรา
เรื่อง สยามเทวาธิราชิทธิ ตอนที่ ๔

        จริญธรรม วันนี้เป็นรายการอาตมาเทศน์ มาออกอากาศ ณ ที่ที่สมควรออก ในมือของอาตมาคือ

        พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ลงนามในเอกสาร เรื่องการประกาศใช้ พระราชบัญญัติ กฎอัยการศึก ฉบับที่ ๑/๒๕๕๗ ความว่า ตามสถานการณ์ ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุม ทางการเมือง หลายกลุ่ม ได้ทำการชุมนุมประท้วง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล ตลอดจน พื้นที่ต่างๆ ของประเทศ และมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี สร้างสถานการณ์ ความรุนแรง

        ด้วยการใช้อาวุธสงคราม ต่อประชาชน และสถานที่สำคัญ อย่างกว้างขวาง เป็นผลให้ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหาย ต่อทรัพย์สิน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว มีแนวโน้ม จะก่อให้เกิด เหตุการณ์จลาจล และความไม่สงบเรียบร้อย อย่างรุนแรง ในหลายพื้นที่ อันกระทบต่อ ความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน โดยรวมนั้น เพื่อให้การรักษา ความสงบเรียบร้อย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำความสงบสุข กลับคืนสู่ ประชาชน ทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายโดยเร็ว จึงอาศัยอำนาจ ตามความใน มาตรา ๒ และมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติ กฎอัยการศึก พุทธศักราช ๒๔๕๗ ประกาศกฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๐๓.๐๐ เป็นต้นไป

        นี่คือ เหตุการณ์บ้านเมือง ล่าสุด ตามเหตุปัจจัยต่างๆ ที่จะต้องสังเคราะห์กัน เช่นผู้ที่มีทุนทางสังคม อิทธิพลทางสังคม หายใจเฮือกหนึ่ง เช่น ถอนหายใจ หรือหายใจฟึดฟัด มีผลต่อสังคมนะ มีบทบาทต่อสังคม เป็นธรรมชาติสัจธรรม อย่างอาตมา ลีลาไม่ค่อยมีอิทธิพล ต่อสังคมอะไรเลย แต่มีอำนาจฤทธิ์โดยธรรม คืออาตมาทำงาน สัจธรรมที่สงบ ลึก ไม่ไปกระทบ กระแทก กระเทือนใครเท่าไหร่ ทั้งที่อาตมา แสดงลีลา หยาบกร้านกร้าว แต่อาตมาก็ใช้ สัปปุริสธรรม ๗ ประการ จัดองค์ประกอบศิลป์

        ทุกคน อยากอวดดีทุกคน มนุษย์มนาทุกคน ใครมีดีสามารถเท่าไหร่ ก็อยากโชว์ การแสดงความกร่าง เป็นนักเลงนั้น น่าเกลียด แต่เขาเห็นว่าเท่ หรือความชั่ว หลายอย่าง ที่เขาเข้าใจ ความชั่วเป็นความดี อวดดี เช่น ฝ่ายแดงอวดดี ก็เลยเจอดี แต่เขาก็ไม่หยุดนะ ออกเฟสบุ๊ก เขาจะรวมตัวกัน ชุมนุมต่อไป

        อาตมาได้เทศน์ไปแล้ว มีผู้ที่ได้ถอด คำเทศน์อาตมา มาหน่อย คำเทศน์ชื่อว่า พระสยามเทวาธิราช... เป็นนามธรรม ที่คุ้มครองประเทศไทย เป็นนามธรรม ในระดับ อุปาทายรูป ๒๔ หทยรูป นี้ไม่อยู่กับที่ แต่อยู่ที่จิตวิญญาณ รู้สึกตรงไหน จุดนั้นแหละคือ ที่ตั้งของ หทยรูป 

        สมมุติว่า ตาเรากระทบรูปนี้ เช่น แฟนเราไปมีกิ๊ก พบบาดหูบาดใจ ก็เจ็บใจ ปวดใจทันที ความปวดใจ มันเกิดที่ไหน เกิดที่หัวใจ ห้องที่ ๔ หรือเกิดที่ ความรู้สึกของคุณ คุณบอกไม่ได้ว่า อยู่บนร่างกาย ส่วนไหน แต่เป็นความรู้สึก ที่คุณจะแค้นออกมา ทางหมัด ทางนิ้วมือ กดไกปืน หรือออกมา ทางคำด่า มันก็อยู่ที่ การปรุงแต่งของ พลังงานทางจิต

        คนอื่นเขาไม่รู้เรื่องกับคุณ นอกจาก เขาจะคล้อยตาม แล้วรู้สึกตามคุณ เท่านั้น

        ชีวิตรูป คือยังมีอาการไม่ตาย ถ้ามันนิ่งอยู่เลย สงบ ก็ถือว่า มันสงบ หรือไม่เคลื่อนไหว ไม่มีบทบาทแล้ว เรียกว่า มันเป็นพลังศักย์ Potential energy แม้ว่าจะดูหยุด แต่ว่ามันมี พลังงานแฝงอยู่ในตัวมันเอง มีพลังงาน ทางจิตวิญญาณ แม้คุณหลับนิ่งสงบ สะกดจิตเป็น อสัญญีสัตว์ แต่ใต้สำนึก ไร้สำนึก ใต้หรือในไร้สำนึกอีก มันมีพลังงาน ตามอนุสัย อาสวะ เหมือนยีสต์ ที่เป็นเครื่องหมักดอง ตัวยีสต์แบคทีเรีย ทำงานอยู่ หากคุณตระกูลผี ก็ทำงานเป็นผี แต่ถ้าเป็นเทวดาโลกุตระ ก็ทำงานอย่าง โลกุตระ หรือเป็นพรหม ก็ทำงานอย่างพรหม เป็นสัจจะเลย ศาสนาพุทธ เรียนรู้ถึง potential energy

        ส่วนอาหารรูป คือเครื่องอาศัย ยังไม่แตกแยกกัน เช่นน้ำ คือ Hydrogen และ Oxygen มารวมกันเป็นน้ำ แต่ถ้ามันแตกตัว มันก็เป็น ตัวของมันเอง ของ H และ O

        จิตวิญญาณ ก็เช่นเดียวกัน จิตวิญญาณของอรหันต์ หมดบาป หมดบุญ บาปคือกิเลส บุญคือเครื่องชำระกิเลส พอทำเครื่องชำระกิเลส กำจัดกิเลส หมดสิ้นเกลี้ยง เครื่องชำระกิเลส ก็หมดท่าแล้ว บุญก็หมดท่าแล้ว เพราะไม่มีกิเลส ให้กำจัดแล้ว อรหันต์ จึงมีเครื่องอาศัยเฉพาะ จิตบริสุทธิ์ มีอรหัตตา หรือ อาศัยอัตตา อันเป็นอรหันต์

        ปรินิพพาน เป็นปริโยสาน คือ อวสาน ขั้นสุดยอดแล้ว คือ ทำลายเครื่องอาศัยของ พระอรหันต์ ท่านจะปรินิพพาน ก็ไม่ตั้งจิตต่อ คือ อปนิหิตตัง นิพพาน ไม่ตั้งจิต ทุกอย่าง ก็สลายตัว ธาตุจิตเป็นสุญญตา ตลอดกาล อัตภาวะใดๆ ของอรหันต์รูปนั้น ไม่มีอีกแล้ว

        ปริเฉทรูป คือ คือ ตัดขอบเขต เป็น context ที่อยู่ใน content นี้ หรือ concept นี้ แล้วในนี้มันเกี่ยวโยง สังเคราะห์กันอย่างไร ถ้าคุณจัดให้มัน กลมกลืน เรียบร้อย สงบสุขได้ นี่ก็คือ ฝีมือของศิลปิน ทำให้ภาพนี้ อยู่อย่างกลมกลืน ทั้งที่มีสิ่งขัดแย้ง แต่จับมาทำให้เกิด ความโดดเด่นขึ้นมา ของสิ่งที่ต้องการ เป็นพลังงาน ที่เอามาขันเด่นได้

        คุณเป็นศิลปิน เป็นนักบริหาร  ที่จัดองค์ประกอบให้อยู่อย่างสงบสุข เป็น Unity of diversity เป็นความแตกต่าง แต่อยู่กันได้ อย่างอบอุ่น นี่คือฝีมือ ในการจัด ปริเฉทรูป

        และ อากาศธาตุ แปลว่า ความว่าง ความโปร่งใส ไม่มีอะไรขัดข้องวุ่นวาย โปร่งใส สะอาด นี่คือคำตอบของ ภาวะสว่าง ไม่ใช่นิโรธดับ แต่เป็นนิโรธสว่าง อยู่กันอย่างดี มองโล่งไปไกล สะอาด สว่าง สงบ นี่คือ คุณจัดปริเฉทรูป ได้อย่างดี คุณรับผิดชอบแค่นั้น รับผิดชอบใน content นั้น เป็นพลังงาน ที่อยู่กันอย่างดี ทุกคนมี อธิปไตยส่วนตัว เจริญสูงสุด ทางภูมิปัญญา นิสัย พฤติกรรมประเสริฐ อยู่อย่าง เทวดา พรหม พฤติกรรมดีงาม อาตมาฝันๆว่า จะมีสังคมอย่างนี้ อยู่ในประเทศไทย

        กายวิญญัติ และ วจีวิญญัติ จะต้องมีจิต คือ Potential energy เป็น มโนบุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา จะมีอาการ เคลื่อนไหวอย่างไร ละเอียดหรือหยาบ แค่ไหน เราก็รู้ ในกายวิญญาณมีมโนวิญญาณซ้อน คุณสามารถ อ่านออกได้ ก็จะรู้ว่า มีกิเลสร่วมหรือไม่ เรามองของเรา เป็นสำคัญ รู้ตัวเอง เป็นสำคัญ จะเดินนอนนั่งยืน นุ่งห่ม เอี้ยวตัว ไกวแขน กิน ขับถ่าย ก็อ่านว่า เรามีกิเลสร่วมหรือไม่?

        วิการรูปอีก ๕
        ๑.หลุตา
        ๒.กัมมัญญตา
        ๓.มุทุตา

        ลหุตาคือ อาการเบา สุภาพ ทางกาย วาจา ใจ

        กัมมัญญา คือทำการงาน ปรุงแต่งทำกรรมกิริยา ที่ควบคุมด้วย อัญญา เป็นอริยญาณ แม้แต่โสดาบัน ก็เริ่มมีกัมมัญญา คือ เหมาะควรแก่การงาน เป็นพลังงานทางจิต ที่ทำได้ควบคุมได้ มีอิทธิพลให้คุณทำกาย วาจา ใจ ที่สุภาพ เรีบร้อย เหมาะสมกับเหตุปัจจัย

        มุทุตา คือจิตหัวอ่อน ไม่กระด้าง ไม่แข็ง ปรับได้ไว ความรู้ก็รู้ไว ทำให้จิตเปลี่ยนไป ตามที่เราต้องการได้ไว อาตมาแปลว่า จิตหัวอ่อน ไม่ได้แปลว่า จิตอ่อน เหมือนท่านทั่วไปแปล

        จากนั้นเป็น วิการรูป ๕
        ๑.อุปจย
        ๒.สันตติ
        ๓.ชรตา
        ๔.อนิจจตา

        หนึ่ง อุปจยะคือ เกิด
        สาม ชราตา คือ การแก่
        สอง สันตติ คือ ตัวเชื่อมต่อ ระหว่าง เกิดและตาย
        ในทั้ง ๓ อย่างนี้คือ อนิจจตา ในมหาจักรวาลนี้ มีอยู่ ๓ อย่างนี้แหละ
        จิตนิยาม สามารถเรียนรู้ อุปาทายรูป ๒๔
       
        ในสังคมไทยเรา มีวิญญาณองค์รวมของ สยามเทวาธิราช

        ในวันที่ ๑๘ ก.พ. ๕๗ ที่ตำรวจ จะมาสลายเวทีผ่านฟ้า แต่มาเจอ คนที่มี จิตวิญญาณ ที่มุทุตา มีเมตตา เกื้อกูล ช่วยเหลือ เป็นพลังงาน ที่คนมีสำนึกว่า อะไรดีชั่วก็รู้ คนจะมาทำร้าย คนสวดมนต์ ที่เขาไม่ได้ทำร้ายเรา แล้วแถมช่วยเราอีก เราเจ็บ เขาก็มาช่วย อุ้มเราลุกอีก เป็นจิตวิญญาณ ที่ยิ่งใหญ่ ที่จะได้ศึกษา กายวิญญัติ วิจีวิญญัติ ของสังคม กระแสสังคม เป็นสิ่งวิเศษ ที่เลยชนะได้ เขาก็ หนียะย่าย พ่ายจะแจ ไปเลย

        เป็นพลังงานพิเศษ ที่เรียกว่า สยามเทวาธิราช

        เป็นพลังงานทางนามธรรม ที่เราไม่สามารถ เห็นด้วยตา แต่มีพลังพิเศษ เขาไม่ได้กลังตามโหดร้าย อำมหิต แต่เขากลับ เกรงความดีงาม สุภาพเรียบร้อย เป็นปรากฏการณ์ในโลก แม้คานธี ก็ไม่ได้ทำ ขนาดนี้ ของคานธี มีรุนแรงระดับหนึ่ง แล้วเขาก็สงบ แล้วเขาก็ชนะ แต่ของไทยเรานี่ ทำได้อย่างดีกว่า ที่คานธีทำ เป็นสิ่งปรากฏจริง ในประเทศไทย

        เขาไม่ได้มีกายวิญญัติ ที่โต้ตอบ เป็นพลังงานทางกาย กับวาจา ที่เห็นได้ รับได้ อ่านออก เขารับกระทบแล้ว ก็ต้องรู้สึกได้ ตำรวจเขาก็ต้องมี สำนึกดี ถ้าเขาไม่สำนึกดี เขาก็ไม่ยี่หระ เขาโหดเลย แต่นี่คนไทยโดยรวม มีน้ำใจ จิตวิญญาณดี นี่คือองค์ประกอบของ สยามเทวาธิราช แม้ตำรวจ แม้นปช. ก็มีจิตใจดี อาตมาชมอยู่ แต่เขาจะไปทำใต้ดิน ก็ไม่รู้ อย่างที่ว่า เกิดคนตาย มียิงกัน ระเบิดที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็เป็นเหตุ

        ทำไม พล..ประยุทธ์ จึงประกาศ กฎอัยการศึก ก็เพราะยังเกิด เหตุรุนแรงอยู่ พล..ประยุทธ์ ก็ทำตามที่ประมาณ สุดท้าย ก็ออกมาตามนี้ ในลมหายใจเฮือกนี้

        ถ้าทหารออกมา ไม่ใช้กฎอัยการศึก ทหารมาเข้าข้างประชาชน จะสวยกว่านี้ แต่เอาเถอะ ต้องขู่เขาอย่างนี้ ถ้าทหารออกมา เข้าข้างประชาชน เขาก็จะถูกนปช.ว่าเข้าข้าง เขาก็เลยจำเป็น ต้องใช้กฏอัยการศึก หยุดสิ่งที่ควรหยุด อันไหนควรห้ามก็ทำ ตัดไม้ตัดมือก่อน ไม่ได้ดื้อๆปฏิวัติ ล้มล้างอำนาจเบ็ดเสร็จเลย มันเป็นความงาม ของสังคมไทย ที่มีการปฏิวัติ

        อย่างที่ฟิลิปปินส์ นายพล.รามอส ปฏิวัติก็เป็นไป แต่นี่ไทยเรา ยิ่งสวยกว่า พล..ประยุทธ์ ใช้ความเป็นกลาง ที่งดงาม ส่วนจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่พยากรณ์
       
พระสยามเทวาธิราช

        เชื่อว่าประเทศไทย มีพระสยามเทวาธิราช และขอบอก ความลับว่า ท่านเป็น ลูกพระพุทธเจ้าตั้งแต่ ตั้งประเทศไทย เป็นศาสนาพุทธ แต่กำเนิด ปัจจุบันก็มีคน นับถือพุทธถึง ๙๕ % แต่ก่อนน่ะ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลย พุทธเพียวๆเลยนะ เพราะฉะนั้น พระสยามเทวาธิราช จะเป็นใคร ก็เป็นพุทธะแท้ๆ ก็เชื่อว่า พระสยามเทวาธิราช จะเข้าข้างเราอยู่ ศาสนาคริสต์ สอนว่า พระเข้าจะช่วยคน ที่ช่วยตนเองก่อน “ถูกต้องแล้วครับ” ทุกคนต้อง ช่วยตนเองก่อน แล้วพระเจ้า จะช่วย

        ศาสนาพุทธนั้น สอนให้พึ่งตน นอกจากตน จะพึ่งใครได้ อัตตา หิ อัตตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา เรามาช่วยตน ลดกิเลส สิ่งเกาะเกี่ยวยึดติด เริ่มตั้งแต่ ศีลข้อ ๑

        อ.กฤษฎาว่า...คนส่วนใหญ่ ย่อมมีของเก่าอยู่ ศูนย์กลางพุทธ คือเมืองไทย คือกรรมดี ที่ติดคนไทยมา มีฐานเดิมอยู่แล้ว

      พ่อครูว่า... อันนี้เป็นอจินไตย พ่อครูตอบไม่หมด แต่ว่าก็บอกได้ว่า เมืองไทย มีดีเอ็นเอพุทธ มาตั้งแต่ สร้างเมืองไทยมา ยกตัวอย่างเช่น ในเมืองไทยนี้ ระบุไว้ว่า พระเจ้าแผ่นดิน ต้องนับถือศาสนาพุทธ เท่านั้น

        ศาสนาพุทธในไทย จึงยาวนานมา แม้ศาสนาอื่น จะเข้ามา เช่นคริสต์ หรืออิสลาม แม้แต่พราหมณ์ฮินดู ตอนนี้ก็แทบ ไม่เหลือแล้ว ตั้งแต่ยุค พระนารายณ์ ก็มีคริสต์เข้ามา แต่ก็ได้ไม่มาก เขาตีพุทธไม่แตก พุทธยังมีมาก แข็งแรง ยกตัวอย่างง่ายๆนี้

        อ.กฤษฎาว่า... อย่างนี้จึงเป็นความเชื่อที่ว่า พระสยามเทวาธิราช

        พ่อครู... หมายถึง คุณธรรมที่มีฤทธิ์ ปกป้องเมืองไทยไว้ ทำไมพ่อครู ต้องเกิดมา เป็นคนไทย แล้วเอาโลกุตรธรรม มาเปิดเผย ในขณะที่พุทธธรรม เกือบจะหมดแล้ว ในเมืองไทย แม้ไม่หมด แต่ว่ามีน้อย จนไม่สามารถ มาโดดเด่นได้ ไม่มีพฤติภาพ เป็นหมู่กลุ่ม อย่างพ่อครูพาทำ
  
        อาตมายังเห็นโอกาส ยังมีความหวังว่า พุทธธรรม หรือโลกุตรธรรม ยังมีอยู่ คือเมืองไทย ยังมีพระสยาม เทวาธิราช ยังมีคุณธรรม อันยิ่งใหญ่ ดูแลปกป้อง ประเทศชาติอยู่ เป็นพลังงาน โอบอุ้มประเทศอยู่ เป็นนามธรรม ที่แท้จริง ไม่ใช่หลอกๆ เป็นคุณธรรม สุดประหลาด มหัศจรรย์ มีธรรมฤทธิ์ แต่ไม่เหมือนพวก หวังธรรมฤทธิ์โดยประมาท คือพวก หวังโดยไม่ทำอะไร แต่ของพระพุทธเจ้า เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วเราต้องทำด้วย ทำให้เหนือกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย เราต้องช่วย ตัวเองก่อน แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะช่วยเราทีหลัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีตัวตน พระสยามเทวาธิราชมี แต่เราต้องทำ นำหน้าท่านแล้วท่าน จะออกมาช่วยเรา ขอให้ประชาชน ออกมาเถอะ อะไรก็จะออกมาช่วย กองทัพก็จะออกมาช่วย แม้ศัตรู ก็จะแปรพรรค ออกมาช่วย

        สยามเทวาธิราชนั้น           เหนือไท
วิศิษฐ์วิเศษสมัย                      วิสุทธิ์ล้ำ
เปรียบปราชญ์แห่งราชใด            เสมอสุด แล้วเอย
พระสถิตไทยอยู่ค้ำ                   คู่ฟ้าดินสลาย

        เป็นอาเศียรพจน์ ที่อาตมาแต่ง ให้แก่ในหลวงเรา เป็นคำกล่าว ถวายพระพรในหลวง สยามเทวาธิราช ไม่เฉพาะบุคคลใด ในหลวงก็เป็น สยามเทวาธิราช เป็นพลังงานพิเศษ ที่เราเป็นเมืองพุทธ เรามีพลังงานนี้ ในแต่ละบุคคล เป็นพลังงานของ กรรมวิบาก ของชีวะแต่ละคน เป็นพลังงานดี เป็นกุศล ของแต่ละคนๆ มารวมกัน ทั้งประเทศ นั่นแหละคือ พลังแห่ง สยามเทวาธิราช แล้วเอาคำว่า อิทธิ มา สมาสเข้าไป ก็เป็น สยามเทวาธิราชิทธิ์ สยามประเทศ สร้างมามากน้อย ก็มีพลังงาน เท่าที่มี เป็นธรรมฤทธิ์ ในระดับโลกุตระ ที่ชนะกัน ไม่ใช่ด้วย เรี่ยวแรงอาวุธ เราเอาธรรมมาปฏิวัติ​ เอาอำนาจแห่งคุณธรรม อำนาจธรรมะ ก็ชนะมาเรื่อยๆ ปรากฏในไทยแล้ว เหลือแต่ มาทำให้สำเร็จ ถึงที่สุด

        เป็นการเรียนรัฐศาสตร์ ของประเทศไทย ห้องเรียนคือ ประเทศไทย ผู้ตายและบาดเจ็บ เป็นเรื่อง สุดวิสัย ที่เกินกว่า เรากำหนด เป็นวีรกรรม เป็นบุญกุศล แก่ผู้เสียสละ เป็นกุศลวิบาก ที่เราได้เป็น เหตุปัจจัย ให้เกิด ปฏิวัติประชาชน ครั้งนี้ เป็นเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องการศึกษา Phenomenology เป็นปรากฏการณ์วิทยา ไม่ใช่แค่ Prophecy เป็นเรื่องลึกลับ เก่งสุดได้เป็น Prophet หรือ เป็นเรื่องแต่ตรรกะ เหตุผล เป็น Philosophy เก่งที่สุด ก็ได้เป็นแค่ Philosopher

        การศึกษา ที่สูงที่สุด แห่งธรรมะ เรียกว่า Epistemology ก็พยายามศึกษา จนมาถึง การศึกษา ทั้งนามและรูป ทั้งสสาร และพลังงาน ทั้งกายและจิต มีพฤติภาพ ปรากฏการณ์ บทบาทลีลา เรื่องสงคราม เป็น ธรรมาธรรมะสงคราม เป็นธรรมะ กับอธรรม เพราะแม้แต่ศัตรู เขาก็พยายาม ใช้ธรรมะ แต่เขามีอธรรม มากไปหน่อย ใครมีธรรมะ มากกว่าอธรรม ก็ชนะ ผู้มีอธรรมมาก มีธรรมะน้อยก็แพ้

        ประชาชน ช่วยกันตัดสิน เรียกว่า ประชาภิวัตน์ ทำการรบ แล้วก็มีผล ตัดสินเป็น กัมมาภิวัตน์ ทุกวินาที ทุกลมหายใจเข้าออก ทุกเฮือกขณะนี้ เมื่อคืนนี้ตีสาม ก็มีกฎอัยการศึก แล้วก็มี การต่อเนื่อง เนื่องมาตั้งแต่ ๒๕๔๙ ตั้งแต่คุณสนธิ นำพธม.ออกมา เอาธรรมนำหน้า ชาวอโศก ก็มันเขี้ยวด้วย ก็เลยยกกองทัพธรรม ออกมาสมทบ ที่สนามหลวง ตั้งแต่นั้นมา …

        เป็นการศึกษา ตั้งแต่ ตั้งมหาวิทยาลัย ราชดำเนินมา ต่อเนื่องมา จนถึง ๒๕๕๗ เป็นการประท้วง ที่ได้วิวัฒนาการมา เป็นการชุมนุม ประท้วง ถูกต้องตามรธน. ถูกธรรมะ ดังที่ศาล รับรองมา วิเศษ วิสุทธิ์  วิสิฏฐ์ ตั้งแต่เกิดการชุมนุม ทางการเมืองมานี่ และชาวเสื้อแดง เขาก็ชุมนุมกันที่ อักษะ

        การชุมนุม ประท้วงนี่ ปิดเทอมกัน หลายที เทอมนี้เป็น Final ยิ่งเยี่ยมใหญ่เลย สุดยอดเลย เป็นการรบ ที่เรียกว่า ธรรมาธรรมะสงคราม ทางด้านฝ่ายอักษะ อยู่ที่ถนนอักษะ ทำไม ช่างเหมาะเหม็งเลย ไปเกิดที่นั่น เขาก็พยายาม จะชนะหรือไม่ ก็ต้องดูว่า มวลประชาชน ออกมาชุมนุมต่อเนื่อง และจำนวนใครมาก และนานกว่ากัน

        ต่อเนื่อง กระปริบ กระปรอย จะไปสู้ ต่อเนื่องยาวนาน ได้อย่างไร เอายอดคน มาสู้กัน เอาขีดสุดสถิติ มาต่อสู้กัน เหมือนนักทุ่มน้ำหนัก ก็เอาครั้งที่สูงสุด และมีคุณภาพความดี ใครแฝงบทร้าย มากกว่ากัน ก็แพ้ ใครแฝงความดี ได้มากกว่ากัน ก็ชนะ

        เมืองไทยมีบุญเยี่ยมยอด ให้ได้ศึกษารัฐศาสตร์ ของแท้ของจริง มาถึงวันนี้ ก็ต่อเนื่องมา อาตมามั่นใจว่า ไม่ว่าทางกองทัพ จะออกมาประกาศ กฎอัยการศึก ทางด้านฝ่ายรัฐบาล ก็ยังผนึกกระดุก กระดิก ยังไม่ยอมตาย พะงาบๆ จะต้องเอาคืนให้ได้ จะต้องกัดเอาชนะให้ได้ อาตมาก็ยังหวังว่า ทางโน้น ควรสำนึก

        ไทยเรา ทหารออกมาประกาศ กฎอัยการศึก เป็นการให้บันได แก่รัฐบาลนี้ลง เพราะฉะนั้น จตุพรเอ๋ย ที่บอกว่า จะร่วมชุมนุมอีก จงประกาศ สงบศึกเถอะ หากชุมนุม ประกาศสงบศึก จะสวยงาม มีบันได ให้ลงแล้ว นอกนั้น ก็ว่าไป ตามกระบิลเมือง

        ในการเกิดพลังงาน บทบาทลีลา ตาม วิถีทางแห่ง รธน.นี้ มันกำลังเกิดขนบ ประเพณี บทบาท ลีลา ที่ทหารออกมา แสดงบทบาท เช่นนี้

        ตั้งแต่ทำมา ก็เห็นใจเย็น ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมา ให้มากๆหมดๆ ก็ทำได้ดีแล้ว อย่างที่ออกมา ดูแลช่วยเหลือ ในสิ่งที่ควรช่วย ถูกต้องตามรธน. ของสัจธรรม นิติรัฐ นิติธรรม ของไทยแล้ว

        ดูตามเหตุปัจจัยนี้ว่า สวยงามมาก เป็นการศึกษา Phenomenology ที่คุณศึกษาดีๆเถอะไม่ต้องเป็นด็อกเตอร์ ก็ศึกษาได้หมด เป็นเรื่องจริงที่เกิด ทั้งโลกจะศึกษา ขอให้รักษา ความสงบ เรียบร้อย ความอบอุ่น ใช้พลังงาน Authority ไม่ใช้  Force

        มาถึงธรรมาธรรมะสงคราม ณ ลมหายใจเฮือกนี้ สวยงามแล้ว

        อาตมาฝันไปว่า ให้ประชาชนปฏิวัติเอง แล้วมีปัญญา ของทางราชการ แม้ทหาร หรือกรมกระทรวง ของประเทศ ทุกกระทรวง ข้าราชการ ออกมาเข้ากับ กปปส.หมดเลย มาแสดงตัว หมดเลย ขรก. ประเทศไทยนี่แหละ จะสวยเลย พลัง Potential  ของทหารมันมี ก็ไม่ต้องออกมา เอาแต่พลเรือน มาอยู่กับ กปปส. ทั้งหมด จะสวยที่สุด

        และกำนัน ก็เริ่มทำ ไปตามกระทรวง นั้นนี้โน้น เป็นวิธีการที่ ลหุตา สุภาพมาก ประเสริฐ เป็นวิการรูป ที่เป็นลหุตา

        ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็น เอหิปัสสิโก เอามายืนยันได้ เป็นนามธรรม ต้องรู้ได้ด้วย มิเตอร์พิเศษ เรียกว่า ญาณปัญญา ใครสร้างมิเตอร์นี้ได้ จะเห็นตรงกันหมด ไม่โมเม อุปาทาน แต่เป็น สัจภาวะด้วย

        ขณะนี้ รถดับเครื่องแล้ว มีคนเหยียบเบรคอยู่บ้าง แต่ไม่เอาแบบ หัวคะมำ เหยียบอย่าง ลหุตา สุภาพ ค่อยๆแตะๆๆ จะวิเศษ วิสุทธิ์ วิสิฏฐ์ อะไรขนาดนี้ รถยังมีแรงเฉื่อยอยู่บ้าง

        มันทำให้อาตมา หนุ่มขึ้นอีกเยอะ อย่าถือสาอาตมา เพราะถอด สมณสารูป เพราะถ้าไม่มาปรุงรส กับสังคม ก็รับกันไม่ค่อยได้ ขนาด ปรุงอย่างนี้ คนยังไม่ค่อยเยอะเลย

        พฤติกรรมทางสังคม ที่เราทำอยู่นี่ อาตมาก็เป็นหนึ่ง ในผู้ร่วมรบ ในธรรมาธรรมะ สงครามนี้อย่างภาคภูมิใจ แม้จะอายุเต็ม ๘๐ แล้วในวันที่ ๕ มิ.ย. นี้ จะไปฉลอง กลางถนนราชดำเนิน หรือไม่นะ ก็ไม่รู้ อาตมาพยายาม ไม่ให้ฉลอง เป็นเรื่องเป็นราว แม้ขณะนี้ อาตมาก็ว่า อายุยาวมาตั้ง ๘๐ แล้วไม่รู้จะได้ฉลอง ทศวรรษที่ ๙ หรือ ๑๐ หรือไม่ เพราะขนาด ๘๐ นี่ก็สูงแล้ว สำหรับ คนธรรมดาสามัญ แต่อาตมา ตั้งใจอยู่ ๑๕๑ ปี จะต้องอยู่ไปอีก ๗๐ ปี

        อาตมาก็ต้องพยายาม แต่ไม่ได้เพื่อ โลกธรรม หรือกาม หรืออัตตา แต่อย่างใด อาตมาไม่เสพแล้ว อยู่ในสังคมเรา ไม่ใช่คนดูดาย ไม่เป็นแค่เศษสวะ ไร้สาระ เราควรช่วย ทำประโยชน์ แก่สังคม ถ้ายังต้องการ โลกธรรม ได้กามได้อัตตาแก่ตัว ก็ยังไม่ประเสริฐ แต่ถ้าเรา ไม่ได้ต้องการ สิ่งเหล่านี้แล้ว เราก็อยู่ ทำงานประโยชน์ แก่สังคมไปได้ อย่างดีที่สุด

        ถ้าอ่านสภาวธรรม ขั้นรู้อัตตา ก็จะรู้อินทรีย์ของ โอฬาริกอัตตา มโนมยอัตตา และ อรูปอัตตาได้ คุณเป็นผู้หนดรู้รูป ตั้งแต่ภายนอก ไปถึงภายใน จนอรูป ก็รู้ได้ กำหนดถูก

        แม้เป็นผู้หญิง จิตคุณก็เป็น ปุริสภาวะได้ หมดกิเลสแล้ว เป็นอรหันต์หญิงได้ เป็นภาวะ ที่สิ้นบุญ สิ้นบาป ปุญญปาปปริกขีโณ

        บุญคือที่สุด คือไม่ต้องทำบุญแล้ว จบบุญจบบาป ผู้ใดสามารถอ่านรู้ได้ ถึงที่สุด สามารถจัดการองค์รวม หรือ concept ตัดมาทุก ปริเฉท Context ทุกปริเฉท ล้างกิเลสได้ จบหมด จนบริสุทธิ์ บริบูรณ์หมด คุณก็อาศัย ลักณรูปอีก ๔ ผู้ใดจบด้วย อนิจจตา ก็ไม่ประมาท ทำได้แต่กุศล อกุศลทำไม่เป็น

        สิ่งเนื่องต่อเป็น สันตติ ก็ดำเนินไปอย่าง สุขคโต มีแต ่กุสลัสสูปสัมปทา ตราบใดที่เรา ทำกุศล อย่างต่อเนื่อง ชราก็ยากเกิด แต่ห้ามไม่ได้ จะต้องเสื่อม ในสักวัน แต่เรามีชีวิตอยู่ ก็ต้องทำสันตติ ในกุศลต่อไป

        จบด้วยคำว่า ตอนนี้ภาวะการเมือง เป็นการศึกษา ของประเทศไทย เป็นธรรมาธรรมะ สงคราม เป็นการรบอย่าง อาริยชน ไม่ใช่มิลักขชน รบอย่างใช้ธรรมะ เป็นอาวุธ หวังว่า ธรรมาธรรมะ สงครามน ี้จะจบด้วย ธรรมะ อย่าง วิเศษ วิสุทธิ์ วิสิฏฐ์ ทุกคน ที่ได้ร่วมรบ ช่วยกันทำ ให้ไปสู่ ชัยชนะนั้น ขอให้ช่วยกัน อย่างชอบธรรม ดีงาม อย่าให้รุนแรง บาดเจ็บ อย่าเพลี่ยงพล้ำ ขอบพระคุณทุกคน ที่จะช่วย...

เจริญธรรม
       

   www.asoke.info