570522_พ่อครูที่ผ่านฟ้าฯ เรื่อง ศาสนาพุทธคือประชาธิปไตยแท้ |
กระแสที่ออกมา ในรูปของ การชุมนุม ทั้งของเรา และของแดง ก็ไม่รุนแรง สงบเรียบร้อย กอ.รส. ก็เลย ต้องยืดหยุ่น เพราะเป็นความสุภาพ เรียบร้อย ลดความรุนแรง ลงเรื่อยๆ เมื่อกฎอัยการศึกเกิด แทนที่จะใช้ไม้แข็ง ก็ใช้ไม้อ่อน
วันนี้ ก็จะประชุมกันอีก เมื่อวาน ก็ดูไม่รุนแรง แสดงออก อย่างใช้สิทธิที่ทำได้ เป็นวิวัฒนาการ การเมือง ที่ได้เกิด มันดูดี เกิดการก้าวหน้า ไปทางเจริญ อาตมามอง ตามภูมิปัญญา ความรู้ ของอาตมาเอง ก็เห็นว่า ประเทสไทยนี่ ก้าวหน้ามาก ในเรื่องคุณธรรม ที่เข้าไปมีบทบาท ทางการเมือง ได้อย่างสละสวย สอดคล้อง ผสมผสาน
เป็นสิ่งวิเศษ วิสุทธิ์ วิสิฏฐ์ ได้อย่างเกินคาด มีธรรมะ เข้าไปมีบทบาท ทางการเมือง ได้เนียนมากเลย สังเกตว่า กำนันสุเทพ ไม่น่าจะใจเย็น สุขุม ได้ขนาดนี้ ไม่วู่วาม ดุดัน แต่นี่ไม่เลย เกินคาดมากเลย
เป็นสิ่งจริง ที่ไม่มีใครเขียนบท เป็นไปตามสัจธรรม เพราะสิ่งที่แสดงออกมา แม้จิตใจ จะฝืนอดทน อึดอัดบ้าง แต่ก็มีจิต ที่รู้สึกว่า ยินดี เข้าท่า จะเกิดก่อน หรือหลัง เหตุการณ์ ก็ตาม ผู้ที่มีความยินดี เกิดก่อนเหตุการณ์ ผู้นั้นมีภูมิสูง ผู้ที่ยินดีหลังเหตุการณ์ อึดอัด ขัดเคือง ก่อนเหตุการณ์นี้ คนนี้ยังภูมิต่ำกว่า คนที่รู้ล่วงหน้า มีปัญญา ตัดสินได้ว่า เป็นเรื่อง ดีหรือไม่ อย่างไร ศัพท์สูงสุด ที่เขาใช้ทางโลก คือ ศาสดาพยากรณ์
การเกิด กฎอัยการศึก แล้วประนีประนอมกันได้ ก็เป็นเรื่องดี แต่ว่าลึกๆแล้ว ก็ยังไม่ยอมกัน แต่อาตมาพยากรณ์ ให้ก่อนเลยว่า ความชั่ว จะชนะความดีไปไม่ได้ แม้ว่าความชั่ว จะแอ็คอย่างไร ก็ตาม
ฝ่ายธรรมะคือมวลชน ประชาธิปไตยแท้ ส่วนประชาธิปไตยตัวปลอม
เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ประชาธิปไตยไทย จะดีขึ้น มีวิธีการดีขึ้น จะเห็นได้ว่า คนสนใจ การเมืองนั้น มากขึ้น ทั้งคนระดับล่าง จนถึงระดับสูง อาตมาจำได้ว่า ตั้งแต่เด็ก นสพ. การเมือง เป็นนสพ. กรอบบ่าย แต่นสพ. กรอบเช้า จะขายดี เป็นเรื่องทั่วไป โจรปล้น เรื่องตลก พิศดาร ขายหนังสือ เรียกว่า นสพ.เช้ามีเยอะ ส่วนนสพ. รอบบ่าย เป็นนสพ. การเมือง ขายไม่ค่อยได้ มีไม่กี่ฉบับ คนไม่สนใจการเมือง
แต่มาบัดนี้ นสพ. อย่างไทยรัฐ เดลินิวส์ ขายมวลกระแสสังคมโลกีย์ๆ แต่เดี๋ยวนี้ ทั้งสองฉบับ ก็เล่นข่าวการเมือง เต็มหน้าเลย นสพ. การเมืองเอง ก็ขายได้เต็มที่ ออกกรอบ เช้าบ่าย ได้เลย เป็นเครื่องวัด กระแสสังคมว่า คนสนใจการเมือง ที่เป็นเนื้อหาสาระ ของประเทศชาติ คนไทย ตื่นตัว เรื่องการเมือง ตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ก้าวหน้ามาก
ในทศวรรษต่อไป ทศวรรษที่ ๖๐ ไทยจะมีการเมือง ที่ทันประเทศอื่น จะมีหิริ โอตัปปะ คนหน้าด้าน หน้าทน ก็ตกกรอบ หมดแล้ว ตกยุค ทุกวันนี้ เหลือเศษ คอมมิวนิสต์ตกยุค หรือ ประชาธิปไตยน้ำเน่า ตกยุค ก็ยังมีให้เห็นได้
จะเปลี่ยน look ใหม่ของการเมืองไทย จะเป็นการเมืองใหม่ จริงๆของโลก
คืออะไร การเมืองใหม่จริงๆของโลก คือ การเมืองโลกุตระ แบบอาริยะ
ประเทศไทย จะมีพระมหากษัตริย์อยู่ แล้วประชาชน จะช่วยพระมหากษัตริย์ ดูแลบริหาร บ้านเมือง เป็น ราชประชาสมาสัย ไม่เหมือนประเทศอื่น ของเราจะมีผู้บริหาร มีธรรมะ เคารพ ยกย่องสถาบัน ปฏิบัติตน เต็มหน้าที่ และจะมีปัญญา เข้าใจประชาธิปไตย อย่างดี
ประชาธิปไตยคืออะไร ประชาธิปไตย คือการไม่เห็นแก่ตัว ถ้ายังเห็นแก่ตัว เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ เป็นคอมมิวนิสต์ ก็ไม่ได้ ถ้าสมมุติว่า ไม่มีเห็นแก่ตัว ไม่มีกิเลสเลย เห็นแก่ประชาชน ต่อให้เผด็จการ มีอำนาจคนเดียวเลย เป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่จิตวิญญาณ ไม่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประชาชน ประเทศก็อยู่เย็นเป็นสุข บริหารคนเดียว แต่มีคุณธรรม แล้วประชาชน มาร่วมมือกันทำงาน เพื่อประชาชน เพื่อมนุษยชาติ ไม่มีกิเลสเห็นแก่ตัว หรือมีเล็กน้อย แต่ได้สัดส่วน ประชาชนร่วมกับ พระมหากษัตริย์ ก็ทำให้ประเทศ อยู่เป็นสุข ไทยจะเข้าสู่ ระบอบแบบนี้
จีนมีกษัตริย์ราชวงค์เยอะ จนเปลี่ยน มาเป็นคอมมิวนิสต์ สืบทอดกษัตริย์มาเยอะ มีหลายครั้ง กษัตริย์ยังทรงพระเยาว์ ก็มีข้าราชบริพาร ช่วยกัน ดูแลบริหาร ถ้าข้าราชบริพารดี ก็ทำได้ดี พอกษัตริย์โตขึ้น ก็มารับมอบหน้าที่ บริหารต่อไป
ไทยทำได้ เพราะมีต้นเค้า มีธรรมะ อยู่ในพลังงานสังคม มีพระสยามเทวาธิราช ซึ่งยังรักษา โดมิโน ไม่ล้มได้ เพราะว่า คอมมิวนิสต์ เปลี่ยนประเทศไทยไม่ได้ จนสุดท้าย คอมมิวนิสต์ ของโลก ต้องหมดน้ำยา จบ
ไทยเรายังมี องค์ประกอบของ สุรภาโว ถ้าจิตวิญญาณคนไทย ไม่ดิ่งอยู่ในศาสนาพุทธ ทุกวันนี้ จะไม่เหลือ ศาสนาพุทธอยู่ถึง ๙๕% แม้ศาสนาคริสต์ ก็พยายาม หาพวก แต่ก็ดึงเอา ความเป็นพุทธ ของไทย ไปไม่ได้ ส่วนอิสลาม ก็เจือเข้ามาอยู่ อย่างพี่อย่างน้อง เนียน แต่ก็เป็นไปได้ยาก อย่างอินเดีย ก็ได้ไป จนแบ่งเป็นแคว้น เป็นประเทศไปเลย แต่ประเทศไทย ยากมาก
เมืองไทย ยังมีเนื้อเชื้อของ สุรภาโว เป็นพุทธ อย่างไม่ถอดถอน
สติมันโต เมืองไทย ยังสามารถศึกษา อานาปานสติ สติปัฏฐาน ๔ สติสัมโพชฌงค์ มรรคองค์ ๘ มีสัมมาสติ พอได้ ยังได้มรรค ได้ผลอยู่ ใครมีญาณปัญญา ก็จะอ่านได้ ยังมีโลกุตรธรรม อาริยธรรม ที่เป็นพุทธอยู่ ส่วนโลกุตรธรรมนั้น เป็นของพุทธ แต่คนไทย ได้ถูกครอบงำ ความคิด ทำให้เข้าใจ อาริยธรรม หรือโลกุตรธรรม เพี้ยนไปเป็น อริยธรรม หรืออารยธรรม
อริยะ ก็เพี้ยนไปทางฤาษีอินเดีย เชิงเจโต นิยมจิต หนักทางจิตนิยม
ส่วน อารยะ ก็คือ ของโลก ของมหายาน เชิงปัญญา มาทางจีน หรือตะวันตก นิยม โลกธรรม ทุนนิยม
ส่วนไทย เอาทั้งแบบจิตนิยม และมหายาน ขนาดคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ยังนิยม จิตนิยมอยู่ ส่วนไม่นิยมจิต ก็ไปนิยมวัตถุนิยม เป็นคอมมิวนิสต์ตกยุค กับ ประชาธิปไตยน้ำเน่า กองรวมกันอยู่ ก็ทำงานอยู่ ไปทางทุนนิยม มีทักษิณ เป็นนายทุนใหญ่ ใช้การตลาด จิตวิทยาสังคม ก็ครอบงำคน จำนวนไม่น้อย
ส่วนทาง คอมมิวนิสต์ตกยุค ก็เอียงทาง สังคมนิยม หรือ ประชาธิปไตยกลายๆ แต่ยึดมั่น ตัวกูของกู เหนียวแน่น อย่างที่แสดงออก จตุพรหรือธิดา ยึดมั่นถือมั่น แสดงออก ทางสังคม ประกาศปัญญา วัตถุธรรม ประสมส่วน เอาเงินทองมาด้วย
สรุปว่า นั่นคืออารยธรรม ที่เขาจะปักลงในไทย คือประชาธิปไตยน้ำเน่า กับ คอมมิวนิสต์ ตกยุค แล้วจะมา ประกาศลงในไทย พวกเราจะไม่ยอมนะ พวกเราตื่นแล้ว
อีกพวกหนึ่ง เป็นจิตนิยม เอียงไป เข้าใจว่า พระออกป่าเขาถ้ำ เป็นอินเดีย เป็นอริยะ ก็เป็นพวก ตกยุค เหมือนกัน อินเดียจะอยู่นานกว่าจีน ส่วนรัสเซีย ก็แตกไปก่อนแล้ว จีนมาทีหลัง ก็จะแตกออกในภายหลัง เหมือนรัสเซีย ที่พยายามดึงไว้ แต่ก็แตกไปแล้ว เหลือไม่เท่าไหร่
ถ้าเป็นโลกีย์สุจริต ก็ตั้งกฎระเบียบ เช่นคนเล่นหุ้น ได้เปรียบในวิธีการ ตลาดหุ้น มันก็มี เจ้าอำนาจ นายทุนที่ได้เปรียบอยู่ อย่างโซรอส ก็เป็นเจ้า อยู่ในนั้น มีอำนาจ ในการตลาดหุ้นโลก จุดใหญ่ อยู่ที่อเมริกา ที่รักษาเป็นเจ้าอำนาจ ตลาดหุ้นได้อยู่ เป็นวิธีโกงกิน ที่จะทำให้เขาอยู่ได้ เป็นการกำหนดเอง อย่างเอาเปรียบ แต่อำนาจเอาเปรียบนี้ ก็ลดลง เรื่อยๆ เพราะคนจะไม่ยอม เป็นสมบัติ ผลัดกันชม พวกเรา อย่าเอาตัวไปสู่ วงจรอุบาทว์อย่างนี้ ต้องเอาตัว ออกมาจาก วงจรโลกีย์ ให้ได้ มาอยู่ในวงจร บุญนิยม อย่างเช่น ชาวอโศก
ทุกวันนี้ แชร์แม่ชะม้อย สำนักใหญ่ของโลก คืออเมริกา มันเป็น งูกินหาง จนกิน จะไปถึงหัวแล้ว มันจะถึง กินหัวอยู่แล้ว เป็นวิธีการ มักมาก ใจไม่พอ เสพทั้งกาม ทั้งโลกธรรม ไม่มีพอ ไม่มีหยุด
ในหลวงออกมาปรามโลก เศรษฐกิจพอเพียง คำเดียว พระราชินี อังกฤษ อุทานเลยว่า King of King เลย สหประชาชาติ ต้องมามอบ พระราชรางวัล ให้ในหลวงเลย ไม่ใช่เรื่องปะเหลาะเล่น แต่เป็นเรื่อง กิตติมศักดิ์ ตัวจริงเลย ที่สหประชาชาติ ต้องยอมมอบให้เลย เป็นนักบริหาร ที่ยิ่งใหญ่ มีหลักเศรษฐศาสตร์ ที่ยิ่งใหญ่
ประชาชนคนไทย ไม่รู้ตัว ในแนวลึกนี้ ที่ไทยยังรักษา จิตวิญญาณไว้ได้ แม้จะหลงวัตถุ ไปมากเกิน ไม่ตกยุค เป็นพระป่า เป็นจิตนิยม จนจม ยังเตือนขึ้นอยู่ เราไม่ได้ดูถูกป่า เรายินดีใน เสนาสนป่า เราสร้างป่าในเมือง
เสร็จงงานนี้แล้ว ไทยเราจะไปเอียงหา วัตถุนิยม ไม่ได้แล้ว จะต้องมาเอียงหา เศรษฐกิจ พอเพียง แบบในหลวง
สมมุติให้ฟังนะ ถ้าอาตมาเหาะได้ แล้วอาตมา จะขนคนได้ไหม ไม่ได้ อาตมาสร้าง เครื่องบิน ดีกว่า สมมุติให้ดูว่า ไม่จำเป็นต้อง เอามาใช้หรอก ในยุคนี้ ไม่มีประโยชน์ ตาทิพย์ จะใช้ทำไม นี่ขนาดตอนนี้ เขาปิด ไม่ให้ออกอากาศ แต่ว่าตอนนี้ สันติอโศก บ้านราชฯนี่ ดูอาตมาเฉยเลย คือมันทำได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย อนุโลมได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ ฤทธิ์เดช ยุคนี้ใช้ อนุสาสนี ปาฏิหาริย์ ใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์กัน
ไทยเราได้สร้าง ประวัติศาสตร์ ได้ปฏิวัติประชาชน ครั้งหน้า จะสวยงามเท่านี้ หรือไม่ ก็ไม่รู้ เราทำได้ อย่างสวยงาม เหมาะสม ทำให้เกิดมี ผู้บริหารที่บริสุทธิ์ สะอาด ทำให้ประเทศ ก้าวหน้าดีงาม ใครจะไม่อยากได้เล่า แต่อย่างที่ว่า มันจะได้ พัฒนาดีงดงาม เป็นประชาธิปไตย เต็มใบ ทุกคน มีคุณธรรม ผิดนิดหน่อย ก็ลาออกแล้ว ไม่เหมือนทุกวันนี้ แต่จะได้ดีเท่าไหร ไม่พยากรณ์ ช่วยกันทำ ก็แล้วกัน คนไทย มีความรู้เข้าใจ สิ่งเหล่านี้เพียงพอ กำลังช่วยกันผลักดัน สิ่งดีให้เกิด ขอร้อง ผู้ที่เป็น จระเข้ขวางคลอง ถอนตัวเสียเถิด ก็จะได้เรียบร้อย ก็จะได้ จบลงด้วยดี
ตอนนี้พุทธรรม หยั่งลงในไทย อย่างดีแล้ว มีแต่ต้องมา ช่วยกันรังสรรค์ ศาสนาพุทธ คือประชาธิปไตย ศาสนาพุทธ คือ ประชาธิปไตย
จบการเทศน์ เพียงเท่านี้