[เลือกหนังสือ]      ปก | คำนำ | สารบัญ | ภาคผนวก | คัชนี | ผู้เขียน
page: 1/5
ตอนที่ 21-40

เลือกโศลกธรรม ตอนที่ [1-20] [21-40] [41-60] [61-80] [81-100]

โศลก 1 - 20 :
บิณฑบาต | บุญ | ผู้กินอย่างฉลาด | นิพพาน | ศรัทธา | ภาพ | ภาพกับความจริง | ผี | ยอดความสุข| ความรู้ | เอากับให้ | โลภะ โทสะ ราคะ | เสียสละ อย่าอยากได้ | โกรธพระโง่

 

1. "โลก" นั้น มันเก่งกว่า "ธรรม" มาก มันจึงสามารถสะสมพลโลก ที่เต็มไปด้วยโลกธรรมได้มากมาย ทับทวีขึ้นทุกวันๆ... คนผู้เอาชนะโลกได้ แต่ละคนนั้น จึงเป็นมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ ที่อาจสามารถ แหวกพลโลกออกมา "อยู่เหนือโลก" ได้ แม้จะมีจำนวนน้อย ก็ต้องนับว่า เป็นผู้เก่งยอดยิ่งแท้จริง คุณจงเป็นผู้สะสม ว่านวงศ์พงศ์พันธุ์ "คน" ชนิดที่ชนะโลก ให้ได้มาก ๆ สมกับชื่อของคุณนั่นเถิด อย่าเป็น คนที่โลกสะสมไว้ อย่างไม่ราข้อนั้นเลย
(๔ธ.ค.๒๕๑๘) - กลับไปที่หัวเรื่อง

2. ผู้จะก้าวออกจากกรอบแห่ง "โลก" ได้นั้น ต้องเอาจริง!
(๕ ธ.ค.๒๕๑๘) - กลับไปที่หัวเรื่อง

3. "เรียบ ง่าย สบาย ว่างดี จริงหนอ ! ท่านเลิก ! ท่านหยุดอะไรได้บ้างเล่า ? จึงเบาเบยพ้นบ่วงที่ต้อง ดิ้น พ้นทุกข์ที่ต้องร้อนรนหาอยู่มิรู้แล้วได้ ?"
(22 ธ.ค. 2518) - กลับไปที่หัวเรื่อง

4. เพื่อนคุณเขาตายไปแล้วก็มี! และที่ยังอยู่ก็มี ... ทว่าที่ยังอยู่ยังไม่ตายนั้น ล้วนแล้วแต่ยังคือ นักต่อสู้ผู้ "เมาหมัด" เหมือนคุณนั่นแหละทั้งนั้น ภาพที่เห็นนี้ ก็เพื่อนของคุณจริง ๆ แต่เป็นผู้ที่ตายแล้ว หรือ "ยังอยู่" ทว่า ..."ไม่เมาหมัด"
(22 ธ.ค. 2518) - กลับไปที่หัวเรื่อง

5. จิตที่วางได้ดีแล้วนั้นจะเป็นเครื่องใช้ของเรา "สำหรับเราเท่านั้น และ จิตที่รู้สมมุติในโลกกับเขา แล้วหาทาง ช่วยเขาด้วยนั้น จะเป็นความประเสริฐ ที่โลกต้องมี ต้องได้ เป็นคุณค่าสำหรับเราด้วย" สำหรับโลกด้วย
(30 ม..ค. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง

6. บิณฑบาต นั้น คือ งานแสดงธรรมโปรดสัตว์ของนักบวชผู้มีคุณธรรมที่แท้จริง คนผู้ได้พบได้รับ "ธรรม" จะเกิดผลในจิตจริงๆ สอบดูรู้ได้ เป็นความเจริญ ความประเสริฐ ธรรมนั้นมีคือ ศรัทธา- ปัญญา-ปิติ ที่สำคัญคือ ลดความโลภ และลดความโกรธ ลงไปอย่างแท้ มิใช่คนผู้พบนักบวช ตักบาตรกับนักบวช แล้วจะได้ความโลภใส่ใจเพิ่ม ได้ความพยาบาทผูกพันขึ้นอีก เพิ่มมาเป็นอันขาด
(22 พ.ค. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง

7. คนผู้ตักบาตรเป็นนิจ นั่นคือ ผู้ประพฤติธรรมแล้ว แต่จะได้ผลเป็น "บุญ" หรือไม่? ก็ขึ้นอยู่กับการทำจิตอย่างไร? ในตอนตักบาตรนั้นเท่านั้น! ถ้าตั้งจิตขอนั่นขอนี่ในการตักบาตร นั่นคือผู้ตักบาตรนั้นยิ่งขอยิ่งไม่ได้ "บุญ" ยิ่งอธิษฐานขอเอาโน่นเอานี่มากเท่าใดๆ ก็ยิ่งไร้ผล "บุญ" ยิ่งเท่านั้นๆ ผู้ตักบาตรด้วยศรัทธาที่พร้อมด้วยปัญญาแท้ โดยไม่ต้อง "ขอ" อะไรเลย และพยายามตั้งจิตให้อยู่ในสภาพจิตสะอาดอย่าให้มีโลภะ-โทสะ-โมหะ ใดๆ ให้ได้อย่างละเอียดผุดผ่องทุกทีๆ นั่นแลคือผู้ได้ผล "บุญ" มากทุกครั้งเพราะทำ "อธิษฐาน" ถูกภาษา ถูกสัจธรรมเป็น "สัมมาอริยมรรค"
(22 พ.ค. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


8. ผู้กินอย่างฉลาด คือ ผู้รู้จักกินธาตุแท้ๆ ที่พอแค่เลี้ยงกายเท่านั้น มิใช่หลงรูปของกิน หลงติดรสของกิน หลงกลิ่นของกิน และหลงความอัครฐานของของกิน ผู้ฉลาดและ "ทำได้" แท้จริงแล้วจะเป็นสวรรค์พิสุทธิ์ ที่ไม่ใช่สวรรค์ลวงได้เองกับตน แท้จริง
(22 พ.ค. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


9. "นิพพาน" นั้น ไม่ใช่คนเก่ง แต่ "นิพพาน" นั้นคือ ผล ของคนผู้มีปัญญา รู้จัก "เจโตวิมุติ" และทำ "เจโตวิมุติ" นั้นๆ ให้กับตนเองได้สำเร็จ จนไม่กลับกำเริบ อย่างสัมมาทิฏฐิแท้จริง
(22 พ.ค. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


10. ศรัทธา แม้จะมีมาก มีแรง แถมวิริยะดีจัดปานใดก็ตาม แต่ถ้าขาดสัมมาทิฏฐิเสีย ก็ไม่มีหวังพบกับนิพพาน
(22 พ.ค. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


11. ผู้ปรารถนาจะได้ "ภาพ" อาตมาไว้นั้น จะต้องรู้ให้จริงว่า "ภาพ"ของอาตมาเป็นอย่างไร? ประกอบพร้อมด้วยคุณสมบัติอย่างไร? (สภาพ, สภาวะ) ต้องรู้ ต้องอ่านให้ออกให้ลึกซื้ง ทั้งนามธรรม ทั้งรูปธรรม และต้องรู้ด้วยว่า (ส) "ภาพ" อย่างใด? ที่เราควรจะถ่ายทอดเอาไว้ให้ได้เร็วที่สุด แนบเนียนที่สุดด้วย นั้นแลคือ ผู้ได้ "ภาพ" ของอาตมา หาไม่คุณจะได้แต่แผ่นกระดาษที่มีสีกันเท่านั้น

(3 มิ.ย. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง

12. "ภาพ" นี้มันเป็นเพียงเส้น แสง เงา สี แต่ "ความจริง" ที่คุณต้องการแท้ๆ นั้นไม่ใช่เพียง "ภาพ" หรือแม้แต่ที่สุด "ความจริง" นั้นจะไม่ใช่ "มโนภาพ" เป็นอันขาด ขอให้คุณพยายามเพื่อได้ "สภาพ" อันสมภาพให้ได้
(11 มิ.ย. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


13. "ผี" ในป่าช้านั้น มันคือผีหลอกๆ "ผี" ในตัวคนนี่แหละคือ ผีแท้ๆ จริงๆ ใครฆ่า "ผี" ในตนได้ผู้นั้นคือ "พระ" แท้จริง แม้ไม่ต้องห่มจีวร โกนหัว
(7 ต.ค. 2519)
- กลับไปที่หัวเรื่อง

14. "ยอดความสุข" ประการแรกที่คนผู้ฉลาดแท้จะพึงได้เป็นอริยสมบัตินั้นคือ "เราไม่โกรธ"
(7 ต.ค. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


15. "ความรู้" ของตนจะพาตนยิ่งใหญ่ได้ก็จริงที่สุด แต่ "ความไม่รู้" ในตน หลงตนว่าใหญ่ ว่ายิ่งจะเลวที่สุดและจริงที่สุดเสียอีก
(16 พ.ย. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


16. ผู้ที่มี "การรับเอา" แต่ไม่มี "การให้" นั่นคือผู้ขาดทุน เพราะเป็นผู้ทำจิตของตนให้เอียงไปสู่โลภะ ส่วนผู้ที่มีแต่ "การให้" โดยมี "การรับเอา" น้อยได้เท่าใดๆ กลับยิ่งได้กำไรมากเท่านั้นๆ เพราะเป็นผู้ทำจิตของตน ให้หมดโลภะ และเอียงเทเข้าสู่ความหมด ความจบหรือสุญญตา
(17 มี.ค.17) - กลับไปที่หัวเรื่อง


17. ผู้ที่เห็นกิเลสของตน อยู่กับตนแท้ๆ ขณะใด นั้นคือผู้เริ่มไม่มีกิเลสขั้นต้น… คือพ้น "โมหะ" แล้ว จงอย่าให้กิเลสมันชนะเรา ทุกครั้งให้ได้นั่นคือ เราเป็นผู้ไม่มีกิเลส แล้วโดยจริง ขั้นกลางคือ พ้น "โทสะ" เมื่อทั้งรู้ ทั้งได้ทำดั่งนี้เสมอๆ ความดับสนิทแห่งกิเลส นั้นก็จะเป็นสมุจเฉทได้ เป็นขั้นสุดบริบูรณ์ นี้แหละ คือ พ้น "ราคะ" สนิทสูงสุด

(3 พ.ย. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


18. หัดเสียสละ หรือให้ของที่เรารักแก่ผู้อื่นให้ได้เสมอๆ แต่อย่า "อยากได้" อะไรตอบแทน นั่นคือ เรากำลังสะสม "นิพพาน" ให้แก่ตนเอง

(3 พ.ย. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


19. ผู้รู้ว่าตนโกรธอยู่ที่ใด ก็ไม่สนุก ไม่อร่อย อยู่ที่นั้น แต่ก็ไม่ทำตนให้หยุดเสียจากความโกรธนั้นๆ ผู้นั้นก็ยัง "โง่" แท้ๆ อยู่นั้นเอง

(3 พ.ย. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


20. ผู้บรรลุธรรมได้นั้น มีหลักสำคัญอยู่ว่า "ต้องเอาจริง!"

(3 พ.ย. 2519) - กลับไปที่หัวเรื่อง


 

   [เลือกหนังสือ]
page: 1/5
ตอนที่ 21-40
   Asoke Network Thailand