๑๗. ร่วมกันสู้ หน้า ๑๙๖

ปฏิกิริยาในต่างแดน

การใช้กำลังเข้าปราบปรามประชาชนในครั้งนี้ รู้ถึงไหนก็อายไปถึงนั่น ประเทศต่างๆ พากันเศร้าสลด และรุมประท้วง หลายประเทศประกาศตัดความช่วยเหลือ ที่เคยมีกับประเทศไทย เป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุด ที่ประเทศไทยถูกประเทศต่างๆ ประท้วงถึง ๒๒ ประเทศ เช่น

สหรัฐฯ นางมาร์กาเร็ต ทัตไวเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า การกระทำของรัฐบาลไทย เป็นเรื่องเกินกว่าเหตุ ป่าเถื่อนและโหดเหี้ยม เกินกว่าจะยอมรับได้ สหรัฐฯ ประกาศตัดความช่วยเหลือไทย ด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ยกเลิกการซ้อมรบ ร่วมกับทหารไทย พร้อมกับเสนอหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการด้วย

อังกฤษ รัฐบาลอังกฤษ เรียกทูตไทยเข้าพบ เพื่อยื่นหนังสือประท้วง ด้วยการไม่ให้เครื่องบิน บริติชแอร์เวย์บินมาไทย และแสดงความเศร้าสลดที่ประชาชนถูกสังหาร พร้อมกับเรียกร้อง ให้รัฐบาลไทยปล่อยผู้ชุมนุมประท้วง ที่ถูกจับกุมไป

ออสเตรเลีย นายพอล คีทติง นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า ตกใจจนขนหัวลุก กับการใช้กำลัง เข้าปราบครั้งนี้ เป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสยดสยองอย่างยิ่ง ออสเตรเลียประกาศทบทวน ความสัมพันธ์ทั้งหมด ที่มีกับไทย

นิวซีแลนด์ ก็เช่นกัน ขณะเดียวกัน กลุ่มประชาคมยุโรป อีก ๑๒ ประเทศ เริ่มตั้งข้อสังเกตว่า จะค้าขายกับเราต่อไปหรือไม่

ญี่ปุ่นนั้น ประกาศหยุดการประกอบกิจการ บางประเภทไว้ชั่วคราว

สวีเดน นายกรัฐมนตรีสวีเดนกล่าวว่า การที่รัฐบาลใช้กำลัง เข้าปราบปราบประชาชนนั้น นับเป็นความล้มเหลวที่สุด ของประชาธิปไตยในเมืองไทย เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ปล่อยผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ที่ถูกจับกุมทุกคนโดยด่วน

แคนาดา รัฐมนตรีฝ่ายกิจการค้าต่างประเทศของแคนาดา ประกาศระงับการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ ทุกชนิด ให้กับไทย และระงับการแลกเปลี่ยนทางการทหารทุกชนิดด้วย พร้อมกับยกเลิก การเดินทางของ รัฐมนตรีกลาโหมแคนาดา ที่จะมาเมืองไทยด้วย

มีข้าราชการที่จะได้ไปดูงาน บางประเทศ เขาของด

ส่วนข้าราชการที่ได้ไป ก็ไม่ได้รับการต้อนรับ

ทีนี้หันไปฟัง ความคิดเห็นของสื่อมวลชน ในต่างประเทศบ้าง ซึ่งให้ความสนใจมาก ต่อเหตุการณ์รุนแรง ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

สำนักข่าวเอพี เสนอบทวิเคราะห์ว่า สาเหตุเกิดจากความขัดแย้ง ระหว่าง ทหารที่สืบทอด อำนาจเผด็จการ กับขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย ที่แพร่ขยายอย่างรวดเร็ว ผู้ชุมนุมประท้วง ส่วนใหญ่มาจาก คนชั้นกลางที่มีการศึกษา ไม่พอใจที่ทหารใช้กำลังเข้ายึดอำนาจ

นิตยสารไทมส์ เขียนบทบรรณาธิการไว้ว่า ประเทศไทยรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ แต่ล้าหลัง ทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย การเรียกร้องประชาธิปไตย ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต ได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเคยเกิดมาแล้ว

หนังสือพิมพ์ ดิอินเดอเพนเดนท์ เสนอบทวิเคราะห์ว่า ในประเทศไทย ทหารเป็นผู้กุมอำนาจ ทางการเมือง ส่วนเรื่องที่พลเอกสุจินดาอ้างว่า คอมมิวนิสต์อยู่เบื้องหลังการประท้วงนั้น คอมมิวนิสต์ได้สูญหายไปนานแล้ว เชื่อถือไม่ได้

หนังสือพิมพ์ เดอะไทมส์ ของอังกฤษ กล่าวไว้ในบทบรรณาธิการว่า พลเอกสุจินดา เลือกที่จะใช้กำลังทหาร เข้าปราบปรามประชาชน มากกว่าจะยอมทำตามคำเรียกร้อง ของประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อรักษาตำแหน่งไว้ เชื่อว่าไม่สามารถหยุดยั้ง การปฏิวัติสังคมไทยได้

หนังสือพิมพ์ เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล ของสหรัฐฯ ให้ความเห็นไว้ ในบทบรรณาธิการว่า การตัดสินใจของ พลเอกสุจินดา ให้ทหารยิงประชาชน เป็นการทำลาย และก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อการพัฒนาประเทศอย่างหนัก

หนังสือพิมพ์ของฟิลิปปินส์ หลายฉบับ ให้ความเห็นตรงกันว่า การที่รัฐบาลใช้ทหาร เข้าเข่นฆ่าประชาชนนั้น ทำลายการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย ที่กำลังอยู่ในระดับสูง ให้ชะงักงัน เป็นเรื่องน่าขยะแขยง ที่รัฐบาลและทหารไทย ปฏิเสธการเรียกร้องประชาธิปไตย

สรุปว่า ถ้าหากการต่อสู้ยังคงมีต่อไป และประชาชนต้องเสียชีวิตเพิ่มอีกละก็ ประเทศไทย จะถูกสังคมโลกประณาม และโดดเดี่ยวทันที ไม่มีใครคบ ไม่มีใครซื้อของจากเมืองไทย ไม่มีใครมาเที่ยว แค่นี้ก็แห้งตายกันไปทั้งชาติ

ส่วนทางด้าน ปฏิกิริยาของคนไทยในต่างแดนนั้น สื่อมวลชน ได้รายงานว่า

คนไทยที่ลอสแองเจลิส สหรัฐฯ ได้ชุมนุมประท้วง ที่หน้าสถานกงสุลไทย และที่วัดไทย พร้อมกับส่งจดหมาย ขอร้องให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กดดันรัฐบาลไทย ให้ยุติการใช้กำลังรุนแรง และยังได้เรี่ยไรเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้เสียชีวิต

กลุ่มนักเรียนไทยในออสเตรเลีย เรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลีย ตัดสัมพันธ์ทางการทูต กับรัฐบาลไทย ทั้งยังได้เรียกร้อง ให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมด และให้พลเอกสุจินดา ลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี

ในอังกฤษ คนไทยได้ไปชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูต เรียกร้องให้รัฐบาล “หยุดฆ่าประชาชน”

การชุมนุมประท้วงของคนไทยในต่างแดนนั้น มีการชุมนุมประท้วงอีกหลายประเทศ ทั้งนักศึกษา และประชาชน ที่ทำมาหากินอยู่ในประเทศนั้นๆ ต่างมีความรู้สึกนึกคิด เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตย และประณามการใช้กำลัง เข้าปราบปรามประชาชน 


 

อ่านต่อ ๑๘ พฤษภาทมิฬ

จากหนังสือ ... ร่วมกันสู้ ... พลตรี จำลอง ศรีเมือง
* ปฏิกิริยาในต่างแดน * หน้า ๑๙๖