หมดเปลือก"ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ" ผู้ปิดทองหลังพระ วันแห่งชัยชนะ

จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า http://www.naewna.com/politic/106924

วันศุกร์ ที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2557, 18.31 น.

“เมื่อเรารุกรบไม่ชนะ เราก็รับ และถ้าเมื่อเรารับไม่ได ้เราก็ต้องร่นถอย เพื่อให้ได้เวลา ที่จะกลับรุกใหม่ ในวันข้างหน้า และในวันน ี้พวกเราก็ชนะแล้วไง”

ภายในงาน รำลึกงาน 80 ปี วิชิตชัย งานฉลอง วันคล้ายวันเกิด ของพ่อท่าน สมณโพธิรักษ์ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2557 ที่จังหวัด อุบลราชธานี ผู้ปิดทองหลังพระ "พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ" และคณะเสนาธิการ กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ (กปท.) กองทัพธรรม คปท. จนมาถึง กปปส. โดยเฉพาะของ กปท. ได้ร่วมต่อสู้กันมา ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2556 - 22 พฤษภาคม 2557 จนถึงวันที่กองทัพ ประกาศใช้ กฎอัยการศึก เข้าควบคุม สถานการณ์ รวมแล้ว 292 วัน

“ลุงปรีชา” เล่าว่า ช่วงที่มีการชุมนุม ขับไล่ระบอบ ทุนสามานต์ วิถีชีวิตประจำวัน เปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือ ตอนเช้า ของทุกวัน ลุงปรีชา มักจะต้องมี ข้าวปลาอาหาร หรือปาท่องโก๋ มาฝากน้องๆ ที่น่ารักคือ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ , พล.อ.ชูเกรียติ ตัณสุวัฒน์ , พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี และ ท่านผู้ว่าสนธิ เตชานันท์ ผมจะเรียก น้องเหล่านี้ว่า "BraveHeart HeartHead คือผู้ที่หัวใจ ที่เข้มแข็ง หัวแข็ง" พวกเราก็ไม่ได้ดีทุกอย่าง หากเจ้านายเราไม่ดี เราก็ไม่ยอม ดังนั้นน้องๆ ผมทุกคนเหมือน BraveHeart คือ กล้าหาญ และ HeartHead ถ้าใครอะไรที่ผิด ก็จะไม่ยอม ฉะนั้น ผมจึงเห็นน้องๆ เขาเข้ามา มีความร่วมทุกข์ ร่วมสุขด้วยกัน ผมจึงมีหน้าที่ ต้องดูแลเขา ให้แข็งแรง เพื่อที่เขาจะได้ทำงาน ร่วมกับเรา ไปสู่ชัยชนะ เพื่อบ้านเมืองของเรา

"ชัยชนะส่วนใหญ่ ของพวกเรา มาจากกองทัพธรรม ที่เผยแพร่ธรรมะ สันติ อหิงสา ไปสู่ "กำนันสุเทพ" เพราะหาก อยู่ในสงคราม บางที เราจะต้องนำธรรมะ และกุศโลบาย วางไว้ข้างๆ ดังนั้น ช่วงที่มีการชุมนุม ผมจะพยายาม ทำทุกอย่าง อย่างเช่ นผู้ที่มาร่วมชุมนุม ถ้าเขามาแล้ว ไม่มีอาหารกิน เขาจะอยู่กับเราได้ยังไง จึงต้องยกให้ กองทัพธรรมเป็นพระเอก คือเรื่อง 1.เสบียง 2.ธรรมะ ที่สามารถสื่อถึง ให้ลุงกำนันสุเทพ เพราะเขามีแค่นกหวีด กับเท้าที่ต้องเดิน ส่วนคนที่สำคัญ ในกองทัพธรรม ก็คือ ร.ต.แซมดิน และ นายมั่นแม่น ส่วนผมนั้นคือ ตัวประกอบผู้ชักใย" ลุงปรีชา กล่าว

พล.อ.ปรีชา ยังเผยถึงการต่อสู้กับระบอบทุนสามานต์ เมื่อครั้งที่ไปปิดทำเนียบ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2556 แล้วยอมยุติ การชุมนุม ในเวลาต่อมา หลังเจรจากับ เจ้าหน้าที่รัฐว่า ในครั้งนั้น คนที่ว่า หรือตำหนิเรา ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะพวกเขา หวังกับผมมาก เวลานั้น ตัวผมเองรู้ว่า สถานการณ์เช่นนี้ เราไม่สามารถ จะเอาชนะรัฐบาลได้ และไม่ต้องการ ให้มีการบาดเจ็บ ล้มตายใดๆ ทั้งสิ้น ผมจึงมองว่า มันเป็นเรื่องที่เสียเปล่า และยังไม่ได้ชัยชนะ แล้วเราจะไป ยอมเสียตรงนั้น ทำไม

ฉะนั้น ผมจึงยอมที่จะถูกตำหนิ เพื่อวันข้างหน้า เพราะในหลักการ ยุทธวิธี ทางทหารแล้ว “เมื่อเรารุกรบไม่ชนะ เราก็รับ และถ้าเมื่อเรา รับไม่ได้ เราก็ต้องร่นถอย เพื่อให้ได้เวลา ที่จะกลับรุกใหม่ ในวันข้างหน้า และในวันนี้ พวกเราก็ชนะแล้วไง” บางคน เขาไม่เข้าใจ เพราะยังไง คนรักชาติ ก็มีค่ากับเราทุกคน เราจะหา คนที่รักชาติง่ายๆ ไม่ได้ เพราะฉะนั้น เราต้องรักษา ให้เขาได้ร่วม ต่อสู้กับเรา ปลอดภัยกับเรา จนถึงวันชัยชนะ แล้วทุกคน ก็จะอยู่ร่วมกัน ในวันแห่งความสุข

"ความดีจะเริ่มต้น ก่อตัวขึ้น เมื่อถูกความชั่วรุกเร้า เพราะปกติ คนดีเขาจะไม่ไป ต่อยตีกับใคร แต่เมื่อถูก ความชั่วรุกเร้า โดยเฉพาะ ผู้ปกครอง ที่ปกครองด้วย ไม่เป็นธรรมแล้ว ก็จะมีการเริ่มก่อตัว ต่อสู้โดยใช้ระยะเวลา"

พล.อ.ปรีชา ได้กล่าวทิ้งท้าย ถึงน้องๆ ทั้ง 4 คน ที่พูดมาข้างต้นว่า
แต่ละคน มีบุคลิกแตกต่างกันไป
ถ้าต้องการ ความแหลมคม ผมก็จะส่ง พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ ไป
ถ้าต้องการ ความเด็ดขาด ผมก็ส่ง พล.อ.ชูเกรียติ ตัณสุวัฒน์ ไป
ถ้าต้องการ ด้านวิชาการ นักยุทธศาสตร์ ผมก็ต้องส่ง พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี ไป
และถ้าต้องการ ความประนีประนอม ผมต้องส่ง น้องสนธิ เตชานันท์ ไป
แต่ถ้าสถานการณ์ไหน ที่ต้องเสี่ยงเป็น เสี่ยงตายนั้น ผมต้องไปเองครับ
     

   www.asoke.info