ธรรมปัจเวกขณ์ (๑๐๐)
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๒๕

ขอให้พวกเราได้สังวรระวัง เรื่องภวตัณหา เรื่องเสพย์ภพ ให้สำคัญยิ่ง เรื่องกามภพ ก็พูดกันมามากแล้ว ก็มีนโยบายเยอะแยะ ที่เราได้กระทำ แม้แต่เขาเป็นฆราวาส เขาก็ละกามมาได้แล้ว ถ้าผู้ใดยังไม่แน่ใจ ก็ต้องค่อยปราบปราม แต่ถึงแม้การเป็นอยู่ ทุกวันนี้ ได้สอดส่องดูแลอยู่แล้ว กามมันก็มีเศษส่วนเหลือ ดังที่เคยแนะนำ ก็ดูไปอีก ในภาวะที่เรามีอินทรีย์ทั้ง ๖ สังวรสำรวมอินทรีย์ ทั้ง ๖ เสมอ เป็นอยู่กันตามธรรมดา แม้ในเวลานึกคิด ก็ให้ระวังความนึกคิด อย่าให้เป็นกามวิตก แม้แต่การทำการงานอะไรก็ตาม ก็จะต้องระมัดระวัง ไม่ให้มีแม้แต่ปาณาติบาต อทินนาทาน และกาเมสุมิจฉาจาร อย่างละเอียด เมถุนสังโยค ต้องมีสภาวธรรมรองรับ จะต้องรู้ในเมถุนสังโยค อย่างลึกซึ้งละเอียด นั่นเป็นเรื่องของกาม ก็จะกำชับกำชาเพิ่มเติมอีก

ส่วนภวตัณหานั้น ต้องเอาให้ชัดเจน เราเสพย์ภพทุกวันนี้ หยาบคาย เช่นเดียวกันเสพย์กาม ถ้าเราไม่รู้จักฐานะของตัวเรา เราทำหยาบ ในเรื่องของฐานที่มันสูงขึ้น ประมาณอย่างนี้ เราไม่รู้จักสักกายะ ไม่รู้ความใหญ่ความโตของเรา ไม่รู้ว่านี่ เราหยาบใหญ่หยาบโตแล้ว เราก็ไม่สามารถที่จะล้างมันออกได้ เราต้องสังวรระวัง มีหิริมีโอตตัปปะ ในความหยาบของเราให้ชัดเจน ภวตัณหาเสพย์ภพ

เราอยู่ในอรัญวาสีอย่างนี้ เสพย์ภพง่ายที่สุด ต้องแก้ด้วย การที่ขยันหมั่นเพียร ใช้อิทธิบาทแก้การตกภพ เราจะต้องอ่าน ต้องชัด อย่าให้เราเสพย์สม ใส่กระป๋องออมสิน อย่าให้เราเสพย์ภพ โดยการที่ให้อาหารแก่มัน เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้น เราจะละหน่ายคลายได้อย่างไรน่ะ เราเกื้อกูลมันด้วยอาหาร เราเกื้อกูลมัน ด้วยความเสพย์คุ้นเคยชิน เราไม่มีการอดกลั้น เราไม่มีการเว้นขาด เราไม่มีการบรรเทาได้ เราไม่พิจารณา แม้กระทั่ง เวลาที่เราจะเป็นอยู่ ว่าเรากำลังเสวยอารมณ์อะไร ถ้าเราไม่รู้ในอารมณ์ เสวยอารมณ์เราไม่รู้ เราไม่รู้ธรรมารมณ์ เราไม่รู้แม้แต่ความเกี่ยวข้องมาข้างนอก เข้าไปสู่อารมณ์จิต ถ้าเราแก้ไขไม่ได้ ไม่ชัดเจน ไม่กระจ่างว่า นี่เราตกภพแล้ว นี่เสวยอารมณ์แล้ว เสพย์สมสุขสมอารมณ์ภวตัณหาแล้ว เป็นภวภพแล้ว สมสู่อยู่อย่างกับเสพย์สมเมถุน เมถุนของหยาบ เมถุนของละเอียด ต้องรู้ให้ชัดเจน ถ้าเราพิจารณาไม่ออก ไม่รู้เท่าทันน่ะ ไม่รู้เป็นปริญเญยยะ ไม่รู้ต้นเหตุของตัณหา ภวตัณหาของเรา จับจิตตัวลึกตัวใน ที่จะเป็นตัวถอดถอนออกไม่ได้ พยายามละหน่ายคลาย ตัวตัณหาในภพไม่ได้น่ะ เพราะเราไม่มีปริญเญยยะ เราไม่รู้ทุกข์ ตัวทุกข์ ทุกข์เพราะตัวที่เราเสพย์ภพ และเราก็ไปหลงสุข เป็นสุขารมณ์ เป็นอาการเสพย์เสวยภพ แล้วก็เป็นความสุขด้วย เราก็ให้อาหารมันด้วย เมื่ออาหารของนิวรณ์ มันสูงๆๆๆ เสพย์ทั้งถีนมิทธะ เสพย์อุทธัจจะกุกกุจจะ แล้วเราก็ไม่เข้าใจอารมณ์อุทธัจจะ ฟุ้งซ่านอยู่ ไม่เข้าใจอารมณ์ของจิตตกหรี่ ตกหลับ ตกหลบ ไม่เข้าใจจริงๆ แล้วเราก็ให้อาหารแก่มัน เราแก้มันไม่ได้ ต้องตายเป็นตาย เมื่อเราเอง เราออกจากกามมาได้ปานฉะนั้น เราก็เบาว่าง ขนาดนั้น ถ้าเรามาทางนี้ เรารักษาภพ เราพยายามปราบตัณหาในภพไม่ได้ เราก็ไม่ได้ดิบได้ดีอะไรกว่านั้น เป็นโมฆบุรุษอีกชาติหนึ่ง อยู่อย่างนั้นไป ถ้าเศษกาม ก็ไม่ละเอียด เราจะรู้เศษกามละเอียดได้ ก็เพราะเราฆ่าตัณหาในภพ ที่ตัวฟุ้งซ่าน ฟุ้งซ่านหยาบ ฟุ้งซ่านทำให้รำคาญใจ มันก็มีพวกนี้กวน ถ้าเราฆ่าตัวฟุ้งซ่านหยาบ กุกกุจจะไม่ได้ เราจะไปถอนอาสวะอนุสัยไม่ได้เลย และกามราคะ ที่เป็นรูปราคะอรูปราคะซ่อนใน เราก็จะไม่เข้าใจ เมื่อไม่เข้าใจ เราถอดถอนอะไรไม่หมด เราก็ต้องเวียนกลับไปเป็นมนุษยโลก สัตว์เดรัจฉาน อีกอย่างเดิม

ถ้าเราถอนกาม ถอนรูปราคะ อรูปราคะได้ แล้วเราก็รู้จักตัณหาในภพ ถอนภพสิ้นซาก อยู่ปกติธรรมดา เป็นมนุษย์ที่ขยันขันแข็งหมั่นเพียร เป็นผู้ที่ทำทั้งความดี ละความชั่วสนิท ทำความดีสร้างสรร จิตบริสุทธิ์ จิตสะอาด จิตขาวรอบ เป็นสจิตตปริโยทปนัง หมดอัตตา หมดตัวตน กามสุขัลลิกานุโยค เราก็ไม่มีอัตตกิลมถานุโยค เราก็รู้สิ้นแจ้งจบ ดับสิ้นอัสสาทะในภพได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นภวตัณหาใดๆ

เพราะฉะนั้น เราสิ้นกามาสวะได้แท้ สิ้นภวาสวะได้แท้ ด้วยพ้นอวิชชา หรือสิ้นอวิชชาสวะ เป็นการรู้ยิ่งอย่างแท้จริง เราจึงจะถอดถอนภพได้ ขอให้พวกเราได้หมั่นศึกษาสังวรระวัง และประพฤติจริงๆ ถ้าปราบภวภพนี้ไม่ได้ ศาสนาไม่เดิน ติดขัดอยู่มาก ที่ภวตัณหา กามตัณหา เดี๋ยวนี้ เราก็ช่วยเหลือเฟือฟายฆราวาส รู้เท่าทัน และเขามาเป็นลูกศิษย์มากแล้ว แต่เราก็ยังติดแป้น เราก็ยังไม่เลื่อนภูมิเลื่อนภพ ถ้าเราไม่เลื่อนภูมิเลื่อนภพ ฆราวาสนั่นแหละ เขาจะเลยหน้าเรา แล้วเขาจะขี่หัวเรา เพราะเขาทำงาน ฆราวาสเขาทำงาน แต่เรากลายเป็นเดียรถีย์ฤาษี เรากลับไม่ทำงาน แล้วเราไม่ได้ล้างส่วนละเอียด ฆราวาสนั่นแหละ เขาจะเป็นอริยะที่สูงกว่าคุณในอนาคต ถ้าคุณไม่สังวรไม่ระวัง และไม่เอาจริงเอาจัง เราก็จะเป็นผู้ที่เวียนกลับไปสู่โลก แต่ฆราวาส เขาจะกลับมาเป็น ผู้ที่เป็นหัวหน้าคุณอีก ต่อไปในอนาคต ขอให้สังวร ขอให้สำนึก และเอาจริงให้ได้ ถ้าเราปราบจริงไม่ได้ เราก็ทำศาสนานี้ ถึงที่สูงสุด บริบูรณ์ ไม่ได้โดยแท้

สาธุ

*****