038 ธรรมปัจเวกขณ์
วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๒๖

การศึกษาทางธรรม มันมีจุดสำคัญที่เราควรจะรู้อยู่ ๒ จุด เท่านั้นแหละ หนึ่งจุดหยุด สองจุดทำงาน เพราะฉะนั้น เราจะต้องเข้าใจอย่างแม่นเป้า ว่าเราจะหยุดอะไร เราจะทำงานอะไร อย่าเถรตรงพาซื่อว่า พอบอกว่า มาสอนว่าให้หยุด แล้วก็หยุดพาซื่อ ตายไปเลย เป็นคนไม่มีบทบาทการงาน ไม่มีคุณค่า หยุดแข็งทื่อไปเลย อย่างงั้นก็ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ธรรมะ หรือเป็นคนทำงาน ก็ทำจนไม่รู้ว่า งานใดเป็นกุศล งานใดเป็นอกุศล งานใดไม่ควรทำ อย่างไม่รู้เหตุไม่รู้ผล ไม่รู้ความจริง อย่างนั้นก็ไม่ได้เรื่อง ก็ไม่เป็นธรรมะ มันจะเป็นการผลาญพร่า และทำลายอย่างร้ายกาจ เช่นเดียวกันกับคนหยุด

สิ่งที่เราศึกษา ๒ จุดนี้ ศึกษาให้แม่น แล้วรู้ตัวเราเป็นแกนกลาง เรามีอะไรที่ควรหยุด ตั้งแต่พฤติกรรมกาย การกระทำที่อกุศลของเรา หยุดก่อนน่ะ ไม่ว่ากาย วจี หรือ มโน ก็ต้องหยุด หยุดให้ได้ และเราก็จะต้องทำสิ่งที่เป็นกุศล สิ่งที่ดีอยู่ เราแน่ๆชัดอยู่แล้วว่าสิ่งนี้ดี สิ่งนี้ถูกต้องสมเหมาะสมควร ไม่ได้สงสัยเลย ไม่ผิดหลักธรรม ไม่ผิดวินัย ไม่ผิดกฎไม่ผิดระเบียบ แล้วก็ทำให้ขยันหมั่นเพียรอยู่ เพราะฉะนั้น ด้านการทำงานก็ดี หรือด้านการหยุดก็ดี ก็จะมีแนวลึกซึ้งซับซ้อน หมุนรอบเชิงซ้อนเข้าไป เป็นชั้นเป็นเชิงละเอียดขึ้น ๆ

การปฏิบัติธรรม จึงทำที่ ทำดีถึงพร้อมอย่างสูงสุดอยู่ เป็นผู้ขยัน การปฏิบัติด้วยวิธีการมรรคองค์ ๘ จะทำให้จิตใจได้ละกิเลส ล้างกิเลส เป็นสจิตตปริโยทปนัง ไปพร้อมๆกันกับที่หยุด สิ่งที่เป็นกรรมการงานที่ควรหยุด และสร้างสรรหรือว่ารังสรรค์ให้ยิ่ง ในสิ่งที่เป็นกรรมการงาน ที่ควรกระทำให้ยิ่ง คนจึงเป็นคนประเสริฐ มีประสิทธิภาพและมีคุณค่าสูงอยู่ ไม่ตกต่ำ ไม่เสียเวลาเลย นี้เป็นทฤษฎีของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้ทำความเข้าใจกันชัดๆ เจนๆ แล้วเราจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมถูกต้อง ไม่งมงายพาซื่อในคำว่าหยุดก็ดี ในคำว่าทำงาน และแม้ที่สุดถึงกระทั่งว่า หลงงาน ยินดีติดยึดในงาน จนกลายเป็นการทรมานตน หรือเสียหายเกินการก็ดี

นัยต่างๆพวกนี้ ทำความเข้าใจให้แม่น บอกแล้วว่าตัวเราเป็นตัวกลาง ทำให้เหมาะให้สมกับตัวเรา แล้วเราก็จะได้ประโยชน์ตน ไปพร้อมๆกับประโยชน์ท่าน อย่างพัฒนาสถาพรไปตราบนานเท่านาน

สาธุ