043 ธรรมปัจเวกขณ์ ประจำวันที่ -- สิงหาคม ๒๕๒๖ |
การฝึกหัดอบรมเรียนรู้ เราก็ทำอยู่สม่ำเสมอ จนเกิดความซ้ำซาก ผู้ที่จะเข้าใจในความซ้ำซาก และทนต่อความซ้ำซากได้ อย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่เกิดอาการอะไรเลย แม้ความซ้ำซากจะจืดชืด ความซ้ำซากนั้น จะไม่มีรสชาติอะไรเลยก็ตาม ผู้ที่อยู่กับความซ้ำซากนั้นได้ แล้วก็จะพยายามที่จะทำความซ้ำซาก ให้มั่นคงถาวรอยู่
เมื่อเข้าใจว่าความซ้ำซากนั้น เป็นพฤติกรรมที่ดี เป็นวัตถุที่ดี เป็นน้ำใจที่ดี เพราะฉะนั้น น้ำใจ หรือว่าจิตวิญญาณที่ดีอย่างนั้น ก็ให้ซ้ำซากอยู่อย่างนั้นไป พฤติกรรมที่ดีอย่างนั้น ก็ให้ซ้ำซากอย่างนั้นไป วัตถุที่ดี ก็ให้วัตถุนั้นเกิดอยู่ซ้ำซากอยู่ อย่าให้เสื่อมด้วยซ้ำ วัตถุดีก็ให้ซ้ำซากเท่าเดิม คงดีอย่างเดิมอย่าให้เสื่อม และมันก็จะเสื่อมไปเป็นธรรมดา เราจึงจำเป็นต้องบูรณะ ด้วยสมรรถภาพของเราอยู่เสมอ
พฤติกรรมที่ดี เราก็ต้องให้ซ้ำซากอยู่อย่างนั้น และพฤติกรรมที่ดี ถ้าไม่บูรณะ ไม่พยายามขวนขวายระมัดระวัง ทำให้สมบูรณ์ ทำให้คงที่อยู่เสมอ พฤติกรรมที่ดีนั้น ก็จะเสื่อมไปเป็นธรรมดา อีกเหมือนกัน
แม้ที่สุด น้ำใจหรือจิตวิญญาณที่ดี ก็ให้ซ้ำซาก ก็ให้เป็นอยู่อย่างนั้น อย่าให้สลายไป และสุดท้าย น้ำใจ หรือจิตวิญญาณของแต่ละคน สุดท้ายก็จะสลายไป เป็นที่สุดเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ก่อนที่เราจะทำให้จิตวิญญาณ หรือ น้ำใจของเราสลายไป เราจะต้องก่อเชื้อจิตวิญญาณ ก่อเชื้อน้ำใจที่ดีนั้นต่อไว้ ให้เกิดไว้
การคลอดจิตวิญญาณ การคลอดน้ำใจ จึงเป็นการคลอดอันยิ่งใหญ่ ของพระโพธิสัตว์ ของมหาบุรุษ การทำคลอดให้วิญญาณของมนุษย์ น้ำใจของมนุษย์เป็นวิญญาณที่ดี น้ำใจที่ดี จึงเป็นการสร้างสรรอันยิ่งใหญ่ เป็นการสร้างสรรของพระเจ้า
พระเจ้าเท่านั้น ที่จะสร้างสรรจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ได้ ไม่ใช่พระเจ้า หรือไม่ใช่พระโพธิสัตว์ ไม่ใช่ผู้ที่เป็นครูที่มีความสามารถ จะไม่สามารถก่อให้จิตวิญญาณ หรือน้ำใจเกิดเป็นอริยชาติ เกิดเป็นอริยบุคคล ดังพระโพธิสัตว์ หรือ ดังพระอริยเจ้า ดังที่เป็นพระเจ้า ไม่ได้
แม้แต่วัตถุก็ดี ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดจิตวิญญาณ เพราะจิตวิญญาณ เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง แม้แต่พฤติกรรมก็ดี ก็เกิดเพราะจิตวิญญาณ เพราะจิตวิญญาณ เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง ขอให้พวกเราได้เข้าใจวัตถุ เข้าใจพฤติกรรม แล้วเราก็ใช้จิตของเรานี้แหละ อยู่เหนือวัตถุ อยู่เหนือพฤติกรรม ที่สุดอยู่เหนือจิตวิญญาณที่ยังอ่อนแอ อยู่เหนือจิตวิญญาณที่เหลวไหล จนกลายเป็นจิตวิญญาณที่สูงส่ง และแม้ที่สุด เราก็ไม่เป็นทาสจิตวิญญาณของเราเอง ว่าเราจะต้องให้จิตวิญญาณยังเกิดอยู่ เกิดอยู่นิรันดร์ เราสามารถจะทำให้จิตวิญญาณของเรา สูญสลาย เลิกละ ไม่มีอีก ในสุดท้ายแห่งสุดท้ายได้ อย่างเป็นความจริง
การศึกษาของเรา แม้จะกระทำอยู่อย่างซ้ำซาก จึงเข้าใจให้ถูกว่า ความซ้ำซากเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่สมบูรณ์แล้ว สิ่งที่ถึงที่สุดแล้ว ประเสริฐสุดแล้ว ก็จงพยายามให้สิ่งประเสริฐสุด สิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่สมบูรณ์สุดนั้น เกิดอยู่ เกิดอยู่นิรันดร์ อย่าได้เป็นผู้ที่ทำลาย อย่าเป็นผู้ที่ดูดาย ไม่ให้ความเจริญที่เป็นสิ่งประเสริฐสุด ที่เป็นสิ่งที่สมบูรณ์สุด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดนี้ เสื่อมสลายไป ชีวิตของเราเกิดมา ก็เท่านั้น เพื่อที่จะดำรงความดีที่สุด ความประเสริฐสุดให้ได้ และเป็นผู้ที่จะต้องบูรณะด้วยสมรรถภาพของเรา ให้ความดีที่สุด ความประเสริฐสุดนี้ ยังคงอยู่ในโลกให้ได้
อันนี้เป็นความรู้ ที่รู้ยิ่งเห็นจริง ของผู้รู้จริงเห็นจริง และเป็นความสำเร็จของ ผู้ที่รู้ยิ่งเห็นจริงนั้นกระทำได้ และจะกระทำอยู่ เหมือนอย่างกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหมือนอย่างกับ พระศาสดาทุกพระองค์ เหมือนอย่างกับพระอริยเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้าทุกพระองค์ ที่ได้กระทำอยู่
เราเป็นคน ก็ควรจะเป็นคนที่เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นพระอริยเจ้า และแม้ที่สุด จะเป็นศาสดาองค์ใดองค์หนึ่ง หรือที่สุด เป็นพระบรมศาสดา ดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เป็นอุดมการณ์ เป็นสิ่งที่เราควรรู้ดี และควรจะถึงดีให้ได้ยิ่งที่สุด เท่าที่เราจะมีสมรรถภาพเป็นไปได้
สาธุ.
*****