049 ธรรมปัจเวกขณ์
วันที่ -- กันยายน ๒๕๒๖

ขอกำชับกำชาในการปฏิบัติ ซึ่งเรียกว่าระบบสติปัฏฐาน หรือมรรคองค์ ๘ เราต้องเข้าใจหัวหางกลางปลาย ของการปฏิบัติโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ซึ่งมีขึ้นต้นด้วย สติปัฏฐาน ๔ ลงท้ายด้วย มรรคองค์ ๘ เป็นทางเดียว สติปัฏฐาน ๔ พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า เป็นเอเสวะ มัคโค คือเป็น ทางเอกทางเดียว มรรคองค์ ๘ ท่านก็ตรัสว่า เอเสวะ มัคโค เป็นทางเดียว มีทางนี้ทางเดียว ที่ควรแสวงหา ควรกระทำ ควรประพฤติ และทฤษฎีใหญ่ เราก็รู้อยู่แล้วว่า ทางปฏิบัติ คือมรรคองค์ ๘ ซึ่งเป็นของยืนยัน ชัดแจ้งอยู่

ทีนี้การปฏิบัตินั้นคืออะไร มรรคองค์ ๘ เป็นหลักใหญ่เป็นแกน ภาคปฏิบัติ จะต้องมีสติเป็นองค์นำ เดินโพชฌงค์นั่นเอง เป็นตัวหลักใหญ่

การเกิดของพุทธ คือการเกิดอย่างโพชฌงค์ มีสติ ธัมมวิจัย มีวิริยะ นั่นเป็นหลักย่อเป็นหลักย่อย ที่เราจะต้องเดินโพชฌงค์ ๓ นี้เป็นหลัก ที่จะต้องทำเสมอๆ อย่าขาดโพชฌงค์ ๓

ถ้าจะอธิบายกันอย่างสำคัญ จี้ลงไปแล้ว ทุกคนจะต้องมีสติ ระลึกรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่เสมอ รู้อาการกาย อาการจิต รู้อาการกายของเรา อาการจิตของเรา ทำให้กายบริสุทธิ์ วจีบริสุทธิ์ มโนบริสุทธิ์ ระลึกให้ถึง หยั่งถึงเลย กายก็ดีวจีก็ดีมาแต่จิต เพราะฉะนั้น เราไม่ใช่จะควบคุมแต่จิต เราควบคุมกาย กิริยา วจี กิริยาด้วย ควบคุมสิ่งที่เราเกี่ยวข้องสัมพันธ์ด้วย

อย่าโลภโมโทสันด้วยวัตถุ อย่าเห็นวัตถุ ว่าเป็นของไม่ใช่หลัก ไม่ใช่เกณฑ์ เห็นอากัปกิริยา พฤติการณ์ ของทุกๆอย่างในโลก ต้องเข้าใจรายละเอียด แล้วเราก็พยายามปรับปรุง กายกรรมให้สุจริต วจีกรรมให้สุจริต มโนเป็นตัวสั่งการ เป็นตัวรู้เป็นตัวกำหนด เป็นตัวมีฤทธิ์ มีอำนาจแรง ที่เราจะสู้ได้หรือมิได้ กระทำจริงๆ พยายามสม่ำเสมอ รู้รายละเอียดของความหมาย ที่ท่านอธิบายไว้ละเอียดลออ

ไม่ว่าจะเป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ ท่านอธิบายไว้เรียบร้อย มีความหมายนัยลึกซึ้ง เข้าใจให้ลึกซึ้ง ละเอียด แล้วปฏิบัติให้ถูกตรง มีสติปัฏฐานอยู่ทุกอิริยาบถ ปรับปรุง ๆ สำรวมสังวร สำรวมสังวร เป็นตัวปฏิบัติ แม้ไม่ว่าจะอยู่อรัญวาสี ไม่ว่าจะอยู่คามวาสี ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนๆ ทั้งสิ้น เราจะต้องพยายามกระทำให้ถูกหลัก กระทำให้เป็นผล เป็นประโยชน์ ตลอดทุกๆเสี้ยวของวินาที ให้ได้มาก มันเป็นการปฏิบัติอย่างสุขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา คือไม่ต้องเคร่ง แต่ถูกต้อง ไม่ต้องเคร่ง เคร่งตึงเกินการ ไม่ต้อง

ถ้าเราปฏิบัติถูกลักษณะแล้ว มันไปเรื่อยๆ เป็นสุขาปฏิปทา แต่เก็บได้ละเอียด เก็บได้มากเก็บได้เสมอ ต้องรู้ตัวว่าเราได้ วันๆหนึ่ง ทบทวนดู เราจิตสติตก ธัมมวิจัยตก แล้วเราก็สู้ไม่ได้ บางทีมี เรารู้อยู่ เราสู้ไม่ได้ ปัญญารู้ว่า นี่มันชัดๆเลยว่า อย่างงี้ กุศลอกุศล แต่กิเลสของเรามันยังแรง อำนาจจิตของเรา มันยังแพ้ เจโต วสิปปัตโต ของเรายังไม่มี อินทรีย์พละเรายังไม่กล้า เรายังเป็นอสุรกายอยู่ มันก็ย่อมมีในบางโอกาส แต่เราก็จะต้องเอาชนะให้ได้ ชนะได้ก็คือ ผลสำเร็จเรื่อยไป เราจะได้รับมรรครับผล เรื่อยไปจริงๆ

นี่ขอย้ำขอเน้นพวกเรา ปฏิบัตินี่ สร้างสมาธิ สร้างมรรค สร้างผล สร้างการปฏิบัติ ถ้าเราไม่มีระบบของสติปัฏฐานที่ถูกต้อง มรรคองค์ ๘ หรือโพธิปักขิยธรรม อย่างสำคัญจริงๆ ดังในรายละเอียดต่างๆ เราก็ยังปฏิบัติ ยังไม่ครบบริบูรณ์ ยังไม่สมบูรณ์ ตามทางเดินของพระพุทธเจ้าอยู่นั่นเอง เพราะเราจะต้องทำให้สมบูรณ์ ทำให้ครบสมบูรณ์ ตามทางเดิน มีองค์ประกอบที่ครบครัน มีรายละเอียดยิ่งลึกซึ้ง ยิ่งมากมายเท่าไหร่ เราก็ยิ่งจะทำได้ถูกคมตรงแม่น ได้ชัดเจนเท่านั้น มรรคผลก็ย่อมเกิด ขอให้ทุกคนได้พิสูจน์ทุกคน

สาธุ

*****