062 ธรรมปัจเวกขณ์ วันที่ -- พฤศจิกายน ๒๕๒๖ |
มานะ - อัตตา แกนกาม ก็คือ เราจะต้องไม่พยายามจะปล่อย ให้มันเสริมกิเลสส่วนกาม เพื่อที่ไปสู่กามสุขัลลิกานุโยค และแกนมานะ ก็เพื่อที่จะไม่ตกไปสู่ทาง อัตตกิลมถานุโยค เพราะเราจะต้องมาละกาม มาละอัตตา คือมาละมานะ กามเป็นของหยาบกว่า เราก็พูดกันพอรู้เรื่อง แล้วเราก็ได้พยายามสังวรตนเอาเอง ใครรู้มาก รู้จริง รู้ชัด และมีสติ มีความเพียร ที่จะพยายามละล้างของตนๆ ก็ย่อมได้การละกามสุขัลลิกะ ไปเรื่อยๆ ถ้าผู้ใดรู้ตัวมานะ รู้อัตตา รู้อย่างมีสติเช่นกัน มีสติรู้ วิจัยรู้ แล้วก็พยายามลด พยายามละจริงๆ อย่าให้มันใหญ่กว่าเราเป็นอันขาด มันยิ่งรู้ตัวยากกว่ากาม เพราะว่ามันยึดตัวยึดตน มันยึดดี ยึดความหลงของตนว่าถูก หรือความจริงของตนว่าถูก แล้วมันก็ไม่ฟังเสียงใคร นี่แหละ เป็นตัวที่ร้ายกาจอยู่ ยิ่งอยู่กันอย่างสามัคคี ก็จะไม่สามัคคี จะอยู่ร่วมกันได้ มันก็ไม่อยู่ร่วมกันได้ แม้จะมีความดีกันบ้างแล้ว ดังที่เป็นตัวอย่าง มีอยู่ว่า ความดี แต่เสร็จแล้ว ก็ต้องพรากจากกัน จากหมู่จากกลุ่ม น่าเสียดายที่สุด ถ้าไร้ซึ่งความดีเสีย ก็ไม่มีปัญหา ไม่น่าเสียดายอะไร เพราะฉะนั้น ขอให้สังวร ในเรื่องมานะในเรื่องอัตตา ให้สำคัญมากๆ เพื่อจะได้เป็นเนื้อเป็นมวล จะได้อยู่ช่วยกัน จะได้สร้างสรรกันให้ทวีคูณ มันทำลายตนและทำลายสังคม คือ ทำลายตนแล้วก็ไม่ได้ร่วมอยู่กับสังคมที่ดี ไม่ได้ร่วมอยู่ในมิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี ก็ไม่ได้เป็นเนื้อเป็นมวล ที่จะให้สร้างสรรสิ่งดีให้แก่สังคม ประเทศชาติ หรือ มนุษยชาติในโลกต่อไปนั่นเอง จึงขอย้ำเตือนเรื่องมานะ เรื่องอัตตาที่ลึกซึ้ง ละเอียดกว่ากามนะ และก็ขอให้ละลด หรือว่าเรียนรู้ให้รู้ยิ่งรู้จริง แล้วก็ต้องพยายามตัด สิ่งละ สิ่งลดจริง เราจึงจะได้เจริญต่อไปอีก เป็นรอบกว้างและรอบลึก สูงไกลไปอีก อย่างที่หาประมาณมิได้. สาธุ ***** ตรวจทานใหม่ 3/07/2567 |