ปลูกจิตปัญญา

ถ้าเราปลูกต้นไม้สักต้น เราก็ต้องตรวจตราดิน เมื่อปลูกแล้ว ก็ต้องคอยรดน้ำให้ปุ๋ย เพื่อจะให้ "ต้นไม้" ที่เราปลูก เจริญงอกงาม แต่เพียงอย่างเดียว และที่สำคัญก็คือ เราจะต้องไม่ยอมให้ "ต้นไม้อื่น" ที่มันขึ้นอยู่ใกล้ๆ มาแย่งความเจริญของ "ต้นไม้" ต้นที่เราต้องการ ต้นที่เราถือว่าเป็นของเรา เป็นต้นที่เรามุ่งหมาย เพ่งเล็ง เอาประโยชน์ เป็นอันขาด ยิ่งถ้าเป็นต้นไม้อื่น ที่เห็นได้ชัดเจนว่า มันกำลังโตขึ้นมา แข่งคู่คี่กับ "ต้นไม้ของเรา" ในกระถางเดียวกัน เราก็จะรีบกำจัด ตัดถอนออกไปเสีย เป็นเบื้องแรกทันที "ต้นไม้ของเรา" จึงจะเจริญได้เต็มที่ ได้ดียิ่ง แต่กระนั้นก็ดี ในกระถางดินของเรา ก็ย่อมจะมีต้นหญ้า และวัชพืชเล็กๆ อื่นๆ ขึ้นแซมขึ้นปน อยู่เป็นแน่

และก็จงรู้ไว้เสียเถิดว่า ต้นหญ้ากับพวกวัชพืชเล็กๆ เหล่าที่คนไม่ค่อยนึกว่าสำคัญ แล้วก็ปล่อยปละละเลย ไม่กำจัดไม่ถากถาง ถอนเลือกเล็มออกไป มันจึงเป็น "ตัวการ" สำคัญ ที่ทำให้ "ต้นไม้ของเรา" บริบูรณ์เต็มที่ และเจริญ ด้เต็มที่ไม่ได้ แม้นลองคิดให้ดี หรือสำรวจให้ดี จะเห็นแจ้งว่า ต้นเล็กๆ ที่แอบแฝงอยู่กับดิน ในกระถางนั้น มันมีมากมายเหลือเกิน บางต้นบางลำ มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นด้วยซ้ำไป ถ้าใครลองตั้งใจ พิจารณาให้ถ่องแท้ แล้วเก็บถอน เซาะเล็มออกมาดูดีๆ เถิด จะเห็นว่า มันมีจำนวนมากมายจริงๆ ที่คนไม่เห็นมัน หรือเอาใจใส่มัน

พวก "ต้นเล็กต้นน้อย" เหล่านี้แหละ ที่สำคัญยิ่ง ที่เป็น "ภัย" เป็น "มาร" เป็น "โจรร้าย" สำหรับ "ต้นไม้ของเรา"

"ต้นไม้ของเรา" นั้นคือ "จิต" ของคนทุกคนนั่นเอง ไม่ผิดไม่เพี้ยน เหมือนกันยังไงงั้น ถ้าเราต้องการให้จิตของเรา "บริบูรณ์" และ "เจริญ" เต็มไปด้วย "สติ-ปัญญา" เราจะต้องเก็บถอน หรือเซาะเล็มเอา "ต้นไม้เล็กๆ" ต่างๆ อันหาประโยชน์มิได้เหล่านั้น ทิ้งออกไปให้หมด ให้ได้จริงๆ แล้วเราจะมี "ต้นไม้ของเรา" แต่เพียง "ต้นเดียว" อย่างแท้จริง (ปัญญาทางโลก หรือ ทางธรรมก็เหมือนกัน แม้นทำดังนี้ ก็คือ มีปัญญา ได้เหมือนกันนั่นแล) "ต้นไม้เล็กๆ" เหล่านั้น คืออะไร? ก็คือ "ความคิดฟุ้งซ่าน" ที่คิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ ไม่หยุดหย่อนนั่นแหละ และ "ความคิด" เหล่านั้น ก็ไม่ใช่ความคิด ที่เป็นประโยชน์จริงอะไร มันเป็น "ความคิด ที่มีตัณหาปนอยู่" ทั้งสิ้น คือ คิดสร้างสิ่งที่ "อยากหามาให้แก่ตน" ทั้งหมด ทั้งสิ้นจริงๆ คิดดูดีๆเถิด แล้วจะแจ้งจะเห็น

ถ้าใครพยายามสอดส่อง และสามารถมองเห็น "ต้นไม้เล็กๆ" ที่เป็น "มาร" เป็น"โจรร้าย" กวน"ต้นไม้ของเรา"ออก แล้วก็จัดการเก็บถอน เซาะเล็ม ออกเสียได้มากเท่าใด ผู้นั้นแหละคือ ผู้มี"สมาธิ" และคือ ผู้มี"ปัญญา" อย่างแท้จริงมากขึ้น ตามจำนวนของ "ความสามารถ ในการปัดความคิดต่างๆ ออกไปจากจิตของตน" ได้ ยิ่งแม้นใครปัดออกไปได้ หมดเกลี้ยงอย่างจริงแท้ ผู้นั้นแหละคือ ผู้อยู่สุข ที่เรียกว่า "นิพพาน" คือ ผู้กำลังอยู่ในสภาวะ "สุญญตา" คือผู้มี "จิตว่าง" นั่นทีเดียว

๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๔

ประกายธรรม ๑๔ - ๒

******

ตรวจทานใหม่ 3 เมษายน 2568 ที่สุด