แนวทางการช่วยชาติอย่างเป็นรูปธรรม :
วิธีที่หนึ่ง "การซื้อของที่ผลิตจากชุมชน"

หากสังคมไทยมีการจัดประเภทแยกกลุ่ม เราคงจะแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้ครับ
๑. สังคมเมือง
๒. สังคมชนบท

หากเป็นเผ่ามนุษย์ ก็คือ "เผ่าเมือง" กับ "เผ่าเกษตร"
คนเผ่าเมืองดำรงชีวิตในแง่เป็นผู้บริโภค
คนเผ่าเกษตรดำรงชีวิตในแง่เป็นผู้ผลิต เป็นผู้ ดูแลคนเผ่าเมืองให้เติบโต ให้ร่ำรวย ให้มีความสุข เศรษฐกิจสังคมไทยเติบโตโดยอาศัยเผ่าเกษตรมาตลอด

สุภาษิตจีนถึงกับกล่าวไว้ว่า "หนึ่งชาวนาสร้างสิบพ่อค้า" หมายความว่า ผู้ผลิต ๑ ราย สามารถสร้าง วงจรธุรกิจให้คนมีอาชีพค้าขาย อย่างน้อยถึง ๑๐ พ่อค้า

และผลพวงจาก ๑๐ พ่อค้า ก็ยังสร้างให้คนมี อาชีพ มีรายได้กระจายออกไปเป็นลูกโซ่ ผมคิดถึง คำโฆษณาของ ธนาคารกรุงไทยครับ "เงินกำลังจะหมุนไปๆ...."

แม้รัฐบาลจะหันมาส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม ที่ดูเหมือนจะสร้างรายได้มหาศาล แต่ก็เป็น เพียงธุรกิจ ที่ไม่ยั่งยืนและเจ็บปวด ! เนื่องจากเหตุผล ๓ ข้อ

๑. เรายังต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศ จึงเป็นชีวิตที่หวาดกลัว-วิตก-กังวล เพราะสักวัน เขาอาจบอกเลิก ซื้อขายดื้อๆ

๒. มีวัตถุดิบหลายตัวที่ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ จึงทำให้สินค้าส่งออก มีตัวเลข ที่เป็นมายา ทำให้ การคำนวณทิศทาง การพัฒนาของประเทศเกิดความผิดพลาด

๓. แม้ต้องขายในประเทศ เจ้าของธุรกิจก็ต้องเร่งโฆษณายั่วยุ ล้างสมองให้คนไทย ฟุ่มเฟือย ในการบริโภค

๔. อาชีพเกษตรกรรมของคนเผ่าเมืองถูกละเลยเนื่องจาก "เม็ดเงินน้อยกว่า" และกลายเป็น "กิจกรรมรอง" ของบ้านเมือง ในการดูแลเอาใจใส่

และแม้วันนี้เราจะตกอยู่ในกรงเล็บของยุคไอเอ็มเอฟ อาชีพของคนเผ่าเกษตร กลับเป็น ลมหายใจสุดท้าย ที่หล่อเลี้ยง รอวันเศรษฐกิจไทยเติบโต !

ทั้งๆ ที่ความล่มจม ความพินาศทางเศรษฐกิจ เกิดจากการทำมาหากิน ของคนเผ่าเมือง โดยแท้ ซึ่งเริ่มมาจาก การลงทุน ก่อสร้างธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์

เข้าทำนอง นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น แต่ต้องมารับชะตากรรม ร่วมชดใช้ !

คนเผ่าเมืองมีชีวิตที่เอารัดเอาเปรียบ คนเผ่าเกษตรมาตลอด ในทุกๆ เรื่อง

สังคมเมืองได้รับการดูแลทะนุบำรุงอุ้มชูปูเสื่อ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ หรือแม้การดูแลของรัฐ

สาธารณูปโภคของคนเผ่าเมือง กลับต้องอาศัยเลือดเนื้อ และการเสียสละ ของคนเผ่าเกษตร มาตลอด

เขื่อน-ไฟฟ้า -ประปา-ถนนหนทาง ฯลฯ
ครับ เป็นความทุกข์ของเขา แต่เป็นความสุข ความสะดวกสบายของเรา

"เผ่าเมือง" พยายามยัดเยียดหน้าที่ "เผ่าเกษตร" ให้เป็นแม่ผู้เสียสละ ที่ยอมสละ ทุกอย่าง เพื่อลูก !

ในหลายๆ ประเทศ "เผ่าเกษตร" จึงลุกฮือเข่นฆ่า "เผ่าเมือง" แล้วจัดการบริหารประเทศเสียเอง

วันนี้ "เผ่าเมือง" จึงมีหน้าที่ชดใช้-ตอบแทนบุญคุณในบาปกรรม ในสิ่งที่เคยเอารัดเอาเปรียบ

เริ่มต้นรับผิดชอบรายได้ของพวกเขาบ้างก็ยังดี โดยการหันมาสนับสนุน 'สินค้าจากชุมชน'

เศรษฐกิจชุมชนดี พลอยทำให้ครอบครัวอบอุ่น

พ่อแม่ไม่ต้องทิ้งไร่นาไปเป็นคนงาน ไปเป็นคนใช้ ตามบ้านผู้มีอันจะกิน

ทุกเย็น พ่อแม่ลูกจะได้มีโอกาสกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

วันนี้ "ชนบท" ล่มสลาย เกษตรกรรมล้มเหลว เนื่องจากลงทุนสูง แต่ได้ผลผลิตน้อย

ธุรกิจสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง ควบคุมวิถีชีวิตของคนเผ่าเกษตรมาตลอด

หากเป็นมด ก็แค่ขออาศัยกินน้ำหวานจากตัวเพลี้ยที่ถ่ายออกมา

แต่ในเชิงธุรกิจนั่นหมายถึง ต่อท่อออกจากร่างกาย สูบเลือดสีแดงออกไป วันแล้ววันเล่า ด้วยการสร้าง วัฒนธรรม แห่งการผลิตที่อ่อนแอ ต้องพึ่งพาซื้อปุ๋ยยา และสารเคมี

สร้างวัฒนธรรม แห่งการบริโภค ที่จะกินจะใช้ ต้องซื้อหาจากร้านค้าทั่วไป

ชีวิตคนเผ่าเกษตรจึงบอบช้ำจากวงจรอุบาทว์ ที่คนเผ่าเมืองรุมโทรม วันแล้ววันเล่า จากกาฝาก -พยาธิ - เปรต-กระสือ-ปีศาจ ฯลฯ

ครับ มาไถ่บาป "คนเริงเมือง" อย่างพวกเราๆด้วยกัน ช่วยซื้อผลิตภัณฑ์สินค้า จากชุมชน เกษตรทั้งหลาย

๑ ชิ้นท่านซื้อ คือหมื่นพันครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง
ผลพวงจากการซื้อ สินค้าชุมชนเพียงหนึ่ง กลับมีเบื้องหลัง ที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน

หาก "สัมมาทิฏฐิ" ในเรื่องนี้ยังไม่เกิด คนเผ่าเมือง ก็จะยังคงมีชีวิต เอาตัวรอดไปวันๆ นั่นก็คือ

พฤติกรรมที่ ๑ วุ่นวายแต่การซื้อของตามห้างรังเกียจสินค้าชุมชน

พฤติกรรมที่ ๒ วุ่นวายแต่การซื้อสินค้าราคาถูก จนละเลยเรื่องการมีบทบาทช่วยชุมชน (คนเผ่าเกษตร)

ณ วันนี้ ห้างใหญ่ๆ แม้เป็นของคนไทย เราก็ยังต้องเลือกชุมชนก่อน

วันนี้พี่ๆ สุขสบาย มีชีวิตร่มเย็นเป็นสุข แต่ความสุขสบายทั้งหลาย เป็นผลพวง จากการ เสียสละ ของน้องๆ ตลอดมา

ตื่นเถิดครับ ตื่นจากความฝัน ตื่นจากความไม่รู้เบื้องหลังการถ่ายทำ เรายังมีผู้ปิดทอง หลังพระ อีกมากมาย ที่รอคอย การช่วยเหลือ จากพวกเรา

ผมขอฝากคติ-ข้อคิดก่อนจากที่ผู้รู้หลายๆ ท่านได้ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนมา ดังต่อไปนี้
- สร้างชุมชนให้แข็งแรงโดยตรง ช่วยสังคมไทยโดยอ้อม
- การช่วยชนบท คือ การลดปัญหาสังคมเมือง
- ชนบทแข็งแรง สังคมแข็งแกร่ง
- เด็ดดอกไม้ย่อมกระเทือนถึงดวงดาว เราขอสนับสนุนสินค้าจากชุมชน
- สินค้าที่ซื้อ คือความทุกข์ของชุมชนชนบท ที่ชุมชนเมืองมีส่วนปลดปล่อย
- คือความหวัง คือรายได้ คือความอบอุ่นของครอบครัวของสังคมชนบท
- ลดปัญหาชนบท มาอดใจช่วยกันซื้อสินค้าชุมชน
- ชุมชนแข็งแรง-เศรษฐกิจมั่นคง-สังคมอบอุ่น-ประเทศชาติปลอดภัย
- เพื่อเศรษฐกิจของสังคมชนบท เพื่อสุขภาพของสังคมเมือง
- วันแบ่งปัน คือวันพี่ช่วยน้อง คือวัน "คนเมือง" ซื้อผลิตผล "คนชนบท" .....

(หนังสือ ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๐๓ กันยายน - ตุลาคม ๒๕๔๕)