ปัจฉิมลิขิต
- กอง บก. -

หนังสือดอกหญ้าเป็นเสมือนเพื่อนในยามที่ดิฉันมีทุกข์ บางครั้ง รู้สึกจิตใจแย่ ท้อแท้ในการทำงาน พอหยิบ ดอกหญ้า ขึ้นมาอ่าน ทำให้ดิฉันมีความคิดว่าปลงนะ พยายาม ทำใจให้เป็นสุข และได้ข้อคิดต่างๆ ในการประพฤติ ปฏิบัติธรรมด้วย

การปฏิบัติธรรมของดิฉันดีขึ้น กว่าแต่ก่อนมาก จากที่เคยฆ่าสัตว์เล็ก สัตว์น้อย ดิฉันก็จะละเว้น เนื้อสัตว์ ที่เคยกิน ก็จะไม่กินเลย บางครั้งเวลา อยู่กับเพื่อนๆ ก็จะใช้วิธีแบบเจเขี่ย การพนันก็เลิก (หวย, ไพ่) ไม่เอาเลย เวลาเพื่อนๆ เล่น ดิฉันก็จะนั่งดูเฉยๆ แต่ไม่เล่น เพราะถ้า ไม่อยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ด้วย มันคล้ายกับว่า เราเป็นแกะดำ
แพงศรี ศรีพิทักษ์ / กทม.

จะประมาทเกินไปมั้งที่ไปนั่งร่วมวงกับเขา แกะดำตัวนี้น่าจะฉีกแนว เป็นตัวอย่างที่ดีให้เพื่อนๆ เห็นเป็น ตัวอย่าง จะดีกว่า เผื่อจะได้แกะดำพันธุ์ดีๆ เพิ่มขึ้นมาเป็นแนวร่วมกับเราก็ได้ ขอให้ยืนหยัด ยืนยัน รักษาความดี และพัฒนาความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป


เรื่องสั้นเรื่องยาว มีคำถามว่า หลุยส์ โอไลยโซล่า เป็นนักประพันธ์สเปน มีผลงานอื่นๆ ใดหรือไม่? และ ท่านจะเปลี่ยน นักเขียนมาเสนอบ้าง ก็คงดี แต่จุดประสงค์ของท่าน คงเปลี่ยนไป

ฉบับล่าสุดนี้ มีคำผิดอยู่เยอะจังท่าน

เสนอท่านลงข่าวกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง และกิจกรรมท่านด้วย

หน้ากลางมีสีคงดี เพื่อติดภาพคนทำความดี ฯลฯ
เจริญพงศ์ ราษฎรินทร์

/ กทม.หลุยส์ โอไลยโซล่า เป็นนักประพันธ์ชาวสเปน ที่เขียนวรรรณกรรมเยาวชนได้ดีเยี่ยม ที่นำเสนอ ในดอกหญ้า เพราะเห็นว่า บรรยากาศความรู้สึกนึกคิด และอุปนิสัยใจคอ ชาวสเปนคล้ายๆ ชาวไทย อีกประการคือ เจ้าของผลงาน อนุญาตด้วยความยินดี

ข่าวกิจกรรม กว่าจะลงดอกหญ้า ก็คงผ่านไปแล้ว หน้ากลางมีสียังไม่มีงบฯพอ ขอบคุณ สำหรับคำแนะนำ


คุณแม่ไปอยู่ภูผาฟ้าน้ำประจำ นานๆ จะกลับบ้านที ดู คุณแม่มีความสุขมาก กับการปฏิบัติธรรม และ ใจเย็นขึ้น พูดมีเหตุมีผล รู้สึกจะปลงอะไรได้มากๆ ผิดกับเมื่อก่อน แม่เป็นคนใจร้อน แม่จะกินเจ วันพระ วันเกิด ขณะนี้แม่กินมังสวิรัติ ตลอดทุกมื้อ ไม่ยอม ตกหล่นเลย ก็อยากจะเลียนแบบ คุณแม่บ้าง เป็นการตอบแทน บุญคุณท่าน แต่ก็ได้อาทิตย์ละ ๒ วัน วันเกิด-วันพระ จะพยายามทำต่อๆ ไปเจ้าค่ะ
เกตุกาญจน์ จุ่มปี / เชียงใหม่

ได้คุณแม่ที่แสนดีเป็นตัวอย่างเช่นนี้ คุณลูกก็คงมีกำลังใจ ในการฝึกตน ตอบแทนบุญคุณท่าน ยิ่งๆ ขึ้นไป เป็นลูกไม้ ที่หล่นไม่ไกลต้นพุทธ


ดิฉันได้รับหนังสือดอกหญ้าพร้อมใบสมัครเรียบร้อยแล้วค่ะ ดิฉันได้ส่งแสตมป์มา ๕๐ ดวง พร้อมจดหมาย ดิฉันชอบอ่าน หนังสือดอกหญ้ามาก โดยเฉพาะคอลัมน์ ปัจฉิมลิขิต ได้เรียนรู้ ความคิด และการปฏิบัติ ของผู้อื่นมากขึ้น จะได้ปรับปรุง ข้อปฏิบัติของตัวเอง ที่ยังลุ่มๆ ดอนๆ เช่นยังติด การแต่งหน้า ทาปาก (ตอนไปทำงาน) ดิฉันตั้งใจว่า ๑ มกราคม ๒๕๔๖ เป็นวันขึ้นปีใหม่ ดิฉัน จะเลิก โดยเด็ดขาด (วันพระ) ประโยชน์ที่ได้ จากหนังสือดอกหญ้า คือ เข้าใจผู้อื่นมากขึ้น การใช้ชีวิต อยู่บนโลกนี้ ไม่จำเป็นต้อง มีอะไรมากมาย อย่างที่คิด พึ่งตัวเองได้ และช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น

สุดท้ายนี้ ดิฉันแอบฝันไว้ว่า เมื่อเกษียณอายุ จากการทำงานแล้ว ดิฉันจะไปใช้ชีวิตที่สันติอโศก
กัลยา โพธิ์แสงทอง (สงขลา)

ขอให้ฝันนั้นเป็นจริง เราเองก็แอบฝัน อยากเห็นคุณสวยแบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี


สิ่งที่ได้รับ หลังได้รับหนังสือดอกหญ้า ประมาณ ๑๐ ฉบับ บางฉบับอ่านผ่านๆ เพราะติดช่วงสอบ บางฉบับ มีโอกาส นำไปให้เพื่อนได้อ่านด้วย มีการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจดังนี้

๑. มีความรู้สึกอยากเก็บออม แล้วก็ทำให้ใช้จ่ายน้อยลง
๒. รู้ถึงการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
๓. ระลึกถึงผู้มีพระคุณ เมื่อได้อ่านเรื่องในหนังสือดอกหญ้า
๔. ได้ทราบถึงประโยชน์และอาหารที่มีคุณค่า(ที่คาดไม่ถึง)
๕. สามารถนำสิ่งที่ได้อ่านไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะในบางเนื้อหานั้น เพื่อนไม่เคยทราบ
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์อีก แต่นึกที่จะเขียนยังไม่ออก ยังคงไว้ซึ่งความศรัทธาค่ะ
เนตรนภา บางทรัพย์ / กทม.

นึกขึ้นได้เมื่อไหร่ เขียนมาเล่าให้ฟังอีกนะ สมาชิกท่านอื่นๆ จะได้ร่วมอนุโมทนาด้วย กับการเปลี่ยนแปลง ที่ดีๆ


เกี่ยวกับรูปเล่มของหนังสือ เล็กกะทัดรัดดี พกพาสะดวก ติดตัวไปอ่านได้ทุกที่ ไม่เกะกะ ตัวอักษรที่พิมพ์ ก็ไม่เล็ก หรือใหญ่เกินไป มีการเน้นพิมพ์หนา-บาง ข้อความที่สำคัญๆ และที่ชอบมากๆ คือ คำภาษา ต่างประเทศ ที่มีคำแปลให้พร้อม ไม่เป็นปัญหา สำหรับคนที่ไม่เก่ง หรืออ่านแล้ว ไม่รู้ความหมาย เหมือนในปัจจุบัน ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ ในบ้านเมืองหลายท่าน มีดีกรีนำหน้าชื่อ พูดไทยคำ อังกฤษคำ แล้ว ไม่ยอมต่อ ด้วยคำแปล หรือความหมาย ของคำพูด ที่ไม่ใช่ภาษาไทย

อีกข้อหนึ่งที่ดิฉันเห็นว่าดีมาก คือการใช้กระดาษ ดิฉันเห็นว่า กระดาษแสนจะธรรมด๊า ธรรมดา สีมอมอ แต่เนื้อหาสาระ อ่านแล้ว ไม่อยากวาง ถ้าหนังสืออื่นๆ ที่ทำหนังสือแบบใช้กระดาษดี แต่หาสาระ ให้เกิดแก่ชีวิต และสังคมไม่ได้ หรือได้น้อยมาก ดูดอกหญ้า เป็นแบบอย่าง แล้วประเทศไทย จะประหยัด ทรัพยากร ได้อีกมากมาย มหาศาล

"ดอกหญ้า" ดีมีสาระ ไม่ใช่อ่านแล้วเลื่อนลอย เพ้อฝัน อ่านได้ ทุกเพศทุกวัย คบเป็นมิตรแท้ได้ค่ะ

ส่วนข้อปฏิบัติที่ได้จากการอ่าน

๑. ใจเย็นลง แต่ก่อนเป็นคนใจร้อนมาก เอาแต่ใจตัวเอง ไม่เคยยอมใคร ข้าถูกเสมอ ไม่เห็นความบกพร่อง ของตัวเอง คิดแต่ว่าตัวเอง ไม่ได้เบียดเบียนใคร เป็นใช้ได้ ที่จริงการอยู่ในสังคม มันไม่ใช่แค่นั้น ต้องมีการ แบ่งปัน ช่วยเหลือเผื่อแผ่ เช่นฉบับที่ ๑๐๒ ประทับใจ ชีวิตของยอดคน แห่งภูผาฯ ภูฟ้า แพงค่าอโศก ขอให้ดวงวิญญาณ สู่สุคติภพ และ ขอสรรเสริญ คุณน้ำแรง ที่เป็นคู่ชีวิต จนถึงวาระสุดท้าย

ประทับใจบทกลอนของคุณอิสรา อ่านแล้วมีความสุข ได้สาระ และคุณอิสรา ถูกติติงก็ไม่รู้สึกอะไร ขอเอาเป็นแบบอย่างค่ะ

๒. ลด ละ อาหารที่เป็น เนื้อสัตว์ หันมากินผักมากขึ้น กินถั่วงา ข้าวกล้อง แทนนมวัว ไก่ เป็ด (เดิมเป็น ของโปรด)

๓. เคร่งครัดในศีล ๕ มากขึ้น กล่าวคือ ข้อหนึ่ง หลีกเลี่ยงได้จะเลี่ยงทันที ข้อสอง ไม่ลักทรัพย์เด็ดขาด เมื่อเดือนก่อน ไปซื้อหนังสือ ที่ร้าน ผู้ขายทอนเงิน เกินมาห้าร้อย ส่งคืนไป คนมองดิฉัน ด้วยสายตาแบบว่า "เซ่อจัง" ทำไมต้องคืน เขา ทอนผิดเอง ข้อสาม เคยประพฤติผิด ในกาม ปัจจุบันเลิกเด็ดขาด แม้คิด ก็ไม่ได้ ข้อสี่ ไม่พูดโกหก ทำได้ แต่ยังพูดส่อเสียด เพ้อเจ้อ จะพยายามให้ดีขึ้นกว่านี้ ข้อห้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก่อนชิมทุกยี่ห้อ ปัจจุบัน เลิกเด็ดขาดทุกยี่ห้อ แต่ยังดื่มกาแฟอยู่เท่านั้น
ทะวิน / ราชบุรี

เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ให้ค่าเป็นถึงมิตรแท้ ยิ่งได้อ่านถึงข้อปฏิบัติของคุณแล้ว ยิ่งน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้คบมิตรดีๆ เช่นคุณ


ดิฉันขายของที่ตลาด ต้องมีขอทานอยู่เป็นธรรมดา แต่ขอทาน ที่ว่าเนี่ยแต่งตัวเป็นชี นุ่งขาวห่มขาว โกนหัวด้วย แล้วถือขันมาขอทาน ดิฉันเห็นแล้ว ดูไม่สมควร อยู่วัด ก็น่าจะพอกินอยู่แล้ว ที่จริงเงินที่เราให้ไป ก็เป็นเงิน ไม่มากมายหรอก แต่หลายคนรวมกัน มันก็ได้เยอะซิ ดิฉันสังเกตเห็น พอได้ตังค์เหรียญ แกจะเอา ไปแลก เป็นแบงค์ แล้วอยากได้อะไร แกก็จะซื้อหมดอย่างนี้ ในสายตาดิฉันเห็นว่า ไม่สมควรเลย เพราะขัด กับรู้สึก ที่เรามีต่อศาสนา ยังไงก็ไม่รู้ อีกเรื่องหนึ่ง แม่ชีมาเรี่ยไร แจกซองผ้าป่า อันนี้ก็เห็นบ่อย แจกซองแล้ว ยืนรอเลย ที่จริงเราไม่ใส่ก็ได้ แต่มันยังไงๆ ก็ไม่รู้ ช่วยกันทำบุญ จะสร้างวัดนั้นวัดนี้ จริงหรือ ที่แม่ชี ต้องมา แจกซองผ้าป่า เพื่อเอาเงินไปสร้างวัดสร้างวา คณะผู้ปฏิบัติธรรม ช่วยชี้แจงด้วย จะขอบคุณยิ่ง อีกเรื่องหนึ่ง คือ อยากให้หนังสือดอกหญ้า รวมเล่ม เป็นเรื่องๆ อย่างบทสัมภาษณ์ ก็รวมเล่ม ถ้อยคำสิริมงคล รวมเล่ม สมุนไพรพึ่งตนเอง รวมเล่ม อะไรอย่างนี้ แค่อยากเท่านั้นนะค่ะ ไม่มีก็ไม่เป็นไร
ลัยวรรณ์ มะโนเสาร์/เชียงราย

เป็นความไม่ใส่ใจของชาวพุทธที่ไม่ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนให้ถ่องแท้ นักบวชจึงปฏิบัติ ผิดออกนอกลู่ นอกทาง ฆราวาสก็สนับสนุน ส่งเสริมในทางที่ผิดๆ ไปด้วยเช่นกัน ถ้ารักศาสนาจริง เมื่อเห็นพฤติกรรม ที่ผิดๆ ก็อย่าไป ส่งเสริมเลย

ถ้อยคำสิริมงคล มีการรวมเล่มแล้ว ราคาเล่มละ ๔๐ บาท สมุนไพรก็มีหลายเล่ม ลองสอบถามได้ที่ ธรรมทัศน์สมาคม ๖๗/๕๐ ถ.นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.๑๐๒๔๐ โทร. ๐๒-๓๗๕-๔๕๐๖


ผมยังคงมี "ดอกหญ้า" เป็นทั้งสื่อและเพื่อนที่ให้สาระธรรม ความสงบจากการอ่าน และแนวทางปฏิบัติตน ในชีวิตประจำวัน ทางโลก

ระยะหลังมานี้ ผมรู้สึกตัวว่า มีสติมากขึ้นกว่าแต่ก่อน สามารถ ควบคุมการกระทำ -วาจาได้ระดับหนึ่ง แต่เวลาที่มีบางเรื่อง เช่น ผิดหวังจากชีวิต หรือการงานแล้ว ผมยังมีอาการหดหู่ -เซื่องซึม พยายามที่จะคิด อย่างผู้มีปัญญา ทว่ายังทำไม่ได้ดี เท่าที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้ ผมพยายามชักจูงคนที่รู้จัก เพื่อน หรือแม้แต่วัยรุ่นให้เขาได้เข้าศึกษาพระธรรม เพื่อเป็นหลักยึด ของชีวิต แต่ไม่ทราบ ด้วยเหตุใด จึงได้รับการสนองตอบ น้อยมาก จนบางครั้งคิดว่า เราควรจะปล่อย ให้สัตว์โลก เป็นไปตามกรรม จะดีกว่ามั้ย

ประเด็นสุดท้ายที่ผมสงสัย มานานแล้วก็คือ ความชั่ว-ความเลว-ความเห็นแก่ตัว เป็นอันเดียวกับ ความฉลาด หรือไม่ ถ้าใช่ ทำอย่างไร เราจึงจะไม่ตกเป็นเบี้ยล่าง ของพวกเขา หรือว่ายุคนี้ ปลาใหญ่ กินปลาเล็ก คนโง่เป็น เหยื่อของคนฉลาด ใครลงมือก่อนได้เปรียบ
มานพ ไตรเจริญลักษณ์/กทม.

พยายาม...พยายามต่อไปเถิดนะ ฝึกบ่อยๆ ต่อไปอาจนึกขึ้นได้ว่า เอ๊ะ! ความหดหู่-เชื่องซึมหายไปไหนนะ

การชักจูงผู้อื่นน่ะดีแล้ว แต่อย่าไปคาดหวัง ตั้งใจที่จะแนะนำ เขาจะทำไม่ทำเป็นสิทธิของเขา

ความชั่ว-ความเลว-ความเห็นแก่ตัว เป็นอันเดียวกับความฉลาดได้ ถ้าเป็นความฉลาดแบบเฉโก ฉลาด แบบผิดๆ นักปฏิบัติธรรมที่มีปัญญาและฉลาดจะต้องแยกแยะให้เป็นในกุศล-อกุศล ความผิด-ความถูก ความฉลาด ที่ถูกธรรมหรือไม่ถูกธรรม แล้วตัดสินใจให้ถูกทาง

การตกเป็นเบี้ยล่างหรือเสียเปรียบ อันนี้เป็นเพียงสถานการณ์ อย่าไปมองว่าเป็นความเลวความ ชั่ว เพราะขณะที่ กำลังเสียเปรียบ อาจเป็นโจทย์ที่จะได้ฝึกฝนเพิ่มความอดทน ฝึกฝนการให้อภัยทาน สถานการณ์นี้ เป็นบททดสอบ จิตใจของคน อย่ามองมุมลบมุมเดียว และถ้าจิตใจเข้มแข็งจริง ต่อให้ สถานการณ์ เลวร้ายขนาดไหน ก็จะทรงความดี รักษาความดีไว้ได้ แม้ตัวกำลังถูกรังแก เบียดเบียน ปานใดก็ตาม เหมือนอย่างพระ-พุทธองค์ ถูกพระเทวทัตกลั่นแกล้ง ปองร้ายสารพัด ท่านก็ไม่หวั่นไหว ไม่ท้อถอย ไม่โต้กลับแม้เล็กแม้น้อยเลย

ยายามมองทุกสถานการณ์ว่า เป็นโอกาส โอกาสที่จะเจอโจทย์ที่ฝึกฝนเราให้เข้มแข็ง อดทน ด้วยจิตใจ ที่ทรงความดี และ ฉลาดอย่างมีปัญญา


ได้รับความรู้ความเข้าใจของปัญหาสังคมในอีกทางหนึ่ง ซึ่ง สื่อทั่วไปไม่มี ดอกหญ้าเป็นสื่อ ที่ผู้แสดงออกมา จากหัวใจที่บริสุทธิ์ ไม่หวังกำไร เงินตรา แต่หวังความความสงบสุข ของคนในสังคมเป็นหลัก ถ้าคนในสังคม นำพาเอาความรู้เหล่านี้ ไปประพฤติปฏิบัติแล้ว สังคมพุทธ สังคมเมืองไทย และสังคมโลก คงจะมีแต่ ความสงบสุข ทั้งทางกาย และโดยเฉพาะทางใจ เป็นอย่างมาก
ลิขิต นันทวงศ์/นครสวรรค์

หลายๆ คนกำลังพยายามหลายๆ คนกำลังพิสูจน์ หลายๆ คนได้ผลจนได้พบกับความสงบสุขแล้ว ก็คงต้องพากเพียร บากบั่นทำต่อไป เพื่อความสงบสุขของตน และยังจะเป็นตัวอย่างที่ดี ให้แก่สังคม โดยรอบ อีกด้วย


ได้อ่านหนังสือดอกหญ้า และป้าได้ซื้อเล่มอื่นมาเพิ่มด้วยอ่านแล้วเราได้ดีขึ้นหลายอย่าง เช่น เมื่อก่อน มีอารมณ์ ที่เคยร้อน โกรธง่าย เดี๋ยวนี้ทำใจได้ ไม่มีใจร้อนอีก ทำใจให้เย็นลงได้บ้าง เห็นคนจนกว่า ก็ช่วยเหลือเขา แบ่งปันสิ่งของเงินทองให้ และกินอาหารไม่มี เนื้อสัตว์ มังสวิรัติวันละ ๒ มื้อ

เข้าใจ สิ่งรอบข้าง ได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ยิ่งได้ไปฟังธรรมะที่งานปฐมอโศก ยิ่งเข้าใจหลายอย่างดีขึ้น เกิดปัญญา เกิดความเข้าใจชีวิตมากขึ้น
นันทา สุวรรณ / เชียงใหม่

ดับไฟร้อนในหัวใจ ชีวิตก็จะสงบสุขร่มเย็น คนรอบข้างก็พลอยเย็นไปด้วย


ดิฉันเองหลังจากอ่านหนังสือดอกหญ้าและสารอโศกแล้วทำให้เปลี่ยนชีวิตไปในทางที่เรียบง่าย และเริ่มเข้าใจคำว่า ปฏิบัติธรรมนั้นหมายถึง ลด ละ เลิก กิเลสต่างๆ งดเว้นสิ่งที่ควรงดเว้น เดี๋ยวนี้ ดิฉันกินข้าวกล้อง ถั่วงา (มาซื้อที่พลังบุญ) และ ลดมื้ออาหารเหลือ เช้า-เที่ยง ดิฉันจะพยายามต่อๆ ไปค่ะ ดิฉันชอบอ่าน ปัจฉิมลิขิตมาก เพราะชอบอ่าน การตั้งตบะ ของญาติธรรม แต่ละคน น่าทึ่งจริงๆ ดิฉันจะไม่ละ ความพยายามค่ะ ดิฉันชอบข้อปฏิบัติ ๑๑ ข้อ ของญาติธรรม อุดมศักดิ์ สุดมาตรา โดยเฉพาะ ข้อ ๑๑ คือ สนับสนุนชาวอโศก (เพราะดิฉันจะเดินทาง มาซื้อของกินของใช้ ของพวกเรา ที่สันติอโศกค่ะ) และข้อหนึ่ง เขียนเลขไทย ดิฉันก็เริ่มแล้ว ขอแสดงความชื่นชมยินดี ที่เดี๋ยวนี้ ชาวอโศกเรา เป็นที่ยอมรับ ของปัญญาชนทั่วไป ของดีย่อมทนต่อการพิสูจน์นะคะ
ดิฉันฝากแสตมป์บุญ มาช่วย ๕๐ ดวงค่ะ
วิไลวรรณ ทับสาร / ชัยภูมิ

มิตรดี สหายดี จะเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เราได้เห็นเป็นแบบอย่าง และยังเป็นกำลังใจว่า เขาทำได้ เราก็ทำได้เช่นกัน


ดิฉันอ่านวารสารดอกหญ้าลำดับที่ ๑๐๒ ฉบับ "ดินฟ้างดงาม" รู้สึกประทับใจ และได้ข้อคิดดีมาก ดิฉันกำลังหาคำตอบ ให้ชีวิตว่า ต่อแต่นี้ไปจะอยู่อย่างไร จะทำอย่างไร จะคิดอย่างไร ความทุรนทุราย ในหัวใจ จึงจะน้อยลงบ้าง หรือถ้าจะให้ดี ก็อยากหมดความทุรนทุรายลง ความผิดหวัง ในชีวิตรัก มันร้ายแรงมาก หัวใจมันสั่นระริก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ซูบผอมลง จนผิดหูผิดตา บทความเรื่อง "ความรักเจ้ากรรม" ดูเหมือนจะส่งมาหาดิฉันโดยตรง ในยามนี้ ข้อคิดจากบทความ ของคุณรักขวัญ สอนดิฉันว่า จงปลง จงเปลี่ยนความทุกข์โศก อันเนื่องมาจากความรัก ให้เป็นพลังสร้างสรร พลังบวก ที่จะดำรงชีวิตต่อไป อย่างมีประโยชน์ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ขยายความรัก ให้กว้างขึ้น อย่าจำกัด อยู่แค่คนคนเดียว หรือ จำนวนเดียว แล้วเราจะพบว่า ความรักอย่างหลังนี้ มีปริมาณมาก มีพลังมหาศาล ไม่สิ้นสุด และ ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน เป็นความยิ่งใหญ่ อย่างแท้จริง

ขอบพระคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ขอบพระคุณคุณรักขวัญ ที่เตือนสติดิฉัน ผู้กำลังจะสติแตก เพราะความรัก ในคนคนเดียว
หนูเพียร

สาธุ ! ขอให้รู้นะว่า ยังมีเพื่อนนักปฏิบัติธรรมอีกหลายท่าน ให้กำลังใจคุณอยู่ และรอคอย ความรักจากคุณ ด้วยแหละ


ผมต้องขอโทษอย่างมากที่ตอบช้าไปหน่อย หนังสืออ่านจบแล้ว สนุกมาก ผมชอบมากเลยกลอนที่ปกหน้า อ่านแล้วทำให้คิดสู้กับสิ่งต่างๆ ทั้งภาระหนี้สินที่มีอยู่ในตอนนี้ หนังสือที่ทางโรงพิมพ์ส่งมา เป็นประโยชน์กับผมมาก เป็นเพื่อนในยามเหงา ได้ดีเลยทีเดียว เป็นทั้งครูที่คอยติงเตือน ในเรื่องที่ไม่ดี ทั้งยังแนะสิ่งดีๆ ให้อีกด้วย ผมถือว่าตัวเองโชคดีมาก ที่ได้อ่านหนังสือที่ดี มีสาระแบบนี้ ทั้งที่ตัวผมเอง อยู่ในสังคมแบบนี้ บางครั้ง ก็เกิดอยากได้สิ่งที่มันไม่จำเป็นเลย เช่นเสื้อผ้าสวยๆ แต่มาคิดดูอีกที คนในชุมชนอโศก เขาใส่เสื้อผ้าแบบพื้นบ้าน เขายังอยู่ได้เลย อีกทั้งยังจำคำ ที่สมณะของชุมชน ศีรษะอโศก ท่านบอกกับผม ครั้งหนึ่งว่า เสื้อผ้าก็เป็นแค่ สิ่งปกปิดร่างกาย ไม่ให้อุจาดตา และให้ร่างกายอบอุ่น ก็แค่นั้น ถ้าเราให้ความสำคัญ กับมันมาก ก็ไม่ดี ผมคิดได้อย่างนี้ ก็เลยเลิกคิด ที่จะซื้อกางเกงยีนส์ ตัวแพงๆ ลงบ้าง ขอบคุณอย่างมากนะครับ สำหรับหนังสือ ผมจะนำคำสอน ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ จะไม่ทำให้ท่าน ส่งมาเสียเปล่า และจะไม่ทำให้ พ่อแม่เสียใจ ผมจะรักพ่อแม่ของผมให้มาก จะใช้เวลา ให้เกิดประโยชน์ ให้มากที่สุด
สมาน นามวงศ์

ปัญหามีไว้แก้ มิใช่มีไว้ให้กลุ้ม ตั้งใจต่อสู้กับปัญหา และพากเพียร กับการทำความดีเถิดนะ ขอเป็นกำลังใจ ให้เสมอ


ข้าพเจ้าและครอบครัวห่างหายจากการตอบจดหมายไปนาน ทำให้เราปฏิบัติธรรมไม่เต็ม ๑๐๐% นำชีวิต เข้าสู่วัฏจักร ทำงาน สังคม นอน ช่วงที่ผ่านมาชีวิตยุ่งเหยิงมาก ควบคุมสติอารมณ์ไม่ได้เลย กว่าจะผ่าน ช่วงนั้น ก็เกือบเสียครอบครัว หน้าที่การงานก็เกือบพัง เป็นผลจาก การไม่ปฏิบัติธรรม สม่ำเสมอ กว่าจะได้สติ ก็เห็นดอกหญ้ามาให้อ่าน เพื่อสำรวจจิตใจ คงยังไม่สายเกินไป หากจะกลับมา ปฏิบัติธรรม ดังเดิม แต่ถึงอย่างไร การปฏิบัติธรรมที่ผ่านมา ก็ยังมีข้อที่เป็นผลสำเร็จบ้าง คือเรื่อง การอดออม ตอนนี้ครอบครัวเรา เริ่มมีเงินเก็บบ้างแล้ว ถึงแม้จะเป็นตัวแรก ในการประหยัด ก็ภูมิใจและมีกำลังใจ ที่จะปฏิบัติต่อไป แต่มีเรื่องที่ต้องปรับปรุงแยะมาก

๑. ควบคุมสติให้พึงรู้ตัวเสมอ
๒. คิดก่อนพูด หยุดนินทา ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น
๓. ปฏิบัติธรรมมากๆ เพื่อลดกิเลสมารในจิตใจ
หากปฏิบัติครบ ๓ เดือนแล้ว จะเล่าสู่ท่านฟังในคราวหน้า
ส.อ.สิโรตม์ เกตุหนู /นครสวรรค์

จะรอฟังผล ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือล้มลุกคลุกคลาน ก็จะรอและจะเป็นกำลังใจให้


ต้องขอขอบคุณที่ส่งหนังสือดอกหญ้าและสารอโศกให้ เมื่อได้รับจะรีบเปิดอ่านทันที ถ้าแม้ ไม่จบเล่ม ก็จะต้องอ่านต่อไป ให้คุ้มค่ากับสาระที่ดี ในหลายๆ ด้าน ช่วยให้ชีวิตมีสุข ลดความฟุ่มเฟือย ลงได้มาก รู้จักประหยัด รู้จักข่มใจ อดทน อดกลั้น ไม่โกรธใครง่ายๆเหมือนเมื่อก่อน การอ่านวารสารทั้ง ๒ ฉบับ นี้ ช่วยให้ทุกคน ทำความดีได้มาก อ่านแล้วสบายใจ มีเหตุผลมากขึ้น ทำให้รู้ว่าชีวิตมีคุณค่า ต้องทำประโยชน์ ให้สังคม ดิฉันเป็นครู สอนนักเรียน ให้รู้จักทำความดี ตั้งใจเรียน รู้จักประหยัด อดทน อดกลั้น ต้องการ ให้นักเรียน ทุกคนเป็นคนดี แต่ก็ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะสิ่งเหล่านี้ ในด้านของจิตใจ การปฏิบัติ ต้องใช้เวลา ต่อเนื่องยาวนาน การปลูกฝังที่สม่ำเสมอ จนติดเป็นนิสัย
สุวิมล คูวนิชกุล / อุทัยธานี

คุ้มค่าจริงๆ ได้ทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านไปพร้อมๆ กัน โลกต้องการครูที่มีศีลห้า


จากการอ่านสารอโศกและดอกหญ้า ดิฉันมีกำลังใจที่จะเปลี่ยน แปลงตัวเองให้ดีกว่าเดิม เพราะเห็นตัวอย่าง ที่หลายๆ คนทำได้

๑. รักษาศีลห้า ทำได้ดี
๒. ความเป็นอยู่เรียบง่าย ตัดความฟุ่มเฟือย ทำได้ดี
๓. มังสวิรัติ ยังค่อยเป็นค่อยไป เพราะกินรวมหลายครอบครัว แต่พยายามหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ทุกชนิด
๔. กสิกรรมไร้สารพิษ ปลูกผักสวนครัวร่วมกับพี่ๆ น้องๆ มีต้นหอม มะเขือยาว ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ ผักกาดหอม ผักกาดขาว มะเขือเปาะ พริก ทำได้รู้สึกภูมิใจ และเพลิดเพลิน
๕. สอนลูกไม่ค่อยเป็น จะพยายามเอาหนังสือสารอโศก และ ดอกหญ้า ให้อ่าน

ดิฉันเขียนไม่เก่งค่ะ แต่บอกได้ว่า ตั้งแต่ได้เรียนรู้แนวทางของอโศกจากหนังสือสารอโศก และ ดอกหญ้า บอกตัวเองว่า ใช่แล้ว ดิฉันจะเลือกเดินตามทางนี้
อารยา ม่วงไทย / กาญจนบุรี

แม้ทางสายนี้ก็ยังมีพญามาร(กิเลส) มาหลอกล่อให้หลงทางได้เสมอ ฉะนั้นจึงประมาทไม่ได้ ก็มีแต่ การทำดียิ่งๆ ขึ้นไปเท่านั้น ที่จะรับรองได


อ่านดอกหญ้าแล้วได้เห็นถึงความมุ่งมั่นว่าอยากให้ทุกคน หันมากินอาหารมังสวิรัติ เพราะอย่างน้อย ก็เป็นการช่วยชีวิต เพื่อนร่วมโลก

ตั้งใจว่า เทศกาลกินเจที่ใกล้เข้ามานี่จ ะกินเจตลอดไป และคิดว่า จะตั้งใจทำให้ได้ ต่อไปก็จะกินมังสวิรัติ ก็ต้องขอ ขอบคุณ คณะผู้จัดทำหนังสือ "ดอกหญ้า" ที่ได้จัดส่งหนังสือดีๆ มาให้ ไม่มีอะไรจะตอบแทน นอกจาก ช่วยส่งแสตมป์มาให้

ชอบทุกคอลัมน์ของดอกหญ้าโดยเฉพาะ "ถ้อยคำสิริมงคล" เพราะเป็นอะไร ที่ใกล้ตัวเรา สามารถ นำไปใช้ ในชีวิตประจำวันได้

โดยปกติตัวเองเป็นคนคิดมาก ก็ได้หนังสือดอกหญ้าเป็นเพื่อนยามมีปัญหา

ยังเคยคิดว่าถ้าได้มากรุงเทพฯ ต้องแวะมาที่สมาคมผู้ปฏิบัติธรรมให้ได้
สุมาลี แซ่เหลียว / ประจวบคีรีขันธ์

ส่งข่าวกันหน่อยนะ ป่านนี้ยังกินเจอยู่หรือเปล่า หรือเขี่ยเจไปซะแล้ว แล้วก็ไปแวะที่สมาคมฯ ได้ทุกเมื่อ ยินดีต้อนรับเสมอ


หนังสือที่ได้รับ ดิฉันจะอ่านทั้งเล่มเลยค่ะ ที่ดิฉันชอบมากคือ กสิกรรมพลิกฟื้นชาติ เพราะดิฉัน ได้นำไปใช้จริงๆ ด้วย ทำให้เรา ได้กินผักปลอดสารพิษ อีกเรื่อง คือวิธีสร้างความคิด เพื่อเป็นมิตรกับตนเอง โดยสรุปแล้ว ดิฉันว่าดีทั้งเล่มเลยค่ะ เพราะเวลาที่ดิฉันเสียใจ ท้อใจ หรือ ไม่สบายใจ ฯลฯ ดิฉัน ก็จะหยิบ หนังสือ ขึ้นมาอ่าน ก็จะทำให้ใจดิฉันรู้สึกคิดได้ ปลอดโปร่ง ไม่ฟุ้งซ่าน ฯลฯ

ที่บ้านดิฉัน จะมีชั้นวางหนังสือ ดิฉันจะจัดหนังสือดอกหญ้าเรียงไว้ เป็นสัดส่วน เมื่อก่อน ลูกสาวจะ ไม่ค่อยสนใจ หนังสือประเภทนี้ พอดิฉันบอกให้ลองอ่านดู เดี๋ยวนี้ ถ้ามีเวลาว่าง จากเรียนหนังสือ หรือ หลังจาก ทำการบ้านเสร็จ เช่น วันเสาร์ วันอาทิตย์ เขาก็จะมานั่งอ่าน ทำให้เขารู้จัก การนั่งสมาธิ รู้จักสวดมนต์ และ ไม่ดื้อเหมือนเมื่อก่อน ดิฉันดีใจมากค่ะ
วรรณภา นาคมะเริง / เพชรบูรณ์

ถ้าเป็นผักที่ไม่ได้ใช้สารเคมีเลย เรียกว่าผักไร้สารพิษ ส่วนผักปลอดสารพิษ คือผักที่ยังใช้สารเคมีอยู่ แต่เขาระวัง ความปลอดภัย รอเก็บผักในระยะ พ้นขีดอันตราย ของคุณเป็นแบบไหนล่ะ?

การปลูกผักหรือดูแลเด็กก็ต้อง ให้ความใส่ใจเสมอ คนใกล้ชิดนี่แหละสำคัญ จะเป็นผู้ชี้แนะ บอก สอนเขา ได้มากที่สุด ขออนุโมทนา ในความใส่ใจของคุณแม่


ผมว่างเว้นตอบรับนิตยสารดอกหญ้าและสารอโศกมานาน หลังจากตอบรับครั้งนี้แล้ว ก็อาจจะว่างเว้นไป สักระยะหนึ่ง ทั้งนี้เพราะผมป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ มาตั้งแต่ เดือนเมษายน ๒๕๔๕ มีอาการชา ร่างกายซีกซ้าย ตั้งแต่ศีรษะถึงเท้า นั่งเขียนหนังสือ หรือทำกิจอะไรไม่ถนัด ไม่สะดวก ซึ่งผมเคยเรียน ให้ทราบมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อเดือนพฤกษภาคม ๒๕๔๕

ขอตอบรับนิตยสาร เล่มหลังสุด ที่ได้รับคือ สารอโศก อันดับที่ ๒๔๙ มิถุนายน ๒๕๔๕ ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๐๑

ความคิดเห็นหรือข้อปฏิบัติที่ได้จากการอ่านก็คือ ความสงบเย็น อันนำจิตไปสู่สัจธรรม เห็นความไม่เที่ยง ของสังขารทั้งปวง เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ยอมให้ความเจ็บปวดทางกาย มาบีบคั้นรุมเร้าเผาลน จนเห็น ความเจ็บป่วย เป็นเสมือน เพื่อนสนิท ที่มาอาศัยอยู่ด้วย เขาพอใจจะอยู่ด้วยก็อยู่ไป เพราะเราคุ้นเคยกันแล้ว หรือ เขาพอใจ จะนำเราไปไหน ก็ยินดีจะไป ไม่อนาทร ไม่ทุกข์ร้อน ไม่วิตกกังวล

นิตยสารดอกหญ้า และสารอโศก จึงเป็นโอสถขนานเอก หรือเป็นธรรมโอสถของผม ที่ให้ทั้งการรักษา บำรุง พัฒนา จิตของผม
ประกาศิต จันทรศร / นครราชสีมา

อย่างนี้สิยอดคน อัมพฤกษ์น่ะเบียดเบียนได้ แต่ร่างกายเท่านั้น หาเบียดเบียนจิตใจได้ไม่ และ อย่ายอมแพ้ โรคภัยนะ ลองพยายามรักษาดู เผื่อจะผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง

ส่วนใบตอบรับ พอได้รับหนังสือสัก ๓-๔ ครั้ง ก็วานให้ใคร ช่วยเขียนใบตอบรับบ้าง เขียนสั้นๆ ก็ได้ เพื่อที่ว่าแผนกธรรมปฏิกรรม(ฝ่ายจัดส่ง) จะได้ไม่คิดว่าไม่ต้องการหนังสือ เดี๋ยวจะตัดการส่ง ไปซะก่อน
ขอให้หายป่วยในเร็ววัน


จากการอ่าน ทำให้มีสติใน การทำงาน ตอนนี้เลิกสูบบุหรี่และ ไม่ดื่มเหล้าแล้ว ไม่กินเนื้อสัตว์ ทำบุญไหว้พระ สอนให้ลูก ทำความดี ให้ขยันเรียนหนังสือ ประหยัด ไม่ใช่จ่ายฟุ่มเฟือย ลูกชายผม ชอบอ่านเรื่อง โบนี่ มาร์ติน และตอนนี้ กำลังชอบอ่าน แม่กุ้งแห้งกับพ่อตุ้ยนุ้ย ชอบอ่านทุกบททุกเรื่อง ทำให้ได้ข้อคิด และ นำไปใช้ ในชีวิตประจำวันได้ ทั้งในหน้าที่การงาน และกับบุคคลอื่นๆ การอ่านหนังสือดอกหญ้า ทำให้ผมรู้จัก วิธีปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ชีวิตครอบครัวได้มาก ครอบครัวผมมี ๔ คน มีผม ภรรยา และลูกชาย ๒ คน ความเป็นอยู่เรียบๆ ง่ายๆ รู้จักยอม ให้อภัย เวลาโกรธ จะสงบนิ่ง ไม่โต้ตอบ รู้ในธรรมะ รู้จักใจเย็น รู้จักเหตุผลมากขึ้น มีปัญญามากขึ้น มีความกระตือรือร้น ในการทำงาน มีความขยัน รู้โทษ ของความเกียจคร้าน ถ้าไม่เร่งรีบทำ เสียแต่วันนี้ ต่อไปอายุมากขึ้น ทำอะไรไม่ได้ จะลำบาก เพราะเวลา ผมเห็น ผู้สูงอายุ ผมจะมีความสงสารท่านมาก ผมก็จะช่วย เท่าที่จะช่วยได้ เช่น การให้ทาน เป็นเงิน หรือ อาหาร ตามอัตภาพ
ดุสิต ปานะคำ

หัวหน้าครอบครัวมีศีลมีธรรม ก็จะช่วยสร้างครอบครัวให้อบอุ่นไปด้วยศีลธรรม เด็กๆ ก็ไม่ออกนอกลู่ นอกทาง ไปไห

(ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๐๔ พ.ย. - ธ.ค. ๒๕๔๕ จำนวนพิมพ์ ๒๒,๐๐๐ เล่ม)