รับเชิญ - สังโฆ -
ลมหายใจ ชีวิต และ ธรรมชาติ

ความปรารถนาของปู่
เพชรบุรีเมื่อหลายสิบปีก่อน สองฟากฝั่งถนนราชดำเนินตั้งแต่วังบ้านปืนไป จนถึงทางแยก ที่จะเลี้ยวไป สถานีรถไฟ ร่มครึ้มไปด้วยเงาไม้ *มะฮอกกานี ต้นสูงใหญ่ ถนนสายนี้แหละ ที่อี๊ดกับอู๊ด เด็กหญิงเด็กชาย สองพี่น้อง ชอบเดินไปบ้านของปู่ ตอนโรงเรียน หยุดพักกลางวัน จากวัดกุฏีดาว เลยไปใกล้สี่แยก ศาลากลางจังหวัด ไม่ไกลมากนักสำหรับเด็ก แม่ค้าขนม ตรงปากทางเข้าบ้านปู่ ชื่อ ยายสาย ขายขนมปัง นิ่มๆ รูปใบไม้ ขนมผิง ลูกกวาดหวาน ที่ทำเป็นพริก สีเขียว เหลือง แดง เคลือบด้วยน้ำตาลทราย กับอีกหลายอย่าง ในขวดโหลแก้ว ล้วนแล้วแต่ขนมที่เด็กๆ ชอบ

บ้านของปู่เป็นเรือนไม้หลังเล็ก ใต้ถุนสูง เช่นเดียวกับบ้านตามท้องไร่ท้องนาในชนบท ก็ปู่และย่า เป็นชาวไร่ ชาวนาน่ะซี ฤดูฝนทำนา หมดหน้านาปู่จะปลูกสารพัดพันธุ์ไม้ที่กินได้ บนเนื้อที่ ที่มีอยู่ไม่มากนัก รอบบ้าน จนแทบไม่มีที่ว่าง มีมะม่วง มะพร้าว มะยม มะละกอ กล้วย ส้ม แถมด้วยมะหวดและชำมะเลียง ที่กินแล้ว ปากเป็นสีม่วง นี่แหละคือเหตุที่สองพี่น้องชอบไปบ้านปู่บ่อยๆ นอกจากไม้ผลแล้ว ยังมีพืช สวนครัว รั้วกินได้ เข้าสมัยเปี๊ยบเลย ทั้งยังเป็นลักษณะไร่นาสวนผสม ตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย หากเป็นสมัยนี้ ปู่คงเป็นเกษตรกรตัวอย่างไปแล้ว รั้วรอบบ้าน คือ กระถิน (ย่าก็ชื่อนี้แหละ ส่วนปู่ชื่อแก้ว) นอกจากนี้ยังมีชะอม มะนาว มะกรูด แคต้นเตี้ยดอกดกตลอดปี

ใกล้บันไดบ้าน วางกระถางล้างเท้ารูปสี่เหลี่ยม ถัดไปเป็นมะลิกอใหญ่ หลังบ้านมีบึงเล็ก เต็มไปด้วย กอบัวแดง ที่อี๊ดชอบมาก เวลาไปค้างคืนที่บ้านปู่ในวันหยุดเธอต้องรีบตื่นแต่เช้า วิ่งไปดูดอกบัว ที่บานเต็มสระ พอสายหน่อยแดดจัด มันซ้อนกลีบกันกลายเป็น ดอกตูมซะนี่ ย่ามักเก็บสายบัว มาต้มกะทิ บึงนี้พอหน้าแล้งน้ำแห้งขอด เดินลงไปเด็ดยอดผักบุ้ง ผักกระเฉดมาต้มจิ้มน้ำพริก ข้างบ้านเป็นคลองเล็ก มีบัวหลวง ขึ้นปะปนกับต้นกระจับ (พืชน้ำที่ดูเหมือนหน้าตาของวัวควาย แถมมีเขาโง้งสองข้างด้วย เนื้อข้างใน เป็นสีขาว กินมันๆ เหมือนแห้ว) พ่อเคยลงไปเก็บมาให้ย่าทำขนมตะโก้ ใส่กระด้งใบใหญ่ กินอิ่มกัน ทั้งบ้านเลยทีเดียว ปู่ในวัยชรา อายุเกินกว่า ๖๐ ปี ร่างเล็ก ซูบผอม หลังโค้งงอ เพราะการ โน้มตัวลง ทำงานหนักอยู่เสมอ ปู่เป็นคนพูดน้อย ใจบุญและใจดีมาก ไม่เคยเห็นปู่โกรธใคร ทุกเช้า ปู่หุงข้าว ใส่บาตรพระด้วยตนเอง ถ้าไม่ไปนา ปู่จะหายเข้าไปในไร่ ค่อนวันจึงกลับเข้าบ้านเมื่อรู้สึกหิว แล้วกลับไป สนใจต้นไม้ต่อ จนพลบค่ำ หน้าแล้งมะนาวราคาแพง ปู่จะเก็บมะนาวผลใหญ่จากต้น ห่อผ้าขาวม้า มายืนตรงปากทางเข้าบ้าน เพื่อนบ้านคนไหนเดินผ่านมา ปู่จะถามว่า "มีมะนาวกินไหม" พลางหยิบมะนาวจากห่อผ้าส่งให้ แล้วยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้เป็นผู้ให้ เมื่อหลานไปหา ปู่จะสอยผลไม้ ให้กิน ปู่เรียกอี๊ดว่าอาจารย์ เรียกอู๊ดว่านายร้อย ใครจะคิดว่าหลังจากนั้นเกือบยี่สิบปี อี๊ดเรียนจบ สอบบรรจุ เป็นข้าราชการครู ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนตำแหน่ง เรียกว่าอาจารย์ ส่วนอู๊ดเป็นนายร้อยตำรวจ น่าเสียดาย ที่ปู่ไม่มีโอกาสรู้ เพราะปู่สิ้นอายุขัย ตั้งแต่อี๊ดและอู๊ด ยังเรียนไม่จบ ชั้นมัธยมด้วยซ้ำไป

บัดนี้ ไม่มีทั้งปู่ ย่า บ้าน ที่ดินก็ถูกเวนคืนไปแล้ว แต่ต้นมะพร้าวที่ปู่ปลูกไว้ตรงบริเวณนั้น และตามวัด อีกหลายวัด ยังยืนต้นอยู่ อี๊ดรู้ดีว่าความปรารถนา ของปู่คืออยากเห็นหลานมีอนาคตที่ดี อยากเห็นต้นไม้ เติบใหญ่ บนผืนแผ่นดินเพื่อให้โลกนี้เป็นสีเขียว เมื่อใดที่มองเห็นท้องทุ่ง เรือกสวนไร่นา เสมือนว่า ลมหายใจ ของปู่ ยังคงซึมซาบอยู่ในหมู่มวลไม้และธรรมชาติ เช่นเดียวกับภาพงดงาม ที่เกี่ยวกับปู่ ที่ยังคงติด อยู่ในความทรงจำของอี๊ด ไปตราบนานเท่านาน

บ้านสังโฆ


* ต้นมะฮอกกานี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๕) ทรงให้ปลูกประดับริมถนนราชดำเนิน ทั้งสองฝั่ง เมื่อ ๘๕ ปี มาแล้ว เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เนื้อแข็ง มีกลิ่นหอม มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฮอนดูรัส อเมริกากลาง เป็นไม้ ตระกูลเดียวกับลางสาด (คัดจากเรื่องมะฮอกกานี ราชมรดกล้นเกล้าฯ หนังสือพระปิยมหาราช กับเมืองเพชร โดย อาจารย์เสยย์ เกิดเจริญ)

(ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๐๘ กรกฎาคม - สิงหาคม ๒๕๔๖)