คิดตามหนัง ตระกูลหยาง
[email protected]

คนทำอิฐคนสุดท้ายของอเมริกา

The last brickmaker of America


เริ่มมีคนถามแล้วว่า ทำไมคอลัมน์นี้มีแต่หนังฝรั่ง

ขอเล่าย้อนอีกทีว่า เหตุที่เกิดคอลัมน์นี้ เพราะบังเอิญได้ดูหนังทางช่องยูบีซีที่บ้านพี่ชาย แล้วเกิดติดใจหนังชีวิตครอบครัว ชอบใจคำพูดและการกระทำของตัวละครที่ชวนให้ประทับใจ อยากจะเล่าต่อ จึงติดตามดูหนังยูบีซีเพื่อเอามาเล่าต่อให้ท่านผู้อ่านดอกหญ้าได้ซึมซาบสิ่งดี ๆ ด้วย

ตัวเองเป็นคนชาตินิยมมากขนาดที่ว่า สมัยเรียนปริญญาตรีไม่ยอมเลือกเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เพราะไม่อยากรับอิทธิพลฝรั่ง ที่จริงชาตินิยมมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่เคยฟังเพลงและดูหนังฝรั่ง เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่า หนังที่นำมาเล่าต่อเป็นหนังดีจริง ๆ ไม่ได้เห่อฝรั่งโดยใช่เหตุ

หนังไทยพวกเราก็ดูกันอยู่แล้ว แต่มีไม่กี่คนที่จะดูหนังฝรั่ง โดยเฉพาะหนังเก่า ๆ ที่ชาวบ้าน เขาไม่ดูกัน แล้ว คิดดูแล้วก็ยังแปลกใจอยู่ครามครันว่า ทำไมวัฒนธรรมดั้งเดิม ของแต่ละชาติ แต่ละภาษา ล้วนมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าอารยธรรมสมัยใหม่

อย่างเรื่อง The last brickmaker of America ดูแล้วอยากให้เด็กไทยได้รับโอกาสอย่างแดนนี่บ้างจัง

แดนนี่ เป็นลูกชายของวิศวกร ไมค์ พอตเตอร์ และอาจารย์มหาวิทยาลัย แคเรน

เหตุเกิดเพราะทั้งพ่อและแม่ต่างทำงานหนักจนลืมดูแลซึ่งกันและกัน ในที่สุดก็ตกลงแยกกันอยู่ ไมค์เป็นคนย้ายออกไป แดนนี่ไม่ชอบใจที่พ่อแยกออกจากบ้าน จึงใช้อิฐขว้างหน้าต่างโรงเรียน แตกกระจายไปหลายบาน แถมยังพ่นสีเป็นข้อความประณามโรงเรียนตัวเอง เสียอีก โรงเรียนก็เลย สั่งพักการเรียนโดยแดนนี่จะต้องทำการบ้านส่งด้วย

แดนนี่อยู่กับแม่ แต่ช่วงเช้าจะต้องไปช่วยพ่อทำงาน ตอนบ่ายกลับมาทำการบ้าน

งานของพ่อก็คือควบคุมการก่อสร้างโรงเรียนวอชิงตัน โรงเรียนของแดนนี่นั่นแหละ แม่ของแดนนี่ ก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ ตอนที่แคเรนเป็นนักเรียน บรรณารักษ์ ห้องสมุดโรงเรียน ชื่อ โดโรธ

สามีของโดโรธี ชื่อ เฮนรี่ ค็อป มีอาชีพทำอิฐ และเป็นคนทำอิฐที่ใช้ในการปรับปรุง โรงเรียน วอชิงตัน เมื่อปี คศ.๑๙๕๕ เมื่อจะต้องปรับปรุงโรงเรียนอีกครั้งหนึ่ง ชาร์ลี เรดเดน ประธานกรรมการ การเงินการก่อสร้าง จึงจ้างคุณค็อปทำอิฐให้ เพื่อรักษาลักษณะ ทางประวัติศาสตร์ ของโรงเรียน

คุณค็อป วัย ๗๖ ปี แม้จะยังแข็งแรง สุขภาพสมบูรณ์ดี แต่จิตใจกลับไม่พร้อมที่จะทำงาน เนื่องจากโดโรธี ภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาถึง ๖๐ ปี เพิ่งจะเสียชีวิตไป ประจวบเหมาะกับ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่พ่อของแดนนี่ทำงานด้วยนั้น มีบริษัทอิฐดักลาส ผลิตอิฐด้วยเครื่องจักร สมัยใหม่ ไมค์ พ่อของแดนนี่ได้รับคำสั่งให้เจรจากับเฮนรี่ ค็อป ให้ขายสิทธิ์การทำอิฐ ให้บริษัทอิฐดักลาส ค็อปเกือบจะตอบตกลง ถ้าไม่ได้ รูธ แอนน์ ซึ่งเป็นสมาชิกชมรมหนังสือ ด้วยกันมานานถึง ๓๕ ปี ชี้ให้ค็อปดูเมืองที่สร้างขึ้นมาจากอิฐของเขา ไม่ว่าจะเป็น อาคารพาณิชย์ บ้านคน หรือโบสถ์ ค็อปเป็น คนทำอิฐคนสุดท้าย ของอเมริกา ถ้าเขาไม่ทำ ใครจะทำ

ไมค์บอกเฮนรี่ ค็อป ว่าโรงงานสามารถผลิตอิฐ ๒๒,๐๐๐ ก้อนในวันเดียว ค็อปต้องทำอิฐ ๒๒,๐๐๐ ก้อน ในเวลา ๘ อาทิตย์ เขาจะทำได้อย่างไร คำตอบก็คือ คุณทำได้เร็วกว่า และถูกกว่า แต่ผมได้ช้ากว่าและดีกว่า ค็อปบอกว่า จะทำอิฐทีละก้อน

ผู้ช่วยของค็อปคือแดนนี่ ทั้งสองคนรู้จักกันที่โรงเรียนวอชิงตัน ขณะที่แดนนี่กำลังขุดดิน ช่วยงานพ่อ และค็อปกำลังจะกลับจากการเจรจากับพ่อของแดนนี่ ค็อปจับดิน ที่แดนนี่ขุดขึ้นมา เพื่อดูว่า จะใช้ทำอิฐได้หรือไม่ แดนนี่สนใจ จึงตามไปที่บ้านของค็อป

พ่อโกรธมากที่แดนนี่ไปบ้านค็อป แทนที่จะทำการบ้าน พ่อลูกทะเลาะกัน แดนนี่จึงออกจากบ้าน มาอยู่กับค็อป ค็อปยินดีให้อยู่ด้วย โดยแดนนี่ต้องช่วยทำงาน และต้องทำการบ้านเหมือนกัน

แดนนี่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า หัดทำกับข้าว หัดทำอิฐ ตั้งแต่ การคลุกเคล้า ส่วนผสมต่าง ๆ ใส่ลงในแม่แบบ และเทออกตากแดด แต่แล้วเหตุร้าย ก็เกิดขึ้น มีพายุใหญ่ ในคืนวันหนึ่ง ดินที่ตากไว้ยังไม่แห้ง โดนฝน เสียหายหมด

แต่เหตุร้ายกลับนำมา ซึ่งความสามัคคีของทุกคนในครอบครัวของแดนนี่

ตอนแรก แดนนี่หมดกำลังใจ เพราะคิดว่าถึงยังไงก็ทำไม่ทันตามกำหนดเวลาแน่

ค็อปไม่ยอมแพ้ เขาเริ่มต้นใหม่ ทำอิฐทีละก้อน

แดนนี่ขี่จักรยานไปหาแม่ที่มหาวิทยาลัย ขอร้องให้แม่ไปช่วยทำอิฐ แน่นอนที่แม่ช่วยไม่ได้ เพราะมหาวิทยาลัย กำลังจะมีงานฉลองบัณฑิตใหม่ เธอจะต้องฝึกซ้อมร้องเพลง ให้นักศึกษา ที่ร่วมกิจกรรม การแสดงในงานนี้ เธอบอกลูกว่า "คนเราต้องปฏิเสธบ้าง นี่แหละชีวิต ทุกอย่าง ไม่ได้เป็นไป ตามที่เราต้องการ"

แดนนี่ตอบว่า "ผมไม่ได้คาดหวังให้ทุกอย่างเป็นอย่างที่ผมต้องการ ผมไม่ได้ต้องการอิฐ แต่ต้องการ ให้แม่ตอบรับ"

ในที่สุดแม่ก็ตัดสินใจตอบรับคำขอร้องของแดนนี่

ค็อปทำหน้าที่ประสานความรักความเข้าใจในครอบครัวของแดนนี่ ก่อนหน้านี้ เมื่อแดนนี่ มาอยู่กับค็อปใหม่ ๆ แคเรนเปิดเผยความในใจ ให้ค็อปฟังว่า ชีวิตคู่ของเธอ กำลังอยู่ในภาวะ ยากลำบาก ค็อปบอกว่า ทุกชีวิตคู่ จะต้องผ่านความยากลำบาก เธอก็จะผ่านช่วงเวลานี้ ไปได้เช่นกัน

ต่อมาเมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับไมค์ ค็อปก็บอกให้ไมค์รู้ความรู้สึกของลูกว่า แดนนี่ไม่ชอบใจ ที่พ่อย้ายออกจากบ้าน และกับแดนนี่ เขาอธิบายว่า พ่อติดอยู่กับชีวิตและเจ้านาย แต่ถึงอย่างไร "เขาก็จะเป็นพ่อของเธอไปตลอดชีวิต"

วันแรกที่แคเรนมาช่วยงาน ค็อปให้แดนนี่ทำอาหารเลี้ยงฉลอง และไมค์มาร่วมรับประทาน อาหารค่ำด้วย ตามคำเชิญของค็อป โดยที่แม่ลูกไม่รู้มาก่อน บรรยากาศอาหารค่ำวันนั้น เต็มไปด้วยความสุข พ่อ แม่ ลูกช่วยกันเล่าให้ค็อปฟังว่า แม่ร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์ พ่อก็ไปเข้าวงด้วย ทั้งที่ร้องเพลงไม่เป็น แม่บอกว่า ไมค์ไม่ชอบร้องเพลง พ่อเสริมว่า แต่ชอบคุณ

ค็อปก็เล่าว่า บางครั้งโดโรธีก็ชวนเขาไปทำสวน เขาก็ไปทำทั้งที่ไม่ชอบ โดโรธีก็เช่นกัน ยอมไปตกปลา กับเขาทั้งที่ไม่ชอบ "ยิ่งสิ่งที่เธอทำเพื่อผมยากแค่ไหน เธอก็ยิ่งอยากทำ มากขึ้นเท่านั้น"

การที่ไมค์ทำงานหนัก หาเงินซื้อบ้าน ซื้อรถ และเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของลูก ทำให้แคแรน รู้สึกว่า ไมค์เปลี่ยนไป ขณะเดียวกันไมค์ก็รู้สึกว่า แคแรนห่างออกไป เพราะเธอสอน นักศึกษา มากขึ้นเรื่อย ๆ

ทั้งที่งานเร่ง ค็อปก็ยอมสละเวลาไปที่โรงเรียนวอชิงตัน ในวันพิจารณาความประพฤติของแดนนี่ ค็อปพูดกับ คณะครูผู้พิจารณาว่า

"การตัดสินใจต้องอาศัยประสบการณ์ทั้งชีวิต จำได้ไหม เด็กผู้ชายโรงเรียนวอชิงตัน ที่จุดประทัด ระหว่างการประชุม โรงยิมที่มีเด็ก ๆ อยู่เต็ม ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ ทำให้เด็กคนอื่น ๆ มีอันตรายใช่ไหม เด็กคนนั้นได้รับโอกาส เติบโตขึ้นเป็นคนดี เป็นอาจารย์ที่น่านับถือ คุณต้องพิจารณา ทั้งชีวิตแดนนี่ เมื่อคุณตัดสินใจครั้งนี้ เหมือนที่คุณต้องนึกถึงชีวิตคุณเอง ความผิดพลาดของตนเอง คำขอโทษของตนเอง แดนนี่สมควรได้รับโอกาส แดนนี่บอกผมว่า เขายินดีชดใช้"

วันที่เผาอิฐ คนงานเก่าที่เคยทำงานกับค็อปมาช่วย ๔ คน รวมกับค็อป แคเรน แดนนี่ เป็น ๗ คน แล้วไมค์ก็ปรากฏตัวขึ้น ทำให้แคเรนและแดนนี่ ปลาบปลื้มดีใจมากที่สุด

คนงานเก่าของค็อปเล่าให้แดนนี่ฟังว่า ค็อปก็เคยทะเลาะกับพ่อ และหนีออกจากบ้าน เหมือนแดนนี่ ตอนนั้นเขาอายุ ๑๒ ปี ๒ ปี ต่อมา พ่อเขาป่วยและเสียชีวิต เขาไม่ได้อยู่กับพ่อ ในช่วงเวลาที่พ่อต้องการเขามากที่สุด เขาว่านั่นเป็นความผิดพลาด ครั้งใหญ่ที่สุดของเขา คนงานคนนั้น ลงท้ายว่า พ่อทุกคนต้องการลูก ลูกเติมเต็มความรู้สึกของเขา

ด้วยความทุ่มเทของทุกคน คุณค็อปก็สามารถส่งอิฐได้ทันเวลา

ไมค์ถูกไล่ออก เขาหันมาประกอบอาชีพอิสระด้านธุรกิจก่อสร้าง และร่วมงานกับคุณค็อปต่อไป

แดนนี่ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียนต่อ และกลับไปอยู่บ้าน วันที่ล่ำลากัน แดนนี่สัญญาว่า จะมาเที่ยว บ้านค็อปบ่อย ๆ ค็อปบอกว่า จะตั้งตารอ

ถ้าตัดสินใจมีครอบครัว (แทนที่จะอยู่เป็นโสด) ก็ต้องตัดทอนความต้องการส่วนตัวลงบ้าง ใส่ใจความรู้สึกของคนในครอบครัว ยอมเสียสละให้แก่กันและกัน

ประเทศชาติก็เหมือนกัน จะดำรงอยู่ได้ ถ้าเรายอมเสียสละให้แก่กันและกัน

- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๐ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๔๖ -