บันทึก น้ำค้างหยดเดียว
นิราศดอยแพงค่า

นิราศร้างห่างกรุงมุ่งเมืองเหนือ    อุณหภูมิลดเหลือสามองศา
ฟังข่าวแล้วทุกข์ท้อทรมา    หากด้วยภาระหน้าที่หนีไม่ลง
แม้เหน็บหนาวร้าวรวดปวดกระดูก    แต่พันผูกในน้องพี่นี้สูงส่ง
คนอยู่ดอยแพงค่าพะว้าพะวง    สู้ปักธงแขวน 'ตุง' เต็ม 'ทุ่งจ๊อ'
"ดีใจ๋ยิ่งแล้ว ญาติแก้วมาเยือน"    อ่านป้ายเหมือนเติมเต็มให้สู้ต่อ
สิ่งล้ำค่ากว่าอื่นใดเหนือใจพอ    คือลูกพ่อเดียวกันฟั่นเกลียวใจ
'ฉลองหนาว'* ข้าวน้ำเต็มสำรับ    รวมน้ำใจพร้อมสรรพสุดเหนือใต้
การแสดงไร้แสงสีที่ยวนใจ    แต่ยิ่งใหญ่ด้วยไมตรีน่าภิรมย์
แม้ชาวเขาต่างเผ่าพันธุ์คบกันได้    มีความรักความเข้าใจผสานผสม
ร่วมช่วยเหลือเจือจุนบุญนิยม    เป็นสังคมสมควรเพื่อมวลมนุษย์
แต่คืนค่ำสำหรับคนนอนไม่หลับ    ช่างกระสับกระส่ายไม่สิ้นสุด
ราวตะวันลืมเลือนเยือนมนุษย์    จึงต้องรุดรับตะวันช่วยบรรเทา
'ห้วยน้ำดัง' เช้านี้ไม่มีหมอก    มีแต่ดอกไม้งามตามไหล่เขา
สู้ดั้นด้นมาไกลไม่เห็นเงา    อยู่ไหนเล่าทะเลหมอกหรือหลอกกัน
ผ่านสิบโค้งร้อยโค้งถึง 'โป่งเดือด'    แช่น้ำร้อนให้หนาวเหือดจึงสุขสันต์
แท้นั้นคือสุขน้อยทุกข์ร้อยพัน    ไม่ยึดมั่นนั่นแหละดีไม่มีภัย
กลับสู่เหย้าดูกีฬาอาริยะ    การสละแรงงานสร้างสรรใหญ่
ทั้ง 'เก็บผัก' 'จักตอก' 'ตำข้าว'    ใช้ อีก 'ผ่าฟืน' 'ตักทราย' ให้ชุมชน
เป็นกีฬาสามัคคีมีผลงาน    สนุกสนานตามประสาน่าฉงน
สิ่งใดเล่าค้ำชูใจผู้คน   ขยายผลงดงามเป็นความรัก
ภาพพ่อท่านแสดงธรรมบนลานกว้าง    ยิ่งเสริมสร้างพลังใจให้ประจักษ์
ศรัทธาเป็นแกนนำสำคัญนัก    คนเป็นหลักสร้างสังคมรมณีย์
สังคมดีไม่มีขายต้องร่วมสร้าง    สู่แนวทางประเสริฐสุดพุทธวิถี
ประโยชน์ตนประโยชน์ท่านสานชีวี   ก่อเกิดมีความสุขแก่ทุกคน
ทั้งพืชสัตว์นิเวศสิ่งแวดล้อม   ทะนุถนอมด้วยดีย่อมมีผล
ชาว 'ภูผาฟ้าน้ำ' จึงฉ่ำกมล   ได้รางวัลอดทนพ้นทุกข์จริง
จบนิราศหนาวเหน็บก็เพียงเนื้อ   ความการุญอุ่นเอื้อสิค่ายิ่ง
แม้ดินฟ้าโหดร้ายไม่ประวิง    เหล่าคนจริงจะสร้างเมืองรุ่งเรืองเอย

งานฉลองหนาวครั้งที่ ๒ จัดที่พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ
บ้านทุ่งจ๊อ ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
วันที่ ๒๓-๒๕ ม.ค.๔๗

- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ -