ธรรมะกับการเกษตร
- เสียงศีล ชาตวโร - นิสมฺม กรณํ เสยฺโย ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำดีกว่า ทุกวันนี้เกษตรกรยังเป็นหนี้เป็นสินกันอยู่มาก และนับวันจะยิ่งมากขึ้นเพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ ไม่ค่อยใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ เคยชินมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น อะไรที่ง่ายๆ เร็วๆ และได้มากๆ จะชอบ ปุ๋ยเคมีซื้อง่าย ได้ผลเร็ว ผลผลิตมาก เกษตรกรนิยมใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา ที่เสียแน่ๆ คือเสียเงินซื้อ และนับวันปุ๋ยเคมีจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ขายผลผลิตได้ไม่ค่อยคุ้มกับเงินที่ลงไป ผลเสียที่ตามมาอีก คือยิ่งใช้ ปุ๋ยเคมีดินจะยิ่งเสีย ดินจะแข็ง และต่อไปจะเกิด สภาพดินไม่รับปุ๋ย ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ผลเสีย อีกประการหนึ่งคือพืชผักที่ใช้ปุ๋ยเคมี แม้จะทำให้พืชผักงามเร็วก็จริง แต่อ่อนแอเพราะถูกเร่ง ด้วยเคมี แมลงศัตรูพืชจะมารบกวน ทำให้ต้องซื้อยาฆ่าแมลงปราบศัตรูพืชเพิ่มขึ้น ฉีดมากๆ ก็เป็นอันตรายทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย ต้องเสียเงินและทุกข์ทรมาน ยังมีผลเสียอื่นๆ แต่จะเขียนเฉพาะผลเสียที่เห็นได้ง่ายๆ ก่อน ถ้าเกษตรกรรู้จักคิด และใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ เกษตรกรก็จะไม่ลำบากยากจน เป็นหนี้ เป็นสิน เหมือนอย่างทุกวันนี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสพบกับเกษตรกรที่เขาประสบผลสำเร็จ มีชีวิต ที่ดีขึ้น ฐานะของครอบครัวก็ดีขึ้นมากมายหลายครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรที่ปลูกผัก ปลูกผลไม้ หรือทำไร่ทำนา ส่วนมากเขาจะบำรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ต้องใช้ ปุ๋ยเคมีเลย ทำไมเขาทำกันได้ ได้ผลดีกว่าปุ๋ยเคมีด้วย เมื่อเร็วๆนี้ ผู้เขียนได้ไปเยี่ยม คุณจำเนียร เรืองเมือง ที่บ้านคำงาม ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ (เคยมาอบรมกับชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน) เป็นเกษตรกรปลูกถั่วเหลือง ถั่วเหลืองของเขางามมาก จนมองไม่เห็นพื้นดิน เขาปลูกถั่วหลังฤดูทำนา พอเกี่ยวข้าวเสร็จ เขาจะเก็บฟางคลุมถั่วเหลือง ไถกลบตอซัง แล้วก็ปล่อยน้ำเข้า หมักตอซังไว้ประมาณ ๑๐ วัน พอน้ำแห้ง ดินหมาดๆ ก็หว่านถั่ว แล้วคลุมฟางให้หนาพอประมาณ ถั่วเหลือง ขึ้นงามมาก หญ้าก็ไม่มี เปรียบเทียบ กับแปลงถั่วที่อยู่ติดกัน เขาเผาฟางและใช้ปุ๋ยเคมี ปรากฏว่าถั่วเหลืองขึ้นไม่เต็มพื้นที่ ต้องคอย หยอดถั่วซ่อมหลายครั้ง หญ้าขึ้นเต็มไปหมด ดินก็แห้ง ต้องสูบน้ำเข้าหลายครั้ง เราได้เชิญเจ้าของแปลงถั่วที่ว่า มาสนทนา และชี้ให้เห็นข้อแตกต่าง ทำให้เจ้าของไร่เห็นดีด้วย ต่อไป จะไม่เผาฟาง เพราะมีตัวอย่างให้เห็นอยู่ชัดๆ แม้แต่นาข้าว ก็ทำนาแบบไม่เผาฟาง ไม่ฉีดยาฆ่าหญ้า ไม่มีเพลี้ยแมลงศัตรูพืชมารบกวน เป็นนาไร้สารพิษ ที่ทุ่งโพธิ์ชัย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งเราได้ถ่ายทำวิธีการพร้อมสัมภาษณ์ไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน สนใจ VCD วิธีการทำนา ไร้สารพิษที่อินทร์บุรี ติดต่อชมรม เพื่อนช่วยเพื่อน อุฏฐาตา วินทเต ธนํ = คนขยันย่อมหาทรัพย์ได้ เกษตรกรตัวอย่างครอบครัวหนึ่ง มีที่ทำกินเพียงแค่ไร่เดียว สามารถขายผลผลิตเลี้ยงครอบครัว ส่งลูกเรียนได้ ด้วยความขยันอดทนของสองสามีภรรยา เขาก็สามารถหาทรัพย์ได้ในที่ดิน เพียงเล็กน้อย ต่างจากเกษตรบางคนมีที่ทางเป็นสิบเป็นร้อยไร่ แต่กลับเป็นหนี้เป็นสิน คุณอุษา และคุณสมชาย รักชัง เป็นเกษตรกรบ้านประศุกร์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ทั้งคู่ช่วยกัน ปลูกผัก ปลูกดอกไม้ขาย มีรายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ ๓๐๐-๔๐๐ บาท ถ้าถั่วฝักยาวให้ผล จะมีรายได้ถึงวันละ ๗๐๐ บาท ดีกว่าไปขายแรงงานที่ได้ไม่ถึง ๒๐๐ บาท รายได้หลักในพื้นที่ ๑ ไร่ ก็คือ ดอกรัก ดอกดาวเรือง ดอกมะลิ มีให้เก็บขายทุกวัน แม่ค้าขาย พวงมาลัยจะจองไว้ตลอด เพราะซื้อที่นี่แห่งเดียวร้อยพวงมาลัยได้เพียงพอ ไม่ต้องไปซื้อที่อื่น ที่สำคัญดอกไม้ที่นี่ไร้สารพิษเพราะไม่ใส่สารเคมี ปุ๋ยเคมี ไม่ฉีดยาฆ่าแมลง ดอกไม้ที่อื่น อาบยาพิษ ยาฆ่าแมลง ร้อยมาลัยเสร็จมือก็เปื่อย ถ้าถูกหนามแทงแผลก็หายยาก ดอกไม้ของ คุณอุษาจึงขายได้ราคาดี มีตลาด ที่แน่นอน นอกจากดอกไม้แล้วยังมีผักสวนครัวอีกหลายชนิด เช่น พริก มะเขือ บวบ ถั่วฝักยาว ที่มีหมุนเวียนให้เก็บได้ตลอด แทบจะไม่มีที่ว่างให้เห็นเลย ใช้ปุ๋ยหมักซึ่งถูกกว่าปุ๋ยเคมีมาก และใช้สมุนไพรไล่แมลงศัตรูพืช เหตุที่ผู้เขียนรู้จักครอบครัวนี้ ก็เพราะน้องสาวของผู้เขียนชื่อวินากร เป็นประธานชมรม เพื่อนช่วยเพื่อน ที่อินทร์บุรี เห็นคุณอุษาที่ชมรมฯบ่อยๆ เพื่อซื้อปุ๋ยหมักและน้ำชีวภาพ สูตรไล่แมลง เป็นประจำจนคุ้นหน้า จึงตามไปดูที่แปลงผัก ผู้เขียนก็เลยได้มีโอกาสไปดูด้วย และได้สัมภาษณ์ เรื่องราวชีวิตและ วิธีการปลูกผัก ปลูกต้นไม้ไว้หลายตอน พาผู้อบรมไปดู ก็บ่อย เพราะเป็นตัวอย่างที่หาได้ยาก คนเราถ้าขยัน ละเอียด ประณีต ประหยัด ไม่จำเป็นต้องมีที่ทางมากมายก็อยู่ได้ ทุกวันนี้ เกษตรกร ส่วนใหญ่มีที่ทำกินไม่ต่ำกว่า ๑๐ ไร่ แต่เป็นหนี้เป็นสิน ไม่พออยู่พอกิน เพราะต้องจ้าง ต้องซื้อทุกอย่าง รายจ่ายจึงมากกว่ารายได้ เพราะไม่มีอะไรที่เกษตรกรจะทำได้เองเลย ปุ๋ยเคมี ก็ต้องซื้อและนับวันจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ยาฆ่าแมลงก็ต้องซื้อ เมล็ดพืชก็ต้องซื้อ จะขุดจะไถ ก็ต้องเสีย ค่าน้ำมัน และยังมีรายจ่ายอื่นๆ อีกมากมาย พอผลผลิตออกมาก็ราคาตก ขายก็ยาก เพราะเดี๋ยวนี้คนจะเลือกบริโภคแต่ผลิตภัณฑ์ที่ไร้สารพิษ เพราะกลัวโรคมะเร็ง ดังนั้นถ้าเกษตรกรไม่เปลี่ยนแปลงความคิดและวิธีการผลิต จากเกษตรเคมีมาเป็น เกษตรอินทรีย์ หรือชีวภาพแบบไร้สารพิษ ต่อไปก็จะอยู่ลำบากเพราะทำอะไรออกมาก็ขายไม่ออก หนี้สินพอกพูน ความยากจนก็จะเป็นอยู่อย่างถาวร จึงอยากให้เกษตรกร หันมาศึกษา วิธีการทำกสิกรรมธรรมชาติ เพื่อพึ่งพาตนเองให้ประหยัดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ อโมฆํ ทิวสํ กยิรา อปฺเปน พหุเกน วา ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก เกษตรกรไทย สามารถผลิตอาหารเหลือบริโภคและส่งขายเป็นสินค้าออกได้มากที่สุด เป็นหนึ่ง ใน ๖ ประเทศทั้งๆ ที่ไทยเป็นประเทศเล็ก แต่สามารถผลิตอาหารเลี้ยงคนทั้งโลก ซึ่งมีอยู่กว่า ๒๐๐ ประเทศ แต่เกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และเป็นผู้ผลิตที่เก่งกาจสามารถระดับโลก กลับประสบปัญหาหนักหน่วงที่สุดในปัจจุบัน เช่น ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ แต่ราคาปัจจัย การผลิต กลับเพิ่มสูงขึ้น เกษตรกรส่วนใหญ่ยากจน เป็นหนี้เป็นสินเพราะต้องพึ่งพา ปัจจัย ภายนอก จึงต้องยอมถูกเอาเปรียบตลอดมา เช่น ประการแรก ต้องพึ่งพาปัจจัยการผลิต เช่น พันธุ์พืช หรือเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ไม่นิยมเก็บเมล็ด พันธุ์พื้นเมืองที่แข็งแรงทนทานต่อโรคไว้ปลูก พันธุ์พืชพื้นเมืองนับวันจะสูญหายไปเรื่อยๆ นิยมนำแต่พันธุ์ใหม่ๆที่ถูกคุมกำเนิดให้ใช้ได้ครั้งเดียว ต้องซื้อทุกครั้งที่ปลูก นอกจากนี้ยังต้อง ซื้อเครื่องจักร เครื่องมือ ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ฯลฯ ประการที่สอง ต้องพึ่งพาระบบการตลาด ไม่สามารถกำหนดราคาเองได้ พ่อค้าคนกลาง เป็นผู้กำหนดราคา เกษตรกรเจ้าของที่ดินมีสภาพเป็นลูกหนี้ หรือกรรมกรใช้แรงงานเท่านั้น ผลผลิตออกมาแล้วแต่พ่อค้าจะกำหนดราคาให้ วิธีที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ดีที่สุดก็คือ เกษตรกรต้องพึ่งตนเองให้มากขึ้น ด้วยการทำ ตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หันมาศึกษาเรื่อง เกษตรธรรมชาติที่ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง จะช่วยลดต้นทุนในการผลิต และ เพิ่มผลผลิตได้ดีกว่าอีกด้วย ในกลุ่มเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษของเราได้พิสูจน์มาแล้วกว่า ๒๐ ปี จนเกิดชุมชนเข้มแข็งหลายชุมชนทั่วประเทศ เป็นชุมชนที่พึ่งตนเองได้ ไม่เป็นหนี้เป็นสิน สนใจการทำปุ๋ยหมักอย่างง่ายๆ การทำน้ำสกัดชีวภาพ การปลูกผัก การทำนา ฯลฯ เรามี VCD ให้ศึกษาหลายเรื่อง ติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน ตู้ ปณ. ๖๗ ปทจ. นครปฐม ๗๓๐๐๐ มีเรื่องราวของผู้ประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่างและกำลังใจด้วย หรือจะฟังจากรายการวิทยุ ก็ติดตามฟังรายการเพื่อนช่วยเพื่อนจาก... สถานีวิทยุ ตชด. AM ๕๗๖
KHz ทุกวันเสาร์ เวลา ๒๐.๓๐-๒๒.๐๐ น. - หนังสือ ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๒ มีนาคม - เมษายน ๒๕๔๗ - |