เล่าจาก...ลูกสาวชาวจีน เธอสวย ขาว ราวตุ๊กตาหน้าห้องเสื้อ เมื่อยี่สิบปีก่อน วันนี้แม้เรือนร่างรูปโฉม จะเปลี่ยนไป ตามกาลเวลา กระนั้นความงามในความเห็นของ ลูกสาวชาวจีน คนนี้กลับยังงามอยู่เสมอ เธอบอกว่า "ได้รับมาจากแม่ แม่ดิฉันสอนอย่างนี้นะท่าน เวลาเลือกสามี อย่าไปดูที่ รูปร่างหน้าตา เป็นสำคัญ เพราะรูปร่างหน้าตาหากดีมาก เราจะลำบาก ด้วยมีคนมา แก่งแย่งสามีเราไป และรูปร่างหน้าตาแม้หล่อ แม้ดูดีปานใด ความหล่อความดูดีนั้น ก็อยู่ไม่นาน" อีกข้อหนึ่งเธอบอกว่า "เวลาเลือกคู่ อย่าไปเลือกที่ฐานะ เพราะแม้เขาจะเกิดมามั่งคั่ง ร่ำรวย ปานใด นั่นก็เป็นเพราะพ่อแม่เขาสร้างไว้ ซึ่งตัวเขาจะสร้างได้เหมือน ที่พ่อแม่เขา สร้างหรือเปล่าก็ไม่รู้" "ท่านเจ้าคะ แม่ดิฉันน่ะ สอนให้เลือกคนขยัน คนนิสัยดี เป็นข้อที่หนึ่งเลย เพราะคน ไม่ขยัน นิสัยไม่ดี จะเป็นที่พึ่งแก่เราได้อย่างไร เราจะมีความสุข ในการอยู่ร่วมกับเขา ได้อย่างไร ที่สำคัญเขาต้องเป็นคนคิดไกล คุณแม่ใช้คำว่าเป็นคนรู้จักคิด รู้จักมอง ช่องทาง ทำกิน หากเป็นคนไม่รู้จักคิด ไม่รู้จักช่องทางทำกิน เป็นแต่มาจีบเรา ถ้าเราหลง เราก็ได้คนคิดสั้น มาเป็นสามี ดีไม่ดีเราต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงดูเขาอีก" เธอว่าเข้านั่น ส่วนทัศนะในการสร้างตัว เธอถ่ายทอดคำสอนของแม่ให้ฟังว่า "ท่าน แม่บอกแต่งงานแล้ว อย่าไปหวัง มรดกจากพ่อแม่สามี เพราะเราอาจตายก่อนพ่อแม่สามีก็ได้ หรือแม้ พ่อแม่สามีตายก่อน กระนั้นการต้องไปแย่งมรดกกับลูกๆ ของพ่อแม่สามี มันไม่ดี มันเป็นทุกข์ เป็นไปเพื่อทะเลาะเบาะแว้ง สู้เรามาสร้างฐานะด้วยตนเองไม่ได้ และหาก แม่สามีไม่ดี ก็ไม่ต้องอยู่ด้วย ออกจากบ้านนั้นไปเลย เอาสามีไปด้วย หากสามีเป็นลูกแหง่ ติดแม่ ไม่ไปกับเรา ก็ปล่อยเขาไป เด็กไม่โตคนนั้น และเมื่อออกจากบ้านแม่สามีแล้ว อย่างไร ก็อย่าคลานกลับไป ให้ตั้งใจไว้อย่างนี้ เพื่อจะได้เต็มที่ ในการสู้ชีวิต ที่สำคัญ ในการทำงานเลี้ยงตน เราต้องรู้จักเลือก" "ลูก เข็มน่ะมันคมด้านเดียว ฉะนั้นต้องรู้จักเลือกงานที่ตนถนัดสักงานหนึ่ง แล้วทำให้ยิ่ง ให้จริงจัง แม่ดิฉันสอนอย่างนี้ค่ะ ท่าน" ปรากฏว่าด้วยคำสอนของแม่ ทำให้เมื่อมีสามีแล้วเธอประสบความสำเร็จพอควร ด้วยเหตุว่า แม่สามีก็ไม่ดีกับเธอมากนัก พูดง่ายๆ ว่าทะเลเรียกพี่ ไม่! ไม่ใช่ใจกว้างใหญ่ เหมือนทะเล แต่เป็นเค็มยิ่งกว่าทะเล เธอจึงชวนสามีมาบุกเบิกสร้างฐานะโดยตน กระทั่ง มั่งคั่งร่ำรวย แต่ด้วยความที่เธอเยาว์ต่อโลกไปหน่อย เธอจึงได้สามีคนนี้ โดยสิทธิ์ ในการเลือกไม่มี แต่เขาก็เป็นคนขยัน คิดไกล ไม่หล่อ เสียอย่างเดียว คือใจเขา ไม่รู้อิ่ม ไม่รู้พอในชีวิตคู่ บวกกับถึงพร้อมด้วยการงาน การเงิน หญิงอื่นก็เข้ามาหา และแล้ว เขาก็หาเมียน้อย ให้ลูกสาวชาวจีนผู้เป็นเมียหลวงจนได้ ซึ่งส่วนใหญ่ ก็ไม่ใช่ใครอื่น คนร่วมงาน อยู่โดยมาก ซ้ำไม่เพียงหนึ่งเดียวอีกต่างหาก ด้วยธรรมชาติของหญิง จะเป็นหญิงจีน หญิงไทย หรือหญิงชนชาติไหนก็ตาม ต่างก็มีห่วง หวง หึง ตามมาจากรักด้วยกันทั้งสิ้น แล้วก็ทุกข์กับอาการนั้น ลูกสาวชาวจีนคนนี้ ก็ไม่เว้น แต่ด้วยความที่เธอไม่งามเพียงตัว ใจและสติปัญญาของเธอก็งามด้วย เธอจึงไม่เลือก ที่จะไปราวีสามี หรือราวีหญิงอื่น ในวันที่เธอทุกข์ เธอเลือกพบพระ และวันนั้น เธอก็ได้ แง่คิด ท่านเจ้าคะ ดิฉันไปหาพระ ตอนนั้นพระท่านถามดิฉันว่า โยม สามีน่ะเป็นของโยมหรือ? ดิฉันคิด จดทะเบียนกันแล้ว สามีก็ต้องเป็นของเราซิ ดิฉันจึงตอบพระท่านไปว่า สามีก็เป็น ของดิฉันซิคะ เพราะเราจดทะเบียนกันแล้วนี่เจ้าคะ พระท่านยิ้มๆ และสาธยายธรรม ให้ดิฉันฟัง ดิฉันได้บทสรุปมาว่า ทะเบียนสมรสจะมีประโยชน์อะไร ถ้าใจเขาไม่อยู่กับเรา และเพียงเรา ไม่ได้ใจเขา เขาก็ไม่ใช่ของเราแล้ว ด้วยคำพระ บวกกับความเป็นคนรู้จักคิดพิจารณา เธอก็ได้คิดพิจารณาต่อไปอีกว่า ท่านกับ สามีนะ ถ้าเรายึดเขา เวลาเขาไปมีหญิงอื่น เราก็จะเป็นเหมือนคนบ้าไป เราจะไป ยึดเขาไว้ทำไม และจริงแล้วเขาก็ไม่ใช่ของเรา ถ้าเขาเป็นของเรา แม้เราไม่ยึดครอง เขาไว้ เขาก็ไม่ไปไหน และมันเป็นจริงนะท่าน เรารักเขา เราก็ต้องคอย ห่วงใยเขา เราห่วงใย เขามาก แต่ที่เราได้กลับมาคือ ความไม่พอใจ ท่านคะ เขาไม่พอใจกระทั่งตอนทะเลาะกันครั้งสุดท้าย เขายื่นคำขาดเลยนะ ห้ามถามว่า ไปไหน ไม่ต้องมาถามว่า กินข้าวแล้วหรือยัง จะกลับเมื่อไหร่? ไม่ต้องโทรศัพท์ตามด้วย เจอแบบนี้ ตอนแรกดิฉันทนนะ ดิฉันคิดว่า ดิฉันใช้หนี้สามี แต่มาภายหลังกับสามี ใจมันไม่ยึดแล้ว ไม่ร้อยรัด ไม่ห่วงหวงใดๆ ในเขาแล้ว แค่เห็นเขายังเป็นพ่อของลูกอยู่ เท่านี้ ดิฉันก็พอใจแล้ว และเธอพูดให้ฟังเบาๆ ว่า ท่านคะ ดิฉันพูดกับสามีว่า ถ้าคุณไปยุ่ง กับหญิงอื่นแล้ว คุณก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน แล้วเธอก็เด็ดขาดกับคำพูดของตน กระทั่ง ภายหลังสามีต้องมาครวญให้ฟังบ่อยๆ ว่า อยากได้ภรรยาคนเดิมกลับมา อยากได้ภรรยา คนเดิมกลับมา" ฟังเธอ อดไม่ได้ที่จะถาม แล้วกับภรรยาใหม่ของสามีล่ะ รู้สึกนึกคิดกับเขาอย่างไร? ดิฉันสงสารเขานะ เขาเป็นเมียน้อยต้องคอบหลบๆ ซ่อนๆ ดิฉันรู้สึกสงสาร และคิดว่า เขาน่าสงสารออกอย่างนั้น เราจะไปซ้ำเติมเขาทำไม แล้วสามีเขาพูดถึงเมียน้อยอย่างไร ท่านรู้ไหม? เขาบอกว่า ได้เมียน้อยหนึ่งคน ก็ได้แรงงานเพิ่มอีกหนึ่งแรง แถมด่าได้ ไล่ไม่ออก อีกต่างหาก ฟังความเห็น แก่ตัวของเขาสิท่าน ! ทั้งหมดในความเป็นสามี เมื่อแรกเธอก็ไม่ค่อยชอบใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาคือบทเรียน ว่าด้วยเรื่องทุกข์ให้กับเธอ เธอบอกมีสามีก็ทุกข์กับสามี มีลูกก็ทุกข์กับลูก โดยเฉพาะ เรื่องลูก ต้องเป็นภาระของคนเป็นแม่เกือบทุกเรื่อง เธอบอกเกิดใหม่ขอให้ได้เกิด เป็นมนุษย์ และจะเลือกเป็นโสด จะเป็นด้วยเธอได้ดี เพราะสามีใช้ไม่ได้ หรือเพราะเป็นจริตนิสัยใจดีของเธอก็ไม่รู้ แม้แม่ของสามีจะไม่ดีกับเธอ แม้สามีจะทำกับเธอถึงปานนั้น กระนั้น เธอกลับแนะนำ ให้สามี กตัญญูต่อพ่อแม่ ดูใจของเธอสิ ท้ายสุดของการถ่ายทอดคำสอนของแม่ และเรื่องราวต่างๆ เธอจบด้วยถ้อยคำที่สวยงาม มากว่า เจอมาเยอะแล้ว ขอสงบซะที! ทุกวันนี้ลูกสาวชาวจีนคนนี้ เธอปลงวางกับสามี แล้วหันมาสนใจ ใฝ่ธรรมแทน หวังว่าสักวันเธอคงมีระดับใจเหนือกว่าความเป็นแม่บุตร แม่บ้าน มาเป็นแม่งาน การกุศล เพื่อสะสม บุญบารมีให้ตน เราได้ฟังเรื่องดีๆ จากเธอ อดไม่ได้ที่จะนำมาบอกต่อ พี่น้อง และ เราจะมอบหนังสือ " ๔ ฐานะธัมมะเพศแม่" เป็นของกำนัลแด่ลูกสาวชาวจีน คนนี้ อีกด้วย เชื่อว่าหากเธอเข้าใจ ๔ ฐานะของสตรี เธอจะไม่ทุกข์กับสามีอีกต่อไป แม้น้อย ไม่เพียงนั้น ไม่นานวัน เธอจะพ้นภาระในความเป็นแม่บุตร แม่บ้าน มาเป็นแม่งาน การกุศลแทน ด้วยปรารถนาดีจาก ส.ร้อยดาว / ๓ ส.ค. ๔๗
- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๕ กันยายน - ตุลาคม ๒๕๔๗ - |