"แด่พ่อ-แม่" จากดวงใจลูก - ฆวาลา - เบื้องหลังความสำเร็จของเด็ก ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จะเป็นใครไม่ได้ นอกจากพ่อกับแม่ แต่จะกล่าวถึง แม่ก่อน ตั้งแต่เล็ก ฉันเป็นเด็กขี้อาย ไม่ค่อยพูด ทำอะไรก็เชื่องช้า จนแม่ต้องเอ็ดอยู่เสมอ เวลาคุณครูสั่งงาน ให้ไปหานั่นหานี่มา แม่ก็ต้องเป็นธุระจัดให้อยู่เสมอ บางทีต้องขี่รถไปตั้งไกลกว่าจะถึง ไปขอกับคนนั้น คนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่กล้าทำ แม่ทำโน่นทำนี่ให้ งานบ้าน ทำกับข้าว เวลาว่างแม่ก็ชอบ ทำความสะอาดบ้าน เก็บของ ปลูกต้นไม้ แม่ทำงานหนักมาก เมื่อก่อนก็ยังไม่ค่อยเท่าไร แต่ตอนนี้ แม่กลายเป็นหลักในบ้าน เพราะพ่อไม่ได้ทำงานแล้ว แม่ทำงานหนักมาตลอด ปัจจุบันก็ยังต้องทำอยู่ แต่ก็ไม่เคยบ่นสักคำ แม่คือหญิงเหล็กในใจฉัน ถ้าหากฉันมีลูก ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะเลี้ยงลูกได้ดีเท่าแม่รึเปล่า สำหรับพ่อ... ฉันรักพ่อกับแม่ (แต่ไม่เคยบอกรัก) เพราะพ่อกับแม่รักฉัน รักจากใจ เป็นคนที่คอยช่วยเหลือฉันเสมอเวลาลำบากและรักฉันเสมอ ไม่ว่าฉันจะเป็นอย่างไรก็ตาม * น.ส.โศรดา อัศวบริรักษ์กูล
ครอบครัวของผมค่อนข้างยากจน พ่อแม่ทำนาเป็นอาชีพหลัก แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนอาชีพ เพราะกลัวว่า จะหาเงินส่งเสียให้ผมและพี่สาวไม่ทัน จึงไปเป็นกรรมกรก่อสร้างในต่างจังหวัด ผมรู้ว่าพ่อและแม่ ทำงานหนัก เพื่อให้ผมและพี่สาวได้เรียนหนังสือสูงๆ เมื่อโรงเรียนปิดเทอม ผมจะไปทำงานกับพ่อ เป็นกรรมกรเหมือนกัน ซึ่งมันทำให้ผมรู้ว่ากว่าได้เงินมาแต่ละบาทต้องเสียเหงื่อ ตากแดดตากลม ผมเหนื่อยมากจนแทบจะทนไม่ไหว แต่พ่อก็บอกผมว่า "ถ้าไม่รู้จักทำงาน มีหรือจะได้เงิน เมื่อไม่มีเงิน แล้วจะเอาที่ไหนไปจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน" ทำให้ผมคิดได้ว่า นี่ขนาดมาทำงานเพียงไม่กี่วัน ก็บ่นว่า ทนไม่ไหว แล้วพ่อล่ะ ทำงานมาไม่รู้กี่ปีแล้ว พ่อยังไม่เคยบ่นสักคำ เพราะอยากให้ผมได้เรียนหนังสือ ผมจึงไม่รู้สึกท้ออีกต่อไป ทางด้านการเรียนของผม ถึงผมจะไม่ได้ที่หนึ่งของโรงเรียนก็ตาม แต่ผมก็อยู่ ในลำดับต้นๆ ของโรงเรียน ยิ่งผมสอบเข้าเรียนต่อในระดับ มหาวิทยาลัยได้ พ่อก็ดีใจแล้ว * นายอภิชาติ เขียวสวาท
* น.ส.แก้วหทัย ใสดี
สำหรับข้าพเจ้า ตอนนี้ "พ่อ" คือทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านต้องทำงานหนักมากเพื่อส่งข้าพเจ้าเรียน พ่อเป็น ชาวนา ส่วนแม่เสียไปนานแล้ว นับแต่วันที่แม่จากไป ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร เพราะพ่อ สามารถเป็นทั้งพ่อและแม่ พ่อคอยให้คำแนะนำ คำปรึกษาเวลาข้าพเจ้ามีปัญหา ข้าพเจ้าไม่เคยได้ยิน พ่อพูดเลยว่าพ่อเหนื่อย ทั้งที่จริงๆ แล้วท่านต้องทำงานหนักมาก พ่อบอกเสมอว่า พ่อไม่ได้เรียนจบ ปริญญา ไม่ได้มีการศึกษาสูงๆ เพราะฉะนั้น พ่อจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกมีอนาคตที่ดี สามารถใช้ชีวิต อยู่ในสังคมได้ (ในวันที่ไม่มีพ่อแล้ว) วันนี้ข้าพเจ้าก้าวเข้ามาถึงตรงนี้ได้เพราะมีพ่อเป็นกำลังใจ คอยเป็นทุกๆ อย่างให้ แม้จะเหนื่อยยาก เพียงใด ข้าพเจ้าสัญญากับตัวเองว่า จะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด ให้สมกับความเหนื่อยยากของพ่อ จะไม่ทำ ให้พ่อผิดหวัง และจะตอบแทนบุญคุณของพ่อ ไม่ต้องให้ท่านทำงานหนัก เหมือนอย่าง ที่แล้วมา * น.ส.วิภาวดี เอี่ยมสะอาด ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๖ พฤศจิกายน- ธันวาคม ๒๕๔๗ |