ปัจฉิมลิขิต - กอง บก. -

มีวิธีแนวทางอะไรดีๆ บ้างที่จะให้คนไทยหันไปปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
* วิษณุ วงษ์เสนา /ขอนแก่น
- วิธีที่ดีที่สุดคือทำตนให้เป็นตัวอย่าง ส่วนการเผยแพร่แนะนำให้คนอื่นปฏิบัติน่ะ ไม่ยั่งยืนหรอกค่ะ



ถ้าบุคคลหนึ่งมีปัญหามาตั้งแต่เด็ก และตอนนี้ได้รับการรักษาแล้ว อยากทราบว่า จุดอ่อนตรงนี้จะเป็นปัญหา ให้แก่สังคม หรือเปล่าคะ
* จิราพร สุยะ /เชียงราย
- ต้องทราบว่าเป็นปัญหาอะไรค่ะ ถ้าเป็นปัญหาทางกายก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่ปัญหาทางจิต อาจจะหายขาด หรือไม่ก็ได้ ควรปรึกษาจิตแพทย์และ นักจิตวิทยา



อยากให้อธิบายปริศนาธรรมอย่างพิสดาร จากตาลปัตรพระที่ว่า "ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น"
* บุญนวย จิตบรรจง /พัทลุง
- ถ้าอยากจะทราบอย่างพิสดาร คงนิมนต์ให้พระเทศน์ดีกว่า ดิฉันทราบแต่ว่าหมายถึงความตาย ที่ว่า "ไปไม่กลับ" ก็คือ การจากที่ไม่มีวันกลับมาพบกันอีก ส่วน "หลับไม่ตื่น" เป็นการเปรียบเทียบความตายเหมือนกับการนอนหลับ แต่ไม่มีวันตื่น ไม่มีวันฟื้น และทุกคนต้องเจอกับความตาย ไม่มีใครหนีพ้น


๑. จิตวิญญาณมีจริงหรือไม่
๒. แรงอธิษฐานจิตทุกวันๆ จะเป็นตามแรงอธิษฐานหรือไม่
๓. การมีองค์ในคืออะไร
* สุพิศ หน่อแก้ว /ปัตตานี
- ๑. มีจริง
๒. ดิฉันเข้าใจว่า "อธิษฐาน" หมายถึง การตั้งจิตนะคะ ไม่ได้แปลว่า ขอ และถ้าตั้งจิตก็ต้องควบคู่ไปกับการกระทำด้วย เช่น ตั้งจิตว่าจะเป็นชาวนาที่ฉลาด ก็ต้องฝึกหัดเพาะปลูกข้าวและพืชต่างๆ ชนิด และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อนำมาปรับปรุง การทำกสิกรรม ถ้าตั้งจิตแล้วไม่ทำอะไรเพิ่มขึ้น ทำตามความเคยชินอย่างเดิม จะฉลาดได้อย่างไร
๓. ดิฉันเคยได้ยินมาบ้างเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์ต่อการปฏิบัติธรรม และขอแนะนำให้คุณสุพิศ อย่าไปสนใจ เรื่องราว เหล่านี้มากนัก สนใจการละกิเลส ดีกว่าค่ะ


ดิฉันอยากไปวัด แต่ไม่รู้สึกศรัทธาพระสงฆ์ที่อยู่วัด เพราะไม่นับถือ บางครั้งก็อยากจะหาวัดที่มีพระพอน่านับถือแต่ก็หายาก ดิฉัน จะไปหาวัดที่มีพระดีๆ ได้ที่ไหน
* เกศกนก ท่าดีสม /เชียงราย
- ดิฉันเคยตั้งคำถามทำนองนี้เหมือนกันค่ะ ผู้ใหญ่ท่านแนะนำว่า ทำตนเองให้เป็นพระดีกว่า ไม่ต้องหวังพึ่งคนอื่น


๑. ทำไมคุณครูสมัยนี้ จึงคิดแต่เรื่องข่มขืนลูกศิษย์ ลูกศิษย์ก็ข่มขืนครูเพราะอะไร
๒. ทำไมครูสมัยนี้จึงกินเยอะทั้งที่เงินเดือนนิดเดียว
๓. ทำไมครูสมัยนี้จึงไม่เป็นแบบนี้ดีให้ลูกศิษย์เห็น เช่น ชอบสูบบุหรี่ กินเหล้า
๔. ทำไมภิกษุสมัยนี้จึงไม่เหมือน ภิกษุสมัยก่อนที่เคร่งครัดปฏิบัติธรรม
* ชาญศักดิ์ สุธรรมสาโรช / สมุทรปราการ
ไม่เข้าใจว่าทำไมข้าราชการครูจึงมีหนี้สินกันมากมาย ทั้งๆ ที่บางคนก็รับจ้างสอนพิเศษ ลูกหลานข้าพเจ้าก็เสียเงินทอง เรียนพิเศษ เหมือนกัน เวลาไปรับเด็กกลับถ้าทัน มีนักเรียนมากมาย
* วันไท ปูรณีเต (โพธ์ขอม)/นครสวรรค์
- ตอบคุณชาญศักดิ์และคุณวันไทพร้อมกันเลยว่า ไม่อยากเชื่อเลยว่าไม่ทราบหรือไม่เข้าใจ แต่ถึงไม่ทราบจริงๆ ก็ไม่เป็นไร เราอย่าเป็นเหมือนเขาก็แล้วกัน


ถามได้หรือเปล่าเรื่องการเมือง? ไม่ค่อยเข้าใจกรณี ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าเขาแบ่งแยกดินแดนแล้ว เขามั่นใจว่า จะปกครอง ได้ดีกว่ารัฐบาลไทยหรือ
* จันทร์ฉาย คำแสน /อุบลราชธานี
- ถามได้ ตอบไม่ได้ค่ะ แต่เอาเหตุการณ์มาสอนใจตนเองได้ เวลาที่ไม่พอใจเรื่องนั้นเรื่องนี้ อยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ลองถามตัวเองดูให้แน่ใจว่า ถ้าเป็นอย่างที่ต้องการแล้ว เราจะจัดการตัวเองได้ดีจริงๆ หรือ


ทำไมพระภิกษุสงฆ์จึงยังเสพเนื้อสัตว์อยู่ทั้งๆ ที่ศีลข้อที่ ๑ พระศาสดาตรัสไว้ว่า งดเว้นจากการฆ่า แล้วกินได้อย่างไร นอกเสียจากสัตว์เหล่านั้นมันจะหมดอายุขัยหรือตายของมันเองโดยธรรมชาติ
* ธีรพร คุ้มผิวคำ /กรุงเทพฯ
- นี่ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็ได้ข้อคิดว่า คนเราเวลามีกิเลส มักไม่ค่อยมีเหตุผล


เมื่อเกิดภัยพิบัติสึนามิถล่มภาคใต้ ทำไมไม่มีชื่อพระดังระดับพระครูร่วมบริจาคช่วยเหลือคนที่สูญเสียบ้าง เพราะว่าเท่าที่รู้ พระใหญ่ๆ ดังทั่วประเทศรวยๆ กันทั้งนั้น เมื่อไหร่พระเมืองไทยจะเสียสละช่วยเหลือสังคมมากกว่าที่เป็นอยู่ เช่นทุกวันนี้ เห็นมีแต่ สะสมนะส่วนมาก
* สามารถ สร้อยสูงเนิน
- ฉบับนี้รวมคำถามที่ตอบไม่ได้ แต่ ที่จริงอุบาสกอุบาสิกาก็มีหน้าที่ดูแลพุทธ-บริษัทเหมือนกันนะคะ ต้องสนับสนุน คนที่ ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม และคัดค้านคนที่ปฏิบัติละเมิดศีลธรรม


๑. มีอุดมคติในการเกิดมาเป็นมนุษย์อย่างไร
๒. เราเกิดมาเพื่ออะไร
๓. เรามีชีวิตไปวันๆ ทำไม
* พระถนอมศักดิ์ ถิรธัมโม /นนทบุรี
- ถ้าอุดมคติแปลว่าเป้าหมายสูงสุด ก็คือ ความพ้นทุกข์หรือนิพพาน เกิดมาก็เพื่อสร้างบุญก่อกุศล ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม มีชีวิตเพื่อทำงาน


นับตั้งแต่เด็ก เริ่มเรียนวิทยาศาสตร์ ได้รับความรู้ใส่สมองว่าทุกสรรพสิ่งมี ๒ คือ สสาร และพลังงาน สสารนั้นมีตัวตน ที่ไม่มีตัวตนนั้นเป็นพลังงาน และอธิบาย "ตัวตน" คือมีน้ำหนัก ต้องการที่อยู่ สัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง ๕ เมื่อกระผมอ่านพบ หรือได้ยินคำว่า "ตัวตน" ในพุทธศาสนาทีไร มันให้เข้าใจแบบวิทยาศาสตร์ทุกที ทำให้สับสนทุกที อยากได้คำอธิบาย ให้กระจ่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำว่า "รูป" กับ "ตัวตน" มีข้อเหมือนข้อแตกต่างอย่างไร
* นายประสงค์ สุวรรณ /เชียงใหม่
- "รูป" เป็นวัตถุหยาบที่มากระทบตาและทำให้เกิดการรับรู้จากจักษุวิญญาณ แต่ "ตัวตน" เป็นนามธรรมที่เรารับรู้จาก มโนวิญญาณ ส่วนใหญ่จะใช้ทับศัพท์ภาษาบาลีว่า "อัตตา" ใครๆ ก็เห็นรูป แต่การที่จะเห็นตัวตนและปล่อยวางตัวตนได้ ไม่ใช่ง่าย


ใครถือศีล ทำดี คิดดี ในโลงศพ ทุกวันนี้เท่ากับว่าเป็นคนโง่ คนพาลมาหาเรื่อง ด่าอะไรต่างๆ ผิดๆ ทั้งนั้น คนถือศีลก็เฉยๆ ปล่อยให้ด่าอยู่ข้างเดียวจนพอใจ แล้วเดินหนีไป คนเห็นเหตุการณ์เขาก็ว่าคนถือศีลโง่ ปล่อยให้เขาด่าอยู่ได้ คนถือศีล ไม่หยุดอะไร เดินยิ้มไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใครน่าอายมากกว่ากันคะ คนถือศีลโง่จริงหรือคะ คนไม่ถือศีลถูกชมว่าเก่งค่ะ
* จันทร์เพ็ญ บุญทังที /อุบลราชธานี
- โง่ในสายตาของคนพาล ถูกต้องแล้วค่ะ แต่คนมีปัญญาจะเห็นว่าเป็นคนฉลาดและเก่งด้วยที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้


อุเบกขา ท่านแปลว่า ให้วางตัวเป็นกลาง แต่ทำไมว่า ช่างเขาเถอะ เขาว่าใส่ร้ายและอื่นๆ ที่ไม่ดีก็ต้องว่า ช่างเขาเถอะ คำว่า ทำตัวเป็นกลาง คือ พอโต้ตอบได้ ก็โต้ตอบใช่ไหมครับ
* เจษฎา กาฬจันทร์ /อุบลราชธานี
- ที่ว่าช่างเขาเถอะ ก็เพราะว่าให้อภัย ไม่ถือสาโกรธเคือง ไม่โต้ตอบด้วยเจตนาให้เขาเจ็บกาย เจ็บใจ แต่ถ้าเป็นไปได้ โอกาส เหมาะสม จะอธิบายให้เขาเข้าใจให้ถูกต้อง ก็ควรจะทำ ถ้าประมาณแล้ว คิดว่าพูดไปแล้ว จะยิ่งแตกร้าว ยิ่งเข้าใจผิด ก็ไม่ต้องพูด ไม่ต้องชี้แจง รอเวลา สักวันหนึ่งก็จะมีสถานการณ์ที่ทำให้เขาเข้าใจได้เอง


กิเลส ตัณหา รู้ตามตำรา แต่จะทำอะไรให้ได้ดังใจยากมาก มีวิธีทางลัดที่จะฝึกจิตให้ละกิเลส ตัณหา ให้มีน้อยที่สุด ได้อย่างไร ถ้าท่านมี กรุณาบอกด้วย
* ผ.อ.ประภัศน์ /นนทบุรี
- ดอกหญ้านี่ไงคะ บอกอยู่ทุกฉบับ


ทำไมข้าพเจ้าจึงแพ้กิเลสตัวเองเสมอ
* สะอาด สินโพธ์ /ชัยภูมิ
- เป็นเพราะจิตใจอ่อนแอ ต้องฝึกออกกำลังจิตด้วยการฝืนใจตนเองเสมอๆ จากเรื่องเล็กเรื่องน้อย เรื่องง่ายๆ เช่น ไม่ซื้อ สิ่งที่อยากจะซื้อ ไม่กินของชอบ กินของที่ไม่ชอบ พูดกับคนที่ไม่ชอบหน้า เป็นต้น ต่อไปก็จะบังคับตนเองในเรื่องยากๆ ได้


เราจะทำอย่างไรไม่ให้โกรธคะ
* น.ส.มาลี สิงห์นันท์ /ตราด
- ถามตัวเองดูสิคะว่า อะไรเป็นสาเหตุให้โกรธ และโกรธแล้วได้ประโยชน์อะไร ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์จะได้โกรธต่อไป ถ้าไม่มี ประโยชน์ ก็ให้อภัยเขาเถอะค่ะ ทุกคนก็มีความทุกข์ของแต่ละคนมากพออยู่แล้ว อย่าเพิ่มทุกข์ให้ตัวเอง และคนอื่นอีกเลย เห็นใจกันดีกว่า


ทะเลาะกับเพื่อนร่วมห้องเรียนคนหนึ่ง แล้วก็ไม่ทักกันมา ๓ ปี หนูไม่สบายใจเลย หนูทำไงดีคะ
* หนึ่งฤทัย โอ๊ะพริ้ง /เชียงใหม่
- ทักเขาก่อนสิคะ ทำดีกับเขาเหมือนที่เคยทำ บางทีต้องทักเขาหลายครั้ง กว่าเขาจะยอมพูดกับเรา ต้องอดทน ตัดความ สัมพันธ์น่ะง่าย แต่สร้างและรักษายากหน่อยค่ะ




๑. จะทำอย่างไรจะสามารถฝึกการทานอาหารน้อยมื้อครับ
๒. ทำอย่างไรจะให้ระงับอารมณ์เมื่อผัสสะกระทบครับ
๓. ปัญหาคืออยากหลุดจากกามตัณหา ไม่ให้จิตคิดที่จะรักใคร่ หลงในรูปต่างๆ
* ผองพุทธ พวงจันทร์ /ตาก
- ๑. ข้อนี้ดิฉันยังทำไม่ได้นะคะ ขอตอบตามที่สมณะท่านสอนก็แล้วกัน คือ ค่อยๆ ลดค่ะ ลดการกินเล่น กินจุบจิบ แล้วก็ลดปริมาณการกินในมื้อที่เราจะงด เช่น จะงดมื้อเย็น แต่งดทีเดียวไม่ได้ ถ้าเคยกินสองจาน ก็ลดเหลือจานครึ่ง จานเดียว ครึ่งจาน กินแต่ผลไม้ ดื่มแต่น้ำผลไม้ แล้วก็งดในที่สุด
๒. เปลี่ยนความคิด มองมุมอื่น เช่น ถ้ารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้สวยดี อยากมองอยู่เรื่อยๆ ก็เปลี่ยนไปสนใจงาน หนังสือ ต้นไม้ หรือคนอื่นแทน หรือไม่ก็มองมุมตรงข้าม เช่น ร่างกายนี้มีแต่ของโสโครก ขี้หู ขี้ตา ขี้มูก ขี้ฟัน สารพัดขี้ ฯลฯ
๓. ทำงานมากๆ อย่าให้มีเวลาว่าง ช่วยเหลือคนยากคนจน มองดูเพื่อนร่วมทุกข์มากมาย พิจารณาความน่าเกลียด ของ กายมนุษย์ มีอะไรสวยๆ งามๆ ที่ถูกใจก็ให้คนอื่นไป ไม่กินของอร่อยตามที่ชอบ เป็นต้น


ผมอยากรู้ ทำไมเวลาผมทำความดีหรือช่วยเพื่อนของผมด้วยใจจริง แล้วไม่หวังสิ่งตอบแทนแล้ว ทำไมเวลาที่เพื่อน พวกนั้น ไม่ต้องการความจริงใจจากผมแล้ว เขาถึงทำเหมือนกับว่าผมไม่ใช่เพื่อน ผมมีเพื่อนผู้หญิงสองคน เขาต้องการ ที่จะเปิด ร้านกัน และต้องการคนช่วย ตอนสร้างและจัดร้านเขาก็มาหาผม และพูดกับผมอย่างดูสนิทกันมาก ไปที่ไหน ก็ทักผมก่อน แต่พอเปิดร้านเสร็จ ผมไปเที่ยวหาที่ร้าน เขาไม่ทักผมสักคำเลย ทำเหมือนผมไปขอกิน เลย ผมอยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไร และมีคนบอกว่ าคนที่เกิดวันเสาร์ทำบุญกับใครไม่ขึ้นจริงไหม
* อานันท์ พงษ์คำ /แม่ฮ่องสอน
- ถ้าคุณเชื่อดวงชะตาว่าเกิดวันเสาร์แล้วทำบุญกับใครไม่ขึ้น แล้วคุณจะทำอย่างไรคะ เปลี่ยนวันเกิดก็ไม่ได้ คุณจะหยุด ทำบุญกับคนอื่น หรือจะทำมากขึ้น ถ้าเชื่อแล้วหยุดทำบุญ ก็อย่าเชื่อเลย แต่ถ้าเชื่อ แล้วทำบุญมากขึ้น ก็ยังมีส่วนดีอยู่บ้าง แต่ถ้าเชื่อว่าเป็นเพราะอกุศลกรรมบางอย่างที่คุณเคยทำ คุณก็ต้องไม่สร้างอกุศลกรรมเพิ่มขึ้นอีก หมั่นสร้างกุศลกรรม ให้มากๆ เป็นทรัพย์มรดกให้ตนเอง เช่น ทำดีกับคนอื่น แล้วเขาไม่เห็นความดี ก็ต้องทำดียิ่งขึ้นอีก ชนิดที่พระท่านบอกว่า "ทำดีให้มาก จนคนตาบอดเห็นได้" เชื่ออย่างนี้ดีกว่า เป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น


กินเจทุกวันพุธ ไหว้พระสวดมนต์กลางคืน ทำไมจิตไม่สงบ ทำไมมีความเครียดหรือสวดมนต์ไม่ถูก
* วิภาวรรณ วัชรประภาพงศ์ /เชียงราย
- จิตสงบเกิดจากการลดละกิเลส ถ้าทั้งวันเรามีแต่ความเครียด โลภ โกรธ หลง แล้วจะมาสงบตอนสวดมนต์ คงจะยากค่ะ เราต้องตรวจอาการจิตตลอดเวลา แล้วพยายามจัดการกับอกุศลจิตทันทีที่รู้ตัว เป็นการหัดควบคุมจิต ในที่สุดจิตก็จะสงบ ได้ค่ะ


การฝึกสมาธิเป็นสิ่งที่ยาก อยากให้ช่วยแนะนำการฝึกสมาธิด้วยและแนะนำการอ่านหนังสือ อ่านอย่างไรจึงจะเข้าใจ และสามารถทำข้อสอบต่างๆ ได้ดี
* พิสมัย จันทร์สุข /อุบลราชธานี
- ลดเรื่องราวที่จะมาทำให้เราฟุ้งซ่าน สิคะ อบายมุข ๖ คือ เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น เล่นการพนัน เสพสิ่งเสพติด (อย่างละเอียด ก็รวมสิ่งไร้สาระทุกอย่างที่เราติด) คบคนชั่วเป็นมิตร และเกียจคร้าน ทีนี้คุณจะก็มีกะจิตกะใจ มีเวลา มาเอาใจใส่ เรื่องเรียนได้เต็มที่ ถ้าคุณเรียนหนังสือประเภทที่ต้องเข้าห้องเรียน คุณก็ตั้งใจฟังอาจารย์ให้มากที่สุด อย่านั่ง ใกล้เพื่อนที่ชวนคุย ชวนให้ไม่ได้ฟังอาจารย์ กลับบ้าน ก็อ่านทบทวนเรื่องที่เรียนอีกที ถ้ายังมีอะไรสงสัย วันรุ่งขึ้น จะได้รีบ ถามอาจารย์

แต่ถ้าคุณเรียนแบบไม่ต้องเข้าห้องเรียน คุณก็ต้องอ่านหนังสือสม่ำเสมอ อย่ามาทุ่มเทอ่านเฉพาะตอนจะสอบ มันจะกังวล โน่นกังวลนี่ กลัวจะอ่านไม่ทัน ยิ่งอ่านแล้วไม่เข้าใจ ยิ่งเสียสมาธิใหญ่

วิธีอ่านหนังสือให้เข้าใจก็ง่ายมาก เอาใจใส่ในเรื่องที่อ่านแต่อย่างเดียว อย่าใจลอยไปเรื่องอื่น ตอนไหนไม่เข้าใจก็อ่านซ้ำ เข้าใจแล้ว ลองเขียนสรุปด้วยภาษาของตนเอง อย่าอ่านหนังสือแบบท่องจำ ได้แต่จำ ไม่เข้าใจสาระสำคัญ


ศาสนสุภาษิต-พุทธภาษิตหรือพุทธพจน์ อย่างคำว่า "วิริเยนะ ทุกขมะเจติ" คนจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร หาอ่าน ได้ที่ไหน มีเป็นเล่มต่างหากหรือเปล่า หรือว่า ต้องค้นในพระไตรปิฎก ในพระไตรปิฎกมีจัดไว้เป็นหมดหมู่หรือไม่ เล่มไหน แนะนำที่ค้นหาด้วย
* หาญ มวลสุข /สมุทรปราการ
- พุทธศาสนาสุภาษิตที่เราได้ยินกันก็มาจากพระไตรปิฎกนั่นแหละค่ะ มีผู้รวบรวมจัดพิมพ์เป็นหนังสือมากมาย คุณอยู่ สมุทรปราการ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ลองไปเดินหาซื้อในร้านหนังสือธรรมะแถวท่าพระจันทร์สิคะ มีหลายร้าน ถ้าไม่อยากซื้อ ไปหาอ่านที่ห้องสมุดประชาชน ประจำอำเภอ ประจำจังหวัดก็ได้


การนำปุ๋ยเคมี ผสมกับปุ๋ยอินทรีย์ ชีวภาพกระทำได้หรือไม่ ดีหรือไม่ดีอย่างไร จะเรียกว่า ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพได้หรือไม่ อยากให้มีรายละเอียดของเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ให้มากขึ้น
* น.ท.ทวีศักดิ์ สุภานันท์ /อุดรธานี
- เราสนับสนุนให้เลิกใช้ปุ๋ยเคมี เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งคนปลูกและคนกิน แถมสิ่งมีชีวิตในดินยังถูกทำลาย ทำให้ดินแข็ง ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูกด้วย


อาหารของคนวัยทองนี้ช่วยจัดให้ด้วยได้ไหม อะไรเหมาะสม
* กระแสร์ ใจจำนงค์ /ลพบุรี
- ขออนุญาตตอบตามประสาคนที่ไม่ได้ห่วงใยสังขารร่างกายมากนักนะคะว่า อาหารมังสวิรัติเหมาะสมที่สุดค่ะ รับประทาน ผักผลไม้และธัญพืชให้มาก งดอาหารมัน อาหารหวาน และอาหารรสจัด


พ่อท่านไม่เคยรับประทานอาหารที่มีสารพิษทำไมต้องทำดีท็อกซ์
* วรรณี สิงแตง /นครราชสีมา
- ทุกคนก็เคยกินอาหารพิษมาก่อนทั้งนั้นแหละค่ะ ปัจจุบันก็ไม่ใช่ว่าจะไร้สารพิษร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมยังต้องหายใจเอาอากาศ ที่มีพิษ เข้าไปอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็เลยต้องขับพิษบ้างค่ะ ตามสมควร


๑. มีผู้สงสัยอยู่เสมอว่า ทำบุญอย่างไรจะได้บุญ สวรรค์อยู่ที่ไหน นรกอยู่ที่ไหน ชาติหน้ามีจริงไหม สังขารคืออะไร บริจาคเงิน สิ่งของจำพวกใดจึงจะได้บุญ กรุณาไขข้อกระจ่างให้ด้วยครับ
๒. อยู่ จ.ร้อยเอ็ด จะเดินทางไปตลาดอาริยะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ราชธานีอโศก จะเดินทางเส้นทางใด จึงจะเร็วและ ประหยัดเวลา
* สงวน คำชาลี /ร้อยเอ็ด
- ๑. ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและอย่างมีปัญญา ให้สิ่งที่จำเป็นและไม่เป็นโทษ แก่คนดีที่ขาดแคลน ในเวลาที่ต้องการ สมมุติว่า คุณมีเงินที่พร้อมจะเสียสละสัก ๑,๐๐๐ บาท ลูกสาวคุณขอไปซื้อนาฬิกาข้อมือเรือนใหม่ คนข้างบ้านที่คุณรู้เห็นว่า ยากจนจริงๆ มาขอเงินไปจ่ายค่าเทอมลูก และเพื่อนคุณคนหนึ่งซึ่งเป็นคนดีแต่เคยทำให้คุณโกรธมาก ตกงานมานานแล้ว ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน คุณก็ต้องให้เพื่อนคุณ ก่อน เพราะอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด และเขาก็ต้องการมากในเวลานั้น

ทำด้วย ความบริสุทธิ์ใจก็หมายความว่า ทำโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ แล้วก็ไม่ต้องคิดถึงนรกสวรรค์หรือชาตินี้ ชาติหน้า ด้วย ทำบุญเมื่อไร ก็ได้บุญเมื่อนั้น บุญคือการชำระกิเลส โลภ โกรธ หลง คุณเสียสละเมื่อไร คุณก็ได้ลดความโลภ เมื่อนั้น

ส่วนสังขาร ความหมายหนึ่งหมายถึง การปรุงแต่งจิตหรือความคิด อีกความหมายหนึ่งหมายถึงร่างกาย ตัวตน

๒. จากร้อยเอ็ด เดินทางผ่านยโสธร ไปถึงอุบลราชธานี แล้วนั่งรถไปวารินชำราบ เข้าเส้นทางไปอำเภอพิบูลมังสาหาร ประมาณ กิโลเมตรที่ ๑๐ เลี้ยวเข้าทางแยก บ้านกุดระงุม ระยะทางประมาณ ๓ กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านราชธานีอโศก


ผู้ที่มาทำงานที่สันติอโศก เงินเดือนเป็นศูนย์ สบู่ ยาสีฟัน เอาเงินที่ไหนซื้อ (มีคนถามผม เพราะผมเล่าถึงญาติธรรม ไม่เอาค่าจ้าง ผมตอบเดาๆ ไปว่าคงเงิน กองกลาง)
* พ.ต.อ.บุญเลิศ ศรีธมภู /สมุทรปราการ
- เดาถูกเผงเลยค่ะ ไม่ได้ต่างคนต่างเบิกเงินไปซื้อนะคะ มีคนดูแลรับผิดชอบซื้อมาไว้กองกลาง ถ้ามีใครบริจาคมา ก็เก็บไว้ กองกลาง ใครต้องการใช้ก็มาเบิกเอา


สันติอโศกทำไมบางคนยังไม่ยอมรับ
* น.ส.ชลิตา พงศ์กิจธนากร /กรุงเทพฯ
- เรายังทำดีไม่มากพอกระมังคะ


๑. ชาวบ้านสันติอโศกเป็นการร่วมกลุ่มกันแบบไหนหรือคะ หมายความว่าคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้เป็นญาติพี่น้องกัน หรือเป็นคน จากพื้นที่อื่นมาอาศัยอยู่ หรือใครอยากจะมาอยู่ก็ได้คะ
๒. มีเพื่อนหลายคนอยากสมัครเป็นสมาชิกดอกหญ้ามาก แต่ไม่รู้จะขอใบสมัครได้จากที่ไหน
๓. การกำหนดพุทโธ พุทโธ กับ การกำหนด ยุบหนอ ทำไมจึงว่าทำให้การมีสมาธิที่แตกต่างกันล่ะคะ
* ยุพิน พันสาย /อุบลราชธานี
- ๑. ใครอยากมาอยู่ก็มาได้ แต่ต้องรักษาศีลและปฏิบัติตามระเบียบของชุมชน
๒. แจ้งชื่อ นามสกุล ที่อยู่ที่จะให้ส่งดอกหญ้าไปให้ค่ะ
๓. คงเป็นเพราะเอาจิตไปจดจ่อในที่ต่างกัน ถ้าเป็นสมาธิของพุทธไม่มีความแตกต่างกันค่ะ เพราะสมาธิของพุทธ เกิดจากการปฏิบัติ ในชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านความเห็น ความคิด การพูด การกระทำ การประกอบอาชีพ ความพยายาม และ การระลึกรู้ตัว ให้เป็นกุศลหรือสัมมา


ดิฉันอยากเป็นสมาชิกค่ะ ไม่ทราบว่าขั้นตอนต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะดิฉันชอบอ่านหนังสือแนวนี้มากค่ะ ดิฉันได้หนังสือ เล่มนี้ มาโดยบังเอิญค่ะ
* อัญชลี ชูสันติสุข /นครปฐม
มีความประสงค์ต้องการเป็นสมาชิก แต่ไม่มีใบสมัคร ต้องปฏิบัติอย่างไร
* พูลชื่น ปถวีนิธิ /ชลบุรี
- แจ้งความประสงค์ พร้อมชื่อ นามสกุล ที่อยู่โดยละเอียด ส่งไปที่สมาคมผู้ปฏิบัติธรรม ๖๗/๓๐ ถ.นวมินทร์ ๔๔ คลองกุ่ม กทม. ๑๐๒๔๐


กฎแห่งกรรมมีจริงหรือไม่ ขอให้ผู้อ่านที่เจอเหตุการณ์กฎแห่งกรรมในชีวิตจริง ส่งเรื่องมาให้อ่านด้วยค่ะ
* อุบล เครือคำอ้าย /ลำปาง
- ดิฉันเชื่อว่า มีจริง

ทำไมไม่เอาประวัติของสมณะสิก-ขมาตุมาลงบ้างคะ จะได้รู้ว่ากว่าจะได้เป็น ลำบากแค่ไหน บางคนที่คิดจะเป็นนักบวช
จะได้มีพลัง หรือคนที่คิดจะทำความดี จะได้เป็นกำลังใจ (และคนที่กำลังย่อหย่อนด้วย)
* ดวงรัตน์ หาญณรงค์ /ตาก
- ยังไม่มีผู้อาสาสัมภาษณ์และเรียบเรียงมาให้ค่ะ


สนใจสิกขมาตุว่าท่านปฏิบัติกันอย่างไร ถึงมีวันนี้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้อ่านบทความ-ความเป็นมา-เป็นไปของท่านต่างๆ นี้บ้างไหม ชอบอ่านพระพุทธประวัติและพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้า ด้วยความศรัทธา เลื่อมใส สำนึกในพระกรุณาธิคุณ อย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้อ่านไหม
* พัชรี จิตรรักไทยภักดี /สระแก้ว
- มีโอกาสค่ะ แต่ต้องรอนานหน่อย


๑. ใครเขียนคอลัมน์ "ถ้อยคำสิริมงคล" คะ
๒. หนูเขียนเรื่องมาลงบ้างได้ไหม กำหนดหัวข้อรึเปล่าคะ
๓. หนูขอรบกวนให้ส่ง "ดอกบัวน้อย" มาให้ด้วยได้ไหม
* หนึ่งฝัน โคลนพันธ์ /ศรีษะเกษ
- ๑. ญาติธรรมชายผู้อาวุโสท่านหนึ่งค่ะ
๒. ได้ค่ะ เนื้อหาไม่ขัดแย้งกับศีลธรรม และยินดีให้กองบรรณาธิการแก้ไขถ้อยความได้
๓. ถ้าต้องการรับประจำทุกฉบับ ขอให้แจ้งชื่อ นามสกุล ที่อยู่ที่ละเอียดชัดเจนที่จะให้ส่งทางไปรษณีย์ได้


ทางทีมงานเหนื่อยบ้างไหม ที่ต้องทำหนังสือมาแจกให้คนอ่านแบบนี้ ไม่รู้สึกว่าคนอ่านเอาเปรียบบ้างหรือเปล่าที่บางคนรออ่านอย่างเดียว เช่นผมเป็นต้น รออ่านหนังสือจากทีมงานอย่างเดียว โดยไม่ได้ช่วยอะไรทางทีมงานเลย
* สนั่น สีสุขสาม / สุพรรณบุรี
- ช่วยปฏิบัติธรรมเล็กๆ น้อยๆ ตามกำลังก็ดีแล้วค่ะ


นอกจากหนังสือดอกหญ้าแล้วทางสมาคมมีหนังสือเกี่ยวกับเกษตร เศรษฐกิจพอเพียง หรือหนังสืออื่นๆ อีกหรือเปล่า และ ขอระเบียบการขอหนังสือ และการจัดส่งมาให้ด้วย
* จีระพันธ์ ระวังตน /สุรินทร์
- ถ้ามีหนังสือแจก จะประกาศให้ทราบในดอกหญ้าค่ะ




ทำไมข้าพเจ้าจึงไม่ค่อยได้รับหนังสืออย่างต่อเนื่อง
* สุมาลี จันทร์เพ็ง /ขอนแก่น
- มีจุดผิดพลาดได้หลายจุด ลองถามบุรุษไปรษณีย์ดูก่อนนะคะ ส่วนผู้จัดส่งต้นทางนั้น โอกาสผิดพลาดก็คงจะมีเหมือนกัน เพราะส่งหนังสือจำนวนหมื่น ถ้าใบแปะหน้าซองของคุณ เกิดปลิวหายไป คราวนั้นก็ไม่ได้จัดส่งให้คุณแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ ไม่น่าจะเกิดบ่อยนัก เพราะท่านทำงาน ละเอียดลอออยู่แล้ว ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ ไปเปิดอ่านในเว็บไซต์ www.asoke.info ก็ได้ค่ะ

ถ้ามีบทความ หรือเรื่องราวดีๆ ต้องการเสนอในหนังสือดอกหญ้าจะเสนอได้ทางใดถึงจะสะดวกและ เหมาะสม เผื่อเรื่องราว ดีๆ เหล่านั้น จะเป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่นได้บ้าง
* ลิขิต พลยศ /เชียงใหม่
- ส่งทางไปรษณีย์ไปที่ตู้ ปณ.๑๒ ปณ.คลองกุ่ม กทม.๑๐๒๔๔ หรือทาง e-mail [email protected]


- ดอกหญ้าอันดับที่ ๑๒๑ กันยา-ตุลา ๒๕๔๘ -