ธรรมะกับการเกษตร - สมณะเสียงศีล ชาตวโร - อนิสมฺม กตํ กมฺมํ อนวตฺถาย จินฺติตํ ระยะนี้เรื่องของเกษตรอินทรีย์ และเกษตรชีวภาพ กำลังเป็นที่กล่าวถึงกันมาก เพราะเริ่มสำนึกแล้วว่าเกษตรเคมี ไปไม่รอด เกษตรกรยิ่งทำยิ่งจน ทุกวันนี้แทบจะพูดได้เลยว่า ไม่มีเกษตรกรคนไหนเลยที่ ไม่เป็นหนี้ เราพัฒนา ผิดพลาดกันมานานแล้ว เพราะไม่พิจารณาให้ถ้วนถี่ จึงมีแต่ผลร้ายอย่างทุกวันนี้ เริ่มตั้งแต่ "การปฏิวัติเขียว" ที่ทั่วโลกพยายามพัฒนา เทคโนโลยี การเกษตรเพื่อขาย การปลูกพืชเชิงเดี่ยว การใช้ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง รวมทั้งเครื่องจักรกลการเกษตร ได้ปรับปรุง ครั้งใหญ่ ทั่วโลก ตั้งแต่ปี ๒๕๐๑ แต่นำมาใช้ในประเทศไทยอย่างจริงจัง ราวปี ๒๕๐๘ เป็นต้นมา โดยเริ่มต้นจากการเปลี่ยนพันธุ์ข้าว จากพันธุ์พื้นเมือง มาเป็นพันธุ์ลูกผสม เช่น พันธุ์ ก.ข. หมายเลขต่างๆ จน พันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่เคยต้านทานโรค สูง เคยชนะ การประกวดได้ที่ ๑ ของโลก คือพันธุ์ปิ่นแก้วหายไป ทุกวันนี้พันธุ์ข้าวพื้นเมืองดีๆ ของไทยเราสูญพันธุ์ไปจนหมดสิ้น หาไม่ได้ อีกแล้ว รวมทั้งพันธุ์พืชผักชนิดต่างๆ รวมถึงข้าวโพดก็เริ่มจะหมดไปเรื่อยๆ มีแต่พันธุ์ลูกผสมใหม่เข้ามาแทน ปลูกทีต้อง ซื้อที ไม่สามารถ เก็บเมล็ดไว้ปลูกต่อได้ ราคาเมล็ดพันธุ์นับวันก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเกษตรกรไม่รู้จักรักษาพันธุ์พื้นเมืองไว้บ้าง ต่อไป ของดีๆ ที่มีอยู่คู่บ้านคู่เมืองก็จะหมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย ผู้เขียนจึงอยากให้เกษตรกรช่วย เก็บเมล็ดพันธุ์พื้นบ้านพื้นเมืองดีๆ ที่มีอยู่ เช่น พริก มะเขือ ฟัก แฟง แตง ผักต่างๆ ข้าวโพด ข้าวพันธุ์พื้นเมืองต่างๆ ส่งไปแลกหนังสือ และ VCD คู่มือ การทำเกษตรอินทรีย์ เช่น การทำปุ๋ยหมัก การทำ น้ำหมัก ชีวภาพ และ ความรู้อื่นๆ อีกมากมาย โดยส่งตรงไปที่ สมณะเสียงศีล ชาตวโร ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน ตู้ปณ.๖๗ ปทจ.นครปฐม ๗๓๐๐๐ และช่วยบอกด้วยว่า เป็น เมล็ดพันธุ์อะไร มีคุณสมบัติพิเศษอย่างไร พร้อมรายระเอียดอื่นๆ เท่าที่จะบอกได้ ขณะนี้เรามีศูนย์รวมเมล็ดพันธุ์ พืชพื้นเมือง และกำลังขยายพันธุ์เพื่อ แลกเปลี่ยนกับเกษตรกรที่สนใจอยู่ที่ชุมชน ปฐมอโศก เราเรียกว่า "คลังแก่นเชื้อ" (Seeds Bank) คลัง คือที่เก็บรวบรวม "แก่นเชื้อ" คือเมล็ดพันธุ์ หรืออาจจะเป็นพืชที่ ขยายพันธุ์ ด้วยหัว เหง้า หน่อ หรือ กิ่งปักชำก็ได้ พืชพื้นเมืองบางชนิดใช้เป็นทั้งอาหารและยา ซึ่งนับวันจะหายากถ้าไม่ช่วยกันรักษาไว้ อาหารเป็นปัจจัยสำคัญของมนุษย์ ขาดอะไรก็ขาดได้ ไม่ถึงตาย แต่ถ้าขาดอาหารอยู่ไม่ได้แน่ ตั้งแต่ยุคปฏิวัติเขียวมา ต่างก็ คาดหวังว่า การเร่งผลิตด้วยเทคโนโลยี เกษตรแผนใหม่ ใช้ปุ๋ยเคมี ใช้พันธุ์พืช ลูกผสมจะทำให้เกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ ของประเทศ มีระดับการครองชีพสูงขึ้น ฐานะดีขึ้น มีงานทำมากขึ้น และสุขภาพ ดีขึ้น ยิ่งกว่านั้น ยังมีการคาดหวังในระดับโลกอีกว่า "การปฏิวัติเขียว" จะช่วยแก้ปัญหาความอดอยากหิวโหย ในประเทศกำลัง พัฒนา ที่ยากจน (เช่น แอฟริกา และเอเชียใต้) ให้หมดไปด้วยการผลิตอาหารเพิ่มมากขึ้น แต่ทว่าหลังจาก "ปฏิวัติเขียว" ผ่านมาแล้วเกือบสามสิบปี ผลที่เกิดขึ้นจริงๆกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้ แต่ตรงกันข้าม อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ในระดับโลกยังมีผู้คนมากมายอดอยากหิวโหย และเป็นโรคขาดอาหารล้มตายกันอยู่อย่างเดิม หรืออาจจะยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ในระดับประเทศ ผู้ผลิตเองนั้น เกษตรกรลำบากยากจนยิ่งขึ้นกว่าเดิม และลูกหลานของเกษตรกรเอง ก็เป็นโรค ขาดอาหาร เช่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น ผลของการใช้เทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งเน้นการใช้เครื่องจักร และสารเคมีในไร่นา ทำให้เกิด ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ หรือมลพิษในเขตเกษตรกรรมรุนแรงขึ้นทุกขณะ ซึ่งยากแก่การแก้ไขเป็นอย่างยิ่ง ธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งเอเชีย (ซึ่งเป็นสถาบันหนึ่งที่สนับสนุน "การปฏิวัติเขียว" มาแต่ต้น) ยอมรับว่าการปฏิวัติเขียว ประสบความล้มเหลว อย่างสิ้นเชิง และทำให้เกิดภาวะการว่างงานและขาดแคลน อาหารมากขึ้น ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยตรง ก็คือ เกษตรกรนั่นเอง หนทางแก้ไขที่อยากจะเสนอก็คือ ขอให้เกษตรกรลดการพึ่งพาภายนอกให้ น้อยลง หันมาใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ พึ่งตนเองได้ และไม่ทำ ให้เกิดมลพิษ แต่จะช่วยรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีอยู่เสมอ รวมทั้งต้องช่วยกันอนุรักษ์และรักษาพันธุ์พืช พื้นเมือง ที่สามารถ ขยายพันธุ์ต่อได้ เก็บเมล็ดไว้เพาะปลูกได้อีก จึงจะเป็นทางรอดของเกษตรกร และความอุดมสมบูรณ์ ก็จะกลับคืนมา อย่างเดิม
มีพุทธพจน์ที่กล่าวถึงความสำคัญของปัญญาไว้หลายบท เช่น "คนที่มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา บัณฑิตกล่าวว่ามีชีวิตที่ประเสริฐ" และ "ความเสื่อมแห่งปัญญา ชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งปวง" ทุกคนก็อยากมีปัญญาเพื่อนำพาชีวิตไปสู่ความเจริญ ปัญญาจะเกิด ขึ้นได้ด้วยเหตุ ๓ ประการ ได้แก่ ๑. สุตมยปัญญา (ปัญญาสำเร็จได้ด้วยการฟัง)
ดังนั้นจึงต้องเริ่มต้นด้วยการฟังสิ่งที่ดีๆ มีสาระ เมื่อฟังแล้วต้องรู้จักนำมาคิด เมื่อคิดเห็นว่าอะไรดี มีประโยชน์ ก็ต้องลงมือ ปฏิบัติ บำเพ็ญให้เห็นผล ทุกวันนี้คนไทยไม่ค่อยก้าวหน้าพัฒนาก็เพราะไม่ค่อยจะฟังเรื่องดีๆ มีสาระ ชอบฟังแต่เรื่องบันเทิง ไร้สาระ มอมเมาให้ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย นิยายหรือละครน้ำเน่า สังคมไทยจึงมีแต่เรื่องเน่าๆ มีแต่ปัญหารอบด้าน ทั้งปัญหาเยาวชน สำส่อนทางเพศ ติด ยาเสพติด ปัญหาความยากจน ปัญหาเสื่อมโทรมหลายๆ เรื่อง สื่อทางวิทยุ ทีวี ก็มีแต่เพลงมอมเมา บันเทิงไร้สาระ ตลก เกมโชว์ และโฆษณากว่า ๘๐ เปอร์เซ็นต์ รายการดีๆ มีสาระมีน้อยมาก และอยู่ได้ไม่นานเพราะขาดผู้อุปถัมภ์รายการ นี่คือ ทิศทางของสื่อที่นำสังคมไปสู่ทางเสื่อม เป็นปัญหาที่แก้ยากมานานแล้ว โชคดีที่ขณะนี้ทางกระทรวงเกษตรฯ นำโดย ท่านผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ คุณสุนัย เศรษฐบุญสร้าง ได้เห็น ความสำคัญของสื่อทางวิทยุกระจายเสียง ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ก็มีสถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการเกษตรอยู่แล้ว จึงได้นัด ประชุมปรึกษาหารือ กับผู้อำนวยการสถานีวิทยุ เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน และผู้ผลิตรายการหลายๆ ฝ่ายมาช่วยกันวางแผน ผลิตรายการวิทยุ ที่เป็นประโยชน์แก่พี่น้องเกษตรกร หรือผู้ฟังทางบ้านมากขึ้น การประชุมทุกครั้ง สมณะเสียงศีล ชาตวโร ก็ได้รับ นิมนต์ให้เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมกับท่านเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ ในฐานะที่จัดรายการวิทยุมานาน นับสิบปี ผลการประชุมตกลงให้ช่วยกันผลิตรายการวิทยุ โดยมีชื่อรายการว่า "รายการเศรษฐกิจพอเพียง" เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ เป็นต้นไป ในช่วงเวลา ตั้งแต่ ๑๖.๐๐-๑๙.๐๐ น. ทุกวันไม่มีวันหยุด โดยแบ่งงานกันทำดังนี้ สมณะเสียงศีล ชาตวโร รับผิดชอบรายการเศรษฐกิจพอเพียงช่วงวันจันทร์ อังคาร พุธ เวลา ๑๖.๐๐-๑๗.๐๐ น. สมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ รับผิดชอบรายการเศรษฐกิจพอเพียงช่วง วันพฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เวลา ๑๖.๐๐-๑๗.๓๐ น. นอกนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน จัดรายการต่อทุกวันจนถึงเวลา ๑๙.๐๐ น. โดยจัดรายการสด ตลอด ยกเว้นมีงานสำคัญจึงเปิดเท็ปหรือ CD แทน ปรากฏว่ารายการของเราเป็นไปได้ดีมาก มีโทรศัพท์โทรเข้ามาร่วมรายการ และ จดหมายแจ้งผล การรับฟังวันละหลายๆ ฉบับ ถือว่าได้ผลเกินคาด อยากให้ผู้อ่านติดตามรับฟังทางสถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการเกษตร AM (สเตริโอ) ๑๓๘๖ KHz ตามวันและเวลาดังกล่าว และอย่าลืม โทรศัพท์เข้าร่วมรายการ ในช่วงรายการสดด้วย โทร.๐-๓๔๓๐-๖๒๒๔ ทุกสายที่โทร.เข้า จะได้รับแจกเท็ป และ หนังสือ ขณะนี้รายการวิทยุทั้งหมดที่ สมณะเสียงศีล ชาตวโร จัดได้แก่ ๒. รายการเพื่อนช่วยเพื่อนทางสถานีวิทยุ ส.อต.บางนา AM ๑๒๘๗ KHz ทุกวันจันทร์-ศุกร์
เวลา ๑๔.๓๕-๑๔.๕๕ น. หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะติดตาม รับฟังรายการทางวิทยุดังกล่าว และเขียนจดหมายแจ้งผลการรับฟังไปที่ สมณะเสียงศีล ชาตวโร ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน ตู้ปณ.๖๗ ปทจ.นครปฐม ๗๓๐๐๐ บอกด้วยว่ารับฟังรายการสถานีไหน ช่วงเวลาอะไร และ มีปัญหาสงสัยอะไรก็ถามได้ จะมีหนังสือ และเท็ปดีๆ มอบให้ทุกคนที่เขียนไป - ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๒๒ พ.ย. - ธ.ค. ๒๕๔๘ - |