เวลาที่เราไม่สบายใจหรือไม่ชอบใคร เราจะรู้สึกว่าเกลียดเขามาก
แต่รู้ว่าการคิดเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ดี เราจะวางอย่างไรดีคะ - ทบทวนดูว่าเขาทำความผิดอะไร ทำไมไม่ชอบเขา ความผิดของเขาเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ง่ายๆ หรือเปล่า การเปลี่ยนจริตนิสัย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะคะ ดิฉันหัดพูดคุยเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ขึ้นมาได้บ้างก็ต้องใช้เวลากว่าสิบปี เรื่องง่ายๆ แค่นี้แต่ยากมาก สำหรับดิฉัน คนบางคนมีจริต ชอบเปรียบเทียบ เข้าทำนองแก่งแย่งแข่งขัน บางคนชอบบงการ เยอะแยะค่ะ จริตคน จาระไน ไม่หมด เรามีหน้าที่เรียนรู้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรก็พอค่ะ จะได้ปรับพฤติกรรมตนเองให้เหมาะสม เช่น ถ้าเขาเป็นคน เห็นแก่ตัวมาก เราก็ต้องพยายามเสียสละให้มาก ถ้าเขาไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น เราก็ต้องรับฟังคนอื่น ให้มากขึ้น รับรองอย่างนี้ คบกันยั่งยืนแน่นอน อย่าไปหวังให้คนอื่นเปลี่ยน เปลี่ยนตัวเราดีกว่าค่ะ
ทำอย่างไรดีกับสิ่งที่พูดมาทั้งหมด ทำไม่ค่อยได้
- ต้องหัดค่ะ สูตรสำเร็จของดิฉันคือหัดฝืนใจตัวเองวันละนิดวันละหน่อย เพราะดิฉันเป็นคนพลังจิตอ่อน ตั้งตบะทำอะไร ยากๆ ไม่ค่อยได้ ขนาดเรื่องที่ชอบ อยากจะทำ เช่น เขียนบันทึกทุกวัน ยังทำไม่ได้เลย แต่ไม่เป็นไร เรื่องที่เราชอบ ไม่ทำเสียบ้าง ก็ได้ ที่สำคัญคือสิ่งที่ไม่ชอบ เช่น การพูดคุยเรื่องทั่วไปโดยไม่มีจุดมุ่งหมาย (ดิฉันชอบคุยเป็นเรื่องเป็นราว แล้วพูดสั้นๆ ไม่ต้อง พรรณนามาก) พอเห็นคนรู้จักเดินมาแต่ไกล สัญชาตญาณของดิฉันคือหลบ ขี้เกียจทัก แต่ไม่หลบหรอก หัดทักทาย ผู้คนบ้าง นี่แหละ ที่ดิฉันหัดมาสิบกว่าปี
- มีอีกทฤษฎีหนึ่งคู่กับ "ทำดีได้ดี" คือ "ชั่วหนึ่งทีพาดีร้อยหนป่น" หมายความว่า ทำความชั่วครั้งเดียว ก็ลบล้างความดี ที่ทำมา ตั้งร้อยครั้งเสียหายไปด้วย ถ้าทำความชั่วมาร้อยครั้ง ต้องทำความดีเท่าไรถึงจะทดแทนได้ เราทุกคน ก็ไม่มีใครจำได้ว่า เคยทำ ความผิดบาปอะไรมาในชาติไหนบ้าง แถมชาตินี้ยังก่ออกุศลอีกไม่ใช่น้อย ก็ต้องรีบทำความดีให้มากๆ ล่ะค่ะ ความดี ถึงจะมีฤทธิ์ เหนือความชั่วได้ พระท่านสอนว่า ทำดีไม่ได้ดีเพราะทำดียังไม่มากพอ
- สติปัฏฐาน ๔ มี กายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา และธัมมานุปัสสนา ท่านสอนให้พิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม ตามความเป็นจริง อย่าไปยึดเป็นตัวตนบุคคลเราเขา ในมหาจัตตารีสกสูตร พระไตรปิฎกเล่ม ๑๔ ข้อ ๒๕๒-๒๗๙ อธิบายว่า สัมมาสติคือสติ ละมิจฉาสังกัปปะ ละมิจฉาวาจา ละมิจฉากัมมันตะ และละมิจฉาอาชีวะได้ อย่าไปสนใจภาษา ก็ได้ค่ะ แค่คอยติดตามกาย วาจา ใจตัวเองว่าเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นหรือไม่ ถ้าเบียดเบียนก็ละเสียให้ได้ คุณรู้ว่าตัวเอง โกรธ และพยายามละความโกรธอยู่ ก็เป็นสัมมาสติ
ทำใจให้เย็น ทำยังไง แม่สามีชอบพูดแบบมีนัย แบบไม่พอใจเรา
ทำยังไงถึงจะอยู่เฉยโดยไม่โกรธ ตอนนี้ดิฉันพยายามอยู่ แต่ยากจัง - ท่านไม่พอใจเรื่องอะไรล่ะคะ เราแก้ไขได้ไหม ถ้าค้นไม่พบว่าท่านไม่พอใจเรื่องอะไร เพราะทำอะไรก็ไม่ถูกใจสักที ลองใช้สูตร ที่ดิฉันค้นพบดูก็ได้ค่ะ ผู้ใหญ่ไทยชอบให้คนเอาใจแล้วก็เชื่อฟัง ให้ความสำคัญ ทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตน ก่อนออกไปทำงาน และกลับจากงานก็สวัสดี ถ้าไปธุระข้างนอกก็บอก จะไปเที่ยวก็ชวนท่านไปด้วย หรือให้ท่านช่วยคิด ว่าจะไปเที่ยวไหนกันดี ไปไหนกลับมาก็ซื้อของมาฝาก แล้วก็หาข้อดีของท่านมาพูดชมแต่พอควรนะคะ อย่าให้มากเกินไป พยายามให้ท่าน มีบทบาท ร่วมกับเรา ดิฉันค้นพบสูตรนี้โดยบังเอิญ ดิฉันเป็นคนที่รักครูบาอาจารย์มาก ดิฉันก็ทำทุกอย่าง ที่แนะนำคุณนั่นแหละ ยกเว้น ให้ท่านมีบทบาทร่วมแล้วก็ถามความเห็น พออาจารย์สั่งงาน ดิฉันก็ทำตามความคิดของตัวเอง ทุกอย่าง โชคดีเจอแต่อาจารย์ ที่ส่งเสริมให้ลูกศิษย์คิดเอง ก็เลยเป็นที่รักของครูบาอาจารย์ตลอดมา พอเรียนจบมาทำงาน ดิฉันไม่ได้รักเจ้านาย เหมือนรัก อาจารย์ จึงไม่ได้ทำอย่างนั้นอีก ผลคือเจ้านายไม่ค่อยชอบ คนที่เจ้านายชอบ ก็ทำอย่างนั้นแหละ คุณเป็นลูกสะใภ้ ไม่มีสิทธิ์ ไม่ชอบแม่ของสามี เพราะฉะนั้นควรทำตัวให้ท่านรัก ถึงยากก็ต้องทำ เพื่อความสงบสุข ของครอบครัว ลูกของคุณก็จะเรียนรู้ และเคารพคุณปู่คุณย่าด้วย
จะมีวิธีใดแก้ไขคนใจร้อน โมโหง่าย - ดิฉันก็ไม่ค่อยได้อยู่กับคนขี้โกรธเสียด้วยซิคะ ไม่ค่อยคบคนมีกิเลสมากๆ ค่ะ เพราะไม่รู้จะทำตัวอย่างไร สำหรับญาติพี่น้อง ดิฉันจะพูด ตรงไปตรงมาว่าดิฉันไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ใคร ทำให้เขารู้ว่า การแสดงความโกรธ โดยไม่ยับยั้งชั่งใจนั้น เป็นการ เบียดเบียนคนอื่น แต่ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้น ว่าจะให้คนอื่นเปลี่ยนจริตนิสัยน่ะ เป็นเรื่องยาก ถ้าจำเป็นต้องคบหา คนขี้โกรธ เวลาเขาโกรธ เราก็หยุดพฤติกรรมทุกอย่าง ไม่พูด ไม่แสดงอาการใดๆ เลย ทำเหมือนกับว่าไม่มีเขาอยู่ หรือไม่ก็เดินหนี แยกไป โดยจิตใจเรา ปรกตินะคะ ไม่ได้โกรธ ไม่ได้สงสาร เห็นใจ ไม่มีอารมณ์อะไร เข้าใจธรรมชาติของเขา พอเขาหายโกรธ ค่อยมา พูดกันใหม่
อยากให้จิตใจสงบ ระงับอารมณ์โมโหของตนเอง ควรจะปฏิบัติหรือคิดอย่างไรเพื่อให้ตนเองมีความสุขสงบได้ - คิดถึงโทษของความโกรธสิคะ เวลาโกรธหน้าตาก็ดูไม่ได้ คำพูดที่ออกจากปากก็ฟังไม่ได้ กิริยาอาการก็คุมไม่ค่อยจะได้ โกรธ มากๆ อาจทำให้ตัวสั่น ทำร้ายสุขภาพตัวเอง หรืออาจทำร้ายคนอื่น หัดเจริญเมตตา ให้อภัย เข้าใจและยอมรับผู้อื่น ช่วยเหลือ ผู้อื่น เท่าที่จะทำได้ คนเราก็เคยทำผิดกันมาทั้งนั้น ไม่เห็นโกรธตัวเองเลย ทบทวนตัวเองให้มากๆ เถอะค่ะ ลองกระหนาบ ตัวเอง ทำผิดเมื่อไร ต้องลงโทษตัวเอง รับรองทีนี้ไม่มีเวลาโกรธคนอื่นแน่
- ทำงานมากๆ ค่ะ พระท่านสอนว่าคนจิตว่างไม่มีเวลาว่าง คนที่ว่างมาก จิตใจจะไม่ว่าง
อยากทราบแนวทางในการทำสมาธิอย่างง่ายๆ ค่ะ - พระไตรปิฎกบอกว่า สัมมาสมาธิเกิดจากการคิด การพูด การกระทำ และการประกอบอาชีพที่สัมมา คิดดีคือไม่คิดเรื่องกาม พยาบาท และความเบียดเบียน พูดดีคือไม่พูดโกหก ส่อเสียด หยาบคาย เหลวไหล ทำดีคือไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติ ผิดในกาม ประกอบอาชีพดีคือไม่โกง ล่อลวง ตลบตะแลง มอบตนในทางผิด และเอาลาภแลกลาภ สรุปง่ายๆ ก็คือ รักษาศีลนั่นเอง ดิฉันรับประกันว่ารักษาศีลได้ดีจะมีสมาธิแน่นอน
- รักษาศีลค่ะ ต้องทำให้ได้จริงๆ
๑. คนส่วนใหญ่ มักทำทุกอย่างได้เพื่อผลประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง
แต่ถ้าเราไม่เป็นไปตามกระแสกับเขา เราจะไม่เป็นกาขาวในฝูงกาดำหรือ? - ๑. ต้องเป็นแน่นอน แล้วไม่ดีตรงไหน
จิตมันไม่ยินดีในการตัดกิเลส - อย่าใช้เวลานานนักนะคะ เดี๋ยวหลักจะมั่นคง จนถอนตัวไม่ได้
๑. มีอายุมากแล้ว ควรจะปฏิบัติธรรมอย่างไร ทุกวันนี้จะสวดมนต์ก่อนนอน
นั่งสมาธิ กลางวันอยู่บ้านก็จะทำงานเล็กๆน้อยๆ ตามกำลังของตน - ๑. ตามดูอารมณ์ด้วยค่ะ ดูว่ายังมีความโลภ โกรธ หลงหรือไม่ แล้วควบคุมอารมณ์ให้ได้
การอ่านหนังสือเป็นเวลานานทำให้รู้สึกง่วงเป็นประจำ
มีวิธีที่จะไม่ให้ง่วงได้หรือเปล่าครับ - เอาใจใส่เรื่องที่อ่านให้มากค่ะ อ่านแล้วคิดตามไปด้วย เขียนไปด้วย ตั้งคำถามแย้งเรื่องที่กำลังอ่าน ถ้ายังง่วงก็ขยับตัว ทำกายบริหาร ท่าต่างๆ ไปด้วย ลุกขึ้นเดินอ่าน อ่านออกเสียง ล้างหน้า แล้วก็หยุดอ่าน เปลี่ยนไปทำงานอื่น เช่น รดน้ำต้นไม้ กวาดบ้าน ซักผ้า ฯลฯ แล้วค่อยกลับมาอ่านใหม่
เป็นคนมีปัญหาเยอะ แต่ยังไม่เจอใครตอบปัญหาได้หมด
ก็ยังคงศึกษาค้นคว้าอ่านหนังสือต่อไป โลกนี้ "อจินไตย" จริงชอบ
คำนี้มาก เพราะพุทธศาสนายอมรับความจริงเช่นเดียวกับวิทยาศาสตร์ สิ่งที่มนุษย์ไม่รู้มีอีกมากในจักรวาล
อันกว้างใหญ่ ไพศาล ปัญหาของการปฏิบัติธรรมคือควบ-คุมกิเลสไม่ค่อยได้ ปล่อยๆ
มากไป ศีลไม่สะอาด ศีลไม่บริสุทธิ์ สมาธิเลยไม่ดี ปัญญา ก็ยังไม่ดี ยังตั้งใจสู้ต่อไปตราบชีวิตจะตาย - ถูกต้องที่สุดค่ะ
ทำอย่างไรจะอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ในอาชีพเกษตรกรโดยไม่พึ่งพารายได้จากทางอื่นเสริม - พัฒนางานอาชีพให้มีผลเพียงพอเลี้ยงชีวิต ปลูกทุกอย่างที่กิน อยากกินอะไร ปลูกเอง ทั้งข้าว ผัก ผลไม้ สมุนไพรใช้เป็นยา ถ้าเหลือ จึงค่อยขาย คุณลองศึกษาวิธีทำกสิกรรมธรรมชาติดูสิคะ จะลดรายจ่ายในการทำกสิกรรมได้ แล้วคุณและครอบครัว ก็ต้องลดค่าใช้จ่ายลงด้วย เลิกเล่นการพนัน เที่ยวดูการละเล่น เที่ยวกลางคืน ดื่มน้ำเมา คบคนชั่ว และเกียจคร้าน เหล่านี้ คือ อบายมุข นำชีวิตไปสู่ความเสื่อม มีคนประสบความสำเร็จด้วยวิธีนี้มากมาย แล้วเขาก็ภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ในอาชีพ สร้างอาหาร เลี้ยงโลก
เคยปฏิบัติที่จะลดอาหารมื้อเย็น ทำให้เป็นโรคกระเพาะ
ปวดท้อง เป็นอยู่หลายเดือนกว่าจะหาย ผมจะทำอย่างไร จึงจะปฏิบัติ ได้ครับ!
ช่วยแนะนำด้วย - ลดอาหารมื้อเย็น แปลว่าไม่กินมื้อเย็นเลยหรือเปล่าคะ ถ้างดเลยไม่ได้ ก็ค่อยๆ ลดปริมาณลง แล้วก็เปลี่ยนเป็นอาหารเหลว เช่น น้ำเต้าหู้ น้ำข้าวโพด น้ำลูกเดือย บางทีอาการปวดท้องก็ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการอดอาหารเท่านั้นนะคะ อาจเป็นเพราะ ความเครียด อดนอน โกรธ ตอนที่คุณอดอาหารเย็น คุณวิตกกังวลหรือเปล่า เช่น กลัวว่าจะหิว กลัวจะขาดอาหาร ความวิตก กังวลนี้ อาจจะเป็นต้นเหตุก็ได้ ทุกวันนี้ดิฉันกินอาหารมื้อเย็นอยู่ แต่ก็ยังปวดท้องเวลาอดนอน แล้วก็หมกมุ่นกับงาน มากเกินไป นอนให้พอก็หาย ที่จริงควรจะออกกำลังกาย แต่จัดสรรเวลาไม่ได้ เราจะอดอาหารมื้อเย็นได้ ถ้าลดความโลภ ความโกรธ ความติดยึดลงได้อีก พยายาม ต่อไปแล้วกันนะคะ
- ๑. ดิฉันตอบตามที่รู้แล้วกันนะคะ แต่ยังทำไม่สำเร็จ คือต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้เพียงพอ ไม่กินอาหารรสจัด สมณะ ท่านแนะนำว่าจะกินกี่มื้อก็ได้ แต่กินข้าวเปล่า หรือเพิ่มได้แต่ถั่วงาผักสดผักลวกเท่านั้นนะคะ ท่านว่า ถ้าไม่กิน ของอร่อย ก็จะไม่อยากกินเองนั่นแหละ ๒. ที่จังหวัดตรังมีสังฆสถานทักษิณ อโศก โทรศัพท์ไปถามทางและเวลาที่เหมาะสมได้ที่หมายเลข ๐-๗๕๒๒-๖๑๙๖
- ไม่ทราบว่าคุณเป็นโรคอะไร ถ้ามีอันตรายถึงชีวิตก็ไม่แนะนำให้หยุดยา แต่ถ้าเป็นโรคที่ต้องรักษานาน ลืมกินยาสักมื้อ สองมื้อ ก็ไม่เป็นไร อาจจะลองไม่กินยาได้ หยุดยาแล้วก็ต้องเข้มแข็งพอที่จะ ดูแลตัวเองอย่างจริงจังตามวิธีใหม่ที่เลือก เรื่องอย่างนี้ อยู่ที่ใจ ถ้ากลัวหรือจิตใจยังไม่พร้อมก็อย่าทำ เพราะจะเกิดความวิตกกังวล ทำให้ป่วยหนักขึ้นไปอีกได้ ดิฉันมีเพื่อน บางคน ที่กล้าหยุดยา หายป่วยแล้วก็มี บางคนก็ยังต้องรักษาตัวเองอยู่
๑. ทานที่ให้แล้วมีผล หมายความว่าอย่างไร - ๑. การให้มีผลคือผู้ให้ได้ละความตระหนี่ ได้เสียสละ ผู้รับได้วัตถุสิ่งของที่เขาให้และได้เรียนรู้การให้ เกิดความซาบซึ้งใจ ในเมตตาจิต ของผู้ให้ ๒. การบูชายัญในศาสนาพุทธคือการทำพิธีที่สนับสนุนการปฏิบัติธรรม เช่น การประกาศตนเป็นพุทธมามกะ การอุปสมบท การปวารณา ที่จริงก็ไม่มีพิธีอะไรมาก เพียงแต่บอกกล่าวกันอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง ไม่ต้องจุดธูปเทียนบูชาเซ่นไหว้ แต่อย่างไร พิธีกรรมมีผลทำให้ผู้ประกอบพิธีกรรมตระหนักถึง ความสำคัญในเรื่องนั้นๆ เช่น การทำพิธีอุปสมบท เป็นสิ่ง เตือนใจ ผู้เข้าพิธีอุปสมบท ว่าตนเอง มีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว จะต้องระมัดระวัง พฤติกรรมของตน เป็นโอกาส ที่รับฟัง คำแนะนำ ของพระอุปัชฌาย์ว่า จะต้องปฏิบัติตนอย่างไร และเป็นการประกาศให้ผู้อื่นรู้ว่า ตนอุปสมบทแล้ว เหมือนเป็น พยาน ๓. สังเวยที่บวงสรวง คือการตอบแทนผู้ใหญ่ ผู้มีพระคุณ เราก็ต้องดูแลอุปัฏฐากจัดหาสิ่งที่สมควรให้ท่าน การสังเวยทำให้ กฎแห่งกรรม ปรากฏผลเร็วขึ้น ผู้ใหญ่ ผู้มีพระคุณได้รับการดูแลเอาใจใส่จากผู้น้อยหรือคนที่ตนช่วยเหลือ ก็จะอิ่มใจ มีกำลังใจ ที่จะทำความดีต่อไป สังคมก็จะเต็มไปด้วยคนดี
๑. พ่อแม่ ใครมีพระคุณมากกว่ากัน เพราะอะไร - ๑. ใครทำหน้าที่ได้ดีกว่า คนนั้นก็มีพระคุณมากกว่า หน้าที่ไม่ใช่แค่ทำให้เกิด แต่ต้องเลี้ยงดูให้อาหาร ทั้งอาหารกาย อาหารใจ อบรมบ่มนิสัย ปกป้องคุ้มครองและสนับสนุนในทางที่สมควร ๒. ให้เขาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ แต่ไม่บังคับ ต้องใช้ศิลปะที่จะโน้มน้าวชักจูงใจ ที่สำคัญต้องปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างด้วย และทำโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนว่าเขาจะต้องเป็นอย่างที่เราคิดและปลูกฝัง เช่น จะสอนให้เขารับฟังความเห็นของคนอื่น เราก็ต้อง ฟังความเห็นของคนอื่นด้วย มีโอกาสเหมาะๆ ก็บอกเล่าให้เห็นประโยชน์การรับฟังความเห็นของผู้อื่น เวลาที่เขา จะเอา แต่ใจตัวเอง เราก็เตือนทุกครั้งไป เราอาจจะเห็นว่าคำสอนของเราเปลี่ยนเขาไม่ได้เลย แต่มันซึมซับเข้าไป ในจิตใจ เขาแล้ว ในอนาคตคำสอนของเราจะมีประโยชน์สำหรับเขา
ดิฉันไปช่วยงานศพน้องสามี มาวัดธรรมยุต มีพระมีชีอยู่ในวัดเดียวกัน
ดิฉันกับสามี ความเห็นเดียวกัน แตกต่างกับคน หมู่กลุ่มนั้น ดิฉันทำอาหารมังสวิรัติ
น้ำเต้าหู้ไปกินกัน ๒ คน คนในงานเขาแทบไม่ร่วมวง เขากินเนื้อสัตว์กัน ดิฉันรินน้ำ
ให้แม่ชี แม่ชีบอก ต้องประเคนแบบพระ สมควรหรือไม่ เวลาพระสวด แม่ชีก็สวดไปกับพระ
ดิฉันว่าไม่สมควร แม่ชี ปรนนิบัติพระ บนกุฏิเดียวกัน สองต่อสอง พระกับชีรุ่นเดียวกัน
ผิดวินัย ดูพระหมองมัวมากระยะนี้ ดิฉันพูดว่า ทำบุญให้กัน ไม่ถึง เขาก็เถียงว่าถึง
ดิฉันไม่รู้จะชี้แจงอย่างไร ก็เลยตามเลย กรรมใครของคนนั้น - คุณก็ทำเท่าที่ทำได้แล้วกัน มีโอกาสบอกสัจจะก็บอก แต่ไม่ต้องถึงกับโต้เถียงหรือพยายามจะให้เขาเชื่อ การเปลี่ยนความเชื่อ เดิมๆ ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ "เคร่งครัดที่ตน ผ่อนปรนผู้อื่น"
๑. อยากทราบชื่อสวรรค์ชั้นต่างๆ ชื่อผู้ดูแลสวรรค์ชั้นนั้น
ควรปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะถึงสวรรค์ชั้นต่างๆ ๑. รูปปั้นพระพุทธองค์ที่เป็นจุดๆ และยอดแหลม มีความหมายว่าอย่างไร
(บนเศียร) - ขออภัยด้วยนะคะที่ไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ เพราะคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติธรรมตามหลักพุทธศาสนา วิธีขึ้นสวรรค์ ก็คือรักษาศีล วิธีตกนรกคือละเมิดศีลเหมือนคนทุกวันนี้แหละค่ะ โลกลุกเป็นไฟเพราะคนละเมิดศีลกัน กลายเป็นว่า การรักษาศีลเป็นเรื่องผิดปรกติ ส่วนการนั่งสมาธิกับการเดินจงกรม อาจจะมีผลต่างกันเล็กน้อย โดยนัยละเอียด แต่โดยทั่วไปแล้ว ไม่ต่างกัน คือทำให้จิตสงบได้
คิดว่าโลกปัจจุบันนี้เสื่อมโทรมลงมากมีปัญหามาจากผู้คนที่เสื่อมศีลธรรม
บางครั้งรู้สึกท้อถอยกับการทำดี ยิ่งเสียสละออกไป ก็เหมือน ยิ่งพบคนเห็นแก่ตัวเพิ่มมากขึ้น
จะทำอย่างไร ที่จะให้ผู้คนที่ยังหลงผิดอยู่กลับมาเสียสละให้ส่วนรวม มากกว่านี้ - อย่าคิดทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก แต่ทำเพื่อลดกิเลสตัวเอง เปลี่ยนแปลง ตัวเอง
๑. ทำอย่างไรให้คนในชุมชนตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย - ทั้งสองคำถามนี้ตอบได้สั้นๆ ว่าทุกคนต้องรักษาศีล ซึ่งดูท่าว่าจะยากมาก แต่ถ้าเราทำได้ ครอบครัวจะมีความสุขขึ้นมาก และ ครอบครัวของเรา ก็จะมีส่วนเหลือทั้งพลังปัญญา แรงกายและวัตถุเงินทองไปช่วยพัฒนาชุมชน
ปัญหาชาวพุทธ ไม่ถือปฏิบัติบูชา ไปเน้นเพียงอามิสบูชา
โดยเฉพาะนิยมการปฏิบัติธรรมแบบนั่งหลับตา สวดมนต์ รับศีล แต่ไม่ถือศีล นิยมนั่งหลับตานานเท่าไรถือว่าดี
เรื่องสวดก็จะมีคาถากันอุปัทวันตรายต่างๆ เช่น คาถาชินบัญชร คาถานี้ มีการโปรโมท
กันอย่างแพร่หลาย ชาวพุทธตามชนบทยังถือทิฏฐิดั้งเดิมอยู่มาก เช่น ต้องถวายหมากพลูบุหรี่แด่พระสงฆ์
ทำอย่างไร จึงจะแก้ทิฏฐิเหล่านี้ได้ โดยบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น อีกประการหนึ่ง
ชาวพุทธตามชนบท มักจะเห็นการก่อสร้าง เป็นงาน สำคัญกว่างานศาสนธรรมมาก! - ถ้ามองปัญหาสังคม ก็มีเรื่องมากมายให้ต้องแก้ไขจนไม่รู้จะเริ่มที่จุดไหน ดิฉันขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านตั้งใจ เปลี่ยนแปลง ตัวเองดีกว่านะคะ เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ใครทำอะไรได้ เขียนมาบอกวิธีการแลกเปลี่ยนกับผู้อ่านท่านอื่นดีกว่า พวกเราทำกันได้ หลายๆ คน จะเกิดพลัง ไปแก้ไขสังคมได้แน่นอน
ภัยธรรมชาติที่โถมกระหน่ำลงมาบนโลกใบนี้ จะเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมโดยรวมที่เลวร้ายของคนในพื้นที่นั้นหรือไม่
เช่น แผ่นดินไหว อุทกภัย วาตภัย ภูเขาไฟระเบิด (ผมเกิดใกล้บริเวณแผ่นดินที่เขาเคยบอกว่า
เป็นปล่องภูเขาไฟกระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์) - บางทีก็ไม่ใช่เพราะคนในพื้นที่เท่านั้น เคยได้ยินเขาว่าเด็ดดอกหญ้าสะเทือนถึงดวงดาวไหมคะ ประเทศที่เขาใช้ทรัพยากร มากๆ แล้วต้องมาเบียดเบียนแย่งทรัพยากรประเทศอื่น ทำให้เดือดร้อนกันทั่วไปหมด เห็นไหมคะ สภาพธรรมชาติก็เปลี่ยน แปรไป ทุกคนในโลก ก็ต้องรับผล เหมือนคนใดคนหนึ่งในครอบครัวติดการพนัน ครอบครัวก็แตกสลายได้
อยากถามว่าหนังสือโครงการหิ่งห้อย ทำไมไม่พิมพ์ในหนังสือดอกหญ้าครับ
เอาบางตอนนิดๆ หน่อยๆ เป็นการโฆษณา ไปในตัว เผื่อว่าคนนั้นรู้คนนี้รู้ว่าน่าอ่าน
เขาจะสั่งหนังสือไปอ่านครับ ให้เขียนว่าตอนหนึ่งในหิ่งห้อยเท่านั้น รู้อ่านก็เข้าใจแล้ว - จะลองปรึกษากันดูนะคะ
๑. เมื่อไหร่จะเก็บเงินค่าหนังสือบ้างครับ จะเป็นรายปี
หรือราย ๒ ปีก็ได้ - ๑. ถ้าเราเก็บเงินเมื่อไร แสดงว่าสิ้นหวังที่จะกอบกู้ศีลธรรมกลับมาสู่โลกแล้วล่ะค่ะ
เพราะไม่มีคนเสียสละอีกแล้ว
๑. ยากจนเข้าร่วมการปฏิบัติตัว เป็นระยะๆ ในเรื่องของธรรมะ
ไม่ทราบว่าจะจัดอบรมได้ไหมคะ - ๑. ลองไปที่ชุมชนดินหนองแดนเหนือ จังหวัดอุดรธานีนะคะ ติดต่อที่โทรศัพท์
๐-๖๘๕๑-๓๓๓๕
ตามที่สมาคมได้จัดส่งหนังสือดอกหญ้าและสารอโศกให้สมาชิกในหมู่บ้านเดียวกันนี้
บางคนก็ไม่อยู่ บางคนก็ไม่สนใจ แต่ทางสมาคม ก็ยังส่งเป็นประจำ เพราะคงไม่รู้ข้อมูล
ถ้าผมจะส่งข้อมูลให้ทราบ ทางสมาคมจะคิดอย่างไร - ดีค่ะ เราจะได้เก็บหนังสือไว้ให้คนที่สนใจ
ถ้าดิฉันอยากให้ลูกดิฉันเข้าไปอยู่ในสังคมอโศก ดิฉันควรแนะนำลูกอย่างไร
และเขาต้องอายุเท่าไหร่ค่ะ ต้องจบชั้นไหนคะ ต้องมี คุณสมบัติอย่างไรบ้าง
ตอนนี้ลูกชายคนโตอายุ ๖ ขวบ ลูกผู้หญิงคนเล็กอายุ ๒ ขวบ ๙ เดือน ลูกชายเขาไม่ค่อยฟัง
คำบอกของพ่อแม่ ถ้าไม่ถือไม่รู้หรือใช้อารมณ์ในเชิงบังคับ เขาจะไม่ทำเลยค่ะ
จะทำอย่างไรดีคะ ดิฉันอยากให้สมาคม ช่วยส่ง สารอโศกมาให้อ่านด้วยจะได้ไหมคะ ตอนนี้ดิฉันยังไม่มีหมายเลขสมาชิก ที่ได้หนังสือมาก็เพราะเพื่อนแนะนำให้
ไม่ทราบว่าดิฉันควรทำอย่างไรคะ การที่เราพูด โกหก และทำให้ผู้อื่นมีความสุข
จะเป็นบาปใหมคะ เพราะบางคนยอมรับความจริงไม่ได้ ขอบคุณค่ะ - ช่วยบอกชื่อ ที่อยู่โดยละเอียดและแจ้งความจำนงไปอีกทีนะคะ
อยากทราบละเอียดของการสมัครเป็นสมาชิกใหม่ และจะสมัครเป็นสมาชิกได้เลยหรือไม่คะ? บอกชื่อ ที่อยู่โดยละเอียดและแจ้งความจำนงขอเป็นสมาชิก ไปที่สมาคม ผู้ปฏิบัติธรรม ๖๗/๓๐ ถ.นวมินทร์ บึงกุ่ม กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐ และทุกครั้งที่ได้รับหนังสือ กรุณาตอบรับหนังสือและบอกเล่าการปฏิบัติของตนเองด้วยนะคะ เราอยากรู้ว่า คุณได้ ประโยชน์อะไรบ้าง จากการอ่านหนังสือ
- อาจจะผิดพลาดในการส่ง ถ้ายังไม่ได้รับอีก ช่วยแจ้งไปอีกครั้งนะคะ ไม่ทราบว่าทำไม่เห็นมีหมายเลขสมาชิกเลยคะ ตั้งแต่รับหนังสือครั้งแรกก็
ไม่มีเพราะเหตุใดคะ เดือนหนึ่งส่งให้อ่านกี่ฉบับคะ เล่มที่ ๑๒-๑๓ ก็ไม่ได้รับเลยค่ะ
อยากอ่านมากๆ - ดอกหญ้าออกราย ๒ เดือนค่ะ ปีละ ๖ ฉบับ บางฉบับที่ไม่ได้รับ อาจผิดพลาดในการส่งบ้าง ต้องขออภัยด้วย ทุกฉบับ จะแจกหมด ไม่มีหนังสือเหลือส่งชดเชยให้ค่ะ
- ได้รับหนังสือหรือยังคะ อยากให้หนังสือลงรูปถ่ายของคุณอิสราครับ เพราะอ่านบทความหรือข้อความใดๆ
ท่านเขียนแบบอ่านแล้วสะดุดตา คำพูดคม แบบนักเขียนครับ - เห็นหน้าแล้วอาจจะอ่านกลอนไม่เพราะเหมือนเดิมนะ
- เผยแพร่ได้ แต่กรุณารักษาเนื้อความในต้นฉบับด้วยนะคะ ประวัติคุณอิสรา รออีกหน่อยนะคะ
- ถ้าคุณบุญสงค์จะทำเอง ก็ทำได้เลยค่ะ แต่เวลาเผยแพร่ ช่วยอ้างด้วย นะคะว่าคัดลอกมาจากไหน และหนังสือบางเล่ม เขาสงวนลิขสิทธิ์ ต้องระวังด้วย
- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๒๒ พ.ย. - ธ.ค. ๒๕๔๘ - |