เป็นเรื่องน่าคิดอย่างมากทีเดียว เมื่อได้เห็นการลงทุนของบรรษัทข้ามชาติเกี่ยวกับธุรกิจค้าขาย ดังจะเห็นจาก ย่านชุมชน เมืองใหญ่ๆ หลากหลายห้าง ใหญ่โตโอ่โถง และกว้างขวางไปด้วย ลานจอดรถ และเมื่อถึงเทศกาล ก็มักลดราคาแข่งกันน่าดู แม้แต่ร้านเล็กร้านน้อย ก็สามารถเปิดได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อบริการคนทำงานดึก ไม่เฉพาะในกรุงเทพฯเท่านั้น ต่างจังหวัด เมืองใหญ่ๆ ก็มีเหมือนกันหมด น่าสงสาร ร้านโชวห่วย หรือร้านขายของชำเล็กๆบ้านเรา ว่าจะมีปัญญา ปรับยุทธวิธีทางการค้า สู้เขาไหวหรือ สื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ เทียบกันไม่ติดฝุ่นเลยทีเดียว อาเจ๊ก อาโก นั่งเหงาคอยลูกค้า ที่นานที จึงจะเข้าร้าน ถ้าไม่ใช่ลูกค้าประจำ คบค้ากันนานปี ไม่ต้องพูดถึง เด็กรุ่นหลัง ร้านโชว์ห่วย ที่แขวนสินค้าโตงเตงๆนั้น ไม่มีใครเดินเข้าหรอก ไม่ทันยุคทันสมัย คนจีนที่มาทำการค้าขายกับประเทศไทยมาช้านาน ดูแล้วขายของกันมา ก็ไม่ได้เห็นจะมี ร่ำรวยกันมากมาย หลักร้อยล้าน พันล้านมีบ้างเหมือนกัน แต่มาเจอเพื่อนบ้านที่เรียกว่า ประเทศพัฒนาแล้วทางยุโรป ค้าขาย ก็ไม่ใช่ ค้าขายกันธรรมดา เอาเงินมาขายกันก็ได้ อย่างหุ้นนี้ ปั่นกันน่าดูชม แล้วมีผลโยงใยไปทั่วทุกกิจการ ยอดเงิน ความร่ำรวย เป็นหลักหมื่นล้าน แสนล้าน หรือล้านล้าน มาค้าขายกับเรา ไม่นานเท่าคนจีน ต้องยกให้เลย ในความเก่งฉลาด เลื่อมใสจริงๆ มีการทำธุรกิจ ธุรกรรมใหญ่โตมโหฬาร สินค้าบางอย่าง ของเล็กๆ มีแค่ ๒ บริษัท เท่านั้นเอง ที่ผลิตและครอบคลุมทุกขั้นตอนและทั่วโลกด้วย ถ้าจะกล่าวถึง วิธีการที่เจาะลึกไปมากกว่านี้ ก็คงจะอีก มากมายทีเดียว สิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้มากกว่าคือ สำนึกของความเป็นชาตินิยม อย่างที่รัฐบาลรณรงค์ให้ กิน ของไทย ใช้ของไทย ร่วมใจประหยัด มิตรบางคนบอกว่า ปั๊มน้ำมันแห่งไหน ถ้าไม่ใช่ของคนไทย อย่าไปใช้บริการ ต้องใช้ที่คนไทยที่ถือหุ้นเท่านั้น มิฉะนั้น จะถือว่า คนนั้นไม่รักชาติ เอาถึงขนาดนั้น ถ้าทำได้จริง ย่อมดีแน่นอน จะว่าไปส่วนตัวเอง สำนึกของความเป็นไทย ก็เกิดขึ้นบ้างเหมือนกัน แทนที่จะซื้อกาแฟเย็น ในห้องแอร์เย็นๆ และหลากหลายยี่ห้อ ก็ซื้อของอาโก สูตรโบราณ ที่เป็นรถเข็น ตั้งขายหน้ามินิมาร์ทนั่นแหละ เดี๋ยวนี้การแสดงออก ซึ่งความรักชาติ ไม่จำเป็นต้องสมัครเป็นทหาร หรือทำอะไร ที่บุกๆลุยๆ กันแล้ว แค่อยากจะซื้อ อยากจะกินอะไร คิดสักนิดว่า จะสนับสนุนใคร ของต่างชาติ หรือของไทยเรา แม้จะดูเหมือนเล็กน้อย ก็ยังดีกว่าไม่คิดเลย เอาความสะดวกเข้าว่า ขอให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย ถือว่าใช้ได้ มันก็ใช่อยู่ แต่สักอีก ๑๐-๒๐ ปี ลูกหลานไทย เป็นหนี้เศรษฐกิจ เป็นทาสทางวัฒนธรรมฯลฯ เขาไปจนตาย ลูกหลานจะก่นด่า บรรพบุรุษอย่างเราๆ ว่าโง่ให้เขาหลอก อยู่ได้อย่างไร หรือ บางทีรู้ว่าเขาหลอก แต่ก็เต็มใจให้หลอก ทำไงได้ มันสะดวกและรวดเร็วดี แถมโก้อีกต่างหาก ระยะหลังๆชุมชนต่างๆ พยายามที่จะรวมตัวกันผลิตสินค้าออกมาจำหน่าย บางแห่งนำภูมิปัญญาท้องถิ่นเดิม มาสืบสานต่อ ทั้งของกินของใช้ ที่จำเป็นมากมาย นับว่าเป็นเรื่องที่ดี มีผู้ผลิต ก็ควรจะมีผู้บริโภค ถ้าพี่น้องเราผลิตขึ้นมาแล้ว ไม่ช่วยกันสนับสนุน ต้องใช้ของอิมพอร์ต เท่านั้นก็แย่ ของที่ผลิตในบ้านเรา จะซื้อที ติแล้วติอีก เลือกเสียเวลานานสองนาน ต่อราคากัน ชนิดไม่สงสารกันเลย สินค้าบางอย่าง เช่น หมวกสานปีกกว้าง ราคา ๒๐-๓๐ ใช่ว่าจะสานกันได้ง่ายๆ กลับกัน สินค้าอุตสาหกรรมบางอย่าง ความจำเป็นก็ไม่มากเท่าไหร่ ราคาแพง มากทีเดียว ขั้นตอนการผลิต ก็ใช้เครื่องจักร หรือสินค้า เสริมความงาม จากต่างประเทศ ซื้อกันแทบไม่ต้องถามราคา ก็เป็นสิทธิ์ ของคนนั้นแหละ แต่อย่างว่า เดี๋ยวนี้ซื้ออะไรที คิดมากหน่อย เงินจะเข้าประเทศ หรือจะออกนอกประเทศ เพราะต่อไป ในอนาคตอันใกล้นี้ จะเหลือสักอีกกี่กิจการ ที่จะเป็นของคนไทย เมื่อถึงวันนั้น โลงศพมาถึง เพิ่งสำนึก ก็สายเกินไปเสียแล้ว บรรยากาศความเป็นตลาดชุมชน ก็เป็นอันหนึ่งที่น่าสนใจ เช้าขึ้นใครมีผัก มีสินค้าจำเป็นอื่นๆ ก็นำมาวาง ค้าขายกันหลากหลาย แต่ทั้งหมด ล้วนแต่จำเป็นกับชีวิต จังหวัดทางภาคอีสาน ตลาดไม่ใหญ่ไม่โต มีผัก มีของกินมากมาย วางแบกับดินกัน ดูน่าสนุก ขายผักกำละ ๑-๒ บาท และกำใหญ่เสียด้วย แทบทุกอย่าง ชาวบ้านทำกันเอง เครื่องจักสาน ของกินต่างๆ บางแห่ง ก็นัดกันเป็นตลาดนัด ถ้ามีตลาดนัดทุกวัน ก็หาของขายยาก เพราะอย่างไรเสีย ผักที่เก็บมาขาย ต้องให้โอกาสมันทอดยอด ออกดอกออกผลกันบ้าง อย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่ง มาเจอะเจอกัน ที่ตลาดนัดสักครั้ง ก็อบอุ่นสนุกสนาน ใครมาเช้าตลาดวาย ก็อดได้ของดี การที่จะคาดหวังให้หน่วยงานของรัฐบาลช่วยให้มาตราการทางการค้า เพื่อให้เกิดผลดี กับกิจการของคนไทย คงทำไม่ง่ายนัก เพราะเดี๋ยวนี้ กฎขององค์การการค้าโลก (WTO) มีการเปิดเสรีทางการค้า และประเทศไทย ก็เป็นสมาชิก ขององค์การ การค้าโลกเต็มตัว ฉะนั้น คนไทยด้วยกันเองนี่แหละ ต้องช่วยเหลือ และสนับสนุนกันเอง กินของไทย ใช้ของไทย ร่วมใจประหยัด และแถมอีกคือ ท่องเที่ยวเมืองไทย สนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยว ในบ้านเรา ที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งป่าเขา หรือ โบราณสถาน สำคัญๆ ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ เสียเงินค่าเครื่องบิน แล้วยังเสียเวลา กับการเดินทางอีก ทุกวันนี้ แม้ชีวิต ก็ไม่ค่อยจะปลอดภัย เอาเสียเลย นักวิชาการบางท่านกล่าวว่า การที่จะเข้าไปยึดประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ที่ร้ายแรงอะไรมาก แต่ใช้กลไกทางเศรษฐกิจการค้า และการครอบงำ ทางวัฒนธรรม โดยใช้สื่อโฆษณา ที่มีอยู่อย่างมากมาย ตลอดจนแทรกแซง อำนาจทางการเมือง ก็สามารถจะยึดประเทศนั้นๆ ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร จะว่าไป รูปรอยของประเทศไทย ก็อยู่ในค่ายกล ดังกล่าว ยังไม่สายจนเกินไป ถ้าเราคนไทยทุกคน เริ่มตระหนัก และให้ความสำคัญ ในความเป็นชาติ ที่ต้องนิยม ร่วมด้วยช่วยกัน กินของไทย ร่วมใจประหยัด |