ทุนนิยมนั้นรวยกระจุก
จนกระจาย(มหัพภาค)..? จู่ๆ อยู่ดีๆ ชื่อของนายตายแน่ มุ่งมาจน ก็ขึ้นหน้า ๑ น.ส.พ. และวิทยุ-ทีวี ก็เอาไปตีต่อกันอีกหลายช่อง หลายสถานี ทั้งๆ ที่เขาได้เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลมาตั้งนานแล้ว ดูเหมือนนามสกุลมุ่งมาจนจะสร้างความฉงนฉงายว่าทำไมต้องมุ่งมาจน? ต้องการจะเสียดสีสังคม หรือเป็นการ ประชดประชันการเมือง หรือตั้งใจจะจนจริงๆ ??? นายตายแน่ ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าชีวิตของเขาตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเป็นคนจนให้ได้จริงๆ นับแต่เรียนจบ ปริญญาตรี มาตั้งหลายปี ก็ไม่เคยคิดที่จะไปทำงานหาเงินที่ไหน นอกจากเป็นอาสาสมัครทำงานฟรี ให้แก่สังคม มาตลอด เขาตั้งใจดำเนินรอยตามสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งในหลวงของเราท่านเคยตรัสว่า พระองค์เองก็เป็นคนจนกินข้าวกล้อง อย่างที่คนจนกิน และยังเป็นที่กล่าวขานกันว่า ในวังสวนจิตรลดานั้น ไม่มีใครที่จะประณีตประหยัด ได้เท่ากับ ในหลวงของเราอีกแล้ว ความจริงเศรษฐศาสตร์ (ECONOMY) มีนัยหมายถึงการประหยัดโดยตรง ความประหยัดเป็นเรื่องมหัพภาค ซึ่งคนส่วนใหญ่ สามารถทำได้ แต่ความฟุ่มเฟือยหรูหราเป็นจุลภาคที่คนส่วนน้อยระดับไฮโซเท่านั้นที่จะทำได้ ในทำนองเดียวกัน เศรษฐกิจพอเพียงก็เป็นเรื่องมหัพภาค ซึ่งคนส่วนใหญ่สามารถทำได้ แต่เศรษฐกิจโลภมาก ไม่พอเพียง อย่างทุนนิยม จริงๆ แล้วเป็นเรื่องจุลภาคเพราะมีคนรวยจริงๆ ได้เพียงไม่กี่ตระกูลทำได้ ทุนนิยมนั้นจึงรวยกระจุกแต่จนกระจายเป็นมหัพภาค ทั้งๆ ที่ดูเหมือนว่าทุนนิยมนั้นเหมือนเป็นสากล เหมือน เป็นส่วนใหญ่ เหมือนจะให้รวยกันได้ทุกๆ คน ตั้งแต่ขอทานยันเศรษฐี เหมือนจะพากันรวยให้หมด แต่ความเป็นจริงแล้ว รวยกันได้ไม่กี่คนและรวยกันได้ไม่กี่ตระกูล เหมือนคนแห่กันไปซื้อหวย จริงๆ แล้วคนจะถูกหวยได้นั้น มีเป็นส่วนนิดน้อยเท่านั้นเอง ชุมชนราชธานีอโศกเป็นหมู่บ้านยากจนอันดับที่ ๕ ของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งนายตายแน่ มุ่งมาจน เป็นสมาชิก คนหนึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะเหตุที่ทุกคนทำงานฟรีไม่มีรายได้ จึงทำให้ทางจังหวัด จัดเป็น หมู่บ้านที่ยากจน แต่คนที่มาดูงานมักจะไม่เชื่อว่ายากจนจริงๆ เพราะดูอุปกรณ์การทำงานต่างๆ ในหมู่บ้านแล้ว น่าจะเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวยมากกว่า นี่คือความลึกซึ้งของเศรษฐกิจบุญนิยมเมื่อแต่ละคนๆ ต่างยากจน เรียกว่า จนกระจุก เป็นจุลภาคจึงมีผลทำให้สังคมโดยส่วนรวมนั้นรวยกระจาย เพราะไม่ได้ถูกขูดรีดแบบทุนนิยม และก็ไม่ใช่รวย แบบตัวใครตัวมันเป็นตัวกูของกูแบบทุนนิยม แต่ผูกร้อยเชื่อมสัมพันธ์กันทางจิตวิญญาณ เหมือนร่างแห ที่มียอด มีกลาง และมีปลาย จริงๆ แล้วคนจนชนิดสุดยอดแบบหมดตัวหมดตนจนเป็นพระอรหันต์ได้นั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า จะมีเป็นส่วนน้อย เหมือนดังเขาโคกับขนโค แต่เขาโคนี้แหละที่ช่วยเกื้อกูลดูแลขนโค ที่เป็นส่วนกลางแห และ ปลายแห ตามอุดมการณ์ของพุทธที่เป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนเป็นอันมาก (พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ) ยิ่งใหญ่ (พหุชนะสุขายะ) เหมือนดั่งในหลวงของเรา ที่ทรงใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ก็เพื่อประโยชน์ และความสุขแก่พสกนิกรทั้งมวลฉันนั้น. - จริงจัง ตามพ่อ - - เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๘๒ กันยายน ๒๕๔๘ - |