คุยนิด คิดหน่อย -
บรรณาธิการ -
ยามที่บ้านเมืองกำลังเผชิญหน้ากับสารพัดปัญหา ทั้งธรรมชาติสั่งสอนมนุษย์อกตัญญู ทำลายธรรมชาติ ดลบันดาลให้เกิดภัยแล้งบ้าง น้ำป่าหลากล้นถล่มเมืองบ้าง ข้าราชการ ขุนศึก ศักดินาวางเพลิงเผา บ้านเมือง ในภูมิภาคแหลมทองบ้าง และภัยฉ้อฉลทุจริต ติดจรวด ไล่ล่าผู้นำกระชั้นชิด จวนเจียน จะเข้าสู่ตาอับจนบ้าง ชาวบ้านพลอยรับวิบากกรรมไปด้วยพร้อมกับ ๑๙ ล้านฐานคะแนน ของท่านผู้นำ นักการเมืองจากการเลือกตั้งนั่งหน้าสลอนอยู่ในสภาและในทำเนียบ นอกจากมิอาจปัดเป่า ทุกข์ร้อน ผ่อนคลายได้แล้ว ยังบังอาจเบาปัญญา โหยหาบำเหน็จบำนาญ รองรับตนเอง ยามหมดอำนาจ วาสนา อีกต่างหาก แทนที่จะห่วงใยอาณาประชาราษฎร์ยากไร้ กลับห่วงใย ตนเองเกินการ ทั้งๆ ที่เกือบร้อยทั้งร้อย รวยล้นเหลือกินเหลือใช้ เคยรับเงินเดือนเงินประจำตำแหน่งเรือนแสน เบี้ยประชุมกรรมาธิการอีกไม่น้อย ทั้งยังโดยสาร เครื่องบิน รถไฟ รถยนต์ทั่วประเทศ ด้วยเงินงบประมาณแผ่นดินด้วย แม้ยามตาย ก็ยังไม่วาย มีสวัสดิการ ค่าจัดการ ศพอีก ๕ หมื่น ปิดบัญชีชีวิต จะมีบ้างก็ไม่กี่คนที่เป็นนักการเมืองยากเข็ญพันธุ์แท้ เพราะมิได้อิงการเมืองทำธุรกิจค้ากำไร เช่นนี้น่าโอบอุ้ม อนุรักษ์ไว้เป็นปูชนียบุคคลของชาติ อุปถัมภ์บำรุงจำเพาะผู้มีคุณสมบัติสมควรด้วยกองทุนสงเคราะห์ น่าจะดีกว่าผูกพัน งบประมาณ เป็นภาระ ของแผ่นดิน ที่ต้องจ่ายบำเหน็จบำนาญ ไม่เลือกหน้าเป็นร้อยๆ คนตลอดชีวิต ยามมีอำนาจวาสนาก็ฉ้อฉลเบียดเบียนประโยชน์แผ่นดินทุกกระบวนท่า ยามสิ้นหัวโขน ยังไว้ลาย ไม่วาย เรียกร้องส่งท้าย คิดใหม่ทำใหม่เห็นแก่ได้แบบซีอีโออย่างนี้ เห็นทีคนจนจะทนอยู่ร่วมแผ่นดินไม่ไหว กระมังครับ ท่านผู้ทรงเกียรติที่ เคารพ - เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๘๒ กันยายน ๒๕๔๘ - |