พันเอกบุลสันต์ (ดาบดิน) ทัพวนานต์ * นายทหารทวนกระแส สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร อยู่คู่กับสังคมทหาร แต่นายทหารคนหนึ่ง กลับสงบร่มเย็น กับการปฏิบัติศีล กินมังสวิรัติ ปิดประตูอบายมุขอย่างเด็ดขาด ประวัติ การศึกษา การงาน # เรื่องราวชีวิต พี่ๆ เรียนสายทหารโดยตรง ผมก็คิดจะเป็นทหารเหมือนคุณพ่อ แต่สอบเข้าเตรียมทหารไม่ได้ ไปติด ร.ร. จ่าทหารเรือ คุณพ่อเคยเป็นชั้นประทวนมาก่อน ก็ไม่อยากให้ลูกลำบาก เลยให้มาเรียน ทางอุดมศึกษา พี่คนโต เป็นพันเอกพิเศษ มีครอบครัวตอนไปรับราชการที่จังหวัดชัยภูมิ แม่บ้านรับราชการครู แต่งงานเมื่อปี ๒๕๓๐ # รู้จักอโศกเพราะคุณพ่อ ผมสนใจเรื่องมังสวิรัติเมื่อคุณพ่อปฏิบัติได้ ๗ ปี สังเกตเห็นคุณพ่อ เปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือ เคยดื่มเหล้า สูบบุหรี่ คุณพ่อก็ลดละ ได้ฟังธรรม มาปฏิบัติธรรม เลิกกินเนื้อสัตว์ เด็ดขาด ผมก็เกิด ความเลื่อมใส เลยกินมังสวิรัติตามคุณพ่อ ตั้งแต่ปี ๒๕๒๒ จนถึงปัจจุบัน ตอนนั้นเรียนรามฯ ปี ๒ ผมใช้เจเขี่ยบ้าง และที่โรงอาหาร ก็มีร้านของนักศึกษา กลุ่มรามบูชาธรรม ทำอาหาร มังสวิรัติ ขายอยู่ที่แผง ๒๒ ผมก็ไปเป็นลูกค้าประจำ ช่วงกลุ่มรามฯ จัดงานรามบูชาอาสาฬหบูชา ผมไป สังเกตการณ์ ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม กับกลุ่ม ตอนนั้นเพียงแต่ชื่นชม ยังไม่ถึงกับศรัทธาเลื่อมใส ก็มองดู อยู่ห่างๆ เวลามีพระ ไปเทศน์ ผมก็ไปฟังด้วย แต่เห็นคุณพ่อเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดี พยายามที่จะปฏิบัติ ตามคุณพ่อ สำหรับอบายมุข ก็แค่ทดลองเท่านั้น ว่าเป็นอย่างไร สุรารสชาติ เป็นอย่างไร บุหรี่รสชาติ เป็นอย่างไร # สาเหตุที่กินมังสวิรัติ ผมไม่ได้เบื่อเนื้อสัตว์ แต่เอาอย่างคุณพ่อ ใช้วิธีเจเขี่ยบ้างบางโอกาส เพื่อนๆ ก็ล้อว่า เกลียดปลาไหล กินน้ำแกง อย่างแกงส้ม ผมเลือกตักเอาแต่ผักมากิน พยายามปรับตัว ให้อยู่ในสังคม กินเพราะคุณพ่อ อยู่ในหัวใจ # เริ่มชีวิตปฏิบัติธรรม ปลายปี ๒๕๒๙ ผมก็เริ่มปฏิบัติตามพ่อท่านมาโดยตลอด จนถึงปัจจุบัน เริ่มจากการกิน มังสวิรัติบริสุทธิ์ เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง และยิ่งได้ดูหนังเรื่อง พระเวสสันดร รู้สึกประทับใจ ผมจึงบริจาค สิ่งของมากมาย จนมีสิ่งของติดตัว เท่าที่จำเป็นเท่านั้นเอง ช่วงนั้นผมรู้สึกว่า เข้าใจธรรมะ ของพ่อท่าน แล้วก็อยากปฏิบัติ ตามคำสอนของพ่อท่าน # ครอบครัว # การขนเรือ ผมช่วยขนเรือตั้งแต่ครั้งแรก ขบวนแรกใช้เวลานาน เพราะว่ายังไม่มีประสบการณ์ อุปสรรค มีมากมาย เริ่มตั้งแต่ เอาเรือขึ้นจากน้ำ ยกขึ้นรถเครน มีรถบรรทุก เข้ามาเคลื่อนย้าย เสี่ยงอันตรายมาก ต้องระวังมาก เพราะเป็นเรื่อง ที่เกี่ยวกับชีวิต และทรัพย์สิน ทุกคน ที่เข้ามาช่วยตรงนี้ ก็ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ แต่ละเที่ยว ใช้เวลา ไม่ต่ำกว่า ๔ วัน เจอสายไฟ สะพาน ป้ายบอกทาง ต้องแก้ปัญหากันตลอด ช่วงที่ขณะกำลังขนย้ายกันอยู่ ช่วงที่ยกเรือขึ้นจากแม่น้ำ บังเอิญผมไปอยู่ใกล้ ลวดสลิง เกิดขาด เรือตกลงน้ำ ผมอยู่ใกล้ๆ ตกใจมาก พอเอาเรือขึ้นรถ เราก็ประชุมกันว่า จะมีใคร กำกับดูแล แบ่งหน้าที่กัน ผมอยู่รถนำขบวนเรือ โดยมีรถตรวจเส้นทางคันแรก คอยดูสายไฟ วัดสายไฟ ว่าความสูงของเรือ ผ่านมั้ย ถ้าไม่ผ่าน จะทำยังไง ก็วิทยุคุยกันตลอด แต่ละเที่ยว ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๔ วัน เจอสายไฟ สะพาน ป้ายบอกทาง ต้องแก้ปัญหากันตลอด ในการดำเนินงานตรงนี้จะมีรถสำรวจเส้นทางล่วงหน้าก่อน จะจัดการขนย้ายเรือ ผมจะนำ ขบวนเรือ ทุกลำ ซึ่งหากมีปัญหาอุปสรรคอะไร ก็ต้องเคลียร์ให้เรียบร้อย เช่น การผ่านด่าน ตำรวจต่างๆ ผมก็จะเข้าติดต่อ โดยผม จะเข้าไปขอความช่วยเหลือ เพราะเป็นสิ่งของ ที่ใหญ่โตมาก และอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิต และทรัพย์สินได้ เขาก็ให้คำแนะนำว่า ควรจะวิ่งรถ ให้ชิดเลนซ้าย และในเวลากลางคืน ควรจะติดไฟ ให้รอบตัวเรือ เพื่อที่จะได้มองเห็น สัดส่วนของเรือ อย่างชัดเจน ควรมีสัญญาณไฟ หรือสปอร์ตไลท์ส่อง เพื่อให้รถด้านข้าง ที่จะแซงไป เห็นได้ชัดเจน # ประสบอุบัติเหตุ ที่ท้องเรือมีเรือเล็กซ้อนอยู่ มีเสากระโดงเรือ มีเหล็ก กระดูกเรือ และอะไรต่างๆมากมาย วางอยู่ ระเกะ ระกะ เคราะห์ดี ผมตกลงไปตรงซอกเล็กๆ บนไม้หน้าเจ็ด ในเรือเล็ก ที่ซ้อนอยู่ ทางท้ายเรือ ซึ่งรองรับลำตัวผม พอดีเลย บังเอิญส่วนหัวของผม ลงบนกองเชือกใหญ่พอดี ตอนลงจึงนุ่ม เหมือนนอนลงบนหมอน ไม่รู้สึกเจ็บเลย ส่วนขาก็กระแทกกับกระดูกงู คนที่อยู่ บนเรือลำเดียวกับผม บอกว่า กองเชือกกองนี้ เคยอยู่ที่ท้ายเรือ ทำไมวันนี้มาอยู่ตรงนี้ ได้ยังไง ไม่น่าเชื่อ ผมมีสติอยู่ตลอด ผมก็ปล่อยให้อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด ยอมรับวิบากตรงนี้ เรือสูง ประมาณ ๓ เมตรเศษๆ ผมตกเกือบถึงท้ายเรือ รู้สึกตัวตลอด เมื่อตกลงมาแล้ว ผมชาไปทั้งตัว กระดุก กระดิกไม่ได้ มีบาดแผล ถลอกตามแขนขา ซึ่งถ้าดูตามสภาพ น่าจะถึงชีวิต เพราะว่า ตกจากที่สูง แรงกระแทก บริเวณแขน ลำตัว ขา เป็นเพียงบวม ถลอก ฟกช้ำ พ่อท่านและสมณะหลายรูปมาให้กำลังใจขบวนเรือ ช่วงจังหวัดศรีสะเกษ ผมเกิดปีติ ที่ท่านสละเวลา มาเยี่ยม # เกิดอุบัติเหตุช่วงไหน # ได้อะไรจากการขนเรือ # กับเพื่อนร่วมงาน วันหยุดผมก็มาทำบุญที่วัด หรือไม่ก็กลับไปเยี่ยมครอบครัว ผมรับราชการมา ๒๒ ปี ผมเคย ยื่นใบลาออก ครั้งหนึ่ง เมื่อปี ๒๕๔๕ กะว่าจะไม่รอจนเกษียณ แต่แม่บ้าน ไปขอระงับไว้ ยังไม่อยากให้ออกจากราชการ # ธรรมะให้อะไร หลักๆ ก็จะต้องปฏิบัติที่ตัวเราโดยการรักษาศีล ปฏิบัติสำรวมกาย วาจา ใจ ซึ่งความเปลี่ยนแปลง จากเดิมๆ เป็นชีวิต ที่ร่าเริงสนุกสนานไปกับอบายมุข เราก็มาเป็นชีวิต ที่สงบร่มเย็น อยู่ในการปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรม # กิจวัตรตอนเช้ามาตักบาตรทุกวัน เมื่อปี ๒๖,๒๗ ผมยังอยู่กรุงเทพฯ ก็จะมาใส่บาตรทุกวัน พอย้ายไปรับราชการ ต่างจังหวัด ก็ไปร่วมกิจกรรม กับทาง หินผาฟ้าน้ำ ก็เป็นผู้รับใช้กลุ่มชัยภูมิอโศก ๒ ปี ในช่วงนั้น ก็ได้อะไร มากมาย ต้องเร่งตัวเอง เมื่อหมู่กลุ่ม ให้ความไว้วางใจ ผมก็พยายามมีข้อบกพร่อง ให้น้อยที่สุด # สิ่งที่จะฝากให้แก่ทุกท่าน - เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๘๒ กันยายน ๒๕๔๘ - |