และ มีกรรมเป็นที่เกิด คือ กรรมเป็นเหตุให้เกิด (กัมมโยนิ) ไม่ใช่พระเจ้าบันดาลให้เกิด หรือเจ้ากรรมนายเวร ใดๆ เป็นผู้ให้เกิด ดังนั้น "กรรม" ที่ตนสั่งสมเป็น "วิบาก" นั่นเอง ที่เป็นอำนาจสำคัญ เป็นตัวบงการ หรือ เป็นเหตุแท้ นำพา "อัตภาพ" ของตนเองแต่ละคนเกิด


และ กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ตามที่ตนได้ก่อได้สร้างเอง (กัมมพันธุ) กรรมทุกกรรม ไม่มีขาดหก ตกหล่น ไม่ว่า "กรรม" เล็กๆ น้อยๆ หรือ "กรรม" ขนาดเท่าใดๆ แม้แค่เรา "ดำริ" ตั้งแต่เป็น "อารัพภธาตุ (ริดำริ) -อารัมภธาตุ (ปรารภดำริ) -นิกกมธาตุ (พยายามดำริ) -ปรักกมธาตุ (บากบั่นดำริ) -ถามธาตุ (ดำริมีกำลัง) -ธิติธาตุ (ดำริตั้งมั่น) -อุปักกมธาตุ (ดำริสำเร็จเต็มรูป ที่พยายามจะทำกรรม)" ทุกธาตุล้วนเป็นจริงตามขนาด ที่เป็นที่เกิดจริงนั้นๆ

ทุกกรรมจะสังเคราะห์กันด้วยสัจจะแห่งกรรมทั้งหลาย อย่างเป็น "อจินไตย" ซึ่งไม่มีใคร จะไปเบี้ยว ไปโกง สัจจะ แห่งกรรมได้เป็นอันขาด หรือไม่มีอำนาจใดๆ ในมหาสากลจักรวาล ที่จะทำให้สัจจะผิดเพี้ยน ไปจากสัจจะ ได้เป็นอันขาด เมื่อสังเคราะห์กัน หรือ บวกลบคูณหาร กันออกมาได้ผล เป็นอย่างไร ผลนั้นก็คือ "เชื้อ" ของตนๆ คือ "พันธุ์" ของตนๆอยู่ตลอดเวลา

เช่น ผลของกรรมสำเร็จเป็น "พันธุ์สัตว์นรกอย่างใดอย่างหนึ่ง" ตนก็ต้อง"เกิด"ตามพันธุ์นั้น เกิดเป็นอย่างอื่น ไม่ได้ ต้องเกิดตามนั้น (กัมมโยนิ) ไม่มีอำนาจใดมาบันดาล ให้เป็นอื่นไปได้ เป็นเด็ดขาด อ้อนวอนร้องขอ ต่ออำนาจ ศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ให้เปลี่ยนแปลงไม่ได้หรือขอให้ "พระเจ้า" องค์ไหนช่วยเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้ กรรมเป็นสัจจะ ไม่มีบิดเบี้ยว เจ้าของกรรมนี้ ต้องเกิดตาม "พันธุ์" ของตนๆ ที่ตนทำตนสั่งสมเองแท้ๆ

เมื่อต้องเกิดเป็น"สัตว์นรก" กรรมที่บันดาลให้เกิดนี้ ก็ชื่อว่า"ซาตาน" หรือ"จอมมาร"นั่นเอง

หรือ ผลของกรรมสำเร็จเป็น"พันธุ์เทวดาอย่างใดอย่างหนึ่ง" ตนก็ต้อง"เกิด"ตามพันธุ์นั้น เกิดเป็นอย่างอื่น ไม่ได้ ต้องเกิดตามนั้น(กัมมโยนิ) ไม่มีอำนาจใดมาบันดาล ให้เป็นอื่นไปได้ เป็นเด็ดขาด อ้อนวอนร้องขอ ต่ออำนาจ ศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ให้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ หรือขอให้ "พระเจ้า" องค์ไหนช่วยเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้ กรรมเป็นสัจจะ ไม่มีบิดเบี้ยว เจ้าของกรรมนี้ ต้องเกิดตาม "พันธุ์" ของตนๆ ที่ตนทำตนสั่งสมเองแท้ๆ

เมื่อต้องเกิดเป็น "เทวดา" กรรมที่บันดาลให้เกิดนี้ ก็ชื่อว่า "พระเจ้า" หรือ "จอมเทพ" นั่นเอง

นี่คือ พุทธเป็น"อเทวนิยม"อย่างนี้ กรรมเป็นสัจจะอย่างนี้ และซื่อสัตย์สุจริตที่สุด อ้อนวอน ร้องขอให้ "สิ่งใดๆ" ช่วยไม่ได้ ตนต้อง"ทำเอง" ทั้งสิ้น

กรรมที่ตนทำเป็นสมบัติของตน (กัมมัสสกะ) ไม่ขาดหกตกหล่น ไม่มีใครติดสินบนกรรมได้ กรรมของตน ตนเป็น คนทำ ตนต้องรับมรดกของตน ตนต้องเป็น ทายาทของกรรม ทั้งหมดที่ตนทำ ไม่รับก็ไม่ได้ แบ่งใครไม่ได้ (กัมมทายาท)

หรือ ยิ่งผลของกรรมสำเร็จเป็น "พันธุ์อาริยชนขั้นใดขั้นหนึ่ง" ตนก็ต้อง"เกิด" ตามพันธุ์นั้น เกิดเป็นอย่างอื่น ไม่ได้ ต้องเกิดตามนั้น (กัมมโยนิ) ตามสัจจะทุกประการ เจ้าของกรรมนี้ ต้องเกิดตาม "พันธุ์" ของตนๆ ที่ตนทำตน สั่งสมเองแท้ๆ

[มีต่อฉบับหน้า]

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๘๒ กันยายน ๒๕๔๘ -