- แรงรวม ชาวหินฟ้า -


เหตุที่ทำให้ใครๆก็เข้าใจท่านนายกทักษิณผิดๆ

จากการที่ท่านนายก พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์เป็นเชิงสนับสนุน ให้เบียร์ช้างเข้าตลาด หลักทรัพย์ น่าจะก่อให้เกิด ความเข้าใจสับสน แก่กลุ่มศาสนาต่างๆ มิใช่น้อย เพราะก่อนการเลือกตั้ง ครั้งขมิ้นทัวร์ท่านนายกฯ เดินสายไปหลับนอน ตามวัดต่างๆ นับเป็นการสร้างความนิยม และความเชื่อมั่น ในตัวผู้นำ ต่อกลุ่มศาสนาต่างๆ ได้อย่างสูง แต่หลังจากนั้น เหมือนมีเหตุอาเพศภัย เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ เพราะนอกจากจะต้องผจญกับ ปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้งไปพร้อมๆ กันแล้ว ก็เหมือนกับมีมารมาดลใจ ทำให้ท่านนายกฯ มองเห็น มิจฉาวณิชชา เป็นการค้าที่ต้องส่งเสริม ทำให้สลายความนิยม และความเชื่อมั่น ต่อผู้นำ จนแทบจะหมดไป จนเกิดคำถามมากมาย ในเหตุการณ์ครั้งนี้ และชักไม่แน่ใจว่า ตนเอง เข้าใจผิด ต่อตัว ท่านนายกทักษิณไปหรือเปล่า? จึงทำให้เกิดการ วิพากษ์ วิภาษ วิจัย วิจารณ์กันขึ้นมา ก่อนอื่น คงต้องอ่าน บทสัมภาษณ์ ของท่านนายกฯ ดังต่อไปนี้

'ทนง' รอถก 'จำลอง-เจริญ' แก้เบียร์ช้าง

พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทนง พิทยะ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวง การคลัง สั่งชะลอ การนำบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์ช้าง เข้าระดมทุน ในตลาดหลักทรัพย์ว่า คงเป็นเพียงการต้องการ ทำความเข้าใจ กับทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง

"แต่ต้องถามว่าวันนี้ถ้าไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ค้าขายกันอยู่หรือยัง มันก็ค้าขายกันอยู่แล้ว ถ้าถามว่า กำลังผลิต ในประเทศ ของเขานั้น พอหรือไม่ พอถามว่า ทำไมจึงอยากเข้า ตลาดหลักทรัพย์ ทางเบียร์ช้าง อธิบายว่า เพราะอยากจะขยาย ไปต่างประเทศ เพราะวันนี้ ฝีมือคนไทยสามารถพัฒนาและ มีตราสินค้า ของเราเอง อย่างเบียร์ช้างเอง ก็ได้ลงทุนโฆษณา ในสโมสรฟุตบอล เอฟเวอร์ตัน เขาอยากไป ต่างประเทศ แต่การจะไปต่างประเทศ มันต้อง ไปออกเครื่องมือ ทางการเงิน ในต่างประเทศด้วย ฉะนั้นถ้าไม่อยู่ใน ตลาดหลักทรัพย์ ก็ไม่สามารถ ทำสิ่งเหล่านี้ได้ นี่คือเหตุผล"

ผู้สื่อข่าวถามว่า การชะลอเป็นเพราะพล.ต. จำลอง ศรีเมือง ประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ ออกมา คัดค้านด้วย หรือไม่ พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า แน่นอนการคัดค้านต้องฟังกัน แต่ต้องคุยกัน ด้วยเหตุ ด้วยผล ไม่ใช่จะใช้ลักษณะหมู่ อย่างนี้ไม่ได้

นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง รัฐมนตรี ว่าการ กระทรวงการคลัง จึงต้องขอเวลาศึกษาในเรื่องนี้สักระยะ และจะหารือกับ ทั้งฝ่ายของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และฝ่ายของ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจ เบียร์ช้างก่อน แต่ขณะนี้ ยังไม่สามารถ ระบุได้ว่า จะเป็นอย่างไร

"หน้าที่ผมคือต้องทำให้เรื่องนี้ไม่มีปัญหา และจะขอหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อให้ได้ ข้อสรุป ของเรื่อง ที่เป็นประโยช น์แก่ทุกฝ่าย และเป็นที่ยอมรับ" นายทนงกล่าว (มติชน ๑๓ ส.ค. ๒๕๔๘)

สังคมต้องเศร้าสลดกับปัญหาไฟใต้ ที่พี่น้องผู้บริสุทธิ์ต้องถูกฆ่าตายในรอบปี ที่ผ่านมา ถึง ๗๐๐ กว่าชีวิต แต่จริงๆ แล้วปัญหา ไฟนรก อันเกิดจากน้ำเมา ทำความโศกเศร้า ให้แก่ผู้คน ทั้งแผ่นดิน มากกว่าเป็นไหนๆ เฉพาะแค่งานปีใหม่ หรืองานสงกรานต์ เพียงงานเดียว จำนวนยอดคนตายเพราะเมาแล้วขับ ก็พอๆ กับ ยอดคนตายทั้งปี ที่ภาคใต้อยู่แล้ว แต่ที่ทุกข์ทรมาน ยิ่งกว่านั้น ก็เพราะตัวการร้าย คือคนในครอบครัว ของตัวนี่เอง เมื่อเมาแล้ว พ่อก็ข่มขืนลูกในไส้ได้ วัยรุ่นที่กำลังคะนอง ต้องหมดอนาคต ไปมากมาย เพราะเมาแล้ว ก็เที่ยวไปรุมโทรมเหยื่อที่เคราะห์ร้าย ใครที่เป็นพ่อแม่ของเหยื่อ พ่อแม่ของวัยรุ่น วัยคะนอง เหล่านั้น ก็ต้องตกนรก ไปด้วยกันทุกๆ ฝ่ายซึ่งปัญหาไฟนรกที่ลุกไหม้ไปทั่วแผ่นดิน จนทำให้ครอบครัว และสังคม ล่มสลาย พังพินาศ ในขณะนี้ ยังหมกมุ่นเมามาย กันได้ไม่มากพอใช่ไหม?

ทำไม? ยาบ้ากับน้ำเมาหรือน้ำบ้าต่างกันตรงไหน? ทำไมพ่อค้ายาบ้าถึงน่ากลัว แต่ที พ่อค้าน้ำบ้า กลับยกย่อง ชมเชย ทั้งๆ ที่ยาบ้า กับน้ำเมา ก็มีผลทำให้คนเรา ทำอะไรบ้าๆ ได้เหมือนกัน เพียงแต่อย่างหนึ่ง มีกฎหมายรับรอง แต่อีกอย่าง ไม่ได้รับรอง ทั้งๆ ที่เหล้า ส่งผลกระทบ ต่อสังคมในวงกว้าง ได้มากกว่า ด้วยซ้ำ ซึ่งการที่ท่านนายกฯ ได้เห็นดีเห็นงาม ไปด้วยนั้น ได้เกิดคำถาม มากมาย ที่ชวน ให้สงสัยว่า ท่านได้รับผลประโยชน์อะไร จากเจ้าของธุรกิจน้ำเมาหรือเปล่า? เพราะภาพที่ออกงานสำคัญๆ ร่วมกัน แถมยังเป็น สปอนเซอร์ รายใหญ่ ให้อีกด้วย ใครๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่า มันเป็นผลประโยชน์ ต่างตอบแทน ร่วมกัน ระหว่างนายทุน กับนายทุนดีๆ นี่เอง

อย่างไรก็ตามก็อยากจะมองในด้านดีกว่าการที่ท่านนายกฯ ตัดสินใจเปิดไฟเขียว ในครั้งนี้ อาจจะเป็น เพียงแค่ เพราะเชื่อตาม นักวิชาการ ที่เห็นแก่ด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก เลยเห็นว่า การแก้ปัญหา น่าจะไป รณรงค์ให้คนเกิด จิตสำนึก มากกว่ามาต่อต้าน ธุรกิจเบียร์เหล้า ไม่ให้เข้าตลาดหลักทรัพย์

กรณีเช่นนี้จะเทียบได้กับการสูบฝิ่นในสมัยก่อนไหม? ถ้าให้รณรงค์ไปด้วย และให้สูบฝิ่น ไปด้วย คนจะเลิก ได้ไหม? หรือเรื่องของ ยาบ้าก็ตาม ก็น่าจะปล่อยให้เสพไปก่อน แล้วก็รณรงค์ปลูกจิตสำนึกไปพร้อมๆ กันไปด้วย จะได้ไม่เกิด การฆ่าตัดตอน ไปมากมาย

แต่ข้อเท็จจริงจะเห็นได้ว่าทั้งบุหรี่สุรา ยิ่งโหมรณรงค์เท่าใดก็ไม่ได้ทำให้คนลด จากการติด สิ่งเสพติด เหล่านี้ ลงมาได้เลย ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพราะผู้คน ไม่มีที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ศาสนาถูกลัทธิบริโภค วัตถุนิยม หรูหรานิยม และอำนาจนิยม ทำให้หมดความหมาย ไปเรื่อยๆ เมื่อชีวิตมีปัญหา หรือหาทางออกไม่ได้ ก็ต้องอาศัยสิ่งเสพติดทั้งหลาย มาทำให้ชีวิตของเขา หมดปัญหาไป ณ จุดนี้ เราก็คง จะตัดสินใจ กันได้แล้วว่า ควรจะหันมาทำแท้งศาสนา หรือ ทำแท้งสิ่งเสพติด มึนเมาทั้งหลาย ให้หมด หรือลดน้อย ลงไป? เพราะการคิดที่จะเพิ่ม กำลังผลิตน้ำเมา ออกไปให้คนในโลกนี้ ให้เมากันมากขึ้น ถ้าคนได้เมา จนขาดสติ สัมปชัญญะเสียแล้ว มีศาสนา ก็เหมือนกับไม่มีศาสนา ก็ย่อมไม่ต่างอะไรกันกับ ทำให้ศาสนา ทั้งหลาย พากันหมดท่าไร้น้ำยา หรือเป็นการทำแท้งศาสนา ดีๆ นี่เอง.

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๘๒ กันยายน ๒๕๔๘ -