แล้วเราจะกินกันอย่างไร ถ้าผมเองแล้ว ผมกินผักสดผลไม้มากที่สุด ผลไม้ที่กินมากที่สุด คือ มะม่วง นี่ก็จะถึงหน้ามะม่วงอีกแล้ว มะม่วงก้นส่อน มะม่วงแก้ว ผมกินทั้งวันเช้าจดเย็น วันหนึ่งสักสิบกิโล กินมากจริงๆ ผมเชื่อว่าผมกินมะม่วงแก้วมากที่สุดในโลก หน้ามะม่วง ไม่ต้องกินข้าวเลย กินทั้งเช้า กลางวัน เย็น สามเวลา ผลไม้อีกอย่างคือมะละกอ มะละกอสุกก็กินง่าย ผมไม่ใช่นักชีวจิต นักชีวจิตบอกว่าการกินอะไร เราต้องเคี้ยวช้าๆ คำละห้าสิบครั้ง อย่างนี้ผมไม่ได้ทำงานแล้ว ผมว่าอยู่กันอย่างง่ายๆ ดีกว่า เอามะละกอ มาผ่าสี่ชิ้นพอ ไม่ต้องไปตัดเป็นชิ้นเล็ก ผมว่ามันเสียเวลา กินง่ายๆ จับใส่ปากไหลลงท้องเลย เสร็จแล้วก็ไปย่อยเพราะมันกินง่าย อย่างมะม่วง ก็ไม่ต้องตัดมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ประดิดประดอยให้เสียเวลา

อย่ากินของที่ผ่านกระบวนการมากๆ ผมจะเล่าเรื่องไข่ครับ ไข่ต้มผ่านกระบวนการครั้งเดียว มี ๑๓๐ แคลอรี ไข่เจียวกว่าจะได้ออกมานี่ ผ่านขบวนการมากมาย ต้องใช้ความร้อน น้ำมันไปบีบเอาจากข้าวโพดหนึ่งฝัก โยนซากไปให้วัวกิน ที่เหลือเราก็กินน้ำมันวันละช้อน แล้วมันได้อะไร ดีนะครับไข่ที่เราทอดที่บ้านเป็นของใหม่ ถ้าเป็นของเก่า ลองเอามะม่วงเอาแอ็ปเปิ้ลมาฝานทิ้งไว้สักครู่ สีมันเป็นอะไรครับ สีดำ ภาษาเคมีว่ามันเกิดปฏิกิริยา Oxidation เป็นปฏิกิริยาที่ทำให้แก่ตัวลง ร่างกายมนุษย์เกิด Oxidation ตลอดเวลา อย่าแปลกใจ ว่าทำไมถึงมีรอย ทำไมถึงมีรอยตีนกาเกิดขึ้น การแก่ชราของธรรมชาติ และการเกิดปฏิกิริยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อบริเวณนั้น

เมื่อก่อนนี้ อยู่บ้านนอก ทอดไข่ด้วยน้ำมันหมู คนอายุรุ่นผมนี้มักจะทอดไข่เจียวด้วยน้ำมันมะพร้าว เหม็น เพราะคนแต่ก่อนยังไม่ฉลาด ไม่มีวิธีป้องกันไม่ให้น้ำมันพืชเกิดปฏิกิริยาแก่ตัวเร็ว เรียกว่าเหม็นหืน เหมือนที่บอกว่าฝานมะม่วงแล้ว จะสีดำออกมา แก่ตัวเร็วเกิดเป็นของเสียขึ้นมา วิธีป้องกันเหม็นหืน ก็ใส่วิตามินอีลงไป ไม่ว่ายาสระผม ครีมอาบน้ำ ครีมนวดผม ผมใช้ของราชธานีอโศกหมดเลย เพราะเขียนไว้ว่ามีวิตามินอี

ผมจะเล่าเรื่องวิตามินอีเป็นตัวอย่าง วิตามินอีนี้เอาไปใส่ในน้ำมันพืชไม่ให้มันแก่ตัวเร็ว ทำให้ไม่เหม็นหืน เพราะวิตามินอีต่อต้าน Oxidation ความจริงการเกิด Oxidation เหล่านี้ โลกก็เกิดเช่นเดียวกัน เช่น เขาเรียกสาร ซีเอฟซี ที่ทำโฟม ทำปฏิกิริยาจากการเผาไหม้ ก็เกิดขึ้นไปในอากาศ ไปทำลายชั้นโอโซน โอโซน เอถูกสารซีเอฟซี ก็จะเหลือ Oxigen หนึ่งตัวบวกพิษร้ายตัวหนึ่ง (O3 = O2 + O1) O1 นั่นคือ สารอนุมูลอิสระ อังกฤษเรียก ฟรีแรดิคัลส์ จะวิ่งไปชนโอโซนอีกสองแสนโมเลกุล ฉะนั้น บ้านเมืองเรา ตอนนี้ถึงมีปัญหาใหม่เกิดขึ้น คือ ร้อนขึ้น เนื่องจากชั้นบรรยากาศแก่ตัวลงอย่างมหาศาลทีเดียว เลยกลวงโบ๋ ปรากฏว่ามีแสงยูวีต่างๆมากขึ้น

ฉะนั้น จึงมีข่าวว่าน้ำแข็งละลาย น้ำจะท่วมโลก ครั้งหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้ เกิดคนตื่นตัวมาก เราอยู่อย่างดีสบายแล้ว อยู่ฝั่งทะเล ฝั่งต่างๆ อยู่กรุงเทพฯ ตอนนี้ทรุดลงทุกวัน เป็นฟุตแล้วในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นั่นคือความแก่ตัว อนุมูลอิสระร่างกายเช่นเดียวกัน ทิ้งไว้ก็แต่ตัวเร็วจากอนุมูลอิสระ ผมเรียกสารพิษก็แล้วกัน สารพิษเหล่านี้มาอย่างไร เกิดจากสิ่งแวดล้อม ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น เช่น คุณสูบบุหรี่ คุณกินเหล้า สารพิษทั้งสิ้น สูบบุหรี่ตัวหนึ่ง อัดเข้าไปอึดหนึ่ง นี้มันเกิดสารพิษ หรืออนุมูลอิสระ สิบยกกำลังสิบ ไม่รู้จะอ่านว่าอย่างไร เพราะสิบยกกำลังหกหนึ่งล้าน ก็เลยเป็นหนึ่งร้อยล้านล้านตัว ดังนั้น มันจึงไปรบกวนการทำงานของปอด และเกิดมะเร็ง มันออกมาก็จริง แต่มันเข้าไปอีกเยอะ

ดูเรื่องน้ำมันนี่แหละมันง่ายที่สุด ถ้าคุณกินไก่ทอดเคเอฟซี เขาทอดน้ำมันสองครั้ง น้ำมันที่ดีจะมีสีเป็นสีชา เมื่อทอดเสร็จจะมีสีเหลืองนิดหนึ่ง หลังจากนั้นจะมีคนไปรับซื้อที่เคเอฟซี เพราะถ้าเอาน้ำมันเก่าทอด ไก่ทอดก็จะกลายเป็นสีดำ เป็นสีดำก็จะไม่มีคนซื้อ จึงขายเอาไปทอดกล้วยแขก แต่ที่ชัดที่สุดนำไปทอดปาท่องโก๋ น้ำมันปาท่องโก๋นี้ดำมืด ดูไม่เป็นน้ำมันเลย มีแต่สารพิษ ขอแนะนำอย่าไปกินของทอดปาท่องโก๋นี่ร้ายที่สุดเลย เพราะน้ำมันเป็นเดือนแล้ว ถ้ามันดำก็เอาไปกรอง เอาขยะออกไป น้ำมันมาทอดต่ออีก ตอนนี้แหละคือ ฟรีแรดิคัลส์ คือ อนุมูลอิสระ เยอะเต็มไปหมดเลย เป็นล้านๆๆๆๆๆ ตัว เรากินเข้าไปก็ไปเคลือบตามผนัง ก็สารพัดอย่างออกมา เป็นโรคภูมิแพ้ โรคอะไรต่างๆ ในท้องตลาด ที่เห็นมากที่สุดตอนนี้คือ อาหารขบกรอบ สารพัดอย่าง บะหมี่ใส่ซองสำเร็จรูป กรอบๆ ที่ขายอยู่กินได้แต่อย่ากินมาก อย่ากินเป็นประจำแทนอาหาร พวกเหล่านี้คือ ของทอดที่มีสารพิษมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว

ฉะนั้น

๑. อย่ากินอาหารที่เก็บค้างคืนได้เป็นดี

๒. อาหารที่เขาบรรจุเสร็จ อย่ากินได้เป็นดี

๓. ไม่กินน้ำชา หรือกาแฟ

แม้แต่นม ผมยังไม่กินเลย เด็กๆอาจจะกินได้อยู่ แต่ผมอายุมากแล้ว ๕๑-๕๒ กว่าปีแล้ว เกิดมาก็ไม่ชอบกินนมแต่ไหนแต่ไร กินไข่ กินถั่ว ราคาถูกกว่า คนมีเงินซื้อไปก็ไม่ว่ากัน แต่อายุเกินสามสิบแล้วจะกินนมไปทำอะไร บ้านเมืองเรามีแต่สารพิษ ถ้าคุณมีนมจากเต้า มีวัวเลี้ยงที่ราชธานีอโศกก็กินเลย แต่นมที่กินทุกวันนี้ เป็นนมบรรจุกล่อง ไม่ให้เสียทำอย่างไร หนึ่งใส่สารกันบูด สองใส่สารปรุงแต่งให้มันอร่อย ของจริงไม่อร่อย ต้องใส่น้ำมันพืชให้มันหวานขึ้น ต้องใส่สารปรุงสี สีซีดๆ ก็ดูไม่ดีขายไม่ได้ครับ มันต้องดูดีขึ้น ฉะนั้น ใส่ทั้งสารปรุงแต่งสารพัดชนิด ให้มันดูดีขึ้น ให้มันเป็นอาหารสำเร็จรูปขึ้นมา ถ้าเอานมน้ำมา ค่าขนส่งมันแพง ฉะนั้นบริษัทต่างๆ ก็จะทำเป็นนมผงจากนิวซีแลนด์ จากแหล่งผลิตต่างๆ นมสดโชคชัย เคยเอานมสดมาขายเหมือนกัน เมื่อก่อนนั้น แต่ไม่ยืดเพราะไม่กี่วันมันก็หมดอายุ จะบูดเน่า ฉะนั้นก็ทำเป็นผง หนึ่งถูกกว่า เสร็จแล้วก็มาบรรจุกล่องอยู่ที่นาเยียของนักเรียนอยู่ที่นาเยีย ผสมกับน้ำ น้ำตาล น้ำมันปาล์ม ให้เข้ากันแล้วบรรจุกล่อง แล้วก็มาขายให้เรา

อย่าแปลกใจ ถ้าเป็นนักธรรมชาติบำบัด จะไม่บอกให้กินนม ยกเว้นเป็นนมทำเอง เช่น นมถั่วเหลือง ทำใหม่ๆ ไม่ได้ใส่สารอะไรเลย นมจากเต้าสดๆเลยกินได้ แต่นมที่ขายทุกวันนี้คือนมที่ปรุงแต่ง ผมจะไม่กินนม ซุปไก่ ซุปสารพัด อย่าไปกิน กินของที่สดๆ ใหม่ๆ ดีกว่า ดีที่สุด

ข้อหนึ่ง ที่ผมพูดตอนนี้ คือ เราเป็นตามสิ่งที่เรากิน เรากินของที่สดๆ ใหม่ๆ ผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด ที่พ่อแม่พากินสมัยก่อนนั่นดีที่สุด ข้าวกับพริกกับแจ่ว กินกับผักสดๆ ถูกต้อง ผมกินอย่างนี้

ข้อสอง หลักข้อนี้ไม่ง่าย กายเคลื่อนไหวใจนิ่ง นี่ง่ายที่สุด ผมจะเล่าเรื่องหนึ่งที่ผมเจอให้ฟัง หนึ่ง ก็ผมกินอย่างนี้มานานแล้ว ผักปลอดสารพิษนี้ดีที่สุดอยู่แล้ว ผมเชื่อ ว่าเร็วๆนี้ เทศบาลจะออกระเบียบใหม่ ใช้ในเขตเทศบาล ผักที่จะมาขายในเทศบาลนั้น ต้องมีใบอนุญาต มีใบตรวจสอบว่าเป็นผักปลอดสารพิษ รัฐบาลต่อไปจะต้องทำอย่างนี้ เพราะที่บ้านหัวเรือแต่ก่อนนั้น ที่ปลูกผักปลูกพริกขี้หนู เป็นมะเร็งตายกันเป็นแถวเลย เพราะยาฆ่าแมลง ฉะนั้นที่เขาสอนแบบไม่ใช้สารนั้น ผมประทับใจมากที่พันเอกวิเชษฐ์ไปทำ ผมก็ซื้อที่ราชธานีอโศก ผมประทับใจมาก ใช้วิธีการปฏิวัติด้วยฟางเส้นเดียวของฟูกูโอกะ ญี่ปุ่นต้องมาสอนเรา ว่าเขาปลูกพืชโดย หนึ่งไม่ไถพรวน สองไม่ต้องกำจัดวัชพืช ปีนั้นผมก็งงอยู่ว่าเขาทำกันอย่างไร สามก็ไม่ใช้สารเคมี ในอันที่เป็นปุ๋ยเคมี สี่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง นายคำเดื่อง ภาษี ที่บุรีรัมย์ก็ทำได้ สำหรับที่นี่ผมคงจะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน เพราะที่นี่ทำอยู่แล้ว ฉะนั้นทำต่อไป เราทำมาถูกทางแล้ว อย่าไปซื้อไปหาปุ๋ยเคมี ของปลอมอีกต่างหาก

กลับมาครับข้อที่สอง กายและใจต้องสมดุล กายเราต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ฉะนั้นผมจึงประทับใจมาก ในพระพุทธศาสนา ให้เดินจงกรม อย่าอยู่นิ่งเฉย ถึงเวลานั่งก็มานั่งอีกตอนหนึ่ง ทางเซน หรือนักปฏิบัติยิ่งร้ายไปกว่านี้ ทุกตอนนั้นใจต้องนิ่ง

เรื่องใจนิ่งผมบังเอิญมีประสบการณ์ ไปลองเรียนดูหลายแบบ นั่งสมาธิแบบชาวพุทธก็นั่ง ก็ดีครับ แต่ผมเป็นผู้บริหารไม่มีโอกาส ไปนั่ง นั่งก็ไม่ยืด เพราะไม่ได้ฝึก ฝึกนานก็ไม่ได้เพราะเป็นผู้บริหาร ทีนี้ก็ไปดูของทีเอ็ม ทีเอ็มนี่เป็นของชาวแขก ก็มีพุทโธ ของทางเซน ไปดูของ ติช นัท ฮันห์ ผมลองนำมาใช้ดู ความจริงเหมือนกันหมด หายใจเข้าหายใจออกให้เป็นสุข ทีนี้คนที่อยากมีความสุข ต้องมีสารแห่งความสุขครับ สารแห่งความสุขนั้นเขาเรียก เอนโดฟีน มอร์ฟีน คือยาเสพย์ติด เอนโดฟีนก็คือมอร์ฟีนที่ร่างกายสร้างขึ้นออกฤทธิ์คล้ายกันแต่ดีกว่ากัน วงการแพทย์ถ้าให้โยนยาทิ้งทะเลทั้งหมด จะเหลืออะไรไว้ เขาตอบตรงกันว่า ขอยามอร์ฟีนไว้ เพราะมอร์ฟีนรักษาโรคได้มากจริงๆ เป็นโรคหัวใจจะตาย ฉีดมอร์ฟีนอยู่เลย เส้นเลือดขยายตัว ทุกอย่างดีขึ้น นั่นคือตัวเอนโดฟีนที่เป็นสารแห่งความสุขนั้น มันฤทธิ์แรงกว่ามอร์ฟีนถึงสองร้อยเท่า เป็นตัวที่ทำให้มนุษย์เกิดปีติในทางธรรมะ

แต่ก่อนที่จะมีสารแห่งการเกิดปีติเกิดขึ้นนั้น จะมีสารแห่งความทุกข์เกิดขึ้นมาก่อน สารแห่งความทุกข์นี้ที่สำคัญคือ อะดรีนาลีน เวลาจะหลั่งมา ใจเต้นแรง หน้าแดงใจเต้นตึ๊กๆๆ ที่เขาบอกว่าแบกโอ่งหนีได้เวลามีไฟไหม้ นั่นเขาเรียกสารแห่งความทุกข์ สารแห่งการต่อสู้แข่งขัน จะออกมาในช่วงวิกฤต มันออกตลอดเวลาก็แย่สิครับ หัวใจคนเต้นหกสิบครั้งต่อหนึ่งนาที จะให้เต้นร้อยกว่าครั้งก็ตายสิ มันก็ไม่มีแรง คนหัวใจเต้นเร็วๆ มันก็ไม่มีแรง ถึงบอกหัวใจไม่มีแรง ที่จริงแล้วหัวใจเต้นเร็วกว่าคนอื่นเสียอีก ฉะนั้น ที่บอกหัวใจอ่อนนั้นมันเป็นโรคประสาทชนิดหนึ่ง หัวใจเต้นเร็ว ไม่ใช่เต้นช้า มนุษย์ที่แข็งแรงนั้นหัวใจเต้นช้า ช้างนี่แข็งแรงมาก อาจจะเหลือสิบครั้งต่อนาที หนูตัวเล็กๆนี่ สองร้อยกว่าครั้งต่อหนึ่งนาที คนที่ใจเต้นเร็ว เพราะมีอะดรีนาลีนหลั่งออกมา ใจเต้นคือหัวใจบีบเร็วเกินไป ไม่มีช่วงจะให้เลือดออก คนนั้นจะเป็นโรคเวียนหน้า ใจสั่นไม่มีแรงหงุดหงิด เพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ นี่คือลักษณะของคนเป็นโรคประสาท จะไม่มีแรงอ่อนเปลี้ย เป็นลม ขี้ใจน้อย เพราะภูมิคุ้มกันตัวนี้ไม่มี สารแห่งความทุกข์หลั่งออกมาเมื่อไหร่ โลภ โกรธ หลงเมื่อไหร่ ออกมาทั้งสิ้น ไปอิจฉาเขา ไปริษยาเขา ไปคิดร้ายเขา ไปโกรธเขา จนสารแห่งความทุกข์หลั่งออกมาจนเส้นเลือดแตกตายไปเลย เพราะมันปรู๊ดขึ้นมาเลย

สารแห่งความสุขหลั่งออกมาเมื่อไหร่ครับ เมื่อหนึ่งง่ายที่สุดครับ ยิ้มครับ สารแห่งความสุขจะหลั่งมาก เมื่อเส้นเลือดส่งเลือดไปเลี้ยงต่อมหนึ่งที่อยู่ใต้สมองครับ ต่อมใต้สมองจะมีเอนโดฟีนหลั่งออกมา เมื่อเลือดไปกระตุ้น ทำไงให้เลือดไปกระตุ้น ครับ ก็ยิ้มครับ จะไม่เครียดครับ กล้ามเนื้อบริเวณคอคลายตัว เห็นไหม ผมพูดนี่ยิ้มไปกี่ทีแล้ว เพราะผมรู้ว่าสารแห่งความสุขจะหลั่งออกมา หนึ่งยิ้ม สองออกกำลังกาย สามทำสมาธิ ทำงานอะไรก็ได้ที่มีความสุข แต่ผมบอกแล้ว สิ่งเหล่านี้มันจะมีมารมาผจญก่อน เขาเรียกว่าสารแห่งความทุกข์ สิบนาทีแรกที่ท่านนั่งทำสมาธิก็ดี ออกกำลังกายก็ดี ทำสมาธิก็ชัดดีจะชัดมาก หงุดหงิดไม่อยากทำต่อ ออกกำลังกายก็จะเหนื่อย หงุดหงิด

เพราะว่าสารอะดรีนาลีนหลั่งออกมาก่อน สารแห่งความทุกข์ออกมาก่อน ผมถึงมาถึงบางอ้ออยู่อันหนึ่งที่อาจารย์พระพยอมพูด บอกว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด คือก่อนจะทำอะไรมันจะมีทุกข์เข้ามาก่อน มีมารออกมาก่อน คือสารแห่งความทุกข์หลั่งออกมาก่อน เพราะมันตั้งใจ ถ้าตั้งใจมากมันหงุดหงิด ที่จะทำสมาธิให้ได้ทันทีนี่หงุดหงิดปวดเมื่อย ตรงนั้นตรงนี้ เพราะไม่ปล่อยวาง สารอะดรีนาลีนหลั่งแล้ว เพราะมันยึดมากเกินไป

คนออกกำลังกายสิบนาทีแรกจะหงุดหงิด แต่เกินสิบนาทีเริ่มมีปราโมทย์ยินดีว่าทำได้แล้ว ต่อมาก็จะเกิดกล้ามเนื้อคลายตัว หนังตาเริ่มเย็นแล้วครับ จะเริ่มเบาๆแล้ว ตอนนั้นภาษาอังกฤษเรียก Relalxation คลายตัว ทางพระเรียกปัสสัทธิ อะดรีนาลีนหลั่งแล้วครับ ปรี๊ดๆ ออกกำลังกายก็ไม่เหนื่อย เคยกระโดดเชือกได้สามร้อย นี้หกร้อยครั้งก็เฉย จะไม่เหนื่อย วิ่งได้ก็จะปลิว เขาบอกว่าวิ่งก็เป็นการทำสมาธิ มันจะเกิดความปราโมทย์ แล้วก็ปัสสัทธิ ผ่านขั้นตอนปีติ ปลื้มมา ก็เสร็จเลยเกิดสมาธิ คิดอะไรก็ผ่องใสครับ ทีนี้คนออกกำลังกายก็เสพติด อ้าวแต่ถ้าเราทำงานไม่มีความสุข จะทำอย่างไรครับ สิบนาทีแรก เริ่มหงุดหงิด ล้างจานไปด่าลูกไป ซักเสื้อผ้าไปด่าลูกไป แต่ถ้าเรากวาดพื้นทำไป ถึงยังไงเราก็ต้องทำ พอเกินสิบนาทีก็มีคามสุข นั่งสมาธิออกกำลัง ทำงาน ต้องผ่านด่านมารเสียก่อน อย่างนี้เพราะเราตั้งใจจะทำ มันเป็นมาร มีความตั้งใจมากๆ ก็เป็นมาร กลัวจะไม่ได้นั่นได้นี่ก็เป็นมาร ทีนี้บอกได้เลยว่าพอผ่านจุดนี้มันก็หลุดอ ก็ต้องเกิดปัญญาขึ้นมา การเกิดตะกอน ทางใจก็เกิดขึ้น โปร่งใสขึ้นมา นี่ก็คือใจต้องนิ่ง วิธีแก้ใจ ผมเป็นนักเรียนวิธีของผมคือ การจด แล้วก็เขียนท่องอะไร ที่จะจำจะแก้ไขได้ ปากกา ดินสอต้องมีตลอดเวลา รถที่จอดขายอยู่ในร้านทุกเช้าต้อง สตาร์ทเครื่อง ไปทิ้งไว้มันตกตะกอน มันฝืด ต้องถอยเข้า ถอยออกตลอดเวลา บ้านที่ไม่ได้อยู่ หลังไหนก็ตาม ยิ่งบ้านเราก็ยิ่งชัด เดี๋ยวก็มดขึ้น เดี๋ยวก็ปลวกขึ้นเต็มไปหมด โทรมเร็วมาก บ้านที่ไม่มีคนอยู่โทรมเร็วกว่าหลังที่มีคนอยู่ มนุษย์ก็เช่นเดียวกัน เวลาออกกำลังกายจะมีสารเอนโดฟินหลั่งออกมา ทำให้ร่างกายมีความสุข เกิดการไหลเวียนของเลือด ขับของเสียออกมา ภูมิคุ้มกันมากขึ้น อันนั้นดี ว่าออกกำลังกายอะไรดีที่สุด ทำงานดีที่สุด อะไรที่ถูกกับจริตตัวเองดีที่สุด ออกแบบไหนก็ได้ แบบเดินจงกรม แบบวิ่ง แบบเดินแต่เช้า บอกตื่นแต่เช้าทั้งสิ้น ได้เดินได้ตรวจสมาธิ

เนื่องจากดีใจมากที่ติดต่อให้ผมมาพูด โดยเฉพาะบอกว่ามาที่ราชธานีอโศก รีบมาเลย บอกว่าไม่มีเงินให้นะ บอกว่าไม่เป็นไรหรอก ได้มาก็บุญแล้ว ก็ยังแอบมองๆ ดูเลยว่า ถ้าผมเองได้มีโอกาสมาอยู่แบบนี้ คิดว่าจะมีความสุขที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะไปเอาอะไรเลยครับในชีวิตนี้ อยู่กันอย่างสงบ พออยู่พอกินดีแล้ว แต่ผมรับตำแหน่งมา ผมก็ต้องทำตามหน้าที่ ฉะนั้นต้องคิดดี เราอยากเป็นอะไรครับ เราคิดเอาไว้ก่อน ตอนนี้เป็นตัวอย่างที่ดีก็เอาไปคิด เราเป็นตามสิ่งที่เราพูด You are what you speak เช่นเดียวกัน เราพูดอย่างไร เราพูดร้าย ก็มีสิ่งที่ร้ายมาหาตัว เราต้องพูดดีไว้ก่อน เราเป็นตามสิ่งที่เราทำ ไม่มีการออกกำลังกาย ขี้เกียจอยู่ มันก็ไม่มีแรง ก็ต้องมีการเดินมีการทำอะไร ฉะนั้น ต้องขยันขันแข็งอยู่ตลอดเวลา เพราะเรากินเข้ามา เราพูดเข้ามา เราทำเข้ามา เราทำเราเองทั้งสิ้น คนอื่นเป็นตัวประกอบเท่านั้น คนอื่นเขาทำให้เราไม่ได้ตลอดเวลา

ขอขอบพระคุณที่ราชธานีอโศก ให้โอกาสแก่ผมได้มาวันนี้ เป็นเวลาถึงหนึ่งชั่วโมง สวัสดีครับ.

(นายแพทย์กวี ไชยศิริ ผู้อำนวยการ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี บรรยายที่ หมู่บ้านราชธานีอโศก)