ปิดท้าย พ.ต.ท.รุ่งโรจน์เรืองฤทธิ์
สหบาทา
ข่าวป่าวร้องก้องโลกกล่าวโทษฉกาจฉกรรจ์
ขอความเห็นอกเห็นใจ ถูกก่อการร้าย
ถล่มทลายอาคารสถานที่พินาศผู้คนล้มตาย
ระดมพลอาวุธยุทโธปกรณ์ไล่ล่า
ถล่มชนชาติด้อยพัฒนาดังมิใช่เพื่อนมนุษย์
ไม่เลือกสรรจำเพาะผู้ที่เชื่อว่าก่อการ
หวังเค้นคั้นให้อริออกมายอมจำนน
ใครอื่นพลอยบาดเจ็บล้มตายเสียหาย
แม้เด็กน้อย สตรี คนชรา น่าเวทนา
ก็ไม่ไยดีมีมนุษยธรรมสำนึก
ไม่เถียงว่าถูกก่อการร้าย สูญเสียหนัก
หากจะรับฟังว่าคนนั้นคนนี้ก็เป็นตัวการ
ก็เพียงชนกลุ่มน้อย...มิใช่รัฐแห่งแผ่นดินนั้น
การโจมตีปูพรมไล่ล่าผู้ก่อการร้าย
สาสมในทางโลก แต่มิชอบในทางธรรม
ชีวิตอื่นในแดนไล่ล่า เกี่ยวข้องฉันใด
ไยสังเวยคั่งแค้นไปด้วยแล้วๆ เล่าๆ
ผู้ยิ่งใหญ่ ยิ่งใช้อำนาจบาตรใหญ่ยิ่งสูญเสีย
ชนะก็เสียคน ...ผู้ยิ่งใหญ่รังแกผู้น้อย
แพ้ก็เสียหน้า ...ยิ่งใหญ่เสียเปล่า ไร้น้ำยา
เสียหายไปทั่วหน้าทั้งชาติพวกพ้องสอพลอ
ดังสุมหัวกันระรานคนมือเปล่าข้ามชาติ
ความเป็นคนมีศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยว
ตกต่ำเกินกว่ายื้อยึดศาสนธรรมได้หรือ
กฎแห่งกรรม กรรมเป็นอันทำเป็นอันได้
อภัยและเยียวยารักษาใจให้สงบเย็น
ดำเนินบทบาทไปตามทำนองคลองธรรม
แม้ช้า ค่อยเป็นไป ไม่ลุผลสาแก่ใจ
แต่ไม่ก่อกรรมใหม่ซับซ้อนกรรมเก่า
ที่ก่อไว้นานเนื่องทุกหนแห่งทั่วโลก
ก็ยังจะชื่อว่าชาติมีศาสนาคนมีธรรม
เลือดล้างเลือดไยจะพ้นนองเลือด
ชนชาติใดไม่ซาบซึ้งกฎแห่งกรรม
ไทยรู้ทั้งรู้ยังถลำร่วมก่อกรรมด้วย
ต้องเป็นข้ารับใช้ต่างชาติปานนั้นหรือ
(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๓๖ พฤศจิกายน
๒๕๔๔)